ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

มีคำถามครับตอบผมทีครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 แก้วขุนพล

แก้วขุนพล
  • Members
  • 43 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 August 2008 - 04:32 PM

เวลาพระบิณฑบาตร แล้วโยมที่ดูแลวัดเอาอาหารไปทิ้งจะได้รับกรรมใดครับ เพราะเคยมีคนมาเล่าให้ฟังครับว่ามีพฤติกรรมแบบนี้แทบทุกวันเลยครับ บางทีก็คนดูแลวัดก็ให้ชาวบ้านที่เลี้ยงหมูมาเอาไปเลี้ยงหมู ซึ่งพอพระจะฉัน ทางวัดก็จะทำกับข้าวขึ้นมาใหม่ แล้วก็ทิ้งอาหารใส่บาตร บางที่อยากถามหลวงพ่อนะครับว่าจะได้รับกรรมใด

#2 คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย

คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย
  • Members
  • 335 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:บุญ หยุดนิ่ง นั่งสมาธิ ฟุตบอล คอมพิวเตอร์

โพสต์เมื่อ 30 August 2008 - 04:57 PM

เอ่อ วัดไหนหรอครับ smile.gif
หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ให้ใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย

นิ่งๆ นุ่มๆ นานๆ

#3 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 12:00 AM

ขออณุญาตวิเคราะห์
...ดูแล้ว ไม่ค่อยมีเหตุผล
ท่านจะลำบาก มาบิณฑบาตรทำไมให้เหนื่อย..
เพื่อจะทิ้ง หรือไปเลี้ยงหมูหมา
ลองสืบดูว่า...
ที่ไหน แล้วดูว่ามีพฤติกรรมนั้นจริงไหมดีกว่า...
ถ้าเห็นด้วยตา แล้วก็มาพิจารณาต่อ...เช่นว่า
หนึ่ง อาหารที่ใส่บาตร ท่านฉันได้ไหม สดใหม่หรือบูดเน่า
ปกติ หรือไม่ปกติ
สอง ลองแอบๆถามเลยดีไหม ว่าเหตุผลตืออะไร..
อย่าเพิ่งตัดสินจากการเล่าดีกว่า..นะจ๊ะ
แต่ถ้าเป็นจริงๆ ก็ต้องแจ้งไปยังเถระสมาคม
หรือกราบเรียนท่านเจ้าคณะจังหวัด ให้ท่านดูแลกันจ้ะ
....
ไปกราบเรียนท่านให้ทราบ


#4 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 09:59 AM

อย่าพึ่งไปเชื่อที่คนอื่นพูดครับ อาจเป็นได้ว่าเขาเอาอาหารเหลือที่พระท่านฉันเสร็จเรียบร้อยแล้วไปทำความสะอาดก็อาจเป็นได้นะครับ ซึ่งหากเป็นการกำจัดของเหลือที่พระภิกษุฉันอิ่มแล้วหรือฉันไม่ได้แล้ว ไม่มีวิบากกรรมแต่อย่างใดครับ แล้วคนอื่นผ่านมาเห็นไม่รู้เลยเอาไปพูดกัน ลองสืบดูอย่างที่คุณอริย 072 ได้กล่าวไว้ก่อนจะดีกว่าไหมครับ

ส่วนตัวอย่างวิบากกรรมมีอยู่ในนิทานชาดกผมจำชื่อเรื่องไม่ได้ ต้องขออภัยด้วยนะครับ แต่พอสรุปเนื้อหาให้ได้ดังนี้ (หากผมจำไม่ผิดนะครับ หากผิดประการใดรบกวนพี่ๆช่วยแก้ไขด้วยนะครับ ^ ^" )

ในสมัยพุทธกาลมีเด็กคนหนึ่งเกิดในตระกูลจันทาล ตั้งแต่มารดาตั้งท้องก็ทำให้ครอบครัวมีความยากจนลง ขอทานไม่ได้ ไม่ว่าไปอยู่ที่ไหนก็ทำให้คนละแวกนั้นตกตํา จนกระทั่งเด็กคนนี้โตจนพอจะเลี้ยงตัวเองได้ มารดาจึงให้ออกไปเผชิญโลกด้วยตัวเอง แต่ไม่ว่าเด็กคนนี้จะไปขอทานที่ไหน ก็ไม่มีใครเหลียวแลไม่มีใครสน เสมือนกับไม่เห็นเด็กคนนี้อยู่บนโลกนี้ มีชีวิตอย่างอดอยาก ประทั่งชีวิตด้วยก้อนดินและเศษไม้ จนกระทั้งพระสารีบุตรได้มาพบ จึงเกิดความเวทนารับอนุเคราะห์โดยให้บวชเป็นสามเณรเพราะคิดว่าชีวิตของเด็กคนนี้จะดีขึ้น แต่หลังจากที่บวชเป็นสามเณรแล้ว กลับทำให้พระสารีบุตรมีความลำบาก เนื่องจากเวลาพระสารีบุตรออกบิณฑบาตรจะพาเด็กคนนี้ไปด้วย และทุกครั้งที่พาเด็กคนนี้ไป แม้พระสารีบุตรก็ไม่ได้รับบาตรเลยแม้ทัพพีเดียว พระสารีบุตรจึงให้สามเณรรูปนี้กลับไปรอที่วัด แล้วออกบิณฑบาตรต่อ หลังจากสามเณรกลับพระสารีบุตรก็ได้รับบาตรเป็นปกติ หลังจากพระสารีบุตรกลับถึงวัด จึงให้เณรอีกรูปยกอาหารที่ท่านบิณฑบาตรมาได้แบ่งไปให้สามเณรอดอยากผู้นี้ แต่ว่าอาหารกลับไปไม่ถึงมือสามเณรรูปนี้เลย จนกระทั่งร่างกายทนไม่ไหว พระสารีบุตรจึงคิดอนุเคราะห์อยากให้สามเณรรูปนี้ได้ฉันอิ่มสักมื้อ ท่านจึงได้ยกสำหรับอาหารไปให้ด้วยตัวของท่านเอง สามเณรรูปนี้จึงได้ฉันอิ่มเป็นมื้อแรกและมื้อเดียวในชีวิต และเสียชีวิต หลังจากที่สามเณรรูปนี้เสียชีวิต พระสารีบุตรจึงเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อสอบถามถึงวิบากกรรมของสามเณรรูปนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสว่า

เป็นเพราะชาติในอดีต สามเณรรูปนี้ได้เคยบวชเป็นพระและเป็นที่นับถือของคนในระแวกนั้น วันหนึ่งมีพระปัจเจกพุทธเจ้ามาขอพักอาศัยอยู่ในวัดที่พระรูปนี้อยู่ ขณะที่พระรูปนี้ออกบิณฑบาตรและกำลังกลับวัด เกิดความคิดขึ้นมาว่า "หากพระปัจเจกพุทธเจ้ายังอยู่กับเรา จะทำให้เราหมดลาภสักการะ อย่ากระนั้นเลย เราจะทิ้งอาหารที่บิณฑบาตรมาได้นี้เสีย" จากนั้นจึงได้ฉันอาหารจนอิ่มแล้วทิ้งอาหารที่บิณฑบาตรมาได้ พระปัจเจกพุทธเจ้าท่านทรงรู้ถึงวาระจิต จึงได้หลีกหนีไป เมื่อพระภิกษุรูปนี้กลับถึงวัด ไม่เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าอยู่ จึงเกิดความรู้สึกสำนึกว่าตนได้กระทำผิดอย่างใหญ่หลวง ทำให้เสียใจจนร่างกายซูบผอมเสียชีวิตในเวลาต่อมา และนับตั้งแต่ชาตินั้นเป็นต้นมา ก็ได้มาเกิดเป็นลูกจัณทาล นำพาวิบัติมาให้ผู้อื่นหลายภพหลายชาติ และจะเป็นเช่นนี้เรื่อยไปอีกหลายภพหลายชาติเช่นกัน แต่จะได้กินอิ่มในมื้อสุดท้ายเพราะความสำนึกผิดต่อพระปัจเจกพุทธเจ้า
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#5 sun of peace

sun of peace
  • Members
  • 101 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 01:08 PM

แล้ววัดเราล่ะครับ เอาของที่พระที่วัดเราเดินบิณฑบาตรไปทำอะไร เพราะพระที่วัดเราท่านก็ฉันภัตตาหารที่โรงครัวประกอบมาให้อยู่แล้ว



#6 Dhamma Bot

Dhamma Bot
  • Members
  • 477 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 06:43 PM

พระท่านก็นำมาฉันน่ะครับ ท่านก็คัดๆ ออกมาแล้วนำไปฉัน ส่วนที่เหลือท่านก็ให้เป็นทานแก่เจ้าหน้าที่ภายในวัดที่ช่วยเหลืองานพระศาสนาครับ ถ้าท่านไม่แบ่งให้เป็นทาน อาหารก็จะเหลือ และบูดเน่าเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ครับ

#7 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 08:01 PM

สวัสดีครับนักเรียนอนุบาลมาดอนเข้

ขอทำความเข้าใจสักนิดก่อนนะครับ บางทีหลายๆท่านอาจจะเห็นว่าวัดพระธรรมกายของเรามีพระเยอะ เพราะฉะนั้นอาหารที่ได้จากการบิณฑบาตรคงจะเยอะตามไปด้วย ซึ่งจริงๆแล้วการออกบิณฑบาตรประจำวันของที่วัดพระธรรมกายนั้น มีการแบ่งพระออกไปโปรดสาธุชนเพียงไม่กี่รูปเท่านั้น ตอนที่ผมบวชอยู่นั้น ออกบิณฑบาตรสามเส้นทาง เส้นทางละสิบรูปเท่านั้น สลับกันไปเรื่อยๆจนครบทุกรูป จากจำนวนพระรุ่นที่บวชพร้อมกันร้อยกว่ารูป

ทั้งๆที่การออกบิณฑบาตรเป็นกิจข้อบังคับสำคัญของพระภิกษุ-สามเณรที่ต้องปฏิบัติเลยทีเดียว แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าออกบิณฑบาตรทุกรูป อาจจะส่งผลต่อความสะดวกของวัดอื่นๆที่อยู่ในระแวกเดียวกันได้ รวมทั้งญาติโยมที่มีศรัทธาก็อาจจะลำบากด้วยจากจำนวนพระที่มากมาย อีกทั้งด้วยความตั้งใจของพระเดชพระคุณหลวงปู่ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อและคุณยายอาจารย์รับสืบต่อเนื่องกันมา ที่ต้องการสร้างโรงทานเลี้ยงทุกชีวิตที่อยู่ในวัดแล้ว ทำให้ทางวัดพระธรรมกายก็ไม่ได้ประสบปัญหาอาหารขบฉันแต่อย่างใด แม้พระจะไม่ได้ออกบิณฑบาตรก็ตาม

ด้วยเหตุผลดังกล่าวทางวัดพระธรรมกายจึงออกบิณฑบาตรตามสมควรแห่งกิจของสงฆ์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการขบฉันของพระทั้งวัด ของที่ได้มาจึงไม่ได้มากมายอะไรนักเมื่อเทียบกับทุกชีวิตภายในวัด

และขอบอกให้ทราบอีกอย่าง ทุกคนที่อยู่ในวัดพระธรรมกายนั้นสุดยอดประหยัดตัวจริงเลย อะไรที่ยังพอที่จะใช้ประโยชน์ได้แล้วทิ้งให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง พระอาจารย์ และหลวงพี่ทั้งหลายได้เห็นหล่ะก็ ได้มีการคุยกันยาวเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นสบายใจได้ อาหารทุกอย่างที่ท่านได้ใส่บาตรมานั้นเกิดประโยชน์คุ้มแน่นอน ขนาดถุงใส่ของที่เรามักเรียกกันว่าถุงก๊อบแก๊บนะ ผมยังเคยโดนทำโทษให้นั่งหัดพับเก็บให้เรียบร้อยเอาไว้ใช้งานต่อไปเลย แล้วอาหารที่ทานได้ วัดเรามีหรือจะทิ้ง

หรือพวกพี่ๆที่โรงครัวว่าไงครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#8 มัชฌิมา072

มัชฌิมา072
  • Members
  • 60 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 August 2008 - 09:05 PM

ขอกราบอนุโมทนากับทุกท่าน เลยได้ข้อคิดดีๆ กับเรื่องใกล้ๆตัวนะคะ

#9 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 01 September 2008 - 09:06 AM

QUOTE
แล้ววัดเราล่ะครับ เอาของที่พระที่วัดเราเดินบิณฑบาตรไปทำอะไร เพราะพระที่วัดเราท่านก็ฉันภัตตาหารที่โรงครัวประกอบมาให้อยู่แล้ว


จากการที่ผมเคยบวชที่วัดพระธรรมกายมาก่อนหลายครั้ง ขอบอกคุณมาดอนเข้ได้อย่างเต็มปากว่า อาหารที่พระภิกษุวัดพระธรรมกายได้จากการบิณฑบาตร ไม่มีการทิ้งหรือทำให้เสียเปล่าเด็ดขาดครับ หลังจากที่พระกลับจากบิณฑบาตร จะนำอาหารที่ได้มาจากการบิณฑบาตรไปรวมกลับอาหารที่ทางวัดเตรียมไว้ แล้วนำมาฉัน ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีเหลือเลยสักครั้งเดียวครับ ( ยืนยันได้ว่าหมดทุกมื้อ เพราะผู้จัดเตรียมทำภัตตาหารถวายพระมีความสามารถพิเศษในการกะปริมาณภัตตาหารในแต่ละมื้อได้อย่างพอเพียง ไม่มีเหลือส่วนมากจะมีแต่ขาดครับ - -" รุ่นที่ผมบวชจำได้ว่ามีหลายครั้งที่ต้องไปขอเพิ่มเติมจากแผนกอื่นอีก ^ ^" ) หากภัตตาหารเช้าที่ทางวัดเตรียมไว้เป็นมาม่าผัด ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารที่มีนําเป็นส่วนประกอบ อาหารที่ได้จากการบิณฑบาตรจะถูกแยกไว้แล้วนำใส่ภาชนะถวายให้กับพระอาจารย์ พระที่อายุมาก หรือพระที่ต้องการฉัน มีบางส่วนจัดใส่สำหรับนำถวายองค์พระประธานเป็นการบูชาข้าวพระด้วยนะครับ

และขอยืนยันคุณทัพพีในหม้อ ว่าพระภิกษุสามเณรที่วัดพระธรรมกายสุดยอดประหยัดจริงๆครับ รุ่นที่ผมบวชใช้นําอาบวันละ1-3กระป๋อง ซึ่งทุกคนจะเอาแบบอย่างคุณครูไม่ใหญ่ที่ท่านอาบนําเพียงวันละกระป๋องเท่านั้น และเมื่อถึงเวลา4ทุ่มจุดที่ฝึกอบรมธรรมทายาทจะปิดไฟนอนกันหมด หากพระรูปใดยังไม่นอนก็จะใช้ไฟฉายของตนเองแทนครับ

หากไม่เชื่อลองไปบวชที่วัดดูสิครับ หุหุ ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#10 potaesmart

potaesmart
  • Members
  • 160 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 September 2008 - 02:11 PM

อย่าพึ่งไปเชื่อนะคับลองไปสืบดูก่อนจะดีกว่าไหมคับ

#11 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 September 2008 - 09:42 PM

ที่ท่านต้องเอาไปทิ้งหรือเอาไปให้สัตว์ นั้นเพาะว่าอาหาร(สด)ที่ได้รับบิณฑบาตรมามีจำนวนมากเกินไปมากๆ

ถ้าท่านนำอาหารที่ส่วนเกินไปให้คนหรือสัตว์ผู้ถวายจะได้บุญสองต่อ แต่ให้เข้าใจว่าพระท่านไม่มีที่เก็บรักษาอาหารเหล่า

นั้น และพรุ่งนี้ก็จะได้มาอีกในปริมาณใกล้เคียงของวันนี้ ดังนั้นถ้าแบ่งให้ ทั้งคนและสัตว์แล้วยังเหลือ จึงเป็นความจำเป็นที่

ต้องเอาไปทิ้ง

#12 Ray

Ray
  • Members
  • 168 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 10:59 AM

พระกลัวมาดอนเข้มาสึกฮ่าฮ่า ใส่หมวกสีแดงทาปากก็แดงพระกลัว พระเลยให้ไก่วัดกินซะ มั่วนะ

#13 รับบุญ

รับบุญ
  • Members
  • 120 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 02 September 2008 - 09:04 PM

ขอยืนยันด้วยค่ะเพราะลูกชายบวชยุวธรรมทายาทที่วัดบอกว่าอาบน้ำแต่ละครั้งตักได้ไม่กี่ขันก็ต้องเลิกอาบ ทานอาหารก็แค่พอดีไม่อิ่มจนเกินไป ต้องมีผักทุกมื้อ ลูกชายไม่ชอบผักก็ต้องทาน ตื่นเช้ามาต้องดื่มน้ำก่อนทุกวัน ลูกชายปกติท้องผูกปรากฏว่าอยู่วัดขับถ่ายเป็นปกติ พระอาจารย์ที่วัดมีระเบียบวินัยดีมากเลยค่ะ