ศิล 8 กับการเข้า Fitness
#1
โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 03:48 PM
ผิดศีลหรือเปล่าค่ะ มีคนถามบ่อยคะ ไม่รู้จะตอบเพือนอย่างไรดีค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 07:18 PM
งง จัง
ทำไมถึงคิดว่า ทำไม่ได้ล่ะค่ะ
ก็ไปออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่ดี รักษาสุขภาพด้วย
ลองให้เพื่อน ไล่ศีลที่ละข้อ ดูซิคะ
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "
#3
โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 07:25 PM
และ ควรทำด้วย เพราะจะช่วยให้นั่งสมาธิได้นานขึ้น และนั่งสบายขึ้น
#4
โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 07:25 PM
และที่สำคัญอาหารอร่อยๆ..ไว้บริการลูกค้า..
เจตนาการถือศีลแปด คือการมุ่งเอาความสงบทางใจ มุ่งหาความสุขทางใจ..
มากกว่าจะหาความสุขทางกาย หรือบำรุงกายหยาบ..อย่างคนศีลห้าเค้าทำกัน..
ดังนั้น sport club น่าจะเป็นสถานที่อโคจร (ไม่น่าเข้าไป) สำหรับคนบำเพ็ญศีลแปดน่ะครับ..
#5
โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 09:31 PM
#6
โพสต์เมื่อ 11 September 2008 - 10:43 AM
#7
โพสต์เมื่อ 11 September 2008 - 11:03 AM
#8
โพสต์เมื่อ 11 September 2008 - 02:41 PM
เสียงเพลงที่ทำให้ใจออกจากกลาง อาหารที่ล่อใจแต่ถ้าไปแล้วยังรักษาจิตให้สงบนิ่งอยู่ได้ก็ OK
#9
โพสต์เมื่อ 11 September 2008 - 03:21 PM
......หลวงปู่ดูลย์..........
#10
โพสต์เมื่อ 11 September 2008 - 08:22 PM
๑ เจตนา คือ เครื่องชี้กรรม
ถ้าเจตนาเพื่อการออกกำลังกาย รักษาสุขภาพให้แข็งแรง
ไม่ใช่เพื่อเน้นรูปร่างดูดี ดึงดูดใจเพศตรงข้าม
๒ ตรวจสอบองค์แห่งศีล ๘
ถ้าไม่ผิดองค์แห่งศีล
๓ ควร หรือไม่ควร
ข้อนี้อยู่ที่มุมมองของ แต่ละคน ครับ
๔ ใจ ของบุคคลนั้น กุศลธรรมเจริญ หรือ อกุศลธรรมเจริญ
ข้อนี้บุคคลนั้น ย่อมรู้แก่ใจตนเอง ครับ
ผมมองว่า
การเข้า FITNESS - SPORT - YOGA CLUB ของบุคคลที่รักษาศีล ๘
แม้ดูไม่เหมาะสมบ้าง
แม้เข้าข่ายอยู่ในที่อโคจร สำหรับ ผู้ประพฤติธรรม ประพฤติพรหมจรรย์ บ้าง
ถ้าอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้น ที่เอื้อแก่กิเลสฟู
แต่ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้ทำผิดศีล และสามารถคุมอกุศลธรรมไม่ให้เจริญ และรักษากุศลธรรมให้เจริญได้
ก็ไม่น่าตำหนิอะไร ครับ
กรณีเป็นอุบาสิกาในวัด สมควรหรือไม่
อยู่ที่อาศรมอุบาสก อาศรมอุบาสิกา พิจารณากันเองครับ
แต่ถ้ามีเพื่อนถามผม
ก็จะตอบว่า ควรพิจารณาอย่างน้อย ๔ ข้อนั้น ครับ
#11
โพสต์เมื่อ 17 September 2008 - 10:54 AM
คนที่ทำงานให้กับวัด(พระธรรมกาย) และอาจพักอยู่ในวัด
คนทำงานบางคนถือแค่ศีลห้า มิใช่ทุกคนที่ทำงานในวัด(พระธรรมกาย) จะถือศีลแปด กันหมดทุกคน คือจะต้องมีศีลห้าเป็นอย่างน้อย มิได้บังคับว่าจะต้องถือศีลแปดตลอดเวลา ส่วนคนที่ถือศีลห้า เค้าก็แนะนำว่าควรถือศีลแปดในวันพระ ฉะนั้นอย่าเพิ่งเอาความเห็น ความเข้าใจของตัวเอง รีบตัดสินชี้ถูกผิดด้วยนะคะ
บางคนอาจแต่งตัวเหมือนเป็นอุบาสิกา หรืออุบาสก ที่ถือศีลแปด แต่บางครั้งหาเป็นเช่นนั้นไม่
บางคนอาจเป็นอาสาสมัคร
บางคนอาจเป็นคนงาน ทำงานเช้าไปเย็นกลับ หรืออาจพักอยู่ในวัดก็ได้
และถึงแม้จะเป็นอุบาสก อุบาสิกาที่ถือศีลแปด และเข้าไปออกกำลังกายใน fitness และมีใจคล้อยไปตามเสียงเพลงหรือรูปร่างของเพศตรงข้ามที่เห็น ก็เป็นเพียงแค่ศีลพร้อย ศีลด่าง ศีลทะลุเท่านั้น ตราบเท่าที่บุคคลเหล่านั้นยังมิได้ยังอวัยวะ...ให้ถึงกัน ศีลก็ยังไม่ขาด (ที่กล่าวเช่นนี้มิได้สนันสนุนแต่อย่างใด เพียงแต่อยากให้มองให้กว้างและเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น)
องค์แห่งศีลข้อสาม อะพรัหมะจะริยา เวระมณี
1. วัตถุกาม หมายถึง เพศตรงข้าม หรือ สิ่งเย้ายวนทางกาม
2. มีจิตคิดจะไม่ประพฤติพรหมจรรย์
3. ดำเนินการไม่ประพฤติพรหมจรรย์
4. ไม่ประพฤติพรหมจรรย์ได้สำเร็จเรียบร้อย
องค์แห่งศีลข้อสาม จากหนังสือ DOU ค่ะ
ongsila3_of_8.JPG 54.01K 80 ดาวน์โหลด
ที่แน่ๆ ถ้าเรายังมิใช่ผู้ที่สามารถรู้ความนึกคิดของผู้อื่นได้ เราก็ไม่อาจรู้ได้ว่า ณ ขณะหนึ่งบุคคลคิดเช่นไร มีสภาพจิตใจเช่นไร กุศล หรือ อกุศล แต่สิ่งหนึ่งที่คนเรามักจะเป็นก็คือการจับผิด ค่ะ มิใช่การจับถูก
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป