![แนบไฟล์](https://www.dmc.tv/forum/public/style_extra/mime_types/gif.gif)
อิทธิบาทสี่...ล้ำ.............................เลิศคุณ
ฐานแห่งสำเร็จหนุน......................ส่งให้
ธรรมสี่อย่างเจือจุน........................กันอยู่
ปฏิบัติครบถ้วนได้.........................สิ่งพร้อมอเนกอนันต์
ฉันทะ...รักสิ่งนั้น..........................เป็นกำลัง
รักใคร่ในสิ่งหวัง............................ก่อนสร้าง
พอใจยิ่งเสริมพลัง...........................สำเร็จ
ธรรมหนึ่งพึงอย่าร้าง.......................เริ่มไว้ในใจ
วิริยะ...ไม่ท้อ................................พยายาม
บากบั่นพากเพียรตาม.....................ต่อตั้ง
ทำติดต่อทุกยาม............................เสมออยู่
ธรรมสื่อหมายรวมทั้ง......................แกร่งกล้าหาญจริง
จิตตะ...ไม่ทอดทิ้ง.........................สิ่งใด
ฝักใฝ่ใสใจใน................................สิ่งนั้น
สมาธิแน่วแน่ใจ.............................จดจ่อ
ทำสิ่งมุ่งหวังนั้น.............................แจ่มแจ้งแสดงมา
วิมังสา...ลึกซึ้ง...............................ตริตรอง
หมั่นตรวจสอบทดลอง.....................พิสูจน์ไว้
ปัญญาสอดส่องมอง.........................ผลเหตุ
ทุกสิ่งสำเร็จได้...............................อย่างนี้หรือไฉน
พระเดชพระคุณ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) กล่าวไว้ว่า
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา นี้เรียกว่าอิทธิบาท 4 เป็นหัวใจแห่งความสำเร็จทั้งมวล แปลอย่างจำง่ายว่า ปักใจ บากบั่น วิจารณ์ ทดลอง ไม่ว่าจะทำกิจการใดถ้าประกอบด้วย 4 อย่างนี้เป็นสำเร็จทั้งสิ้น
1. ต้องปักใจ รักการนี้จริงๆ ประหนึ่งชายหนุ่มรักหญิงสาว
2. ต้องบากบั่น พากเพียรเอาจริงเอาจัง
3. วิจารณ์ ตรวจดูการปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวสอนของอาจารย์ให้ดีที่สุด
4. ทดลองในที่นี่ได้แก่หมั่นใคร่คราญสอดส่องดูว่าวิธีการที่ทำไปนั้นมีอะไรขาดตกบกพร่องบ้าง
รีบแก้ไข อย่างนั้นไม่ดี เปลี่ยนอย่างนี้ลองดูใหม่ เช่นนั่งภาวนาในที่นอนมักจะง่วงก็เปลี่ยนมานั่งเสียที่อื่นใหม่เป็นต้น
ข้อสำคัญให้ยึดแนวสอนเป็นหลักไว้ อย่าออกนอกทาง 4 อย่างนี้ เรียกว่า อิทธิบาท เป็นเครื่องที่จะช่วยให้สำเร็จในกิจทั้งปวง
เอาใจจรดอยู๋ที่ศูนย์กลางกายให้มากที่สุด ผลจะเกิดวันหนึ่งไม่ต้องสงสัย ผลเกิดอย่างไรท่านรู้ได้ด้วยตัวของท่านเองครับ