![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
"คนจะไปอินเดีย จะสุขก็สุขได้ทุกเรื่อง เรียกว่าเรามีอิสระจะเลือกสุขเลือกทุกข์ได้ตามใจ แต่ถ้าจะเป็นความทุกข์ก็เห็นจะเป็นเรื่องเดียวแท้ๆ ที่ใหญ่และใกล้ตัวที่สุด พอทุกข์ปรากฎขนลุกขนชันขึ้นมา คงเลือกที่เลือกทางไม่ได้ จะหาห้องน้ำเพื่อย้ายถ่ายเทออกไปก็ยาก...ต้องนั่งเดือดร้อนทนทุกข์ เพราะหาที่ปลดทุกข์ไม่ได้นั่นเอง..."
ด้วยเหตุนี้แหละครับ ผู้เคยทุกข์ รู้ทุกข์ รู้ทางออกจากทุกข์ และรู้วิธีดับทุกข์ จึงได้มาร่วมกันลงขัน ร่วมไม้ร่วมมือ สร้างสถานที่บรรเทาทุกข์ให้ตนและผู้อื่น เป็นที่ชื่นใจ ขอนำมาเล่าให้ท่านที่สนใจฟังครับ
![แนบไฟล์](https://www.dmc.tv/forum/public/style_extra/mime_types/gif.gif)
ความเป็นมา
ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ คราวเดินทางนมัสการสังเวชนียสถาน โอกาสที่คุณยายอาจารย์ตรีธา เนียมขำ เจริญอายุ ๘๐ ปี ที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ได้ปรารภว่า น่าจะมีที่สักแห่งหนึ่งพอสร้างห้องน้ำ ที่พักถวายเพลพระ ใกล้ๆ กับชายแดน น่าจะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ลำบาก ให้คนแสวงบุญ คุณยายบอกว่า ขอให้ท่านเจ้าคุณดำเนินการให้ด้วย จะเป็นบุญกุศลอย่างมาก จากนั้นได้รับปัจจัยบริจาคมาเป็นทุนเริ่มต้นในการจัดสร้าง จึงน้อมรับมาปฏิบัติ
พระราชรัตนรังษี
๙ มีนาคม ๒๕๔๙
ทำบุญปลดทุกข์ เห็นสุขทันตา
เป็นที่ทราบกันดีว่า...การเดินทางสู่แดนพุทธองค์ ประเทศอินเดียนั้น สิ่งที่ผู้แสวงบุญทำใจลำบากมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการเข้าห้องน้ำห้องสุขา...เพราะที่อินเดีย กล่าวขวัญกันมากว่าเป็นประเทศที่มีห้องน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก...ด้วยเวลาเข้าห้องน้ำแต่ละครั้งต้องมีกฎกติกา มารยาท ในการเข้าห้องน้ำว่า...หญิงซ้าย ชายขวา พระคุณเจ้าด้านหน้า แม่ชีด้านหลัง...โดยมีรถทัวร์ที่นั่งกันมาเป็นศูนย์กลาง ก็คือต้องไปทุ่งกันหรืออาศัยราวป่า ข้างกำแพงเก่าบ้าง ป่าถั่วแระบ้าง หรือไม่ก็ลงทุ่งข้าวสาลีนั่นเอง เป็นความลำบากสำหรับผู้ไม่คุ้นเคย...
(แต่สำหรับท่านที่มาบ่อยจะชอบมาก เพราะบรรยากาศการเข้าห้องน้ำที่อินเดียนั้น เลือก Location ได้ตามใจ ไม่ต้องรอคิว...และก็สะอาดแบบธรรมชาติ)
![smile.gif](style_emoticons/default/smile.gif)
![แนบไฟล์](https://www.dmc.tv/forum/public/style_extra/mime_types/gif.gif)
พระธรรมทูตไทย สายประเทศอินเดีย นำโดยท่าน เจ้าคุณพระราชรัตนรังษี ได้มองเห็นความลำบากนี้ จึงได้มอบหมายให้ไปดำเนินการซื้อที่ดินเพื่อการสร้างพุทธวิหาร บริเวณใกล้ด่านโสเนารี (Sonauli) ห่างจากเขตชายแดนอินเดียก่อนเข้าสู่ลุมพินีแดนประสูติประเทศเนปาลประมาณ ๒ กิโลเมตร...สิ่งจำเป็นเร่งด่วนในการก่อสร้างอันดับแรกนั่นก็คือการสร้างห้องน้ำ...เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้แสวงบุญ...ทั้งชาวพุทธไทยและชาวพุทธประเทศอื่นๆ และจะขยายโครงการเป็นที่แวะพักรับประทานอาหารถวายเพลพระ พร้อมทั้งสร้างเป็นสำนักงานพระธรรมทูต สายประเทศอินเดียและเนปาล อีกทั้งยังจะเป็นที่อำนวยความสะดวกกรณีด่านปิด วีซ่า หนังสือเดินทางมีปัญหา พระธรรมทูตก็คอยให้การช่วยเหลือได้ที่นั่น
![แนบไฟล์](https://www.dmc.tv/forum/public/style_extra/mime_types/gif.gif)
เบื้องต้นท่านเจ้าคุณอาจารย์ให้ไปเจรจาขอเช่าที่ดินวัดพม่า ซึ่งพม่ามีที่ดินอยุ่แล้ว แต่ผู้เขียน ไม่เห็นด้วย...เพราะเกรงว่าหากมีผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวในกาลข้างหน้า...ในที่สุดเพื่อความสบายใจของคณะทำงาน ก็ตัดสินใจซื้อที่ดินในนามมูลนิธิวัดไทยกุสินารา...และดำเนินการก่อสร้าง จนได้เป็นรูปร่างสำเร็จ ใช้สอยได้แล้วตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา ปี ๒๕๕๐ จนผู้แสวงบุญส่วนใหญ่จะเรียกว่า สุขาราม หรือแดนสุขาวดี ณ ขณะนี้สร้างเสร็จ เป็นห้องน้ำห้องสุขา รวม ๓๕ ห้อง...สำหรับอุบาสิกา ๒๐ ห้อง อุบาสก ๑๐ ห้อง พระสงฆ์อีก ๕ ห้อง ตามอัตราส่วนของจำนวนผู้มาแสวงบุญ
![แนบไฟล์](https://www.dmc.tv/forum/public/style_extra/mime_types/gif.gif)
มีปรัชญาการเชิญชวนทำบุญกับห้องน้ำนี้ว่า ทำบุญปลดทุกข์ เห็นสุขทันตา ก็เป็นอันว่า มีเจ้าศรัทธาร่วมสร้างเป็นอันมากจนเกินความคาดหมาย ดั่งที่เห็น และจะมีโครงการขยายสาขาทั่วสังเวชนียสถานต่อไป พร้อมยังมีมุมอินเดียน้อย...ให้ท่านได้นั่งซดกาแฟอร่อย ชิมโรตีร้อนๆ ผสมนมข้น...ช้อปปิ้งของที่ระลึก ดำเนินการโดยนักศึกษาไทยในอินเดียและ มีหมากอินเดียให้เคี้ยวเพื่อเข้าบรรยากาศจริงๆ ในช่วงรอทำเอกสารเข้าสู่ประเทศเนปาล...หวังว่าท่านคงสบายใจเรื่องห้องน้ำได้แล้วฯ
อ้างอิง "ชีวิตและงานพระธรรทูตไทย ในอินเดีย" โดย ดร.พระมหาคมสรณ์ คุตตธมฺโม , พระราชรัตนรังษี ( ปีก่อนท่านจัดกิจกรรม ๒๒ เมษายน ทำบุญอายุสมงคล พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ครับ ดูที่ http://www.dmc.tv/pa...from_Nepal.html )
_______________________________________
การสร้างเวจกุฎี ห้องน้ำห้องส้วม มีอานิสงส์มากครับ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสถึงช่างทอง สร้างเวจกุฎีถวายบูชาพระรัตนตรัยด้วยศรัทธาเลื่อมใส ได้เสวยสุขในสุคติโกลสวรรค์ และเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน
พระองค์เองก็เคยสร้างเวจกุฎี และที่สำหรับอาบแก่พระภิกษุสามเณรได้ตั้งสัตยธิษฐานว่า ขอให้ได้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล ด้วยผลแห่งอานิงส์ ที่ได้สร้างเวจกุฎีให้เป็นสาธารณะทานนี้ ครั้นทำลายขันธ์แล้วก็ไปบังเกิดสวรรค์เสวย ทิพย์สมบัติอยู่ชั้นดุสิตครั้นจุติจากชาตินั้นแล้ว ได้ท่องเที่ยงอยู่สังสารวัฎฎ์จนบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ
![แนบไฟล์](https://www.dmc.tv/forum/public/style_extra/mime_types/gif.gif)