ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ทำบุญใหญ่แต่ใจไม่ใสเลย ทำอย่างไรดีคะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 17 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 บีบีน้อย

บีบีน้อย
  • Members
  • 116 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 07:52 PM

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว น้องได้ร่วมบุญหล่อหลวงปู่ทองทำไป 1 บาท ค่ะ (คุณแม่ชวนทำค่ะ)

และ เมื่อกี้นี้ คุณแม่ก็ชวนร่วมบุญแผ่นฌานอีก 1 บาท น้องก็ตอบตกลงร่วมบุญกับคุณแม่ค่ะ

แต่ที่ใจไม่ใสเลย เป็นเพราะว่า ...


ตอนนี้น้องยังเป็นนักศึกษาอยู่ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่อยู่ต่างประเทศ คุณพ่อคุณแม่ก็จะส่งค่าขนมให้เป็นไตรมาสค่ะ สามเดือนจะส่งมาครั้งนึง จำนวนเงินก็เยอะอยู่ค่ะแต่ถ้าหักลบกลบหนี้ 3 เดือน ก็พอดี ไม่เหลือไม่ขาดค่ะ

แต่เดือนที่แล้วนี้ คุณพ่อตัดสินใจว่าจะให้เงินพิเศษเผื่อไว้ใช้ยามจำเป็น 2หมื่นบาท ซึ่งน้องก็คิดว่ามันจำเป็น เพราะน้องอยู่เมืองไทยคนเดียว เผื่อฉุกเฉินจะได้ไม่เดือดร้อน คุณแม่ก็เห็นว่าน้องมีเงินเก็บ ก็เลยชวนร่วมบุญหล่อหลวงปู่ทองคำไป 1 บาท (1หมื่น5พันบาท) คือที่น้องตอบตกลงไป บอกตรงๆว่า ไม่อยากขัดใจคุณแม่ค่ะ - -"

คือน้องคิดว่า น้องยังไม่มีกำลังทำบุญใหญ่ขนาดนั้น อีกอย่างคือ น้องควรจะมีเงินสำรองไว้ยามฉุกเฉินน่ะค่ะ เงินสำรองที่เหลือ 5พันบาทนั้น ก็ต้องเอาไว้ใช้ยามที่ค่าใช้จ่ายมันเกินวงเงินแต่ละเดือน เช่น ทำรายงาน ซื้อหนังสือ หรือถ้าไม่สบายไปหาหมอ ฯลฯ (ท่านที่เคยอยู่หอคนเดียวน่าจะทราบดีว่า ลำบากกว่าอยู่บ้านมากมาย T^T)

คือน้องก็ร่วมบุญสม่ำเสมอนะคะ ถึงจะเป็นเงินไม่มากแต่ก็เป็นเงินที่มาจากน้ำพักน้ำแรง (ทำงานพิเศษ) แต่ที่คุณแม่มาบอกบุญนี่ .. น้องคิดว่าตัวเองยังไม่มีกำลังขนาดนั้นน่ะค่ะ - -"

และวันนี้คุณแม่ก็ชวนร่วมบุญแผ่นฌานอีก 1 บาท โดยจะหักจากเงินสำรองของน้องในไตรมาสหน้า - -" น้องก็ตอบตกลงไปอย่างขัดไม่ได้

คือน้องพยายามคิดในแง่ดีว่า เราได้ทำบุญใหญ่นะ หรือ อย่างน้อยเราก็มีเงินใช้ไม่เหลือไม่ขาดนะ แต่ ..

ยังไงมันก็ขุ่นอยู่ดีอะค่ะ ไม่อยากทำบุญใหญ่แล้วใจหมองเลย ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆค่ะ - -"

ขอคำแนะนำจากพี่ๆหน่อยนะคะ

ขอบคุณค่ะ T^T

#2 บุญเชื่อม

บุญเชื่อม
  • Members
  • 68 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 09:30 PM

ทำบุญแบบเกรงใจไม่ดีเลยนะค่ะ แต่เราก็ยังได้บุญค่ะ (ส่วนน้อยนะ) ไม่อยากจะแนะนำอะไรมากหรอก มันผ่านมาแล้ว ปล่อยมันซะถ้าปล่อยได้ แล้วเราลองเอาเงินน้ำพักน้ำแรงไปลบความไม่สบายใจดู (ใสไว้ๆๆๆ) ค่ะ ไม่ได้ก็ลองส่งข้อความทางเว็บบอร์ดนะค่ะ จะมาดูอีกทีค่ะ

#3 PTDL

PTDL
  • Members
  • 175 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Chicago, USA

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 10:15 PM

You can start with 100 baht and go from there. At least, you won't miss a chance for this one. There were times when I was in financial difficulties, I would do $5 or so for Buja Khaw Phra. But I never miss it.

#4 Marina

Marina
  • Members
  • 171 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 10:20 PM

น้องบีบีน้อย

พี่เข้าใจความรู้สึกของน้องนะ แต่พี่ก็เห็นด้วยกับพี่บุญเชื่อมที่ว่า ในการทำบุญให้ใจใส ๆ อย่าขุ่นมัว

ดูอย่างพี่นะ บ้านพี่ไม่มีอะไรเลย พี่เป็นหัวหน้าครอบครัว เลี้ยงดูทุกคน ตัวพี่ตอนนี้ก็ลาออกจากที่ทำงานมาช่วยงานวัดเต็มตัว เงินเดือนเหรอไม่ต้องพูดถึง.........เปรียบเทียบกับตอนทำงานนั้นไม่ได้เลย

แต่ทำไมรู้ไหม พี่ก็ยังปลื้มสุด ๆ ที่ตัวพี่มีเงินเก็บไม่มากเท่าไร และเป็นเงินเก็บก้อนสุดท่้ายที่ทั้งบ้านมี ถึงรู้ว่า เป็นเงินที่เราเก็บหอมรอมิบมานาน ด้วยความเหนื่อยยาก และเป็นเงินเพียงก้อนเดียวที่จะจุนเจือครอบครัว และเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เรามีกัน

แต่ว่า พี่กับคุณแม่ ก็ตกลงกันว่า "ถอนปิดบัญชี" เพื่อทำบุญกับหลวงปู่หมดเลย เพราะว่าไม่มีอะไรสำคัญไปเท่ากับความกตัญญูรู้คุณครูบาอาจารย์ สำคัญไปกว่าเงินที่มีเสียอีก ของนอกกายไม่นานก็หาใหม่ได้ ทำบุญกับหลวงปู่ไม่มีอดแน่นอน

พี่จึงอยากบอกน้องว่า พี่ขออนุโมทนาบุญด้วยนะกับการตัดสินใจตอบคุณแม่ไปเช่นนั้น และขอให้ทำได้อย่างใจใส ๆ ด้วยนะ

แล้วเจอกันนะ

อนุโมทนาบุญด้วยจ้า

#5 PTDL

PTDL
  • Members
  • 175 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Chicago, USA

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 10:34 PM

Oh, if you have a group of your friends at the temple, you could tell your mom with you will do donation with them next time. (i.e. you will think about doing it by yourself)

#6 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 11:04 PM

อย่าใจขุ่นค่ะ ถ้าสตางค์ไม่พอจริงๆก็น่าจะขอคุณแม่คุณพ่อเพิ่มเติมเมื่อจำเป็นได้นี่คะ ทำบุญแล้วใจขุ่นไม่ดีเลยนะจ๊ะ คิดซะว่ายังเหลืออีกตั้ง 5000 บาทนะคะ เงินสำรองของเรา ส่วนพี่นะคะ ทองไม่มีเหลือสักกะหลึง นาฬิกาแพงๆก็เอาไปขายหมด
เคยทำบุญเทกระเป๋าชนิดไม่เหลือ แต่แปลกค่ะ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ มีคนมาเลี้ยงข้าวทุกวันไม่เคยขาดเลยจนกระทั่งเงินเดือนออก แล้วที่แปลกกว่านั้นก็คือ คนที่มาเลี้ยงข้าวไม่ได้เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวหรือข้าวราดแกงนะคะ ล้วนเป็นอาหารโรงแรมห้าดาวทั้งสิ้น โต๊ะจีนบ้าง อาหารฝรั่งบ้าง อาหารจีนบ้าง ส้มตำ อิ่มพุงกางทุกมื้อ .......ไม่รู้จะเชื่อกันหรือปล่าวแต่พี่ก็เล่าจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับพี่นะคะ งงมากๆเลย ขำด้วยแล้วก็เชื่อมั่นในอานุภาพบุญมากยิ่งๆขึ้นเลยค่ะ จริงๆนะคะ

#7 SuperMom

SuperMom
  • Members
  • 22 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 11:05 PM

เข้าใจทั้งคุณแม่ และหนูบีบีน้อยนะคะ

ลองคุยกับคุณแม่ตรงๆ ซิคะว่าขอทำแบบร่วมบุญกับคุณแม่ได้มั้ย ถ้าคุณแม่จะหักจากเงินสำรองไตรมาสหน้า ขอตกลงกันก่อนได้มั้ยว่า ถ้าตังไม่พอใช้ตอนนั้น คุณแม่ส่งมาเพิ่มให้หนูนะ

เพราะมีลูกอยู่ในวัยบีบีน้อยเหมือนกัน บางทีคุณแม่อาจไม่รู้ว่าเราลำบาก วัยนี้มีกิจกรรมเยอะ ถ้าเราไม่ได้พูดให้ท่านรู้ ท่านก็นึกว่าเรา O.K.ไม่เดือดร้อน

ทำบุญต้องปลื้มกับบุญทั้งก่อนทำ ขณะที่ทำและหลังทำ แม้จะทำได้น้อยลงไปสักหน่อย แต่ใจใสปลื้มทุกขณะ ย่อมส่งผลดีกว่า

แต่ต้องขอชมว่าบีบีน้อยเป็นเด็กดีมากที่ไม่ขัดใจคุณแม่ น่ารักมาก เข้าใจในความหวังดีของท่าน ยังไงลองคุยกับท่านดูนะคะ บอกความรู้สึกของเราให้ท่านทราบ เราจะได้สบายใจ

ขอให้ทำใจใสๆ ให้ได้นะคะ ตอนนี้บุญเกิดแล้วถ้าตังไม่พอจริงๆ ตอนนั้น มาเอาสำรองที่ SuperMom ก่อนได้
เพราะฉนั้น ตอนนี้สบายใจได้นะคะ

 

ข้าวรวงงาม ย่อมโน้มต่ำ


#8 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 October 2008 - 11:59 PM

หลวงปู่ไม่มีวันปล่อยให้ลูกหลานลำบากเพราะทำบุญกับท่านหรอกค่ะ
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#9 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 10:39 AM

ทำบุญกับหลวงปู่สด หลวงพ่อธัมฯ คุณยายจันทร์ ไม่ต้องกลัวอด ไม่ต้องกลัวจน รวยโคตร โคตร อย่างเดียว

โหลดหนังสือ เด็กสลัม กับเคล็ดลับรวยโคตร ไปอ่านให้ใจใส ใจสบายสิคะ

บีบีน้อย โชคดีมากที่ได้ร่วมบุญกับวัดพระธรรมกายตั้งแต่ยังเยาว์ อธิษฐานจิตกับหลวงปู่ดี ๆ แล้วจะรู้ว่าอานุภาพไม่มีประมาณเป็นอย่างไร

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#10 ลีดเดอร์

ลีดเดอร์
  • Members
  • 416 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 11:21 AM

เมื่อเราได้ทำบุญบุญก็เกิด กับเราทันที ถ้าไม่ serious มากนักก็ ถ้าปลื้มได้บุญก็จะส่งผลเร็วและแรง การที่เราจะปลื้มส่วนหนึ่งที่เคยทำหน้าที่ผู้นำบุญคือ เราทำหน้าที่ตามคนสุดกำลังเต็มที่ ชวนคนทำบุญเต็มที่จนรู้สึก ได้ว่าบุญที่เกิดกับเราเต็มที่ เต็มกำลังและนี่คือเราเต็มที่สุดๆแล้ว และเราก็อยู่ในสายตาครูบาอาจารย์ตลอด เราก็จะปลื้มได้เพราะสิ่งที่เราทำ คนธรรมดาที่ไหน เขาจะกล้าทำ เมื่อเราทราบซึ้งเข้าใจในภาระกิจของเราแล้ว รับรองปลื้มจนน้ำตาไหลเลย ดิชั้นเคยเป็นมาแล้วค่ะ อนุโมทนาบุยค่ะ

#11 Suk072

Suk072
  • Members
  • 430 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 11:48 AM

หนู บีบีน้อย มีบุญมากนะคะที่ตอบตกลงทำบุญ ขอให้หนูนึกถึงแต่บุญและคุณวิเศษของหลวงปู่ นึกตามโอวาทหลวงพ่อ หนูจะมีชื่ออยู่ที่แผ่นฌานของหลวงปู่เชียวนะ ไม่ธรรมดาเลยนะ นึกบ่อยๆ ตลอดเวลา ความปลื้มจะมาเอง แล้วหนูจะงง กับตัวเอง ที่เดียวว่าหนูอยากจะทำอีก อยากทำ อยากทำ ๆๆๆๆๆโดยไม่มีความคิดเลยว่าจะอดค่ะ

#12 ณนนท์

ณนนท์
  • Members
  • 57 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 12:07 PM

ลองเปิดใจคุยกับคุณแม่น่าจะดีกว่านะครับ
เพราะคุณแม่ก็คงจะเข้าใจว่าหากเราทำบุญด้วยความไม่เต็มใจ
เราทำไปหมื่น 5 อาจจะได้บุญไม่เต็มที่
มันเหมือนการเสียของหน่ะครับ
แถมอาจจะสร้างความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นกับวัดได้
ซึ่งไม่เป็นผลดีเลย

เหตุที่ทำบุญมากแล้วใจไม่ใสก็เพราะ
จำใจทำบุญมากกว่าศรัทธาที่มีนั่นเอง
เช่น ถ้าตัวน้องมีศรัทธาอยู่ 1000 บาท(เปรียบเทียบ)
แล้วทำบุญ 1000 บาทก็จะรู้สึกปลื้ม
แต่ต้องทำ 15,000บาทก็เลยรู้สึกไม่ค่อยดี

ส่วนคนที่ทำแล้วปลื้มแม้ว่าจะทำมากก็เพราะ
ศรัทธาของเขามีมากกว่าหรือเท่ากับเงินที่ทำบุญไป
เช่น บางคนมีศรัทธา 15,000 บาท พอทำบุญไป 15,000 บาทก็ปลื้มมากๆ
บางคนมีศรัทธา100,000,000 พอทำบุญ 1,000,000 บาทเขาก็ปลื้มมาก
แต่เขาก็อยากทำให้มากขึ้นอีกเพราะเขายังทำไม่เท่าศรัทธาที่เขามีนั่นเอง

น้องจึงควรทำสองอย่างก็ตือ
คุยกับคุณแม่ให้เข้าใจ ซึ่งก็จะทำให้เราได้บุญเต็มที่แม้ทำเพียงแค่ 1000ก็ตาม
แต่ในขณะเดียวกันก็ควรจะศึกษาธรรมะเพิ่มเติม
เพื่อเพิ่มศรัทธาให้มากขึ้น(โดยใช้ปัญญา)
คือบุญที่ทำเป็นเป็นบุญใหญ่ แต่ใจไม่เปิดรับก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย
แต่มองอีกแง่หนึ่งวันหนึ่งน้องเข้าใจธรรมะมากขึ้นก็อาจจะดีใจกับบุญที่ได้ทำก็ได้นะครับ

ทำบุญให้มากที่สุดเท่าที่กำลังทรัพย์และศรัทธาของเรามี

#13 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 12:11 PM

QUOTE
ยังไงมันก็ขุ่นอยู่ดีอะค่ะ ไม่อยากทำบุญใหญ่แล้วใจหมองเลย ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆค่ะ - -"
- ผ่านไปแล้วก็ปรับใจใหม่ ตัดความขุ่นมัว ให้ใสกว่าเดิม ค่อยเป็นค่อยไปนะ
- จะก่อการดีต้องเพิ่มกำลังนะ เค้าเรียกว่า พละ5
- เริ่มที่ศรัทธา...หากไม่ถึงพร้อมก็จะไม่รู้สึกปลื้ม...ไม่กล้าตั้งผังสำเร็จ...แถมอาจบั่นทอนกำลังลง
- วิริยะ...เมื่อปลื้ม...ตั้งผัง...เป้าหมาย...หากทรัพย์ไม่ถึงพร้อม ก็ต้องเพียรอธิษฐานจิตเป็นกำลังใจ ทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร ชักชวนหมู่ญาติ มิตรสหาย ร่วมแรงร่วมใจให้เกิดกุศลสามัคคี จนเป็นรูปธรรม
- ศีล...เป็นเกราะมิให้เราประหม่าในการบอกบุญ ให้ความมั่นใจในการเป็นผู้นำบุญด้วยความบริสุทธิ์ใจ ปลอดจากคำครหา เพราะเป็นที่ศรัทธาแก่ผู้รับข่าวบุญ
- สมาธิ...เป็นเสบียงบุญ กำลังใจให้เราตั้งมั่นในศรัทธา ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ หาบุญได้ใช้บุญเป็น
- ปัญญา...เป็นทางมาแห่งความสำเร็จ...ดังที่คุณสาธุธรรมกล่าว พระเดชพระคุณหลวงปู่ ไม่มีวันปล่อยให้ลูกหลานท่านลำบากเพราะทำบุญ...เมื่อรู้หลักวิชาก็สามารถอาราธนาท่านลงซ้อน ให้บังเกิดกำลังใจ ทางมาแห่งบุญและความสำเร็จ

เวลาทดสอบมีน้อย ถ้าได้ทำก็ทำได้นะ ขอเพียงบีบีน้อยดึงพละ5 นี้ออกมาใช้เท่านั้น

ไฟล์แนบ


ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#14 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 12:35 PM

ยังมีอีกวิธีที่บีบีน้อย ยังไม่ได้นำมาใช้สั่งสมบุญเลยล่ะครับ นั่นคือ เดินไปบอกบุญญาติมิตรท่านอื่นๆ ให้มาร่วมบุญกับเราด้วยสิครับ ซึ่งก็จะทำให้เราได้บริวารสมบัติด้วยในอนาคต วิธีนี้หลวงพ่อท่านพูดอยู่บ่อยๆ สำหรับนักบุญทุนน้อย แต่หัวใจเกินร้อย ก็ให้ไปบอกบุญชักชวนญาติมิตรมาร่วมบุญ

แค่นี้เราก็จะเปลี่ยนความขุ่น เป็นความปลื้มได้เร็วฉับพลันเลยล่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#15 เตรียมอนุบาล

เตรียมอนุบาล
  • Members
  • 33 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 01:15 PM

ให้กำลังใจนะครับ และขออนุโมทนาบุญด้วยครับ nerd_smile.gif

#16 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 05:06 PM

วิธีแก้อีกทาง...อีกทางหนึ่ง
ปัญหาหลัก ของน้อง คือ ศรัทธา ยังไม่พอ
แต่ยอมทำเพราะ เกรงใจ คุณแม่
บุญของหนู ก็จะไม่ได้รับ อานิสงส์ที่สมบรูณ์
...เพราะเสียดายเงินที่ทำไป+กังวลใจ ว่าเงินจะไม่พอใช้..ในอนาคต
นั่นคือ ระหว่างทำบุญ และหลัง ทำบุญ ใจไม่ใสจ้ะ
...
เอาอย่างนี้นะ
เมื่อเราเองก็ ตัดสินใจทำไปแล้ว เงินก็เสียไปแล้ว
..คนฉลาด เมื่อทำแล้ว
..ลองนั่งลงศึกษาจริงๆจังๆ ศึกษารายละเอียดของบุญนี้ อย่างจริงจัง ให้เข้าใจสิว่า
ทำไม พระเดชพระคุณหลวงพ่อ และ คุณแม่ท่านยืนยันว่า บุญนี้ใหญ่มากๆๆๆ ต้องทำ
จะคุยกับเพื่อนๆ หรือ พี่ๆ ในเว็บก็ได้ (PM พี่ก็ได้นะ)
...
พอศรัทธาพอ ก็จะไม่เสียดาย..เงินที่ทำไป แน่ รับรอง
ก็แก้ได้ แล้วปัญหา เรื่องที่หนึ่ง
...
สำหรับกรณี ที่กลัวเงินจะไม่พอใช้
อันนี้ง่ายมาก..ทำไมต้องกลุ้ม
ก็ผู้นำบุญเป็นคุณแม่ เป็นคนชวนเอง แล้วก็เป็นคนจ่ายเงินเลี้ยงเรา
...หนูก็อ้อนท่านสิคะ ว่า
ถ้าหนูมีรายการใช้เงินพิเศษ ก็ขอให้คุณแม่คอยช่วยนะ
เพราะเงินที่ออมไว้ทำบุญหมดแล้ว
แต่ หนูเองก็ต้อง ตั้งใจประหยัดลงด้วยนะ
จะได้ได้บุญเต็มที่..เป็นเงินทั้งหมดของหนู
เอ้า..ทำแล้วจะยิ้มได้



#17 บีบีน้อย

บีบีน้อย
  • Members
  • 116 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 October 2008 - 11:29 PM


ขอบคุณทุกๆท่านมากๆนะคะที่ให้คำแนะนำ happy.gif

หนูคิดว่า หนูควรจะศึกษาเรื่องอานิสงของบุญต่างๆ ให้มากขึ้น จะได้มีศรัทธามากขึ้น ๆ และจะได้ใจใส

จริงๆแล้วหนูศรัทธาเรื่องอานิสงของบุญต่างๆนะคะ เพราะเคยรู้สึกได้ด้วยตนเองมาแล้ว แต่อาจจะถูกอย่างที่พี่ๆแนะนำว่า ศรัทธาของหนูยังไม่พอที่จะทำบุญใหญ่ เลยทำให้ใจหมอง dry.gif

จากนี้ไปจะทำใจใสๆค่ะ

ตอนนี้เริ่มคิดได้แล้วค่ะ "จะมีเด็กสักกี่คนที่ได้ทำบุญทีละเป็นหมื่นๆ" เริ่มปลื้มขึ้นมาแล้วล่ะค่ะ happy.gif

ขอบพระคุณพี่ๆทุกคนที่แนะนำนะคะ

และ ขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆทุกคนด้วยค่ะ สาธุ _/|\_



#18 Smiling Girl

Smiling Girl
  • Members
  • 550 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 October 2008 - 11:44 PM

ขออนุญาตคัดลอกบทความ "ทำอย่างไรจึงจะเกิดมารวย" จากคอลัมน์หลวงพ่อตอบปัญหาโดยพระภาวนาวิริยคุณ มาให้อ่านเพื่อเป็นกำลังใจนะคะ

QUOTE
เมื่อเราให้ทาน สิ่งที่ให้ที่เป็นส่วนหยาบ ก็คือสิ่งของที่เราสละไป ส่วนละเอียด ก็คือเราฆ่าความตระหนี่ได้สำเร็จ จนสามารถสละทรัพย์สิ่งของไปได้ ทันทีที่ฆ่าความตระหนี่ในใจได้สำเร็จ บุญก็ก่อเกิดขึ้นในใจเดี๋ยวนั้นเลย เป็นบุญจากการให้ทาน ชนิดตัดขาดออกจากใจ บุญชนิดนี้พอเกิดขึ้นมาแล้วจะมีคุณสมบัติอยู่อย่างหนึ่ง คือสามารถดึงดูดทรัพย์ สมบัติได้ เกิดอีกกี่ภพกี่ชาติบุญนี้จะติดตัวไป ทำให้สามารถดึงดูดทรัพย์สมบัติมาอยู่กับเราได้โดยง่าย
คนที่ให้ทานมามาก และคิดให้ทานอยู่ตลอดเวลา พอเกิดขึ้นมาลืมตาดูโลก ยังไม่ทันทำอะไรเลยก็รวยแล้ว เพราะมีพ่อแม่ที่ร่ำรวย มีทรัพย์สมบัติเตรียมพร้อมไว้ให้ บางคนแต่เดิมพ่อแม่ก็ไม่รวย ทันทีที่เข้ามาอยู่ในครรภ์มารดา พอแม่เริ่มตั้งท้อง ทั้งพ่อทั้งแม่ไม่ว่าจะหยิบจะทำอะไรก็โชคดีไปหมด พอออกจากท้องแม่ โตขึ้นมาหน่อย สมบัติทุกอย่างก็มาพร้อมให้ใช้ นี่..เป็นผลของทานที่สร้างไว้ในอดีตชาติ ด้วยความตั้งใจและศรัทธาเต็มที่
อย่างไรก็ตาม บางคนเมื่อเริ่มจะให้ทานไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อทำไปแล้ว ภายหลังเกิดนึกดีใจว่าเราทำไปดีแล้ว เพราะคนอื่นจะได้ประโยชน์อีกมากมาย พวกนี้ก็ได้บุญติดตัวไปเหมือนกัน แต่เป็นบุญที่ให้ผลช้า เนื่องจากทำบุญโดยไม่ศรัทธามาก่อน เพราะฉะนั้นเกิดกี่ชาติๆ ในระยะเด็กๆ ถึงวัยรุ่น ช่วงที่ยังไม่ถึงวัยกลางคนจะยากจน แต่พอเลยวัยนั้นฐานะจะดีขึ้น เป็นผลเนื่องมาจากการที่ดีใจที่ได้ทำบุญ ดีใจช้า บุญก็ตามมาอย่างช้าๆ กว่าจะตามทันก็เมื่ออายุเข้าวัยกลางคน
บางคนทำบุญทีแรกดีใจที่ได้โอกาสทำบุญ แต่พอทำไปแล้ว กลับนึกเสียดายภายหลัง บุญจึงส่งผลมาในลักษณะที่ว่า เมื่อยังเล็กร่ำรวย เข้าวัยกลางคนก็ยังรวยเรื่อยมา แต่พอตอนแก่ๆ อายุมากแล้ว การที่นึกเสียดายในภายหลัง ความเสียดายก็เริ่มมาตัดทอนกำลังบุญ เลยทำให้ยากจน อย่างนี้ก็มี
ดังนั้นจึงสรุปตอบว่า ที่เราจนก็เพราะการให้ทานของเราภพในอดีตมันหย่อน เพราะฉะนั้นในภพชาตินี้ก็จงพยายามทำทานให้เต็มที่เต็มกำลังของเรา อย่าไปนึกตระหนี่หรือนึกเสียดายทานที่ให้ไปแล้ว ที่แน่ๆ คือ เวรอทินนาฯ การลักขโมย อย่าไปก่อขึ้นอีก และอีกอย่างหนึ่งอย่าไปตัดลาภใคร ใครเขาจะทำบุญก็อย่าไปขัด อย่าไปค้านเขา ตรงกันข้ามเห็นใครเขาตักบาตรทำบุญ ควรรีบสนับสนุนให้กำลังใจเขา รีบไปกล่าวอนุโมทนาให้เขาปลื้มใจให้มากที่สุด
ที่ถามว่าทำบุญแล้วทำไมบุญไม่ส่งผลบ้าง ขอตอบว่า ส่งผลแน่ แต่อาจจะช้า
“เหมือนที่เรามัวชักช้าในการทำบุญแต่ละครั้งนั่นแหละ”



เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)