มี 21 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[kasaporn]

เราไปวัดทุกอาทิตย์ต่อเนื่องมาหลายปีแล้วแต่มีเรื่องนึงที่อยากให้รับฟังบ้างค่ะ คือว่า ในขณะที่หลวงพ่อนำนั่งสมาธิ น้องๆที่ใส่ปลอกแขนที่เขียนว่าแผนกรักษาบรรยากาศ ชอบเดินไปมาโดยการเดินจะเดินไปกลับ ไปกลับ ซ้ำๆกัน ซึ่งวันไหนเรานั่งริมๆหรือนั่งใกล้ คนที่ใส่ปลอกแขนรักษาบรรยากาศ เราได้ยินแต่เสียงเดินไปเดินกลับตลอดเวลา ยกตัวอย่างวันอาทิตย์ที่ผ่านมานะคะเรานั่งอยู่ริมทางเดินติดกับบริเวณที่เคยใช้จุดเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย พอหลวงพ่อนำนั่งสมาธิ น้องผู้ชายคนหนึ่งมีปลอกแขนเขียนว่าแผนกรักษาบรรยากาศ เดินไปเดินกลับในระยะทางประมาณ 5 เมตร อยู่ตลอดเวลา จนเราลืมตาขึ้นมานึกในใจว่า น้องเขาจะยืนเฉยๆหรือเดินน้อยกว่านี้ได้ไหมเนี่ย ได้ยินแต่เสียงเดินของน้องเขาอยู่ตลอดเวลา ใจไม่นิ่งเลย เราก็เลยหันไปมองหน้าน้องเขาแล้ว ยกนิ้วขึ้นทำท่าเหมือนบอกว่า จุ๊ จุ๊ โดยแสดงท่าทางให้เขาทราบว่าเสียงเดินของเขารบกวนการทำใจหยุดนิ่งมากๆ ก็กลัวเขาจะบาปอ่ะนะคะ แต่แปลกค่ะ เขาก็ยังคงเดิน ไป กลับ ไป กลับ ไปกลับ และไปกลับอยู่ตลอดเวลาจนหลวงพ่อกล่าวสัพเพ ดิฉันก็ลืมตาขึ้นมาหันไปบอกเพื่อนที่ชวนมาด้วยว่าทำไมน้องเขาเดินอยู่ตลอดเวลาเลย เพื่อนก็บอก เออใช่ได้ยินแต่เสียงเดินดัง ซวบ ซวบ ตลอดเลย เฮ้อ.......ไม่อยากใจขุ่นมัวเลยค่ะ เพราะหลวงพ่อบอกให้เลื่อนความขุ่นมัวไปก่อน แต่ดูเหมือนน้องเขา ไม่สนใจ ฉันจะเดินต่อไปมีอะไรไหม ก็เลยอยากจะ Feed Back ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบบ้างน่ะค่ะว่า คนที่สวมปลอกแขนรักษาบรรยากาศกลายเป็นคนทำลายบรรยากาศซะเอง อยากให้เข้มงวดตรงนี้บ้างค่ะ เพราะ เจอหลายคนแล้วค่ะที่ชอบเดินไปมาตลอดเวลา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนนะคะ จึงเรียนมาเพื่อทราบค่า

[kasaporn]

เหอๆ เราเข้าใจค่ะคุณ Innerspot เราไม่ได้ใจขุ่นแล้วค่ะหลังจากหลวงพ่อบอกว่าให้เลื่อนความขุ่นมัวออกไป เพียงแต่อยาก Feed back เพื่อการปรับปรุงเท่านั้นค่ะ เราถึงชอบไปนั่งสมาธิในวิหารหลวงปู่มากเลยเพราะเงียบดีจริงๆ

[Nu~NamMonz~]

บางทีผมเองอ่ะครับก็นั่งสมาธิแล้วเผลอ ไอ จาม หรือ ตดก็มี

O.o

ฮู้วววว

แซวเล่นนะคะ




เรื่องอย่างนี้บางทีก็ทำให้เราใจขุ่นง่ายนะคะ น่าจะลองเตือนเค้าตรงๆดูน่ะค่ะ แบบใจใสๆนะคะ เค้าน่าจะเข้าใจค่ะ

[Jengiskhan]

เขาก็คงทำแบบนี้ เป็นหน้าที่ เป็นงานของเขากระมั้งครับ ที่เดินอาจจะตรวจตราให้ทั่วถึง กันเรื่องโจรภัย ช่วยสอดส่องดูแลทรัพย์สมบัติของผู้ปฏิบัติธรรมด้วยล่ะครับ แต่การปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องระวังเรื่องเสียงเหมือนกันครับเห็นด้วย อย่างนั้นก็ต้องระมัดระวังเรื่องการเดิน ฝึกเดินแบบพระ

[Tree]

อาจจะเป็นอาสาสมัครใหม่ก็ได้นะครับ .... แต่ดีแล้วละครับที่เจ้าของกระทู้ไม่ใจขุ่น

อนุโมทนาด้วยนะครับ สาธุ สาธุ สาธุ

[ขนมปุยฝ้ายใสเย็นกลางใจ]

ดีแล้วที่คุณ kasaporn เลื่อนความขุ่นมัวออกไป ที่จริง...ต้องบอก "ลบความขุ่นมัว" ไปเลยดีกว่า อย่างที่มีคนแนะนำนั่นแหละ ก่อนจะนั่งตั้งจิตมั่น ๆ เลือกที่นั่งที่จะนั่งให้นิ่ง ๆ รับรอง....ใจใสปิ๊งงงง

อสม. ทุกคนมีหน้าที่ของตนเอง ต้องเห็นใจ และต้องให้กำลังใจ เพื่อให้ใจของ อสม. มีกำลังในการรับงานบุญไม่งานเล็ก หรืองานใหญ่ ก็ตาม คุณ kasaporn รำคาญใจแค่ อสม. นะ

เราสิ....สาธุชนเลยนะ วันอาทิตย์ต้นเดือนที่แล้ว ก็สาธุชนมาเยอะใช่ไหมล่ะ ก็เลยเกิด "ศึกแย่งที่นั่ง" กัน อีกฝ่ายบอกว่า มาจองไว้แล้ว แต่...ฝ่ายมาทีหลัง ก็บอกว่า แบ่ง ๆ กันสิ
ฝ่ายเจ้าของบอกว่า งั้นช่วยกระเถิบไปอีกได้ไหม ฝ่ายมาที่หลัง บอกว่า ไม่!!! จะนั่งตรงนี้ (เสียงแข็ง) แล้วว่าต่อ ฉันเข้าวัดมาสิบกว่าปี วันนี้จะมาปิดกอง เห็นไหม (แล้วก็โชว์ถุงทอง) จะนั่งตรงนี้แหละ
แล้วฝ่ายที่จอง ก้อต่อว่า ๆ ๆ ๆ ๆ เห้อ...ยังไม่จบนะ

แต่ตอนต่อไปนี้...หลวงพ่อ นำนั่งสมาธิแล้ว .....อิอิ ใจของเราและครอบครัวเรา (ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของเขา แต่เรื่องของเขามายุ่งกับเรา เห้อ...) ตอนนี้ก็เลย นิ่ง ๆ นุ่ม ๆ เบา ๆ ใส ๆ จนหลวงพ่อ สัพเพฯ

ต่อไปก็จะเริ่มถวายภัตตาหารเพลแหละนะ ภาคต่อนะ...ทั้งสองฝ่าย เริ่มวิวาทะ "เบ่ง" กันทั้ง 2 ฝ่ายเลยล่ะที่นี้ สาธุชนรอบ ๆ ที่ดู "ศึกแย่งที่นั่ง" ก้อเลยไม่ได้ถวายภัตตาหารเพล เพราะเขาเสียงดังใส่กัน จนกระทั่ง หลวงพ่อทัตตะฯ เริ่มให้พร

ประทานโทษ...."ศึกแย่งที่นั่ง" ของสาธุชน 2 กลุ่มนี้ ที่ต่างก็มีถุงทอง คนละถุง นะ.....วิวาทวาจากันไม่หยุดเลย....จึงไม่ได้รับฟังพรของหลวงพ่อทัตตะฯ เพราะสาธุชน 2 กลุ่มนี้ ทำ "ศึกแย่งที่นั่ง"

แต่...เราก้ออย่าขุ่นสิ เราและครอบครัวของเรา ยังนั่งสมาธิกันได้บุญ แบบ นุ่ม นิ่ง เบา เบ๊า ใส เย็น ได้เลย เพราะฉนั้น ไม่ว่ารอบกายเราจะเกิดอะไร....ลบความขุ่นมัวไปซะ ถ้าลบไม่ได้ก้อเลื่อนความขุ่นมัวไปก่อน เอาบุญนั่ง นิ่ง นุ่ม เบา เบ๊า ใส นิ่งเย็น เอาไว้ก่อนสิ่งอื่นเลย เชื่อสิ....รับรองคุณจะ "ปลื้ม" ตัวเองเลยแหละว่า "...เราทำได้ ไม่ว่าจะมีอะไรมาขวาง...."


เรียน web admin ถ้าข้อความข้างบนนี้ ไม่เหมาะสม ขอให้ลบออกได้เลยนะครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยจ๊ะ...สาธุ...

[เฉย เฉย]

จากความคิดเห็นส่วนตัวที่เคยเป็นอาสาสมัครตั้งแต่เรียนมัธยมต้น..ก็เคยมีประสบการณ์อยู่บ้างคือ การที่น้องเขาเดินนั้นอาจจะมาจากการดูแลรักษาบรรยากาศในพื้นที่ที่ตัวเองรับผิดชอบ เช่น สอดส่องดูแลเวลามีเด็กเล็กๆร้องไห้หรือเล่นเสียงดัง อาสาสมัครเหล่านี้ก็จะเข้าไปขอความกรุณาให้ผู้ปกครองนำเด็กออกจากพื้นที่หรือนำไปฝากที่ศูนย์เด็กแล้วแต่ความสะดวกแต่งานส่วนนี้ส่วนใหญ่อาสาสมัครจะไม่ค่อยเดินแต่จะนั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างริมทางเดิน หรือ ทุกวันที่มีงานบุญที่สภาโดยเฉพาะงานบุญใหญ่ต่างๆ จะมีการเดินเช็คยอดจำนวนสาธุชนในแต่ละโซนโดยการนับจำนวนคนและนำยอดมารวมซึ่งทุกคนก็คอยระมัดระวังตัวเองให้เดินเบาๆและไม่เสียงดัง และเวลานับก็ไม่ให้ชี้นิ้วให้ใช้สายตานับอย่างเดียวซึ่งบางครั้งต้องเดินไปเดินมาอาจทำให้เกิดเสียงดัง...ยังไงก็คงไม่เจออย่างนี้ทุกอาทิตย์หรอกค่ะทำใจใสๆนะคะ...สาธุ

[ปัจเจกชน บนทางสายกลาง]

ปัญหาที่ผมได้รับทราบเหมือนในงานวันหล่อทอง ใกล้กับเสาD9 ได้ยินเสียงรูดซิปกระเป๋า เสียงเปิดกระติกน้ำแข็ง คีบน้ำแข็งใส่แก้วทีละก้อน 555+ กว่าสาธุชนท่านนี้ท่านจะคีบน้ำแข็งทีละก้อนจนเต็มแก้ว 555+ เสียงดังชัดเจนไปหลายเสาทีเดียว เป็นเรื่องต้อง....... หน่ะครับ

[tor]

น้องเค้ามีหน้าที่รักษาบรรยากาศ ที่ต้องเดินไปเดินมาก็อาจเป็นเพราะน้องเค้าคิดว่าบรรยากาศยังได้รับการรักษาไม่เพียงพอ จริงๆ แล้วเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศรวมถึงตัวน้องเขาด้วย ต่างคนต่างรักษาตนเอง ภาพรวมน่าจะออกมาดีที่สุด น้องเค้าอาจพลาดไปเรื่องฝึกเดินบนซาแลนโดยไม่มีเสียง น่าจะฝึกฝนอีกนิด

[tnawut]

ปัญหาที่ผมได้รับทราบเหมือนในงานวันหล่อทอง ใกล้กับเสาD9 ได้ยินเสียงรูดซิปกระเป๋า เสียงเปิดกระติกน้ำแข็ง คีบน้ำแข็งใส่แก้วทีละก้อน 555+ กว่าสาธุชนท่านนี้ท่านจะคีบน้ำแข็งทีละก้อนจนเต็มแก้ว 555+

สงสัยกระติกของเราแฮะ ว่าแต่ใครคีบน้ำแข็ง๕๕๕ แซวกันเล่นนะครับ... เกิดเหตุ ถ้าไม่ไปใส่ใจเราก็ใจใสได้ และเราก็ได้บุญเน็ทๆ ถ้าเอาใจไปสนใจสิ่งเหล่านั้นก็ได้บุญนิดๆ.... ว่าแต่ไปสนใจสิ่งเหล่านั้น ใจเราก็ไปอยู่กับสิ่งเหล่านั้น ไม่ได้อยู่ที่ศูนย์กลางกายนะสิ...จริงใหม

งานบุญใหญ่ คนมามาก กระทบกระทั่งกันปกติ(เห็นบ่อยๆ) เมื่อมาวัดใหม่ๆก็ขุ่นๆนะ หลังๆพยายามปรับ ปรับเขาไม่ได้แน่ ปรับที่เราไม่ให้ไปสนใจ แต่ถ้่ามากๆก็แนะนำไปต้องยกมือไหว้เขาก่อนด้วยนะ เพื่อลดดีกรีความรุนแรง...

อย่างที่หลวงพ่อบอกนะครับ คิดเสียว่าเป็นวัดของเรา ช่วยกันดูแลความสงบเรียบร้อย...

PS. แล้วใครจะกล้านั่งใกล้คุณ innerspot ล่ะ๕๕๕ บรรยายซะเห็นภาพเลยพ่อเทพบุตร

[ทัพพีในหม้อ]

เอาน่า......ใจเย็นๆครับ ดื่มน้ำเย็นๆหน่อยไหมครับ มาผมจะคีบน้ำแข็งให้ หนึ่งก้อน สองก้อน เอ๊ะ.......สถานการณ์ดูคุ้นๆแฮะ

อย่างที่เคยเรียนให้ทราบไงครับ ว่าเจ้าหน้าที่วัดที่ใช้งานได้จริง เรามีจำกัด ต้องอาศัยกำลังเสริมจากอาสาสมัครมาเพิ่ม เพราะฉะนั้นในบางครั้ง เราก็อาจจะได้อาสาสมัครที่เพิ่งเริ่มรับบุญเป็นครั้งแรกๆ ยังไม่ละเอียดรอบคอบรอบตัวมากนัก คือรู้ว่าตนเองต้องทำ "อะไร" แต่อาจจะยังไม่รู้ว่าต้องทำ "อย่างไร" เราก็ควรจะเป็นกัลยาณมิตรให้น้องเขานะครับ

ผมเองก็เคยลุกออกไป แล้วยกมือไหว้คนที่เดินลากรองเท้าแตะดังแก๊รกๆ อธิบายให้เขาเข้าใจ แล้วยกมืออนุโมทนากับเขาอีกทีบ่อยๆไปครับ ไม่เสียอารมณ์นั่งสมาธิหรอกครับ ถือซะว่าเป็นบ้านเรา แล้วพ่อแม่พี่น้องเรากำลังนั่งสมาธิอยู่ มีญาติๆท่านอื่นๆมาส่งเสียงรบกวนเราก็เข้าไปขอร้องดีๆ ไม่มีใครตำหนิเราได้หรอกครับ

ส่วนที่มีเจ้าหน้าที่เดินตลอดนั้น เพราะเป็นมาตราการรักษาความปลอดภัยครับ เนื่องจากทุกคนจะนั่งหลับตากันหมด บางท่านเผลอตัวถึงขนาดหลับด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ต้องคอยเดินสังเกตุมิจฉาชีพ หรือบุคคลใดๆที่จะมาสร้างความขุ่นใจให้กับเรานะครับ ทั้งเจ้าหน้าที่วัด ทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจริงๆเราควรเห็นใจท่านเหล่านี้นะครับ เรานั่งหลับตากันสบาย แต่ท่านเหล่านี้ต้องมาเดินคอยอารักขาเราตลอดรายการเลย

อีกกลุ่ม ก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลอำนวยความสะดวกสบายและดูแลระเบียบภายในพื้นที่รับผิดชอบ กับเจ้าหน้าที่ที่ต้องนับจำนวนยอดสาธุชนที่มาร่วมงาน เพื่อจะได้จัดเตรียมเรื่องต่างๆ เช่น จำนวนอาหาร การเพิ่มหรือลดพื้นที่นั่ง การจัดผังการนั่งเพื่อลดการกระจุกตัว เป็นต้น อาจจะเดินหลายเที่ยวหลายเวลาหน่อย เพราะต้องการยอดที่ชัดเจนที่สุด นี่ก็น่าเห็นใจครับ เดินกันเป็นกิโลๆเลยวันๆนึง

ถ้ายังไงคราวหน้าถ้าปรับใจ ทำใจ ไม่ไหวจริงๆก็ลองลุกออกไปพูดคุยแนะนำกับน้องๆอาสาสมัครได้นะครับ น้องๆเขาจะได้รับทราบและปรับปรุงแก้ไขครับ

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

[Doramon]

ผมเห็นด้วยกับคุณ Tree น่ะครับ

อาจจะเป็นเด็กใหม่ ยังต้องขัดเกลากันต่อไป

ผมก็เจอหลายท่าน อยู่วัดมานาน แต่ก็ยังเดินลากเท้า

พูดคุยเสียงดัง ก็ยังขาดความนุ่มนวล ระเอียดอ่อน

วัดเรา หมู่คณะของเรา ยังต้องปรับปรุง และพัฒนากันอีกมากมายครับ

[ปลื้มจัง....]

....เหอะ เหอะ...เจอบ่อยค่ะ ยิ่งอยู่ท้ายสภายิ่งคุยกันหนักเข้าไปอีก แต่ก็นึกดีว่า น้องๆ พี่ๆ เขาก็ยังมีศรัทธามาทำหน้าที่รับบุญกันเนาะ อยากไปนั่งด้านหน้าๆมั่งค่ะ สงบเงียบมากๆ แต่ก็ถูกจองซะหมดตั้งแต่ยังไม่ 8 โมง คงจองไว้ให้เจ้าภาพประจำนะคะ เห็นหน้าเดิมๆ...

[นักสะสมบุญ]

ลูกชาย13 กะ ลูกสาว8 ขวบ ก็เป็น อสม แผนกนี้ค่ะ
ส่วนมาก ถ้าเด็กที่ได้ทำหน้าที่ส่วนไนๆ zone ใกล้หลวงพ่อฯ จะได้รับการฝึกมาดีแล้วนะ
แต่ถ้า zone นอกๆ จะเป็นเด็กใหม่ ซึ่งอาจจะต้องมีพี่เลี้ยง หรือ เรานี่แหละ ชี้ขุมทรัพย์ให้เค้า
ขอเน้นว่า ชี้ขุมทรัพย์นะคะ

[tootu]

ถือว่าเป็นการฝึกสมาธิและความอดทนอย่างหนึ่งนะ เดี๋ยวนี้ชินต่อเสียงรบกวนรอบข้างแล้ว

[สาธุธรรม]

บางทีผมเองอ่ะครับก็นั่งสมาธิแล้วเผลอ ไอ จาม หรือ ตดก็มี คนรอบข้างเขาคงก่นด่าในใจก็อาจจะเป็นได้ คนบางคนทำให้เราขุ่น เรารู้ แต่เราไม่รู้หรอกครับว่าเราจะทำให้คนอื่นเขาขุ่นหรือเปล่า

ปล. ขอความกรุณาทุกท่าน ตดอย่างสงบด้วยนะคะ
เพราะลำพังแค่กลิ่น ก็แย่พอแล้ว ระมัดระวังอย่าให้เสียงเล็ดลอดออกมาแม้แต่เดซิเบลเดียว จะเป็นพระคุณยิ่ง....

****************************************************************


ดิฉันว่า หากปรับปรุงได้ จะดีมากค่ะ
เพราะ นี่จะเป็นการเพิ่มมาตรฐานของวัดเราได้อยู่ในระดับ ดียิ่งกว่าดีที่สุด....

ดิฉันว่า คุณkasaporn กล้าหาญมากที่มาเล่าในที่สาธารณะ เพราะอาจมีผู้ที่เห็นด้วยและ ไม่เห็นด้วย

เราน่าจะทำให้สิ่งนี้ เกิดเป็นคุณประโยชน์ เหมือนเป็นเจ้าของวัด
ได้ชื่อว่า "เงียบจริงๆ เวลานั่งสมาธิ ไม่มีเสียงเลย "
คงเป็นที่สรรเสริญไปทั่วโลก....

โครงการปฏิบัติธรรมพิเศษ ทางทีมงานก็เน้นเรื่องนี้กันมาก
พยายามไม่ให้สวมใส่ผ้าร่ม เพราะมีเสียง

หากวัดใหญ่ เป็นอย่างนี้ ก็ต้องแก้ไข ค่ะ
เพื่อพวกเรากันเอง ที่จะได้อยู่ในที่อันเป็นสัปปายะมากที่สุด
เพื่อคนอื่น ๆที่มาปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะคนที่เพิ่งมาวัด
เพื่อเป็นหูเป็นตาให้ หลวงพ่อ คุณยาย ที่ท่านอุตส่าห์ ลำบากลำบน สร้างวัดมาให้เราได้ใช้ ได้ปฏิบัต เพื่อให้เข้าถึงธรรม


สรุป ทำอย่างไร เรื่องนี้จึงได้รับการแก้ไขจริงจัง ไม่ได้จบที่กระทู้นี้.....

เอาเป็นว่า หากดิฉันเจอเจ้าหน้าที่แผนกนี้ จะเข้าไปบอกให้ค่ะ (ด้วยไมตรี ชี้ทางสว่าง)

หากท่านอื่นจะมีวิธีอื่น ก็ช่วยกันเถิดค่ะ เพราะอุตส่าห์ ตั้งกองรักษาบรรยากาศ ขึ้นมาทั้งที

[ลูกหลานหลวงปู่]

ผมในฐานะเป็นอาสาสมัคร ถึงจะไม่ใช่แผนกรักษาบรรยากาศ แต่ผมทราบมาว่ามันเป็นหน้าที่น้องๆอาสาสมัครที่ต้องทำคือต้องตรวจตรารักษาบรรยากาศให้เงียบ สงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม เช่นถ้ามีเสียงเด็กร้อง น้องอาสาสมัครก็ต้องรีบเข้าไปแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด หรือ ถ้ามีเสียงโทรศัพท์ดัง ต้องรีบหาต้นเสียง และเข้าไปแก้ปัญหาโดยเร็วครับ

แต่น้องๆบางคนอาจจะเดินดังไปนิด หรือเดินบ่อยไปซะหน่อย อาจจะเพราะความกระตือรือล้นในการทำหน้าที่สูงครับ ก็ต้องฝากพี่ๆเจ้าหน้าที่แผนกรักษาบรรยากาศด้วยแล้วกันครับ

น้องๆคงไม่ได้ตั้งใจครับ

[Arareในบุญ]

ใจเย็นๆ น่ะค่ะ
เราว่า น้องเค้า ทำตามหน้าที่จริงๆค่ะ ที่ต้องเดินตรวจตรา ความเงียบจริงๆ
อยากจะบอกว่า ช่วงวันที่ 10 ตุลา หล่อทองหลวงปู่ คนมาเป็นแสน แต่ แม่ กะผู้ปกครอง บางคน เค้าปล่อยเด็กเล่นกัน และคุยตลอดเลย จนต้อง ลืมตา จิกเด็ก ใจใสเลยค่ะ
นั่งลืมตามองเด็ก คุยกันตลอดจนจบพิธีช่วงเช้า
*** ดังนั้น ทำใจใสๆ ไว้น่ะค่ะ
อนุโมทนาสาธุ น่ะค่ะ

[ตำรวจรักบุญ]

วัดเรามีอาสาสมัครจำนวนน้อย เมื่อเทียบกับจำนวนสาธุชนที่มาก และสาธุชนบางคนก็ดื้อกับอาสาสมัครเสียด้วย

ผมเองเวลาไปวัดก็ไปทำหน้าที่อาสาสมัครเสมอ อาสามัครส่วนใหญ่เวลาอยู่วัดจะรักษาศีลแปด และต้องรับบุญ

ค่อนข้างหนักทีเดียว หากไม่อยากให้อาสามัครต้องเดินไปเดินมาบ่อยๆ หรือเกิดเหตุการณืที่ไม่พึงประสงค์

ขอความกรุณาท่านสาธุชนทุกท่าน ช่วยทำตามกฎของวัดที่มีป้ายบอกเป็นจุดๆอยู่แล้ว และที่น้องๆเขาแนะนำด้วยครับ

[เศรษฐีหน้าใส]

คงต้องฝึกกันไปเรื่อยๆครับ ที่สำคัญพวกเรา อย่าใจขุ่น อยู่ด้วยกันหลักพรหมวิหาร๔ เพราะหมู่คณะเรามีความหลากหลาย อโหสิกรรม ให้กันนะครับ

[อิคคิวซัง]

ผมต้องขอโทษแทนน้องๆ อสม.ที่ทำให้บรรยากาศการปฏิบัติธรรมเสียไปนะครับ

ผมอยากจะขอเล่าถึงที่มาของการรักษาบรรยากาศของวัดเรานะครับ
กองรักษาบรรยากาศเกิดขึ้นมาเป็นแผนกที่ชัดเจนช่วงการสร้างสภาธรรมกายสากลหลังใหม่นี้นะครับ
ด้วยแนวคิดตามบันทึกในสมัยพุทธกาลครับ (พระอาจารย์เป็นผู้ก่อตั้งนะครับ)

มีสามเณรรูปหนึ่งจะต้องบรรลุธรรม ทราบจากข่ายพระญาณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงทราบว่าจะมีอีกฝ่ายหนึ่งคอยกีดกันไม่ให้สามเณรเข้าถึงธรรม จะใช้เสียงต่างๆมารบกวน พระองค์ทรงทราบด้วยพระญาณ จึงรับสั่งให้พระอานนท์
ไปคอยรักษาบรรยากาศรอบๆ กุฏิของสามเณรในช่วงนั้น แล้วพระอานนท์จึงใช้ฤทธิ์กำจัดเสียงต่างๆ ให้หมดไป
สามเณรรูปนั้นจึงเข้าถึงธรรมได้ เพราะบรรยากาศในการปฏิบัติธรรมมีความสำคัญมาก พระอาจาย์จึงเข้มงวด
กับพวกน้องๆอสม.ทั้งใหม่และเก่า

แต่ในช่วงที่ทุกคนปฏิบัติธรรม น้องอสม.ต้องทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น นับยอดสาธุชนส่งส่วนกลาง เพื่อคำนวณยอดอาหาร หรือคำนวณเพื่อแจกสิ่งต่างๆ และต้องรายงานสถานการณ์ตามจุดต่างๆ และระวังไม่ให้มีเสียงเช่น เสียงเด็กร้อง
เสียงโทรศัพท์ เสียงดังอื่นๆ

ผมต้องขอโทษคุณ Kasaporn ด้วยนะครับที่น้องอสม.คนนั้นอาจทำให้บรรยากาศเสียไป ทางพระอาจารย์และพี่ๆอสม.พยายามคัดคนเข้ามาเป็นอสม.และถ่ายทอดการวางตัวที่ดีอยู่แล้วนะครับ แต่บางคนก็ทำได้ดี บางคนก็ต้องฝึกฝนกันต่อไปครับ พื้นที่ในสภากว้างมากครับ ทางเราจะรักษาบรรยากาศให้เรียบร้อยที่สุดครับ และจะนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุง
กับกองของเรา เพื่อพัฒนาต่อไป ให้วัดเราเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรมจริงๆครับ