ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ใครมีพ่อแม่ไม่ชอบวัดพระธรรมกายโปรดอ่าน


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 November 2008 - 12:43 AM

เคยตอบกระทู้ของหลายท่านที่มีปัญหานี้ และคิดว่า มีคนใหม่ๆเข้ามาทุกวัน และปัญหานี้ดูจะเป็นปัญหาของคนเข้าวัดใหม่ๆ

เกือบทุกคนจึงนำมาโพสอีกครั้งเพราะเห็นว่าอาจจะเป็นประโยชต่อคนที่อยากจะชวนพ่อแม่เข้าวัด

เรื่องของของพระสารีบุตรอัครสาวกผู้เลิศด้วยปัญญา

ครอบครัวของพระสารีบุตรอัครสาวกผู้เป็นเลิศด้วยปัญญากว่าภิกษุทั้งหลายนับถือศาสนาของปริพาชกมาก่อน

(นับถือพรหมว่า เป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง)

เมื่อพระสารีบุตรและพี่น้องร่วมอุทรอีกเจ็ดคน ออกบวชและบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงอภิญญาทั้งหมด

แต่ก็มิอาจทำให้โยมแม่ของท่านมีความเข้าใจมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ จนวันสุดท้ายที่ท่านจะต้องละสังขาร

ทิ้งกายมนุษย์ไปสู่อายตนะนิพพาน เหล่าพระราชาทั้งหลายในชมพูทวีป,เทวดาทั้งหลายมีพระอินทร์เป็นต้น

,พรหมทั้ง 16ชั้น,และ อรูปพรหมทั้งหลาย ต่างเข้ามานมัสการท่านและถามปัญหาข้อธรรมมะจากท่านเป็นครั้งสุดท้าย

รัศมีกายของทวยเทพทั้งหลายทำให้เมืองทั้งเมืองสว่างยิ่งกว่าตะวันเที่ยงเสียอีก โยมมารดาจึงกระซิบถามพระสารีบุตรว่าผู้

ที่มากราบลูกนั้นเป็นใครทำไมจึงมีรูปกาย/แต่งกายงดงาม มีรัศมีกายสว่างไสว พระสารีบุตรจึงตอบว่า นั่นคือพระอินท์บ้าง ,

มหาพรหมชั้นต่างๆบ้าง

ฯลฯ โยมมารดาจึงเพิ่งคิดได้ว่า "ลูกของเรายังมีอานุภาพเห็นปานนี้ แม้แต่พรหมที่เรานับถือยังมากราบนมัสการลูกเรา

แล้วพระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาเล่าจะมีอานุภาพปานใด" พระสารีบุตรตรวจดูวาระจิตของมารดาแล้วเห็นว่า

จิตโยมมารดาหย่อนจากทิฐิมานะแล้วจึงแสดงธรรม เมื่อแสดงธรรมจบลงโยมมารดาก็มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง พระเถระเจ้าก็นฤพาน

จะเห็นว่าแม้พระสารีบุตรจะมีปัญญามาก และมีพี่น้องเป็นอรหันต์ถึง7องค์ ก็ยังต้องใช้เวลาทั้งชีวิตกว่าจะทำให้มารดามี

ความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาได้

แล้วเราล่ะ สติปัญญาของเรามีไม่ถึงหนึ่งส่วนในสิบหกส่วนของท่านด้วยซ้ำ และเราก็ไม่มีพี่น้องที่เป็นพระอรหันต์

เลยสักคน(หรือใครมีช่วยบอกด้วยครับ อยากทำบุญกับท่าน)ดังนั้นการที่แม่ของเรายังไม่เข้าใจในการสร้างบารมีของเรา

ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องรีบร้อน ขอให้เราสร้างบารมีต่อไป

และค่อยๆอธิบาย(ในเวลาที่ท่านพร้อมจะฟัง)ให้ท่านฟังไปเรื่อยๆ และให้ชวยท่านทำบุญบ่อยๆ สักวันท่านจะเข้าใจเอง

หากเราทำให้ท่านมีศรัทธา มีความเข้าใจได้ก่อนที่วันสุดท้ายของเราจะมาถึง ก็นับว่าเรา โชคดีกว่าพระสารีบุตรแล้ว

ให้นึกเสมอว่า ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ เราเป็นเด็กในสายตาของพ่อแม่เสมอ และให้นึกถึงพระสารีบุตรไว้เตือนใจ

การที่ใครสักคนจะเข้าใจในคำสอนและบังเกิดศรัทธาได้คนผู้นั้นต้องเป็นผู้มีบุญมาเกิด เพราะคำสอนของพระพุทธศาสนา

เป็นคำสอนที่สวนกระแสกิเลสที่มีอยู่ในตัวของมนุษย์ ดังนั้นถ้าบุญน้อยๆแม้เกิดมาได้ฟังคำสอนจากพระพุทธเจ้า

ก็ไม่อาจบรรลุธรรมใดๆได้และอาจทำตัวเป็นปฏิปักษ์ต่อพระพุทธเจ้าก็ได้เช่น

พระเทวทัตทั้งที่ได้เกิดเป็นญาติของพระพุทธองค์แท้ๆ ยังไม่อาจบรรลุธรมใดๆซ้ำยังทำกรรรมอันหนักอีกด้วย

สร้างบารมีต่อไป และอย่าท้อใจครับ ให้ทำเฉยๆ คือหยุดนิ่งเฉย นั่งสมาธิอธิฐานจิตตอกย้ำบ่อยๆ

แล้วท่านจะมีความเข้าใจในสักวันแน่นอนครับ สู้ต่อไปนะ ต้องสู้จึงจะชนะ

#2 ธงรบ

ธงรบ
  • Members
  • 51 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:@072

โพสต์เมื่อ 30 November 2008 - 02:33 AM

สาธุ สาธุ สาธุ ได้แง้คิดมีประโยชน์มากๆเลย ขอบคุณครับ... ที่บ้านของผม มีแค่ผมกับพี่ชายที่ชอบวัดนี้เป็นพิเศษ ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ ไม่ค่อยสนใจเข้าหาธรรมเท่าไหร่เลยอะครับ บวกกับว่าท่าน อยุ่ต่างจังหวัดคนนึง อยุ่ต่างประเทศคนนึงด้วยครับ และก็แฟนของผมเนี้ยเค้าก็ดูชอบธรรมอยุ่บ้างนะครับ แต่ไม่ค่อยศรัธทาวัดหลวงพ่อสดพระธรรมกายเลยอะครับ แต่ว่าตอนนี้ผมไม่แคร์แล้วแหละครับ ซักวันนึงคุณพ่อคุณแม่และก็แฟนผมเค้าอาจจะเข้าใจซักวันนึง

"ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกลับไม่เจอ...
ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข"

#3 Vj-Mac

Vj-Mac
  • Members
  • 123 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 November 2008 - 11:59 AM

ตั้งใจฝึกตัวเองใช้ดี ถ้าเราดีจริงเพราะเข้าวัดปฏิบัติธรรม แล้วเดี๋ยว คุณพ่อคุณแม่ก็จะเห็นเอง
แล้วท่านก็จะศรัทธาในตัวของเราก่อน แล้วก็จะศรัทธาวัด
ดูตัวอย่างพระสารีบุตร ท่านฝึกตัวท่านจนเป็นพระอรหันต์ แม้พรหมยังต้องมากราบ
พอแม่ท่านทราบถึงคุณธรรมของพระลูกชาย ว่ามีมากขนาดไหน ท่านก็ศรัทธา.....

ถ้าจะให้ดีก็ออกบวชอย่างพระสารีบุตร ซิ
ฝึกตัวเองให้เป็นพระอรหันต์
ไม่ได้ ก็เข้าถึงพระธรรมกาย
แม้ไม่เข้าถึงแต่ยึดมันในพระรัตนตรัย บวชตลอดชีวิต สุดท้ายก็จะสมเร็จสมปรารถนา
นำพาคุณพ่อคุณแม่เข้าวัดได้แน่นอน

มีตัวอย่างเยอะแยะไป เช่น พระที่วัดพระธรรมกายเป็นต้น...ฯลฯ

หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ได้

ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้ ง่ายนิดเดียว

ajvj


#4 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 November 2008 - 03:13 PM

สาธุ แม่ผมยังไม่เข้าวัด ปีนี้ก็จะสร้างองค์พระให้ท่านแล้วออกกุลโลบายให้ท่านไปที่วัดด้วยครับ
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#5 หมอป๊อง

หมอป๊อง
  • Members
  • 761 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กทม.

โพสต์เมื่อ 30 November 2008 - 08:27 PM

happy.gif สาธุ สาธุ สาธุ

#6 เดือนฉายงามแสง

เดือนฉายงามแสง
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 November 2008 - 08:34 PM

ขอบคุณมากๆๆๆ เลยค่ะ
ได้ข้อคิดอะไรดี ๆ และมีกำลังใจขึ้นเยอะ
เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน
ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงคนอื่น


#7 Nida49

Nida49
  • Members
  • 456 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 04:25 PM

คนในบ้านของเราก็ไม่เห็นด้วย ทำให้ไม่ค่อยสะดวกในการไปวัด ได้ทำบุญสร้างองค์พระ และ อธิษฐานอยู่บ่อย ๆ

แต่ยังไงก็คงต้องเอาตัวเองก่อน ลื้อทีหลัง อย่างพระอาจารย์ว่าไว้

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ



#8 Regenbogen

Regenbogen
  • Members
  • 441 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 10:25 PM

ขอบคุณมาก มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะ แพ้อะไรก็แพ้ ความดีไม่ยอมแพ้

#9 ผ้าขี้ริ้วหัวเราะ

ผ้าขี้ริ้วหัวเราะ
  • Members
  • 20 โพสต์
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 11:50 PM

แล้วพ่อแม่ชอบเข้าวัดเหมือนกัน แต่ไม่ใช่วัดธรรมกายล่ะ เค้าบอกว่าคนเยอะแยะ แก่แล้วกลัวจะเป็นลม แต่ชวนทำบุญอะไรทำหมดทุกบุญ ถ้าจะพาไปดูว่าบุญอะไรที่ทำไปแล้วบ้าง เช่นองค์พระ ท่านก็จะเลือกไปวันธรรมดา ไปกราบหน้าธรรมกายเจดีย์ และทุกที่แต่อยู่ไม่นานก็กลับ แต่พอชวนไปทำบุญวัดต่างจังหวัดนะ เกิดแข็งแรงขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ตื่นแต่เช้ามืดแต่งตัวจัดข้าวของรอเร่งให้ไปไวๆ ช้านิดเดียวก็หงุดหงิดไม่ทันใจ ทำตัวตื่นเต้นดีใจ จนเรานี้สงสัย คงจะชอบแบบพื้นบ้านสมัยก่อนที่คุ้นเคยทำกันมาหรือเปล่า แล้วเรื่องนั่งสมาธิ ท่านก็นั่งอยู่ทุกวันนะวันละ2-3ชั่วโมงแต่จะนั่งแบบปานาสติ สวดมนต์เป็นชั่วโมงๆ เราเลยคิดว่าท่านทำถูกแล้วเพราะท่านชอบแบบนี้ ไม่ไปหลงนับถือเจ้าถือผีก็ดีแล้ว แล้วอีกอย่างวัดที่ท่านไปประจำนั้นทั้งศาลา โบสถ์วิหาร กฐินผ้าป่า ทำทุกปีจนท่านคิดว่า วัดนี้ท่านสร้างมากับมือ แล้วยังวัดสาขาอีกตั้งหลายวัด ท่านก็อุปทาฏดูแลให้หมด อย่างนี้เรียกว่าไม่เกลียดวัดธรรมกายแต่ก็ไม่ถูกปฏิปทากับวัดเรารึเปล่า แต่สมัยที่หลวงปู่สดยังอยู่ท่านนับถือหลวงปู่มาก ด้วยความที่อยู่ไกลจึงไม่ได้ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ จริงๆแล้วก็อยากจะชวนท่านให้ได้ไปอยู่วงบุญพิเศษ ก็ยังพยายามอยู่ แต่ไม่ง่ายเลย เพราะเราทำตัวได้ไม่ดีไปกว่าท่านนะซิ
Nuttawat

#10 หนุ่มเจียงฮาย

หนุ่มเจียงฮาย
  • Members
  • 20 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 11:55 PM

ได้กำลังใจอีกมากเลยครับ ผมก็พยายามบอกบุญท่านเรื่อยๆและอธิษฐานให้ท่านเห็นด้วย ให้เป็นครอบครัวธรรมกาย

#11 bauhinia

bauhinia
  • Members
  • 7 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 08:49 PM

ใช้ความพยายามและอดทน 12 ปี ในการพาพ่อแม่มาวัด สำเร็จในปีที่ 13 เดี๋ยวนี้เค้ารู้หน้าที่เองว่า ต้องมาวัดทุกวันอาทิตย์โดยเราแทบไม่ต้องพูดอะไรเลย แค่ส่งสัญญาณว่า "พรุ่งนี้วันอาทิตย์ไปวัดกันนะ" ใครที่ยังพยายามไม่ถึง 12 ปี ก็สู้ สู้ ต่อไปนะ ให้นึกว่าความพยายามของเรายังไม่ถึงที่สุด ต้องมีสักวันที่วันนี้นจะเป็นของเรา

#12 072ideas

072ideas
  • Members
  • 17 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 December 2008 - 10:28 PM

บอกไม่ได้เลยค่ะ เพราะเดี๋ยวจะโดนดุ โดนว่า โดนห้ามทุกครั้ง แทนที่จะได้ปิติในบุญกลับใจขุ่นซะมากกว่า ทุกวันนี้เวลาทำบุญก็ได้แต่ใส่ชื่อท่านทั้งสอง และอธิษฐานจิตให้ท่านเข้าใจในเรื่องบุญเร็ว ๆ ค่ะ ไม่รู้ว่าท่านจะได้บุญมากแค่ไหน ยากมาก ๆ ค่ะ ที่จะบอกบุญท่าน