ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* - - - - 1 คะแนน

ขณะนั่งสมาธิ ทุกท่านมีวิธีอย่างไรให้ใจนิ่งครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 16 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr21582

usr21582
  • Members
  • 71 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 11:00 AM

ขณะนั่งสมาธิ ทุกท่านมีวิธีอย่างไรให้ใจนิ่งครับ
ตัวผมเอง จะทำความรู้สึกเหมือนว่า เรานั่งอยู่คนเดียวในที่มืดๆ กว้างๆ โล่งๆ ไม่มีผู้คน

อยากทราบถึงวิธี ของท่านอื่นด้วย ครับ อยากทราบวิธีที่แก้ความฟุ้ง ด้วยครับ

#2 *innerspot*

*innerspot*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 11:29 AM

QUOTE
ศาสตร์ทุกแขนง ทุกสาขาวิชา ล้วนมีสูตรเฉพาะหรือสูตรสำเร็จ ในการทำให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แม่นยำและถูกต้อง เพียงแต่มีวิธีการที่แตกต่างกันไปเท่านั้น อย่างเช่นในการปรุงอาหารให้อร่อย ก็มีเคล็ดวิชาในการทำให้อาหารที่ออกมามีรส มีชาติกลมกล่อม เอร็ดอร่อย น่ารับประทาน หรือในการทำสมาธิ ให้ใจหยุดนิ่งได้อย่างรวดเร็ว ก็มีสูตรสำเร็จและเคล็ดวิชา นั่นคือ การวางใจให้พอเหมาะพอดีที่ศูนย์กลางกายอย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ ให้เป็นธรรมชาติ อย่าไปลุ้น เร่ง เพ่งจ้อง หรืออยากหยุด ถ้าอยากหยุด ใจจะไม่หยุด แต่ถ้าหยุดอยากได้จะได้ทุกสิ่ง ให้ทำใจให้หยุด นิ่ง เฉย เพียงอย่างเดียว เมื่อประกอบเหตุได้ถูกต้อง ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นเองโดยอัตโนมัติ คือ ความสงบ ความสว่างและความสุขภายใน และจะทำให้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายใน ซึ่งเป็นที่พึ่งที่ระลึก ที่แท้จริง


QUOTE
ไม่ว่าจะเห็น หรือไม่เห็น มืด หรือสว่าง ให้หยุด นิ่ง เฉย ได้ไม๊ ๆๆ


โอวาท พระราชภาวนาวิสุทธิ์


--------------------------------------------------------------

QUOTE
การนั่งธรรมะก็เหมือนกับกำปั้นทุบขี้ดิน
ดังนั้นเวลาปฏิบัติธรรมอย่านึกว่าเราจะไม่รู้ไม่เห็น จะไม่เป็นอย่างคนอื่นเขา
อย่าไปคิดอย่างนั้น
เราต้องคิดว่า ทุกคำภาวนาว่า สัมมาอรหัง สัมมาอรหัง สัมมาอรหัง นั้นเราได้บุญทุกคำ
สัมมาอรหัง ทีไรเราก็ได้บุญทุกที หลับตาทีไรก็ได้บุญทุกที
เหมือนเราเอากำปั้นทุบขี้ดิน
ทุบทีไรก็ถูกทุกที



โอวาท คุณยายนะครับ

---------------------------------------

QUOTE
ปรกติแล้วใจสูงเป็นคนชอบคิด คิด คิด แล้วก็คิด เรียกได้ว่า “คิดทุกวินาที” คือคิดไปเรื่อย เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วค่าและแล้วใจสูงก็เพิ่งค้นพบเมื่อไม่กี่วัน ก่อนว่า

1) เราเป็นคนที่ ไม่ค่อยมี “สติ” คือ ใจชอบสัดส่ายไปมา และเราก็ปล่อยใจตามไปเรื่อย พอหลับตานั่งสมาธิ เมื่อฟุ้งซ่าน ก็ชอบปล่อยให้ฟุ้งไปเรื่อยๆ แต่พอนึกได้ ก็ดึงใจกลับมาอย่างรุนแรง จนเกินเหตุ เปรียบได้กับ รถที่เบรกกะทันหัน จนเกิดความตึง และหงุดหงิดตัวเอง

2) ใจสูงมักไม่ค่อยได้รักษาอารมณ์สบายทั้ง วัน แต่จะใช้ความคิดกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากๆๆ พอถึงเวลานั่งสมาธิ ก็ต้องเสียเวลาเคลียร์ใจอีก มีช่วงหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ใจสูงเคยเข้าโครงการรักธรรมะและพระภายใน ฉบับ ”ลืมตามองดูพระ หลับตานึกถึงพระ” ซึ่งก็ทำให้ตรึกได้ง่าย แต่ตอนนี้ก็ละเลย ในช่วงที่ทำงานแทบไม่เคยหยุดใจเลย

3) เป้าหมายของเรา อยู่แค่ “จำนวนชั่วโมงนั่ง” ปัจจุบันใจสูงตั้งไว้ว่า จะนั่งให้ได้วันละ 1 ชั่วโมง ก็ทำได้มาเรื่อยๆ แต่ไม่เคยใส่ใจกับเป้าหมายที่สูงกว่านั้นจริงๆ จังๆ คือการเข้าถึงธรรม ทำให้ไม่มีแรงบันดาลใจมากพอให้ทำการบ้าน 10 ข้อของคุณครูไม่ใหญ่

4) หากพิจารณาในบารมี 10 ทัศแล้ว พบว่า ตัวเอง ขาดเรื่อง “อดทน,สัจจะ และอุเบกขา” เมื่อขาดความอดทน ทำให้เมื่อมีนิวรณ์5 มากระทบใจ ก็มักจะต่อสู้ไว้ไม่ได้ เช่น ความง่วง ความฟุ้งซ่าน ฯลฯ ในขณะเดียวกันหากอยากนั่งสมาธิต่อ เมื่อช่วงนั่งดีๆ ก็จะไม่อดทนกับความหิว ความง่วง (ทั้งที่จริงตอนนั้นมันไม่หิวไม่ง่วงเท่าไหร่) ส่วนสัจจะ นั้นก็คือ “วินัย” เมื่อวินัยหย่อน ก็ทำให้เมื่อยุ่งๆ ก็จะละเลยการนั่งสมาธิไปบ้าง ละเลยการหยุดใจไปบ้าง และส่วนอุเบกขา ก็ทำให้เมื่อมีความวิตกกังวล ดีใจ เสียใจ เราก็ไม่สามารถตัดใจให้ขาดจากเรื่องเหล่านั้นได้


จากสมาชิกเวปไชต์ คุณใจสูง

#3 พจน์เอง

พจน์เอง
  • Members
  • 44 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 11:53 AM

ก็คิดว่าเหมือนตัวเองกำลังจะตายครับ้้ล่วไม่คิดอะไรครับ

เเล้วนั่งให้ เสียงสัมมาอรหัง ออกจากกลางท้องครับ

ถ้าไม่มีอารมณ์นั่งก็จะนึกถึงบุญครับ นึกเล่นๆ

เเต่เอาง่ายๆก็สัมมมาอรหัง ไปเรื่อยๆครับ

เเล้วค่อยหยุดในหยุด ใสในใส

เเล้วที่เหลือ จะมีคนสอนเองครับ

#4 จอมเทพ

จอมเทพ
  • Members
  • 466 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 01:33 PM

สำหรับจอมเทพแล้วก็จะทำเฉยๆครับ ทำให้ใจของจอมเทพนิ่งเร็วมากๆ ไม่ถึง1นาที ง่ายๆสบายๆครับ
กุญแจวิเศษ

#5 kaew

kaew
  • Members
  • 113 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 04:09 PM

ขอ Joy ด้วยค่ะ .. ชอบ ๆ เรื่องนี้มาก

ใช้หลักการนี้นะคะ

สติ
คือนั่งอย่างมีสติ โดยไม่หลับนะคะ .. ถ้าทำไป สติคุมได้มั่งไม่ได้มั่ง คือบางทีก็ฟุ้ง บางทีก็ไม่ฟุ้ง .. ทำต่อไปค่ะ

สม่ำเสมอ
อันนี้ทำเพื่อหาจุดสมดุลให้กับตนเอง ทำต่อไปอย่าท้อ .. สู้ไปไม่ถอย เมื่อยก็นั่ง ง่วงก็นั่ง ไม่มีเวลาก็นั่ง มีเรื่องวุ่นวายก็นั่ง นั่นคือทำทุกวัน และบ่อยที่สุดที่จะสามารถให้เวลากับตนเองได้ ... กับสุดท้ายเลย

สบาย
ผ่านข้อ สติ กับสม่ำเสมอมาแล้ว .. ในที่สุด ก็จะพบจุดสบาย ... และพบ .. และก็รู้สึกอ๋อต้องทำอย่างนี้นะ .. ก็จะรู้สึกว่า .. รู้ละ

แต่ก็ยังไม่พอ ต้องทำทบไปทวนมา ทวนไปทวนมา ครั้งแล้วครั้งเล่า ย้ำอีก ย้ำแล้วจนแน่น

ในที่สุดก็จะค้นพบวิธีการของแต่ละคน (ไม่เหมือนกันจริง ๆ)
จะค้นพบได้เร็วหรือช้า ก็ขึ้นอยู่กับกำลังบุญ .. (ทำมามากก็ได้เร็ว ทำมาน้อยก็ได้ช้า ๆ หน่อยละกัน)
ซึ่งสู้ต่อไป ..
ทุกคนสู้ ๆ
เพื่อตัวเอง ไม่เพื่อใครสักหน่อย happy.gif

#6 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 04:57 PM

เป็นคนที่มักจะตั้งใจมากเกินไปค่ะ

ใช้วิธีบอกตัวเองว่า "มา เรามานอนหลับกันเถอะ"
ผลคือ ไม่หลับ แต่สบาย

(precaution : โปรดใช้วิจารณญานในการทำตามค่ะ)
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#7 ปลื้มจัง....

ปลื้มจัง....
  • Members
  • 190 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 05:54 PM

ปรับกายให้สบาย...เมื่อยก็ขยับ ฟุ้งก็ให้ลืมตา...
ปรับใจให้สงบ.......วางทุกสิ่ง...ทิ้งทุกอย่าง....

...SMILE.... SMILE.... SMILE...

...ยิ้ม... ใส... ปิ๊ง...


#8 สุภาพบุรุษ072

สุภาพบุรุษ072
  • Members
  • 597 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 06:09 PM

ทำตามที่หลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่แนะนำในการนั่งสมาธิครับ happy.gif

#9 ปฏิปทา 072

ปฏิปทา 072

    ขอชื่อ ที่ถูกต้อง ปฏิปทา 072 THANIDA KOIKE

  • Members
  • 1358 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 07:19 PM

ส่วนตัวของดิฉันเองแล้วจะทำตามที่ คุณ.innerspot บอกมาทุกๆอย่างเลยค่ะ ก็เลยขอยืมคำตอบที่ใจตรงกัน และก็ทำ

ตามก็ตรงกัน ความคิดก็ตรงกัน ก็ขออนุโมทนาบุญ ด้วยนะค่ะ ที่ไม่เขียนอะไรต่อ เพราะมีคำตอบตรง กับดิฉันอยู่แล้ว

ทุกๆอย่างเลย ค่ะ สาธุ

#10 Vj-Mac

Vj-Mac
  • Members
  • 123 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 December 2008 - 09:33 PM

ผมนั้งปล่อยใจตามเสียงหลวงพ่อ เกือบทุกครั้ง
ถ้าฟุ้งมาก(นั่งเลวใจไม่นิ่ง คิดไปเรื่อยเปื่อย) ก็ลืมตา
ส่วนใหญ่จะทำเป็นไม่สนใจกับสิ่งที่ฟุ้งนั้น แล้วก็นิ่งเอง
ทำเป็นไม่สน ๆ ๆ

หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ได้

ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้ ง่ายนิดเดียว

ajvj


#11 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 December 2008 - 12:18 AM

วิธีนั่งสมาธิให้ได้ผลดี

ก่อนนั่ง ทำดังนี้

1. ไปอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด สวมเสื้อผ้าที่สบายไม่หลวมไป ไม่คับไป

2. มาไหว้พระสวดมนต์ก่อน(ทำวัตรก็ได้)เพื่อบิ๊วอารมณ์ให้เกอะพระรัตนตรัย

3. นั่งขัดสมาธิแล้วพยามปรับสมดุลให้ร่างกายอยู่ในอาการที่สบายๆ ผ่อนคลายที่สุด แล้วหลับตาลงเบาๆ พอสบายๆ

ขณะนั่งทำดังนี้

1.ถ้าฟุ้งให้ทำเฉย ๆ

2.ถ้าเมื่อยให้ทำเฉย ๆ

3. ถ้าง่วงให้ทำเฉย ๆ หรือ พยายามทำเฉยๆ

4. ถ้าเห็นอะไร เช่นดวงแก้ว องค์พระ แสงสว่าง ให้ทำเฉยๆ



#12 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 09 December 2008 - 09:06 AM

ของผมใช้วิธีฝึกตัวเองน่ะครับ วิธีการฝึกของผมจะมีทั้งการฝึกภายนอกและภายใน เพราะผมยึกหลักที่ว่า จะให้ภายในใสบริสุทธิ์ได้ก็ต้องเริ่มต้นจากภายนอก การฝึกภายนอกของผมก็คือ

1. ปิดทวารทั้ง6 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จักษุทวาร คือไม่มองดูเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเรา
2. ทำตัวนิ่งเฉยในทุกๆเรื่อง หรือฝึกการวางอุเบกขาในทุกๆสิ่ง
3. ฝึกวิริยะ หรือความกล้าที่จะทำ กล้าที่จะฝืนใจ ให้เกิดความเพียร
4. ฝึกสัจจะ คือทำตัวให้เป็นคนจริง ตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้จริงๆ
5. ฝึกเนกขัมมะ ฝึกตนให้เป็นผู้รักสันโดษ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่คบกับใครนะครับ แค่ไม่ไปทำเรื่องเสียเวลากับคนอื่นเท่านั้น เช่น เที่ยวพลับ เข้าบาร์ สังสรรค์สมาคมทำนองเนี้ย
6. ฝึกขันติ ให้ตัวเองมีความอดทนอดกลั้น ไม่ให้มีอารมณ์กับเรื่องภายนอกและรอบข้าง ฝึกให้ตัวเองทนความลำบาก
7. ฝึกทาน ศีล เมตตา และอธิษฐาน ให้ใจมีความพองโตอยู่เสมอ
8. ฝึกปัญญาโดยก่อนนั่งสมาธิผมจะสวดมนต์ระลึกถึงพระรัตนตรัยอยู่เสมอ

นี่เป็นบทฝึกภายนอกของผม ซึ่งสำหรับผมแล้ว ใช้ได้ผลดีมากๆ พอภายนอกดี ภายในก็ดีตามด้วยเป็นลำดับๆ จะลองเอาไปใช้ดูก็ได้นะครับ ไม่สงวนลิกขสิทธิ์ ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#13 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 December 2008 - 01:52 AM

ได้ึความรู้ดีจังเลยครับกระทู้นี้ สาธุ สาธุ สาธุ ครับผม

#14 อริย 072

อริย 072
  • Members
  • 440 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 December 2008 - 12:37 PM

ขออนุโมทนาบุญ กับทุกท่านที่มาให้ธรรมทาน..
...
โดยส่วนตัวของผู้เขียน..
การทำใจให้นิ่ง..นั้น
คือการหยุด..ใจ
แบบไม่มีการบังคับจ้ะ..
พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ท่าน...
จึงมักย้ำเสมอว่า สบายๆ..
ก็เพราะ ปกติของพวกเรา ใจเราทำงานตลอด
มาตั้งแต่วินาทีที่ลืมตาดูโลก..
...
การบอกให้ใจหยุด..
เลยเป็นกิริยาที่ไม่ใช่ปกติ ของเรา
บางท่านเลยเข้าใจว่าต้องขังไว้ ต้องบังคับไว้
ไม่ให้คิด ไม่ให้ฟุ้ง..
...
จริงๆก็ถูกจ้ะ
แต่ได้ผลช้า..เหมือนเรา
จับสัตว์ซนๆมาขังกรงแคบๆในทันที..
เขาก็จะร้อนรน ยิ่งกระโดด วุ่นวาย ทำเสียงไม่พอใจ
ก็เปรียบกับใจที่ร้อนรน หงุดหงิด..
แต่ถ้าเราเปลี่ยน...เป็นค่อยๆเอาเขาไว้ที่ในรั้วกว้างๆ
แต่เราคอยดูแลไว้ ไม่ให้วิ่งออกไปไหน
แล้วค่อยๆ จำกัดขอบรั้วให้แคบเข้ามา
โดยเอาของมาล่อให้มีจุดสนใจ
..ก็เปรียบเช่นใช้การภาวนา หรือ นึกนิมิตซ้ำๆ
เขาก็จะมีพัฒนาการของการ หยุด ขึ้นมาเรื่อยๆ..
นอกนั้น ก็ใช้วิธีของท่าน INNERSPOT รวบรวมมา
บวกกับวิธีเตรียมกายใจ นอกรอบ ของท่าน เคยเข้าวัด
แล้ว จะเห็นพัฒนาการ..
ของการหยุดใจ...ที่ก้าวหน้า จนน่าทึ่งทีเดียวจ้ะ
สาธุ กับท่านที่รักธรรมะทุกท่านจ้ะ


#15 อิ่มอุ่น

อิ่มอุ่น
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 December 2008 - 05:13 PM

อนุโมทนาบุญด้วยจ้า สาธุๆๆ

#16 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 December 2008 - 10:45 PM

ก็นั่งไปเรื่อยๆค่ะ เดี๋ยวใจจะค่อยๆก็หยุดเอง นั่งบ่อยๆ ใจเราจะเสพคุ้นไปเองโดยอัตโนมัติค่ะ เอาใจจรดไว้ที่ศูนย์กลางกายบ่อยๆ แล้วสมมุติเหมือนกับว่าเราได้เข้าถึงดวงธรรมภายในแล้ว นึกให้ขยายๆ สมมติไปเรื่อยๆ เดี๋ยวใจหยุดได้เองค่ะ

#17 วันใส

วันใส
  • Members
  • 93 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 December 2008 - 11:47 PM

ดูพระจันทร์จ๊ะ โ บ ร๋ ร๋ ว ว ว
ยิ่งวันพระจันทร์เต็มดวง สว่างกลางท้อง ... .. ฟ้า จะนั่งได้นิ่งและนานมากจะไม่ฟุ้งเท่าไหร่ พอจะเริ่มฟุ้งก็ลืมตามาดูพระจันทร์ แต่พระจันทร์ไม่ได้เต็มดวงทุกวันใช่ม๊า ขนาดฟ้ายังมีวันหม่น ฝนยังมีวันแล้ง สลากยังมีกินแบ่ง แล้วพระจันทร์จะไม่แหว่งไม่มีทาง เราก็มีวันขี้เกียจบ้างในวันพระจันทร์แหว่ง หรือฟุ้งซ่านมากก็ให้ ติ๊ต่าง พยายามนึกถึงอารมณ์และบรรยากาศในวันนั้น วันชื่นคืนสุขวันที่มีแต่เรานั่งหลับตากับพระจันทร์เต็มดวง cool.gif cool.gif

แม้มืดตื้อมืดมิดก็มีสิทธิเข้าถึงธรรม