ถุ...ถุ...ถูกต้อง..งงงงง ค่ะ คุณตำรวจรักบุญ ที่บอกว่า"การทำงานทุกอย่างคือ
การแก้ปัญหา ถ้าเข้าใจอย่างนี้ทุกปัญหาก็คือเรื่องธรรมดาอย่าไปเครียด"
ถ้าคิดและทำได้อย่างนี้ ก็ดีซิคะ แต่บางคนยังไม่ทันจะได้ เห็น ได้รู้ อะไรชัดเลย
แค่ แว่ว..ๆๆๆๆ จับต้นชนปลายยังไม่ได้ ก็คิดเอง ว่าเอง ตอบเอง เออเอง
ไปซะก่อนแล้ว และก็เลย "เข้าใจผิด" กันยกใหญ่นี่เกิดจากการเป็นคน
"คิดมากๆๆ หรือคิดเล็ก คิดน้อย หยุมหยิม" ไปซะทุกเรื่อง ถ้าเราเจอคน
ประเภทนี้แรก ๆ ก็คงกลุ้มใจน่าดูเพราะโดยธรรมชาติแล้ว เราจะไม่อยากให้
เขาต้องตกบุญ หรือหลุดวงบุญไป แต่ถ้าไม่รับฟัง ก็ปล่อย ๆ เขาไปก่อน
แล้วเราก็มามุ่งสร้างบารมี กับหมู่คณะของเราต่อไปอีก นี่คือบทเรียนที่จะทำ
ให้เราแข็งแกร่งขึ้น เกิดเราเองก็ไม่ปล่อยวางปัญหาเล็ก ๆ นี้อาจนำมาสู่ปัญหาใหญ่
ที่ทำให้งานของหมู่คณะเสียหายได้ ต้องท่องไว้เสมอว่า
"ปัญหาเขามีไว้ให้แก้ ไม่ใช่มีไว้ให้กลุ้ม "ก็ควรแก้กันไปอย่างสนุกสนาน
และมีสติ นี่ก็คือบทเรียนการฝึกเป็น "ผู้นำ สำหรับนักสร้างบารมี"
ที่จะสามารถติดตาม ตามติด มหาปูชนียาจารย์ได้
น้ำใสก็ขอแทรก คติประจำใจของตนเองที่ใช้มาตลอดชีวิตการทำงาน
ว่าทุกครั้งที่เกิดปัญหาขึ้นกับตัวเอง และในสภาวะที่กำลังสับสนวุ่นวาย
น้ำใสจะนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ คนเดียวในสถานที่เราชอบเช่น ห้องพระ ห้องนอน
สวนหลังบ้าน วัด แล้วก็สมมุติดึงตัวเองออกมาจากปัญหานั้น
เราลอยอยู่เหนือท้องฟ้า โล่ง ๆ แล้วก็มองลงไปยังด้านล่าง ดูว่าปัญหาเกิด
จากใคร อะไร แล้วต้องแก้ปัญหาอย่างไร คิดด้วยใจเย็น ๆ อย่าเอาตัวเองมาเกี่ยวข้อง
อย่าโทษตัวเองอย่า โทษใคร มองปัญหานิ่ง ๆ แล้วเราจะพบเหตุของปัญหา แ
ละวิธีแก้ปัญหาได้อย่างอัศจรรย์ ทีเดียวค่ะ หากใครกำลังเจออยู่ก็ขอเอาใจช่วยนะค้า...