ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ช่วยด้วยใจหมองค่ะ ทะเลาะกับแม่เรื่องทำบุญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 24 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 SUREPORN SAEANG

SUREPORN SAEANG
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 05:35 PM

เราติดตามเว็ปนี้มานานแล้วค่ะ เห็นชื่อคุ้นหลายคนมาก แต่เราไม่ค่อยตอบกระทู้ เพราะทุกคนเขียนดีมากๆ อยู่แล้วและเราความรู้ยังน้อยเลยชอบอ่านของเพื่อนๆ มากกว่าขอความเมตตาเพื่อนๆ พี่ๆ ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ คือเราเคยซื้อจักรยานภูเขา มาคันหนึ่ง ราคาประมาณ หมื่นสี่ ก่ะว่าจะออกกำลังกาย แต่ที่นั่งมันสูงมาก เวลาขึ้นขี่มันลำบาก เพราะมันจักรยานทรงผู้ชาย เลยไปซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า เลยไม่ได้ใช้อีก จึงเก็บไว้เฉยๆ หลายปี ต่อมาได้ไปนั่งสมาธิ ที่เขาแก้วเสด็จ เห็นจักรยานทรงแบบเรา จอดอยู่ประมาณ เจ็ด แปด คัน สภาพเก่า และไม่ค่อยดี ของเราจะสภาพดีกว่ามาก พระอาจารย์เอาไว้ให้ สาธุชน ขี่ชมบริเวณนั้น และเราก็เห็น เณรใช้ด้วย เราเลยรู้สึกอยากถวายหลวงพี่ ใจก็ปลื้ม เพราะเราซื้อด้วยเงินของเรา แต่พอเราบอกแม่ แม่ก็บอกว่าไม่ให้ เพราะว่าเราจอดเอาไว้นานแล้ว มันไม่ใช่ของเราแล้ว เพราะเราวางกองเหมือนทิ้ง เราเลยโมโหแม่มาก ทั้งๆ ที่ชีวิตแม่ลำบากมาแต่เด็ก แต่ก่อนไม่เข้าใจวัดเลย แต่ตอนนี้เข้าใจทุกอย่างเกี่ยวกับบุญเพราะเราชวนเข้าวัด หลายปีมากกว่าจะสำเร็จ แต่ทำมัย ก็ยังมาขวางบุญเรา เราอยากให้เพื่อนนึกดู ตอนที่เพื่อนเกิดปิติใจ และอยากทำบุญ ถ้ามีคนมาบอกไม่ให้ทำ ทั้งที่เงินเรา ของๆ เรา เราจะทำใจอย่างไร ไม่ให้เสียใจ และจักรยานของเรา บ้านเรามีสี่คน ไม่มีใครเคยใช้เลย มันวางไว้โดยไม่มีใครจับมาอย่างน้อย สาม สี่ ปีแล้วด้วย และเราเป็นคนโชคดี ซื้อบ้านสาม สี่ล้าน ซื้อรถเป็นล้าน ตั้งแต่ไม่ถึง 25 และชอบทำบุญ เลี้ยงข้าวเพื่อน เป็นชีวิตจิตใจ เราจะมีความสุขอารมณ์ดีถ้าได้ทำแบบนี้ แต่เราจะโมโห แม่เรื่องนี้ตลอด เช่นน้องสาวพ่อเรา มีลูกชาย ตอนนี้เป็นเอดส์ ชีวิตครอบครัว เขาลำบากมาก แถบไม่มีข้าวกิน เพราะเขาเป็นครอบครัว อบายมุข ชอบเล่นการพนัน ไม่ทำงาน ไม่เก็บตังค์ ชีวิตเลยแย่ตลอด และเขานับถื่อศาสนา... คือไม่ใช่พุทธ เพราะเขาทำตัวกันแบบนั้นเราก็เข้าใจทำให้ชีวิต พวกเขาต้องมาตกต่ำแบบนี้ (เราเคยไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรแล้ว แต่ไม่สำเร็จ) เราสงสาร เราเลยยกไมโครเวฟของเราที่ไม่ได้ใช้เลย(เพราะพ่อได้ซื้ออีกเครื่องมาใช้) แต่ยังดีอยู่ สภาพดีมาก ให้ และกระติกน้ำร้อน หม้อหุงข้าว(ของแต่ล่ะอย่างที่ให้เขา ของที่บ้านเรามีซ้ำหลายอัน ) เพราะของเขามันเก่ามากๆๆ ไมโครเวฟเขาก็ไม่เคยใช้ แต่เราคิดว่า ลูกเขาเป็นเอดส์ บางครั้งอาจต้องการอุ่นอาหาร ให้สะอาด ต้มอะไรง่ายๆ เร็วๆ ให้คนป่วยแบบเร็วๆ พอแม่เรารู้ แม่เราก็ไม่ค่อยพอใจ บอกว่า พวกเขาทำตัวเอง แต่เราก็ดื้อไม่สนใจ เราอึดอัดกับนิสัยแม่เรามาตลอด ที่แม่เราเป็นคนไม่ค่อยมีน้ำใจ เราขัดใจกันตลอด จนเราสั่งสมความไม่ชอบแม่ ลึกๆ ของจิตเรา ช่วยด้วยค่ะ เพื่อนๆ พี่ เราไม่อยากเป็นคนแบบนี้ เราจะทำใจอย่างไรดี คิดว่าเป็นกรรมเก่า แต่ก็ไม่หายโกรธแม่อ่ะค่ะ เพราะนิสัยเราจะเกลียดคนที่นิสัยแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นเราจะไม่คบเลย เราชอบคนจิตใจเอิ้อเฟื้อ มีน้ำใจมากมาย มันเลยกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะนี้คือแม่เราอ่ะค่ะ( วันพระเราจะตื่นตีห้า ทำอาหารถวายพระ เราจะปลุกทุกคนตื่นตอนหกโมง มาใส่บาตรที่เราทำเสร็จแล้ว จะตื่นแต่น้องสาว กับพ่อ แม่เราน้อยมากที่จะมาตักบาตรด้วย เราไม่เข้าใจว่าทำมัยเป็นแบบนี้)

#2 ช้างบ้า

ช้างบ้า
  • Members
  • 58 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 06:08 PM

บุตรธิดาพึงบำรุงมารดาบิดา
หนึ่งใน ทิศ 6 ครับ

ดูๆ แล้วเหมือนคุณ SUREPORN SAEANG กำลังจะสื่อออกมาว่า ไม่เข้าใจคุณแม่ ที่ คุณ SUREPORN SAEANG ใช้ชี้วิตอยู่กับท่านมาเกือบ 30 ปี นะครับ แต่ก็ไม่แปลกหรอกครับ ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่ค่อยเข้าใจคนในครอบครัวตัวเองซักเท่าไหร่ ไม่ว่าน้องที่บอกให้มาวัดเท่าไหร่ ก็ไม่ยอมมา พ่อที่ ผมคิดว่า ผมรู้มากกว่าท่าน เรื่องหวย(บอกให้เลิกเล่นเท่าไหร่ก็ไม่เลิก) แต่ใน

ความเป็นจริง เราลืมทำความเข้าใจ คนไกล้ๆตัว ลืมทำความเข้าใจคนที่ รักเรา หรือปล่าว?

แม่ท่านก็มีเหตุผลของท่าน
ในการตัดสินใจอะไร
เราก็มีเหตุผลของเราในการตัดสินใจอะไร

..แล้วเหตุผลของใครถูกหละ!!!

ส่วนตัวผมทุกเหตุผลของแม่ เกิดจากความห่วงใยคนในครอบครัวทั้งสิ้น

ปล
บริหารทัศนคติ ให้ดี ชีวิตจะมีความสุข ... happy.gif



#3 Lucky Girl

Lucky Girl
  • Members
  • 653 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 06:08 PM

ก่อนอื่น พี่ขอเอาบุญบูชาข้าวพระและบุญอื่นๆ มาฝากค่ะ

พี่เข้าว้ดไม่นาน อาจจะตอบไม่ได้ดีมากนัก แต่พี่ก็มีแม่เหมือนกัน เลยจิตนาการพอได้

ก่อนอื่น น้องต้องหัดไม่โกรธก่อนน่ะ เพราะความโกรธไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกจากทำให้ความรู้สึกของเราต่อแม่ไม่ดีแล้ว ใจของเราเองยังขุ่นมัว ยิ่งไม่สามารถเป็นกัลยาณมิตรให้กับทั้งตัวเองและคนอื่นได้ดีอย่างที่ควรจะเป็นได้

คนเป็นพ่อเป็นแม่ หวงแหนทรัพย์สินเงินทอง ส่วนใหญ่ก็เพื่อลูก เก็บไว้ให้ลูก อะไรทำนองนี้ แต่จะแสดงออกหรือพูดอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ต่อให้ท่านไม่ดีอย่างไร ก็ให้นึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่สุดที่จะประมาณได้ คือการให้กายมนุษย์เรามาสร้างบุญ สร้างบารมี อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึง

เมื่อใดที่ใจน้องคิดอยากที่ทำบุญ บุญในวาระแรกก็ได้เกิดขึ้นแล้ว ถึงคุณแม่จะขัดไม่ให้ได้ทำบุญจริงๆ ก็ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป

อย่าให้เป็นว่า บุญก็ไม่ได้ทำ ใจก็ขุ่นมัว สร้างกรรมใหญ่ โดยการสร้างวจีกรรม หรือกรรมอื่นๆ กับคุณแม่เลย แค่เราบึ้งตึงใส่ท่าน คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็เป็นทุกข์ ไม่สบายใจแล้ว

นี่ยังดี ยังเข้าวัดมาด้วยกันน่ะ ใจเย็นๆ จ้า หมั่นหาสื่อเกี่ยวกับอานิสงค์ของการให้ทาน เปิดให้ท่านฟังบ่อยๆ

#4 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 06:59 PM

เห็นด้วยกับคุณLucky Girl ค่ะ และขอเพิ่มเติมอีกนิด อย่าแม้แต่คิดที่

จะเกลียดท่านนะคะ เพราะแม่ย่อมรักและเมตตาลูกอยู่แล้วค่ะ

ไปไหนมาก็ซื้อของฝากที่ท่านชอบให้ท่านบ่อย ๆ พยายามเข้าใกลั ๆ ทำโน่นทำนี่

ให้ท่าน กอดท่านบ้าง หอมแก้มท่านบ้าง แรก ๆ อาจจะเขิน กระดากทั้งแม่

และลูก แต่พยายามทำบ่อย ๆ ก็จะทำให้ใจท่านอ่อนลง แล้วก็พูดคุยถึงเหตุผล

และบุญกุศลที่เกิดจากการบริจาคทรัพย์หรือสิ่งของ ค่อยเป็นค่อยไปค่ะ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีเอง

เอาใจช่วยคุณSUREPORN SAEANG ค่ะ

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม


#5 Kodomo_kung

Kodomo_kung
  • Members
  • 323 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 07:35 PM

นี้ถ้าเป็นผมมั่งหรอ เจอแบบเนี้ยทำไปก่อนค่อยบอกทีหลัง ถ้าเรารู้นิสัยท่านแบบนี้แต่ถ้าเรื่องความรู้สึกที่มีต่อท่านก็พี่Lucky Girl กับพี่ น้ำใส ตอบได้ดีแล้วยังไงเราก็ขอเป็นกำลังใจในการสร้างความดีนะคุณSUREPORN SAEANG

#6 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 07:50 PM

ใจเย็นๆ ครับ ทำใจใสๆ ไว้ก่อน ทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไปโดยเฉพาะกับบิดามารดา จะโกรธเคืองกันไปใย ถ้าท่านไม่เข้าใจก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะหาอุบายทำให้ท่านเข้าใจ และเห็นความตัั้งใจของเราครับ

เป็นอย่างที่พี่ Lucky Girl กล่าวไว้ครับว่าบุญเกิดใน 3 เวลาคือ ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ ตอนนี้คุณ SUREPORN SAEANG ตั้งใจทำ บุญก็เกิดแล้วครับ ถึงแม้จะยังไม่ได้ทำจริงแต่จิตที่เต็มไปด้วยกุศลศรัทธาก็นำพามาซึ่งบุญ อาจจะใช้เวลานิดในการทำให้ความตั้งใจนั้นเป็นจริง ก็ไม่เป็นไรครับ เมื่อใหร่ที่ทำได้เราก็จะได้บุญอีก 2 กาลที่เหลือ แถมยังได้บุญจากการเป็นกัลยาณมิตรชักชวนให้คุณแม่ได้เข้าใจ ท่านก็จะปลื้มและมีส่วนแห่งบุญนี้อีกด้วย

โยนความขุ่นข้องหมองใจออกไปจากตัวเรา แล้วนั่งสมาธิทำใจใสๆ อฐิษฐานให้ท่านเข้าใจ ในทุกๆ ครั้งที่ทำบุญ สักวันครับ ฝันจะเป็นจริง ตอนนี้เราก็ทำหน้าที่ของลูกไปก่อน ได้บุญเหมือนกัน อนุโมทนาบุญคร้าบผม

#7 มาริโอ้DMC

มาริโอ้DMC
  • Members
  • 25 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 08:26 PM

ต้องบอกก่อนว่า...ยังไม่ได้อ่านคำตอบของผู้ที่ตอบข้างบนนะ เพราะปกติแล้ว จะได้เคยตอบกระทู้อะไรในเชิงอธิบายเป็นข้อความ ถ้าประเด็นซ้ำกันก็ต้องขออภัยไว้ก่อน...

กระทู้นี้ขอตอบเป็น "ส่วนหนึ่ง" ของการนำไปพิจารณาปรับใช้ละกัน : )

ขอแยกเรื่องที่คุณว่ามาเป็น ๔ ประเด็น ดังนี้...

๑. เรื่องการถวายของเก่า จริงๆ แล้ว การถวายของเก่าแด่พระภิกษุสามเณรไม่ควรทำ เพราะทานไม่ประณีต ของเก่าในที่นี้คือ ของที่เราใช้แล้ว หรือบางทีเราไม่ได้ใช้ แต่เก็บเอาไว้จนสภาพมันเก่า จิตขณะทำทานจะไม่ผ่องใสเต็มที่ เพราะเรารู้ว่า มันไม่ใหม่ เหมือนอย่างนี้ ...เราสั่งก๋วยเตี๋ยวมา ๑ ชาม เราเอาตะเกียบคีบลูกชิ้น ๑ ลูกใส่ปาก ขณะกำลังเคี้ยวอยู่นั่นเอง เราเหลือบไปเห็นสามเณรรูปหนึ่ง คุยกันไปคุยกันมา...รู้ว่าท่านยังไม่ได้ฉันเพล เราจึงอยากเอาก๋วยเตี๋ยวชามที่อยู่ตรงหน้าเราไปถวายท่าน ก๋วยเตี๋ยวที่ลูกชิ้นหายไป ๑ ลูก นั่นแหละ... ลองนึกภาพตาม...พอเข้าใจ feel ตอนถวายมั้ย เรารู้ว่า..มันไม่ pure noodle พอเข้าใจใช่มั้ย หรือแม้เรายังไม่ได้แตะต้องก๋วยเตี๋ยวชามนั้นเลย แต่ว่ามันถูกวางทิ้งไว้ ๑ ชม. จนมันเย็นไม่น่าทานแล้ว ทำให้เวลาทำบุญใจเราใสไม่สุด ไม่ใช่ไม่ใสนะ แต่ "ใสไม่สุด" ดังนั้น..ถ้าเรามีเงินพอ เราซื้อก๋วยเตี๋ยวชามใหม่ให้ท่านจะดีกว่า นี้ในกรณีที่ราคาของสิ่งของนั้นไม่มาก ในกรณีที่ของราคาแพง ตามทรรศนะของมาริโอ้แล้ว เอาของนั้นไปขาย ได้ปัจจัยมาเท่าไหน ก็ประเมินราคาของแบบเดียวกัน แต่ราคาลดหลั่นลงมา แล้วซื้อของใหม่ให้พระท่านจะดีกว่า หรือรอรวบรวมปัจจัยเพิ่มอีกระยะหนึ่ง หรือไปชวนเพื่อนๆ หรือคนรู้จักมาร่วมบุญด้วย แล้วซื้อของใหม่แบบเดียวกันให้พระสงฆ์หรือสามเณร ไม่รู้เหมือนกันนะ...ถ้าเป็นมาริโอ้แล้ว จะถวายทั้งที ถวายของที่ดีที่เลิศไปเลยดีกว่า "ถวายของเลิศ ย่อมได้ของเลิศ"

อาจจะเป็นไปได้ว่า...คุณแม่เกรงว่า เวลาบุญส่งผล คุณจะได้ของไม่เลิศกลับมา เลยพยายามขัดคุณไม่ให้คุณถวาย แต่อาจจะไม่มีโอกาสที่เหมาะสมจะอธิบายคุณก็อาจจะเป็นไปได้

๒. ครอบครัวของคุณเริ่มไม่อบอุ่น เพราะคุณแม่เริ่มไม่ลงรอยด้วย ให้คุณย้อนไปศึกษาเรื่องสังคหวัตถุ ๔ (ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตตา) ลองตรวจสอบตัวของคุณเองว่า คุณได้ประพฤติตามหลักการ ๔ ข้อนี้ได้ครบถ้วนสมบูรณ์เพียงใด คุณธรรมทั้ง ๔ นี้คือ สิ่งที่เชื่อมใจของคุณและคุณแม่เอาไว้ ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูกหรอก แต่บางที "ทิฐฺมานะ" มันมาบดบังดวงปัญญาอยู่ บดบังความดีที่จะเกิดขึ้น เพราะ "ก็ชั้น..เป็นแม่เธอนี่"

๓. การทำบุญแล้วหงุดหงิด คุณต้องหมั่นสอนตนเองทุกครั้ง ในยามที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ว่าถ้าทำบุญตอนนั้น ใจคุณไม่ใสเต็มที่ เวลาสมบัติเกิดจะมี "วิบัติ" เจอปนด้วย บุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข เวลาทำบุญแล้วคุณจะต้องมีความสุข แต่ถ้าเมื่อใด มี factor ใดๆ ก็ตามมาทำให้คุณทำบุญแบบมีเรื่องโน้นเรื่องนี้มาทำให้ใจขุ่น แสดงว่า ...คุณขาดอะไรไปสักอย่าง คือคุณยังทำไม่ตรงตามหลักวิชชาทั้ง ๑๐๐ %

๔. การแนะนำผู้อื่น คำว่า "แนะนำ" แบ่งออกเป็น แนะ ซึ่งแปลว่า "พูดให้ทำ" ส่วนคำว่า นำ แปลว่า "ทำให้ดู" การจะเปลี่ยนคนที่มีวุฒิภาวะสูงกว่า คือคุณแม่ของเรา จะใช้วิธีการพูดให้ทำ บางทีท่านอาจจะยังรับไม่ได้ เพราะท่านถือว่า ท่านเป็นแม่เรา ส่วนเรื่องการ "นำ" ส่วนนี้เราทำได้เสมอ ส่วนการ "แนะ" ควรต้องมีศิลปะในการแนะ และต้องทำควบคู่ไปกับประเด็นข้อที่ ๒

มาริโอ้คิดว่า...ตัวคุณเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่า "รากเหง้า" ของปัญหานี้เกิดจากอะไร ให้คุณลองนั่งสมาธิมากขึ้นซัก ๓ ชม. ๔ ชม. ติดต่อกัน หลายๆ วัน (นั่ง ๑ ชม. พัก ๑๐ นาที แล้วมานั่งต่อก็ได้นะ) พอใจของคุณผ่องใสแล้ว คุณจะเห็นคำตอบเองแหละ : )


#8 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 08:54 PM

^
^
^
สุดยอดครับ ขอบอก MarioღUK FC

#9 tor

tor
  • Members
  • 356 โพสต์
  • Location:BKK
  • Interests:meditation

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 09:19 PM

ถ้าเข้าท้องหมาก็เกิดเป็นลูกหมาครับ เพราะได้เข้าท้องคนเลยได้เป็นลูกคน ดังนั้นไม่มีสิทธิ์โกรธบิดามารดาเลยสักกะนิด ต่อให้ท่านทิ้งเราตั้งแต่เราเกิดก็เหอะ

ผมมองว่าท่านอาจไม่ได้ต้องการขวางอะไร แต่ท่านมีปมในใจลึกๆ ท่านอาจรู้สึกว่าคุณไม่ต้องพึ่งท่านเลย ผมว่าเอาเป็นว่าก่อนจะทำอะไรตั้งเป้าไว้ แต่คุณลองประเหลาะคุณแม่ทำเป็นปรึกษาท่านก่อนดีไหมครับ เช่น อยากถวายจักรยาน คุณก็ไปเลียบเคียงถามท่านว่า พระท่านลำบาก จักรยานท่านเก่า พอดีเรามีเหลืออยู่ เป็นของไม่ใหม่...ถ้าถวายพระจะเหมาะสมไหม ทำนองนี้เเหละครับ ท่านว่าไงเราก็ว่าเอาตามแม่ว่าก็แล้วกัน สักครั้งสองครั้งเดี๋ยวน่าจะดีเอง
อัตตาหิ อัตตโนนาโถ = กายเป็นที่พึ่งแห่งกาย

#10 Arareในบุญ

Arareในบุญ
  • Members
  • 58 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 January 2009 - 09:51 PM

มาริโอ้คุง สุเยอดค่ะ
สาธุน่ะค่ะ ที่คอยมาแนะนำและ สอนในตัวหนังสือ
ทำใจใสๆ ไว้น่ะค่ะ คุงSUREPORN SAEANG เข้าใจค่ะ
เค้าบอกว่า การทำบุยกะคนในบ้านยากสุด และคนในบ้านเรานี้แหละค่ะ ที่จะทำให้เราใจไม่ใสใน3 ขณะ
ค่อยๆปรับทัศนคติน่ะค่ะ


#11 *** BrightStar ***

*** BrightStar ***
  • Members
  • 25 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 02:22 AM

ในครอบครัวของเราก็มีปัญหาประมาณนี้เหมือนกัน แต่ก็สามารถฝ่าฟันปัญหาต่างๆมาได้ด้วยปัญญา ที่เกิดจากการปฏิบัติธรรม( ภาวนามยปัญญา) และหมั่นอธิษฐานซ้ำๆย้ำๆในทางที่ดีที่ถูกต้องในการแก้ปัญหานั้นๆ เช่น คุณแม่เรา ท่านไม่ไหว้พระสงฆ์ เป็นมาตั้งแต่เกิด เพราะความไม่รู้ เราเองซึ่งเข้าวัดได้ไม่นาน ก็จนด้วยคำพูดและเหตุผลที่จะอธิบาย เพื่อให้ท่านเข้าใจและปฏิบัติ เราเองก็รู้สึกเสียใจมากที่ทำไม่สำเร็จ เพราะเรียนรู้จากอนุบาลแล้วว่าคนเช่นนี้ จะต้องเดินทางไปไหนเมื่อถึงเวลา สุดท้ายเราก็หวังพึ่งบุญเพื่อสร้างปาฏิหารย์ คือทุกบุญที่ทำ ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ จะไม่เคยลืมอธิษฐานให้คุณแม่เป็นผู้มีสัมมาทิฐิก่อนการเดินทาง ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนค่ะ แล้วคำอธิษฐานก็เป็นจริง

จากประสบการณ์ของเรา ทำให้เข้าใจสภาพจิตใจของคุณ SUREPORN SAEANG ต้องพยายามรักษาใจอย่าให้หมองนะคะ ถึงจะเป็นเรื่องยากแต่ต้องพยายามทำให้ได้ เราขอเป็นกำลังใจให้นะ เชื่อว่าคุณ ก็ทำได้เช่นกัน

#12 จอมเทพ

จอมเทพ
  • Members
  • 466 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 09:51 AM

ไฟชนไฟ มันก็ไหม้กันทั้งบ้าน มันต้องมีใครสักคนที่เวลาเกิดเรื่องอย่างนี้แล้วยอมที่จะเป็นน้ำบ้าง นั่นคือการฝึกยอมกันบ้างทั้งคุณแม่และก็คุณลูกนั้นแหละ อย่าไปโทษว่าคนนั้นคนนี้เป็นคนผิดเป็นคนเลวอยู่เลย มันต้องโทษที่เรานี่แหละ ที่ไม่รูจักคำว่ายอม ลองไปเอาคำสอนยายมาอ่านดูนะครับแล้วจะรู้ว่าคุณยายท่านมีวิธีการแก้ไขปัญหานี้อย่างไรครับ ไปละ
กุญแจวิเศษ

#13 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 11:05 AM

เมื่อวานตอนเย็นได้ไปกราบหลวงพ่อทัตตะที่อาศรมบัณฑิต ได้ธรรมะดีๆจากท่านมาตอบเจ้าของกระทู้นี้พอดีเลยค่ะ เนื่องจากมีคนถามเรื่องการชวนคนใกล้ตัวเข้าวัดทำบุญยากเหลือเกินหลวงพ่อทัตตะท่านตอบได้ดีมากๆเลยค่ะ

ยกตัวอย่างของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลังจากท่านบรรลุธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ท่านยังไม่ได้ไปโปรดพุทธบิดา พุทธมารดา และประยูรญาติในทันที ท่านได้เผยแผ่คำสอนจนมีผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และพระอริยะบุคคลตามท่านมากมาย จนชื่อเสียงเลื่องลือไปจนถึงบ้านเมืองของท่าน พุทธบิดาส่งคนมาตามถึง 6 ชุดด้วยกัน ท่านก็ยังไม่กลับแถมหนำซ้ำกลับพากันบวชจนหมด จนส่งชุดที่ 7 ไปตาม ก็พากันบวชจนหมดแต่คราวนี้ท่านยอมกลับไปโปรด พระประยูรญาติแล้ว แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีใครทำความเคารพท่านเลยสักคน เนื่องจาก ศากยวงศ์มีความถือตัวสูงมาก ท่านจึงแสดงปาฏิหารย์เหาะขึ้นไปเดินจงกรมบนอากาศ ทรงทรมานมิจฉาทิฏฐิพระประยูรญาติจนหมดสิ้น ทรงทำให้ฝนโบกขรภัตตกลงท่ามกลางพระญาติ จนเกิดศรัทธากันถ้วนหน้า
หรือแม้แต่พระอัครสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างพระสารีบุตร กว่าท่านจะสามารถโปรดมารดาของท่านซึ่งเป็นมารดาของพระอรหันต์ถึง 7 รูปให้เป็นสัมมาทิฏฐิได้ ก็จนถึงวันสุดท้ายก่อนท่านจะปรินิพพานแล้วจึงสำเร็จ โดยท่านเห็นด้วยธรรมจักษุว่ามารดาของท่านมีอุปนิสัยแห่งโสดาปัตติมรรค หากท่านขวนขวายน้อยไม่ไปหาก็จักยังแทนคุณโดยไม่สมบูรณ์ คนทั้งหลายก็จักกล่าวว่า พระสารีบุตรเป็นที่พึ่งของคนมากมายแต่กลับไม่สามารถกำจัดความเห็นผิดของมารดาตนเองได้ จึงตกลงไปโปรดโยมมารดาในวันสุดท้ายจนทสำเร็จได้บรรลุโสดาบัน แล้วหลวงพ่อทัตตะท่านก็หันมาถามคนที่ตั้งคำถามนี้ว่า “ ขนาดพระสัมาสัพุทธเจ้าท่านมีอานุภาพขนาดนี้ยังต้องใช้เวลา แล้วเอ็งน่ะ แสดงฤทธิ์ได้ยัง” ถ้ายังก็ทำหน้าที่กัลยาณมิตรต่อไป อย่าหยุด อย่าขวนขวายน้อย

หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ ขอเอาใจช่วยให้สำเร็จและทำใจให้ใสๆโดยเร็วค่ะ


#14 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 11:24 AM

ผมว่าอย่าโกรธท่านเลยเดี๋ยวจะทำผิดศีลจะเป็นบาปกรรมหนักถ้าดีจริงต้องไปขอขมาท่านขอให้ท่านอโหสิกรรมให้ พ่อแม่นั้นมีบุญคุณอันใหญ่หลวง ภูเขาทั้งโลก มหาสมุทร แผ่นดิน แผ่นฟ้าก็ไม่อาจเทียบเท่าพระคุณที่ให้กำเนิดเรามา พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าเราจะไปทำดีกับใครในโลกนี้เป็นแสนเป็นล้านคนก็ไม่อาจได้บุญประเภทนี้ บุญนั้นคือ บุญบำรุงบิดามารดาให้เป็นทาน พ่อแม่นั้นคือพระอรหันต์ในบ้าน เราต้องทำดีกับท่านให้ดีที่สุดชวนท่านทำบุญถ้าท่านไม่ทำก็ให้ท่านอนุโมทนาบุญกับเราถ้าท่านไม่อนุโมทนาบุญกับเรา เราก็อุทิศส่วนบุญให้ท่านแล้วอธิษฐานให้ท่านเป็นสัมมาทิฐิ เมื่อเราเกิดมาเป็นลูกท่านแล้วเราต้องรักท่านแม้แต่ตายแทนก็ยอมให้เหมือนกับเป็นลูกพระเวสสันดรยอดกตัญญู สรรพสัตว์ในโลกนี้ไม่มีใครสักคนที่เป็นศัตรูของเรามีแต่กิเลสมารที่อยู่ในใจของเรานี้แหละที่เป็นศัตรูของเราที่คอยบังคับให้เราทำบาปกรรมชั่วฉะนั้นเราต้องสู้กับกิเลสมารด้วยการทำบุญคือ ทาน ศีล ภาวนา เดินทางสายกลาง เท่านั้นจึงจะชนะ

#15 SUREPORN SAEANG

SUREPORN SAEANG
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 12:34 PM

ขอบคุณมากๆ ในความเมตตาของเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ได้เป็นกัลยาณมิตรให้เรา และเหมือนเราเข้าใจในความหมายของทุกคน แต่เราคงผิดเอง ที่ไม่สามารถ เขียนถ่ายทอดความรู้สึกหรอ เรื่องราวให้ชัดเจน จนกลายเป็นว่า ยังไม่มีคำตอบใดที่เหมือนจะคุยกับเราเลย ตอนนี้เราอ่อนแอ เจ็บปวด บางครั้งอยากตายกับปัญหานี้ (แต่รู้ว่านรกทรหมานกว่า) ที่มีมานาน และยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ เราคิดเสมอว่ามันเป็นกรรมเก่าของเรา แต่ยังงัยล่ะ เราก็ยังไม่หายเจ็บปวด เหมือนเราเกิดมา เราจะรักแม่มาก มากจนเพื่อนนึกไม่ถึงเลยล่ะ ว่าเด็กแปด เก้าขวบ ทำแบบนี้ คิดแบบนี้ได้งัยโดยไม่เคยมีใครสอน รู้ว่าแม่ชอบอะไรก็จะพยายามหามาให้แม่ให้ได้ ถ้าแม่ชอบทานอะไร จะไม่ยอมทานเลย แม่จะได้ทานได้มากๆ (สมัยเด็กจน ซื้ออะไร ก็จะซื้อได้ทีล่ะน้อยๆ) พอโตขึ้น แม่ชอบทอง ก็ให้ทองแม่ ห้าถึงหกสิบบาททอง แม่ชอบเพชร ก็ให้เพชรแม่ (หลายแสนบาท) แม่ชอบเงิน ก็ให้เงินแม่หลายล้าน แม่ชอบอะไร เราจะหามาให้แม่เพราะ เรารักแม่มาก แต่เราคงทำบุญแบบไม่สม่ำเสมอ เวลาได้เงินถึงได้แบบ ไม่สม่ำเสมอ บ้างครั้งเรามีเงินเข้ามาห้าหมื่น เราก็ให้แม่หมดเลย เวลาเราให้แม่ เราจะให้หมดกระเป๋าเกือบทุกครั้ง เพราะเราคิดว่าเดี๋ยวเราก็หาใหม่ได้อีก แต่บางครั้งมันไม่ได้ เราก็เลยต้องเอาทองเราเอง ไปจำนำบ้าง ขายบ้าง เพราะเราจะเป็นคนไม่มีตังค์เก็บ (มีก็นิดหน่อยในแบงค์ พอแค่ใช้บ้าง) เพราะเรามีเท่าไหร่ เราชอบให้แม่(เพราะเรารู้ว่ามันคือความสุขของแม่ เวลาเราเห็นแม่ยิ้ม ตอนรับเงินเรา เราจะดีใจ ตัวลอย มีความสุข ปิติใจทุกครั้ง ยิ่งกว่าเราจะเก็บเงินไว้ใช้เอง) แต่พอแม่รู้ว่าเราขายทอง แม่จะด่าเรา ว่าเราพลานเงิน (ทั้งที่ทองเราน่ะ) โดยเราจะน้อยใจแม่มาก ว่าทำไม แม่ไม่ถามเราสักคำว่า เรามีเหตุจำเป็นอะไรต้องขายทอง ตลอดมาถ้าเราเกิดเงินซ็อท แบบนี้ เราจะไม่ยืมแม่เลย เราจะยืมเพื่อน ซึ่งไม่ใช่ว่าเราคิดมากเกินไป เราเคยแล้ว ไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัด เราเกิดทำบัตร ATM หาย ไม่มีตังค์เลย เราโทรหาแม่ บอกยืมหมื่นเดียว เดี๋ยวกลับไปจะคืนทันที ให้โอนมาที่ ATM ของพี่ที่อยู่ด้วยกันให้หน่อย แม่ก็ทำเสียงไม่พอใจ ว่าเราทำไม สับเพล่า ทำบัตรหาย และไม่สะดวกเลยถ้าใจให้ไปธนาคารตอนนี้ (จะเป็นงี้ทุกครั้ง ถ้าต้องเสียเงิน) แต่เวลาเราเอาเงินให้แม่ แม่ไม่เคยมีปัญหาเลย ไปธนาคารฝากเงินได้ตลอดเวลา เราไม่ได้เขียนเกินความจริงเลย มันน้อยกว่าด้วยซ้ำไป เราถามเพื่อนมากมาย ไม่มีใครให้พ่อแม่ เหมือนเราเลย อย่างเก่งก็ให้ 50เปอร์เซ็น ของเงินเดื่อน แต่แม่เพื่อน กลับชม และให้กำลังใจลูก ซึ่งเราไม่เคยได้รับเลย เราเคยโดนแม่นินทาเรากับน้อง แม่บอกว่า "เวลามันไม่มีเงิน มันเหมือนหมา" เราน้อยใจมาก เพราะอะไรล่ะ เวลาเราเอาเงินให้แม่ แม่จะดีกับเรา แม่อารมณ์ดี แต่เวลาเราไม่มี แม่จะเป็นอีกอย่างกับเรา เราก็ชอบอารมณ์เสีย มันเลยดูเหมือน เราจะชอบอารมณ์เสียตอนไม่มีเงิน แต่มันไม่ใช่ จริงแล้ว เพราะทำมัยแม่ทำกับเราแบบนี้ เราเป็นคนโชคดีเพื่อนเราก็ดี รักเราทุกคน พ่อก็รักเรามาก น้องก็รักเรามาก แต่เราทำไมถึง เจ็บปวดกับแม่นักน่ะ มันไม่หายสักที เหมือนคนอกหัก เหมือนคนพยายามสุดชีวิต ที่จะเอาใจผู้หญิงคนนี้ เพราะเรารักเค้ามาก มันเป็นปมชีวิตของเรา เราอยากให้แม่รักเรา แต่เราไม่สามารถหาเงินเยอะๆได้ตลอดเวลา เราไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ มันเหมือนเข็มที่ทิ่มแทงใจเรา เราสะสมความเกลียดแม่มาเรื่อยๆ จนตอนนี้เราดูใจเรา จากที่เคยรักแม่มาก แต่ตอนนี้ เรากลับแทบไม่เหลือแล้ว เราไม่อยากมองหน้าแม่ เราไม่อยากคุยกับแม่ เราไม่อยากให้อะไรแม่อีกแล้ว แต่ถามว่าใจเราเป็นงัย เราก็กลับเป็นคนที่ไม่เหลือความสุขอะไรอีกแล้ว เพราะความสุขของเราคือการที่แม่รักเรา คุยกับเราดี (เหมือนตอนแม่ได้เงิน หรอได้ทองเพชร) เราเหมือนเป็นมะเร็งที่หัวใจพอดี เราจะรักก็รักไม่ลง จะเกลียดก็เกลียดไม่ลง เราทรมานมากเลย ขอโทษที่เขียนมายืดยาว อ่านแล้วก็ไร้สาระ แต่ไม่เป็นปัญหาใครคนนั้นก็ไม่รู้หรอก เราขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ให้กำลังใจเรา อย่างน้อยแต่ล่ะตัวอักษรที่ให้กำลังใจเรามันมีค่ากับเรามาก เราอ่านน้ำตาก็ไหล อย่างน้อยก็มีคนที่ให้กำลังใจแม้เราจะเขียนปัญหาได้ไม่เคลียร์ จนทำให้เพื่อนๆ ไม่ค่อยเข้าใจ และส่วนเรื่อง ถวายของเก่าให้พระ เรื่องนี้จริงๆ แล้ว เราซื้อของใหม่ตลอด ไม่เคยให้ของเก่า และถ้าเราให้ของใคร อย่าว่าแต่พระเลยค่ะ ถ้าเราให้ของคนอื่นเช่นอาหาร เราจะให้ที่ดีกว่าตัวเราทานเองอีกค่ะ เคยให้ของเก่า ไม่ถึงสิบอย่างกับคนอื่น แต่มันก็คือของที่ยังดีมากๆ น่ะค่ะ แต่เช่นจักรยาน ให้ไปซื้อคันใหม่ เลย ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีเงินคงซื้อได้ ประมาณหลักพัน ซึ่งคันเก่าของเราคันนี้ดีกว่ามากค่ะ (ลืมบอกด้วยว่าได้เคยเอาไปแต่งใหม่มาแล้วเมื่อสองปีที่แล้ว แต่ก็ไม่เคยใช้เลย จริงๆ ค่ะ) ตอนนี้นั่งสมาธิไม่ได้เลย นั่งแล้วในหัวสมองมีแต่ ว่าแม่กลับ น้อยใจ ที่แม่ทำกับเราแบบนี้ (เรื่องมันเยอะ กว่านี้มาก แต่ก็ประมาณแบบนี้ตลอดค่ะ) บางครั้งถึงกับ ด่าแม่ ในฝันด้วย ทำงัยดีค่ะ ทรมานเหมือนตกนรกเลย เพื่อนๆพี่ๆ ขอร้องได้ไหมค่ะ ตอนนี้เราจิตตกมาก ถ้าเข้ามาแล้วมาซ้ำเติมเราอีก หรอให้คำปรึกษา แต่แบบแรงๆ ขอก่อนน่ะค่ะ เรากำลังแย่มาก ไม่อาจทนอ่านแบบนั้นได้ ขอความกรุณาเพื่อนๆ เมตตามนุษย์ ผู้ยังมีกิเลสหนา ปัญญาหยาบด้วยเถอะค่ะ ขอบคุณล่วงหน้าเพื่อนๆพี่ๆที่เว็ป ค่ะ เราก็ไม่เคยปรึกษาใครหรอกค่ะ เพราะงัยมันก็ดูประสาทในสายตาใครๆ อยู่แล้วที่จะมาคิดอะไรกับแม่เราเองอ่ะค่ะ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ.

#16 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 01:04 PM

น้อง SUREPORN SAEANG จ๋า......ไปเลยน้องไปปลีกวิเวกอยู่ที่ภูเรือหรือไม่ก็สวนพนาวัฒน์ ซัก

อาทิตย์-สองอาทิตย์ นั่งมองดูใจของตัวเองไปก่อน นึกทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา หาเหตุ

และผลที่เกิดขึ้น น้องต้องเข้มแข็งนะจ๊ะ เพราะพี่ก็ไม่รู้ว่าปัญหาที่แท้จริงของน้องคืออะไร ใจเย็น ๆ

...นะเอาใจช่วยให้ผ่านพ้นปัญหานี้ไปให้ได้จ่ะ

เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม


#17 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 01:49 PM

มันเป็นกรรมเก่าของคุณและเป็นกรรมใหม่ของแม่คุณกรรมเก่าของคุณได้ดึงดูดคนที่มีนิสัยแบบนี้มาทำกับคุณมันเป็นภาพอดีตของคุณหรือแม่คุณผูกเวรกับคุณมาจะแก้ไขก็ต้องสั่งสมบุญทุกบุญทั้ง ทาน ศีล ภาวนา แล้วอธิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ หาคำอธิษฐานที่ดีๆมาอธิษฐานล้อมกรอบเอาไว้ให้ดีไปนั่งสมาธิภาวนาที่สวนพนาวัฒน์ซักหนึ่งเดือนไปเลยหรือถ้ายังไม่หายก็บวชชีเลยครับเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึงที่ระลึกดีกว่า ขอเป็นกำลังใจให้นะครับสู้กับชีวิตอย่าย้อมแพ้ให้กับชีวิตสู้ครับสู้ด้วยบุญบารมี

#18 Smallville072

Smallville072
  • Members
  • 42 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:สมุทรปราการ

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 02:17 PM

อ่า จากที่อ่านมาทั้ง 2คอมเม้น รู้สึก คุณSUREPORN SAEANG จะรักคุณเเม่มาก เเต่ทำยังไงก็ไม่ถูกใจท่าน

จนตอนนี้รู้สึก ท้อเเท้ รู้สึกเหมือนเคยมี case study คล้ายๆของคุณเลย เเต่จำไม่ได้อ่า ชื่อเคสอาไร (>_<)



สำหรับผม ผมคิดว่า พี่ควร ดูเเลตนเองก่อน อาจจะไปเที่ยว ไปเล่น ทำอาไรที่ชอบ หรือไป นั่งสมาธิ ผ่อนคลาย

ให้ใจเบิกบาน สบายๆ อย่าคิดมาก เรื่องคุณเเม่ เพราะยิ่งคิดก้ยิ่ง เศร้า

อืม ผมคิดว่าพี่ ใจใหญ่ มากเลย เป้นคนทำอาไร ทุ่มเทเต้มที่ อย่างเรื่องได้เงินมา ก็เอาให้คุณเเม่หมด ตัวเองใช้เล็กน้อย

อันนี้เป้นเรื่องที่ทำได้ยาก เเต่พี่ควร เเบ่งเงินที่ได้มาเป็นส่วนๆ เหมือนที่เคยอ่านมา มี 4อย่างมั่ง จำไม่ค่อยได้

1 ทิ้งลงเหว ใช้เองส่วนตัว 2 ใช้ทำบุญ 3 สงเคราห์ญาติ 4 จำไม่ได้ พี่ก็ควรปะมานเองอะคับอันไหนเท่าไรจึงจะพอ

ถ้าให้อันไหนอันหนึ่งมากไป มันจะไม่พออะคับ

เเล้วก็เวลาทำบุญอย่าลืมอธิษฐานจิตให้คุณเเม่เข้าใจเรา

ผมก็บอกได้ทำนี้อะคับ ถ้ามีอาไรผิดก็ขออภัยด้วยคับ รอไว้ให้พี่ๆ ท่านอื่น มาช่วยเเนะนำต่อ









#19 Lucky Girl

Lucky Girl
  • Members
  • 653 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 02:51 PM

บางครั้งคนที่เรารักก็ไม่ทำหรือพูดอย่างที่ใจเราต้องการหรือหวังให้เป็นอย่างนั้นหรอกค่ะ

วิธีแก้ฟังดูง่ายๆ แต่ทำยากค่ะ แต่ทำได้ค่ะ ค่อยๆ ฝึกใจไป คือ อย่าคาดหวังมากนัก เมื่อทำดีหรือให้อะไรใครไป ก็ให้คิดว่านั้นเป็นความสุขของเราที่ได้รับจากการให้แล้ว ส่วนผู้รับจะมีปฏิกริยาอย่างไร ให้เราพยายามวางใจเฉย ๆ ฝึกไปเรื่อยๆ ใหม่ๆ จะยากหน่อย เหมือนต้องคอยยิ้มกับคนที่แยกเขี้ยวใส่เราตลอดเวลา นานๆ ไปคุณจะทำได้ดีขึ้น เป็นการฝึกไม่ยินดีทั้งคำสรรเสริญและคำนินทา ภาษาทางพระ พูดอย่างไรจำไม่ได้ค่ะ

ของคุณเป็นคุณแม่ยังโชคดีน่ะ เพราะอย่างไรแม่ก็รักเรา จะแสดงออกหรือพูดอย่างไร ก็ให้เราเกิดมา เลี้ยงเรามาก บางคนโชคร้ายกว่าคุณน่ะ เป็นสามี นอกจากไม่ดีกับเราแล้ว ยังนอกใจ อาจทำร้ายร่างกายอีก โอ๊ยสารพันความทุกข์ยากค่ะ แถมไม่ได้ให้กำเนิดเรามา ไม่ได้มีบุญคุณกับเราเลย แต่ว่า เรารักเขา จึงยอมทุกข์กายทุกข์ใจประมาณนี้ (อันนี้ยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างค่ะ ไม่ได้หมายถึงผู้ตอบน่ะค่ะ อย่าเข้าใจผิด)

คุณเป็นลูกที่น่ารักมากค่ะ รักษาความดีของคุณไว้ พวกเราเป็นกำลังใจให้

#20 ปานสิญา

ปานสิญา
  • Members
  • 128 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 07:41 PM

ขอให้กำลังใจคุณเจ้าของกระทู้นะคะ
คิดดีๆ พูดดีๆ ทำดี๊ดีค่ะ นั่งสมาธิมากๆนะ

และขอน้อมแบ่งบุญทุกบุญที่เราได้ทำมา ให้คุณด้วยจ้า
ขออานิสงส์ผลบุญช่วยให้คุณกับคุณแม่เข้าใจกันเร็วๆน๊า สาธุ
 "ไม่มีอะไรใหม่  ต้องแสวงหาอีกแล้ว  เพราะใจของฉัน  มีพระแก้วใส"

#21 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 January 2009 - 11:49 PM

คุณมาริโอ้DMC แนะประเด็นไว้ดีแล้ว
QUOTE
เราเลยโมโหแม่มาก
- No...No...No...No....No
- ผิดถูกอย่างไรคงมาตัดสินกับพระในบ้านได้ลำบาก
- อย่างไรก็ตาม...กำจัดใจหมองไว้...เดี๋ยวบาปได้ช่องส่งผล...อย่างน้อยก็เสียใจไปบ้างแล้ว...ไม่คุ้มนะ...กลับมาพลิกสถานการณ์ด้วยปัญญาใจใสๆ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#22 อนุบาลเสียงใส

อนุบาลเสียงใส
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 06 January 2009 - 12:07 PM

ถึงคุณ SUREPORN SAEANG
ที่เข้ามาอ่านคอมลัมน์นี้เพราะ.. เจอปัญหาเดียวกับคุณเลยค่ะ..
แต่คุณยังโชคดีที่คุณยังสามารถเลี้ยงดูคุณแม่คุณได้ด้วยตัวของคุณเอง คุณยังสามารถให้เงินท่านได้ทีละมากๆ และคุณยังโชคดีที่ยังมีงานที่สามารถให้เงินคุณได้ทีละคราวมากๆ มีรถ มีบ้าน มีทุกสิ่ง ทุกอย่าง..
ต่างกับดิฉันที่เรียนจบสูง แต่ยังไม่สามารถเลี้ยงดูคุณแม่ได้ ด้วยลำพังเงินเดือนของดิฉันไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูให้ท่านหรือหยิบยืมให้ท่านในคราวที่ท่านลำบากได้ และดิฉันเองก็ทราบว่าท่านรักดิฉันมาก เพียงแต่ทุกครั้งที่ดิฉันไปวัดหรือทำบุญ ก็มักจะเจอปัญหาที่คล้ายกับคุณ โดนต่อว่าเป็นประจำ เพียงเพราะท่านศรัทธาไม่เสมอเหมือนกับเรา ท่านนับถือพุทธชอบทำบุญ ชอบทำทาน และสวดมนต์ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลงมาช่วย ...เดินทางไปทำบุญวัดโน้น วัดนี้ สักแต่ว่า เพียงขอพร..ซึ่งแต่ก่อนที่ดิฉันเข้าวัดก็ทำแบบท่าน แต่พอมาเจอวัดเราแล้ว มันแตกต่าง ได้มาเรียนรู้เรื่องการทำใจหยุดใจนิ่ง.. จนดิฉันเริ่มแยกตัวมาวัดของดิฉันเอง หมู่คณะที่ดิฉันรัก..ทำให้คุณแม่ต่อว่า...จนใจดิฉันไม่สบาย หรือมีความรู้สึกคล้ายคุณ เพียงแต่อาจน้อยกว่า
จนเมื่อปีใหม่ ได้ไปอยู่ธุดงค์ที่วัด..จนต่อเนื่องมาถึงวันเสาร์ - อาทิตย์ ที่ผ่านมา ได้ไปนั่งสมาธิกับพอจ. ตั้งแต่สองทุ่มถึงสี่ทุ่ม และต่อด้วย เนสัจฯกับพอจ.ท่านสอนดิฉันนำนั่งสมาธิดีมาก ... จนใจดิฉันสบายขึ้นมากๆๆ อย่างประหลาด ... และแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลจากการนั่งสมาธิให้คุณแม่ และได้นั่งสมาธิต่อเนื่องในวันอาทิตย์กับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ อาจมีหลับบ้าง นิ่งบ้าง แต่ก็ใจสบาย และแผ่ส่วนบุญทุกบุญที่ได้กระทำ ให้คุณแม่ที่รักยิ่ง..
และได้เล่าให้พอจ.ที่เคารพนับถือฟังถึงเรื่องดิฉันทะเลาะกับคุณแม่... พอจ.ท่านก็ให้ข้อคิดว่า..ดิฉันเป็นตัวแทนของวัดเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับวัด เคยเป็นครูบาอาจารย์สอนลูกศิษย์ให้กราบเท้าพ่อแม่ แต่ตัวเองเคยทำบ้างหรือเปล่า และท่านก็ให้ข้อคิดเหมือนพี่ๆเพื่อนๆข้างบนให้ข้อคิดมา ...และถ้าเราเป็นท่าน ที่มีลูกแบบนี้เราจะรู้สึกเป็นอย่างไร..ให้รู้อัธยาศัยของแม่..และใช้ปัญญา...
ดังนั้น พอดิฉันกลับมาบ้าน สิ่งแรกที่ทำคือ ก้มกราบเท้าท่าน ....และขอขมา...และกอดท่าน...
.....
ก็ขออวยพรน๊ะค๊ะ ให้ค่อยคิด ค่อยทำ นั่งสมาธิเยอะๆๆ ใจจะสบายและจะมีทางออกเองค่ะ...
ไม่งั้นก็ลองอยู่ห่างแม่ ทำงานไกลแม่ อยู่ไกลบ้าน ห่างท่านสักพัก ...อาจจะดีขึ้น...
ทุกอย่างแก้ได้ด้วยตัวคุณเองค่ะ...




#23 SUREPORN SAEANG

SUREPORN SAEANG
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 January 2009 - 09:41 AM

ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆทุกคนนะค่ะ ที่ได้เข้ามาให้คำปรึกษาและกำลังใจ และมีเพื่อนที่เจอเหตุการณ์คล้ายเราด้วย เราขอขอบคุณจากใจจริงค่ะ วันนั้นเราพึ่งทะเลาะกับแม่ เลยจิตบอด อ่านอะไรก็หูอื้อตาลาย ไม่ค่อยเข้าใจ แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปสามสี่วัน เราก็ตั้งสติ และค่อยๆอ่านข้อความของเพื่อนๆ ทุกคนใหม่ เราอยากหายเจ็บปวด แต่ถ้าเรามัวปิดหูปิดตาแบบนี้ อีกห้าปีสิบปี เราก็คงจะเหมือนเดิม ตอนนี้เรายังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เราจะทำตามคำแนะนำของเพื่อนๆทุกคนค่ะ ยกเว้นเรื่อง กราบขอโทษแม่น่ะค่ะ เพราะเรายังไม่พร้อมจริงๆค่ะ(เพราะเรายังคิดว่าเราไม่ผิดน่ะค่ะ) เราอยากกราบด้วยความรู้สึกจริงๆของเรา ไม่งั้นจะกลายเป็นกราบแต่ท่า น่ะค่ะ ขอให้บุญกุศล ที่ทุกคนมีจิตเมตตาเพื่อนมนุษย์ขอให้เพื่อนๆทุกคนอย่าได้เจอความทุกข์เลยค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ.

#24 อนุบาลเสียงใส

อนุบาลเสียงใส
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 January 2009 - 10:57 AM

ลองทำดูจิค๊ะ ไม่มีใครผิดหรอก กราบขอบพระคุณคุณแม่ที่ให้กำเนิดคุณได้มาสร้างบารมีน่ะ smile.gif

#25 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 07 May 2009 - 04:04 AM

น่าจะเปลี่ยนความตั้งใจ ในการให้เงินท่าน จากให้เงินท่านเพื่อให้ท่านยิ้ม ท่านรัก ท่านคุยด้วยดีๆ ....นั่นเป็นการให้แบบหวังผลตอบแทน

เปลียนเป็นให้เงินกับท่าน เพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านที่ได้ให้กำเนิดเรามา ตอนแทนท่านที่ท่านได้เลี้ยงดูเรามาจนเติบใหญ่ ตอบแทนท่านที่ท่านคนปกป้องเราจากสิ่งอันตรายต่างๆ ตอนที่เรายังเป็นเด็กทารก
ถ้าคิดได้แบบนี้ แม้เราให้เงินแม่ แล้วแม่ไม่ยิ้ม ไม่พูดคุยกับเรา เราก็มีความสุข เพราะเราได้ตอบแทนบุญคุณของท่่าน

เพราะการได้รูปกายเนื้อ ครบ 32 ประการนั้น เพื่อให้เราได้สร้างบารมี ให้เราได้ใ้ช้รูปกายนั้นเพื่อรักษาศีล เพื่อนั่่งสมาธิ เพื่อศึกษาความเป็นจริงของชีวิต ได้ให้รูปกายเนื้อถือเป็นบุญคุณมหาศาลที่ ลูกจะต้องตอบแทนพ่อแม่ทุกๆ คนอย่างถึงที่สุด

ส่วนเรื่องที่ทะเลาะกัน หรือคำพูดของแม่ ที่ฟังแล้วเจ็บปวดใจ น่าจะเป็นวิบากกรรมของคุณนะคะ ที่ส่งผลมาจากชาติก่อน ให้ตั้งใจละเลิกวงจรกรรมนี้ให้ได้ ไม่งั้นชาติต่อไปก็ต้องเจอแบบนีอีก หรือไม่ก็ผลัดกันเป็นฝ่ายกระทำและถูกกระทำด้วยใจที่ผูกพยาบาทต่อกัน วิธีแก้ก็ต้องอธิษฐานจิตทุกๆ วัน และตอนที่ทำบุญทุกๆ บุญ ให้หลุดพ้นจากวิบากกรรมนี้

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป