ภาพถ่ายพระบรมสารีริกธาตุ
#1
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 12:09 PM
#2 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 03:41 PM
วิธีการถ่ายรูปภาพพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุ
[email protected] ผู้รวบรวมและเรียบเรียง
มีผู้สอบถามกันมามากมาย สำหรับวิธีการถ่ายรูปภาพพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุ รวมถึงวัตถุขนาดเล็ก ที่ลงอยู่ในเว็บไซต์แห่งนี้ ซึ่งหากโดยทั่วไป การถ่ายรูปภาพลักษณะนี้ จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมจำนวนมาก เช่น ขาตั้งกล้อง เลนส์มาโคร ฯลฯ
ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ยุ่งยากและราคาแพง จึงไม่คุ้มหากต้องการถ่ายรูปภาพจำนวนน้อย ปัญหานี้ทางเว็บก็เคยประสบปัญหามาแล้ว และได้หาวิธีการถ่ายภาพ โดยใช้อุปกรณ์ที่มีตามบ้าน มาประยุกต์ใช้ได้อย่างง่ายๆ ดังนี้
อุปกรณ์ที่ใช้
1. กล้องดิจิตอลธรรมดา มีโหมดมาโครแบบทั่วไป
2. เลนส์ส่องพระ ขนาด 10x หรือ 30x ตามแต่ที่จะหาได้
3. โคมไฟอ่านหนังสือ
วิธีถ่ายภาพ
1. นำวัตถุที่ต้องการถ่ายภาพ วางลงบนพื้นที่เป็นฉาก เปิดโคมไฟอ่านหนังสือ ปรับแสงตามชอบ
2. เปิดสวิทซ์การทำงานของกล้องดิจิตอล ขอแนะนำให้เลือกใช้รุ่นที่มีเลนส์วัตถุขนาดเล็ก (เพื่อที่จะสามารถใช้เลนส์ต่อเข้าหน้ากล้องได้พอดี) ปรับโหมดการทำงานให้อยู่ในโหมดการถ่ายภาพเคลื่อนไหว หรือ ปรับให้มีความเร็วชัตเตอร์สูงขึ้น เพื่อป้องกันการสั่นไหวของภาพจากการใช้มือเล็ง รวมถึงปรับให้อยู่ในโหมดมาโครของกล้องด้วย ปิดแฟลช
3. นำเลนส์ส่องพระมาต่อเข้าที่หน้ากล้อง ทำการเล็งไปที่วัตถุที่ต้องการถ่ายภาพ ดูให้ภาพที่แสดงผลที่จอ LCD ของกล้องมีความชัดเจน แล้วจึงถ่ายรูป
4. ตรวจดูภาพว่าชัดเจนหรือไม่ หากไม่ก็ทำการถ่ายซ้ำใหม่อีกหน
***หมายเหตุ วิธีนี้ใช้ได้ผลมาหลายท่านแล้วครับ หวังว่าคงถ่ายรูปภาพพระธาตุหรือวัตถุอย่างอื่นได้อย่างสนุกสนานนะครับ หากถ่ายได้แล้วก็มาแบ่งๆกันชมบ้างนะครับผม ที่ [email protected]
**** ชมภาพได้ที่ www.relicsofbuddha.com
dangdee
#3
โพสต์เมื่อ 22 February 2006 - 10:21 PM
ทุติยัมปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
ตติยัมปิ พุทธํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส
ข้าพระพุทธเจ้าขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระชินสีห์สัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระอรหันตเจ้าทั้งหลาย ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้าทั้งหมดทั้งสิ้น ขอผลานิสงส์แห่งการน้อมนบบูชาแด่พระอรหันตขีณาสวะเจ้าทั้งปวงนี้ จงเป็นพลวะปัจจัย เป็นนิสัยนำส่ง ให้ข้าพระพุทธเจ้า สามารถขจัดออกเสียซึ่งกิเลสานุสัยทั้งหลาย ได้อย่างเชื้อไม่เหลือเศษ เป็นสมุจเฉทปหานได้โดยง่าย และจงเป็นไปเพื่อการยกตนและสรรพสัตว์ทั้งหลาย รื้อสัตว์ ขนสัตว์ ปราบมาร รื้อวัฏสงสารนี้ไปให้หมดสิ้น ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม จงทุกประการเทอญฯ
ไฟล์แนบ
#4 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 12:59 PM
ขออนุโมทนาด้วยน่ะค่ะ คนสวยเมืองอุบล
#5
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 06:01 PM
แต่...การเข้าถึงพระรัตนตรัยนั้นทำได้ยาก...การเข้าถึงทำได้โดย...
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ถ้าสติโพชฌงค์.... ธัมมวิจัยสัมโพชฌงค์..... วิริยสัมโพชฌงค์... ปีติสัมโพชฌงค์... ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์... สมาธิสัมโพชฌงค์... อุเบกขาสัมโพชฌงค์... มีอยู่แก่เราหาประมาณมิได้ อันเราปรารภดีแล้ว ... เมื่อตั้งอยู่เรา ก็รู้ว่าตั้งอยู่....เมื่อเคลื่อนไป เราก็รู้ว่าเคลื่อนไป เพราะสิ่งนี้เป็นปัจจัย
ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย เปรียบเหมือนพระราชาหรือมหาอำมาตย์ของพระราชา มีหีบผ้าเต็มไปด้วยผ้าสีต่าง ๆ พระราชาหรือมหาอำมาตย์ของพระราชาประสงค์จะนุ่งห่มผ้าชุดใด ๆ ในเวลาเช้า... ในเวลาเที่ยง... ในเวลาเย็น...ก็นุ่งห่มผ้านั้น ๆ ได้ฉะนั้น....
วัตตสูตร มหา. สํ. (๓๘๔-๓๘๗)
ตบ. ๑๙ : ๑๐๒-๑๐๓ ตท. ๑๙ : ๑๐๗-๑๐๘
ตอ. K.S. ๕ : ๕๘-๕๙
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#6
โพสต์เมื่อ 23 February 2006 - 06:16 PM
พระธาตุ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙
Q - ถาม มีผู้สงสัยว่า พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาโดยตลอดเมื่อมรณภาพลง และฌาปนกิจศพแล้ว กระดูกจะกลายเป็นพระธาตุได้อย่างไรครับ ?
A - ตอบ เรื่องนี้อธิบายได้ด้วยวิชาเคมี โชคดีว่าก่อนที่หลวงพ่อจะบวชได้มีโอกาสรวบรวมพระธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุอยู่พอสมควร เราเรียกชื่อแตกต่างกันไป คือ
พระบรมสารีริกธาตุ หมายถึง กระดูกหรือพระอัฐิของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ส่วนพระธาตุ หมายถึงอัฐิของพระอริยเจ้า ตั้งแต่ระดับพระอรหันต์ลงมาจนถึงพระโสดาบัน รวมทั้งอัฐิของนักบวชที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านอื่นๆ อัฐิหรือพระธาตุของนักบวชที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเหล่านี้ แต่ละท่านก็ยังมีลักษณะแตกต่างกันไป
หลวงพ่อได้สะสมสิ่งเหล่านี้มาตั้งแต่ก่อนบวช ได้สัมผัสมากับมือจึงพอจะเข้าใจว่ากระดูก หรืออัฐิกลายเป็นพระธาตุได้อย่างไร ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องการกลั่นธาตุนั่นเอง
ในทางวิชาเคมีการกลั่นธาตุนั้น เราใช้คำว่าถลุง เช่น ถลุงเหล็ก ถลุงทองคำ วิธีถลุง เราถลุงด้วยไฟ ด้วยกรดหรือด้วยด่าง แต่ถ้าเป็นคนซึ่งทั้งเนื้อทั้งตัว คือองค์ประกอบของธาตุ ๔ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งรวมตัวกันถูกส่วนพอเหมาะที่จะเป็นคน
ถ้าจะให้บริสุทธิ์เป็นคนสมคน ต้องใช้ศีล ๕ หรือศีล ๘ เป็นอุปกรณ์การถลุงบ้าง ใช้หิริโอตตัปปะ ใช้พรหมวิหาร ๔ ไปถลุงบ้าง หรือถ้าผู้ใดใช้มรรคมีองค์ ๘ ไปถลุง ก็จะยิ่งได้ความบริสุทธิ์เต็มที่ทั้งเนื้อทั้งตัว พระธรรมทั้ง ๘๔,๐๐๐ ข้อนั่นแหละ คืออุปกรณ์การถลุงธาตุในตัวของคนให้บริสุทธิ์ขึ้นมาตามลำดับๆ ในทางธรรม เรียกว่า การกลั่นธาตุ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกลั่นธาตุของพระองค์ด้วยธรรมะมานับภพนับชาติไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นเมื่อพระองค์ปรินิพพานไปแล้ว แม้แต่อัฐิก็มีลักษณะใสเป็นแก้ว กลมคล้ายๆ ไข่มุก ตามคัมภีร์กล่าวไว้ว่าพระองค์ได้ทรงอธิษฐานให้อัฐิของพระองค์แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ๘๔,๐๐๐ ชิ้น เท่าจำนวนธรรม ๘๔,๐๐๐ ข้อที่พระองค์ได้ทรงสั่งสอนไว้
ส่วนพระธาตุของพระอรหันต์มีลักษณะกึ่งหินกึ่งกระดูกมีสีและขนาดแตกต่างกันไป เท่าที่ได้เคยเห็นเคยหยิบมากับมือก็อย่างเช่น
พระสารีบุตร มีลักษณะเหมือนบาตรคว่ำ แม้ชิ้นที่ใหญ่ขนาดหัวแม่มือก็คล้ายบาตรคว่ำ
พระโมคคัลลานะ มีลักษณะเหมือนไข่นกปรอด มีสีคล้ายๆ หวายตะค้า
พระนางพิมพาเถรี มีลักษณะเหมือนแป้งหยด เป็นหยดเหมือนหยดแป้งดินสอพอง สีออกคล้ายๆ ดอกมะลิแห้ง หรือดอกพิกุลแห้ง
พระองคุลิมาล มีลักษณะเหมือนสากตำข้าว คือคอดกลาง แม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยก็เป็นอย่างนั้น
พระอนาคามี พระสกิทาคามี พระโสดาบัน มีลักษณะกึ่งหินกึ่งกระดูก แต่มีความเป็นกระดูกมากว่าหิน ลดหลั่นกันไปตามลำดับ
นี่เป็นผลของการกลั่นธาตุด้วยธรรมะมาตามลำดับ ตรงกันข้ามกับกระดูกของเราซึ่งยังมีกิเลสท่วมตัวอยู่ ถ้าเผาแล้วเอาไปกองรวมกับกระดูกวัวกระดูกควายบางทีจะแยกไม่ออกมันเหมือนกันหมดเลย เพราะยังไม่ได้กลั่นสักที
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ )
From http://www.kalyanami...id=404&Itemid=1
#7
โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 03:05 AM
#8
โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 06:39 AM
_/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#9 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 10:34 AM
สาธุ สาธุ สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 02:06 PM
โมทนาสาธุกับคุณ Lil'Faery ด้วยครับสา.....ธุ
ที่มาภาพ : www.dhammathai.org/ webboard/view.php?No=1642
#11
โพสต์เมื่อ 03 March 2006 - 07:57 PM
#12
โพสต์เมื่อ 02 April 2006 - 01:14 AM
ผู้ที่มีจิตใจเข้มแข็งที่สุด ย่อมเป็นผู้ที่สุภาพนุ่มนวลที่สุด
#13
โพสต์เมื่อ 18 March 2007 - 04:38 PM