ระบบต่างๆ ของมหาธรรมกายเจดีย์
ในเรื่องการออกแบบโครงสร้างมหาธรมกายเจดีย์นั้น เราก็พยายามออกแบบว่า ถ้าโครงสร้างส่วนหนึ่งทำท่าจะล้มหรือเสื่อมสลายไป เราก็พยายามหาอีกส่วนหนึ่งมาช่วย เรียกว่า Second line of defence ยกตัวอย่างเช่น เสาเข็มมหาธรรมกายเจดีย์ สมมุติว่าเสาเข็มกลุ่มใดหรือต้นใด ในเวลาอีก ๕๐๐ ปี จะทรุดลงไปมุมใดมุมหนึ่ง ก็จะไม่ทำให้ตัวเจดีย์ทรุดตัวตามไปด้วย เพราะเราได้สร้างตอม่อ หรือพื้นที่ชั้นล่างสุดให้เป็นแผ่นหรือเหมือนแพ มีความหนา ๘๐ ซม. วางอยู่บนเสาเข็ม ถ้าเสาเข็มเกิดทรุด แพนี้ก็สามารถลอยตัวพลิกไปพลิกมา ตัวเจดีย์จะไม่พัง จะไม่ล้ม เป็น Second line of defence เป็นด่านที่ ๒ สำหรับป้องกันมหาธรรมกายเจดีย์ เรื่องของน้ำที่จะซึมเข้ามาใน Basement ของมหาธรรมกายเจดีย์ คอนกรีตที่เราเอามาสร้างห้องใต้ดินหรือ Basement นี้ คอนกรีตมีความหนาแน่น อยู่แล้ว โอกาสที่น้ำจะซึมเข้ามามีน้อย แต่เราก็หาวิธีป้องกันอีกชั้นหนึ่ง โดยใช้ฉนวนกันซึม Water proofing mem-brane ที่มีคุณสมบัติสูงมาห่อคอนกรีตเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้เนื่องจากดินบริเวณนี้มีความเป็นกรดสูงมาก กรดสามารถเข้าไปทำลายคอนกรีตได้ เราก็ใส่ปูนขาวเข้าไปในดิน แล้วถมกลับเข้าไปอยู่รอบๆ Basement นั้น นี่คือ Third line of defenceบนหลังคาของมหาธรรมกายเจดีย์ ก็เช่นเดียวกัน เราใช้ Water proofing membrane หุ้มคอนกรีตอีกขั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าไปในอาคาร นี่คือ Second line of defence ซึ่งทำให้มหาธรรมกายเจดีย์มีอายุยืนยาว เพื่อให้งานของเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกเหนือจากด้านรูปธรรมที่เราทำการศึกษาแล้ว เราได้ไปศึกษาโบราณสถานจากพุทธสถานทั่วๆ ไปในโลกนี้ ที่เขาอยู่กันมานานนับพันปี ไปศึกษาวิธีการ แนวทางที่เขาใช้ เช่น ที่ประเทศศรีลังกา เขาใช้วัสดุใกล้เคียงกับเรา เขาใช้อิฐ ใช้หิน ใช้ศิลาแลง จากการที่เราได้ไปศึกษาและได้เห็นด้วยตา พร้อม ทั้งวัสดุที่เราได้คัดเลือกมาแล้ว และได้นำวิธีการเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป พร้อมด้วยการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ทำให้เรามั่นใจว่า การก่อสร้างครั้งนี้ของเรา ถ้าไม่มีวิกฤตการณ์ร้ายแรงมากๆ เช่น ระเบิดลงหรือดาวเคราะห์พุ่งชน เราจะอยู่ได้ถึง ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ ปี เลยทีเดียว
ระบบระบายอากาศในมหาธรรมกายเจดีย์
(ดร.สุรศักดิ์ บำรุงวงศ์)
มหาธรรมกายเจดีย์ จะเป็นอาคารโบราณสถานแห่งอนาคต ที่มีชีวิต มีวิญญาณ มีความอิ่มเอิบ มีความสุข ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นได้ จะต้องมีความพร้อมในแง่ของลมหายใจ ในแง่ของพลังงาน ในแง่ของระบบน้ำ และการขับน้ำหรือของเสียออกจากภายในอาคาร ดังนั้นการระบายอากาศภายในอาคารขององค์มหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะเป็นไปอย่างธรรมชาติ และประหยัดพลังงานให้มากที่สุด โดยใช้ความคิดที่ว่า ถ้ามีอากาศร้อน อากาศร้อนจะลอยตัวขึ้น แล้วอากาศเย็นจะไหลเข้ามาแทนที่ จากกลไกการเคลื่อนไหวของอากาศและพลังงานจากดวงอาทิตย์ เราจึงนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดึงเอาอากาศจากภายในองค์เจดีย์ออกไป เนื่องจากว่า ด้านบนของเจดีย์ในส่วนของโดม เป็นโลหะบรอนซ์ เมื่อได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ โลหะ บรอนซ์จะรับความร้อนได้ไว และสามารถถ่ายเทความร้อนได้ไวกับอากาศที่อยู่ข้างเคียงกัน เมื่ออากาศที่อยู่ข้างๆ ได้รับความร้อนก็จะขยายตัวลอยขึ้น อากาศภายในองค์เจดีย์ที่เย็นกว่าก็จะเคลื่อนตัวออกมา จึงทำให้เรามั่นใจในระบบระบายอากาศของมหาธรรมกายเจดีย์ว่า สุขภาพขององค์เจดีย์จะแข็งแรงและมีอายุยืนยาวมากกว่า ๑,๐๐๐ ปี แต่อย่างไรก็ตาม เรายังมีระบบสำรองต่างๆ เผื่อเอาไว้ กรณีที่อาจเกิดข้อจำกัดบางประการ คือจะใช้พลังงานภายนอกขับดันบ้างเป็นระบบเสริม แต่ระบบหลักจะใช้พลังงานจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นระบบที่เรียกว่า กาลักความร้อน (Thermo-siphon)
ระบบระบายความชื้นในมหาธรรมกายเจดีย์
(ดร.สุรศักดิ์ บำรุงวงศ์)
ศัตรูในการมีอายุยืนยาวของวัสดุอีกข้อหนึ่งก็คือ ความชื้นของน้ำ ถ้าน้ำสามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวของคอนกรีตได้ แล้วก็เข้าไปทำลายเหล็ก จะทำให้อายุของคอนกรีตสั้นลง โดยธรรมชาติแล้วน้ำจะมีอยู่ในอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ในบ้านเราประมาณ ๗๕ % จะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นแล้วแต่ช่วงเวลา ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับอาคารขนาดใหญ่ก็คือ เราจะพบว่าในเวลากลางคืน เมื่ออากาศเย็นลง น้ำที่มีอยู่ในอากาศจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ เชื่อว่าปรากฏการณ์ก็จะเกิดขึ้นทั่วๆ ไป ภายในมหาธรรมกายเจดีย์ โอกาสที่ความชื้นจะมาเกาะนั้นมีมาก พระเจดีย์บางแห่งที่เราไปสำรวจ พบว่าอายุไม่ยืนยาว เพราะมีความชื้นข้างในมากทำให้เกิดเชื้อราเกิดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งทำลายวัสดุเราจึงคำนึงถึงปัญหานี้ แล้วหาวิธีไล่ความชื้นให้ออกไป จากภายในอาคารมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อให้อาคารแห้งที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ โดยการใช้พลังงานธรรมชาติจากพลังงานแสงอาทิตย์ มาช่วย
เนื่องจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นผิวโลกโดยเฉลี่ยประมาณ ๖๐๐ กว่าวัตต์ต่อตารางเมตร จากการคำนวณก็พบว่า พลังงานมีมากพอที่จะสร้างแรงขับดันให้อากาศภายในมหาธรรมกายเจดีย์ ออกมาภายนอกได้ เพราะเมื่อพลังงานแสงอาทิตย์ตกกระทบบนแผ่นโลหะบรอนซ์ บรอนซ์ก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความร้อนจากบรอนซ์ก็จะลอยตัว เมื่ออากาศร้อนลอยตัวขึ้น อากาศเย็นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือภายในธรรมกายเจดีย์ก็เคลื่อนออกมาทดแทน เกิดการไหลเวียนของอากาศภายใน ข้างในก็จะโปร่งแห้ง ปราศจากความชื้น แล้วมหาธรรม-กายเจดีย์ก็จะมีอายุยืนยาว เรียกว่า Thermo-siphon แปลว่า กาลักความร้อน
ระบบการป้องกันน้ำท่วม
(อ.วิจิตร ชินาลัย)
ในเรื่องของน้ำ เราพยายามหาวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกัน ลักษณะของมหาธรรมกายเจดีย์เป็น Slope ลงมานั้น ถ้าเกิดมีฝนตกหนัก น้ำก็จะไหลลงตลอดแนว ซึ่งมีการดักน้ำเป็นขั้นๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าฝนตกหนัก ๓-๔ วัน การระบายน้ำด้วยระบบ Mechanical ของโซนต่างๆ อาจจะไม่สามารถรับได้ทันที ตรงนี้เราจะมีปั้มสำหรับระบายน้ำออก
ระบบป้องกันฟ้าผ่า
(อ.วิจิตร ชินาลัย)
เรามีระบบป้องกันฟ้าผ่าด้วยการติดตั้งสายล่อฟ้ากระจายไปทั่วบริเวณ โดยระบบ ที่จะติดตั้งนี้ กำลังประสานงานกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีขั้นตอนสลับซับซ้อนมากมาย อุปกรณ์แต่ละชิ้นมีการตรวจสอบมาอย่างดี ประกอบการพิจารณาจากทีมงานวิศวกรของ ดร.สุรศักดิ์ จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจริงๆ
ระบบป้องกันแผ่นดินไหว
(ดร.ลาภ จิตนุยานนท์)
สำหรับเรื่องแผ่นดินไหวนี้ โชคดีที่มหาธรรมกายเจดีย์ของเราเป็นอาคารไม่สูงมากนัก ถ้าเกิดแผ่นดินไหวก็จะไม่มีการเซไปเซมาเหมือนอาคารสูงๆ เพราะฉะนั้นแผ่นดินไหว จึงไม่เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับมหา-ธรรมกายเจดีย์ของเรา
ระบบการทำความสะอาด
(พระภูเบศ ฌานาภิญโญ, ดร.ลาภ จิตนุยานนท์)
มหาธรรมกายเจดีย์ของเราเป็นองค์ที่แปลกที่สุดในโลก ยังไม่เคยมีในอดีตกาล และในอนาคตกาลก็คงจะไม่มีอีกแล้ว การทำความสะอาด จึงไม่ใช่เป็นเรื่องของมนุษย์ ต้อง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเทวดาทำความสะอาด เวลาฝนตกก็ถูกชะล้างเองโดยน้ำฝน ซึ่งเราเรียกว่า Self Cleaning และในช่วงที่ไม่มีฝนเราจะมีปั๊มน้ำฉีดทำความสะอาดได้
ในเรื่องการออกแบบโครงสร้างมหาธรมกายเจดีย์นั้น เราก็พยายามออกแบบว่า ถ้าโครงสร้างส่วนหนึ่งทำท่าจะล้มหรือเสื่อมสลายไป เราก็พยายามหาอีกส่วนหนึ่งมาช่วย เรียกว่า Second line of defence ยกตัวอย่างเช่น เสาเข็มมหาธรรมกายเจดีย์ สมมุติว่าเสาเข็มกลุ่มใดหรือต้นใด ในเวลาอีก ๕๐๐ ปี จะทรุดลงไปมุมใดมุมหนึ่ง ก็จะไม่ทำให้ตัวเจดีย์ทรุดตัวตามไปด้วย เพราะเราได้สร้างตอม่อ หรือพื้นที่ชั้นล่างสุดให้เป็นแผ่นหรือเหมือนแพ มีความหนา ๘๐ ซม. วางอยู่บนเสาเข็ม ถ้าเสาเข็มเกิดทรุด แพนี้ก็สามารถลอยตัวพลิกไปพลิกมา ตัวเจดีย์จะไม่พัง จะไม่ล้ม เป็น Second line of defence เป็นด่านที่ ๒ สำหรับป้องกันมหาธรรมกายเจดีย์ เรื่องของน้ำที่จะซึมเข้ามาใน Basement ของมหาธรรมกายเจดีย์ คอนกรีตที่เราเอามาสร้างห้องใต้ดินหรือ Basement นี้ คอนกรีตมีความหนาแน่น อยู่แล้ว โอกาสที่น้ำจะซึมเข้ามามีน้อย แต่เราก็หาวิธีป้องกันอีกชั้นหนึ่ง โดยใช้ฉนวนกันซึม Water proofing mem-brane ที่มีคุณสมบัติสูงมาห่อคอนกรีตเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้เนื่องจากดินบริเวณนี้มีความเป็นกรดสูงมาก กรดสามารถเข้าไปทำลายคอนกรีตได้ เราก็ใส่ปูนขาวเข้าไปในดิน แล้วถมกลับเข้าไปอยู่รอบๆ Basement นั้น นี่คือ Third line of defenceบนหลังคาของมหาธรรมกายเจดีย์ ก็เช่นเดียวกัน เราใช้ Water proofing membrane หุ้มคอนกรีตอีกขั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าไปในอาคาร นี่คือ Second line of defence ซึ่งทำให้มหาธรรมกายเจดีย์มีอายุยืนยาว เพื่อให้งานของเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้น นอกเหนือจากด้านรูปธรรมที่เราทำการศึกษาแล้ว เราได้ไปศึกษาโบราณสถานจากพุทธสถานทั่วๆ ไปในโลกนี้ ที่เขาอยู่กันมานานนับพันปี ไปศึกษาวิธีการ แนวทางที่เขาใช้ เช่น ที่ประเทศศรีลังกา เขาใช้วัสดุใกล้เคียงกับเรา เขาใช้อิฐ ใช้หิน ใช้ศิลาแลง จากการที่เราได้ไปศึกษาและได้เห็นด้วยตา พร้อม ทั้งวัสดุที่เราได้คัดเลือกมาแล้ว และได้นำวิธีการเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป พร้อมด้วยการดูแลรักษาที่ถูกต้อง ทำให้เรามั่นใจว่า การก่อสร้างครั้งนี้ของเรา ถ้าไม่มีวิกฤตการณ์ร้ายแรงมากๆ เช่น ระเบิดลงหรือดาวเคราะห์พุ่งชน เราจะอยู่ได้ถึง ๒,๐๐๐-๓,๐๐๐ ปี เลยทีเดียว
ระบบระบายอากาศในมหาธรรมกายเจดีย์
(ดร.สุรศักดิ์ บำรุงวงศ์)
มหาธรรมกายเจดีย์ จะเป็นอาคารโบราณสถานแห่งอนาคต ที่มีชีวิต มีวิญญาณ มีความอิ่มเอิบ มีความสุข ซึ่งจะเป็นอย่างนั้นได้ จะต้องมีความพร้อมในแง่ของลมหายใจ ในแง่ของพลังงาน ในแง่ของระบบน้ำ และการขับน้ำหรือของเสียออกจากภายในอาคาร ดังนั้นการระบายอากาศภายในอาคารขององค์มหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะเป็นไปอย่างธรรมชาติ และประหยัดพลังงานให้มากที่สุด โดยใช้ความคิดที่ว่า ถ้ามีอากาศร้อน อากาศร้อนจะลอยตัวขึ้น แล้วอากาศเย็นจะไหลเข้ามาแทนที่ จากกลไกการเคลื่อนไหวของอากาศและพลังงานจากดวงอาทิตย์ เราจึงนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดึงเอาอากาศจากภายในองค์เจดีย์ออกไป เนื่องจากว่า ด้านบนของเจดีย์ในส่วนของโดม เป็นโลหะบรอนซ์ เมื่อได้รับความร้อนจากดวงอาทิตย์ โลหะ บรอนซ์จะรับความร้อนได้ไว และสามารถถ่ายเทความร้อนได้ไวกับอากาศที่อยู่ข้างเคียงกัน เมื่ออากาศที่อยู่ข้างๆ ได้รับความร้อนก็จะขยายตัวลอยขึ้น อากาศภายในองค์เจดีย์ที่เย็นกว่าก็จะเคลื่อนตัวออกมา จึงทำให้เรามั่นใจในระบบระบายอากาศของมหาธรรมกายเจดีย์ว่า สุขภาพขององค์เจดีย์จะแข็งแรงและมีอายุยืนยาวมากกว่า ๑,๐๐๐ ปี แต่อย่างไรก็ตาม เรายังมีระบบสำรองต่างๆ เผื่อเอาไว้ กรณีที่อาจเกิดข้อจำกัดบางประการ คือจะใช้พลังงานภายนอกขับดันบ้างเป็นระบบเสริม แต่ระบบหลักจะใช้พลังงานจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นระบบที่เรียกว่า กาลักความร้อน (Thermo-siphon)
ระบบระบายความชื้นในมหาธรรมกายเจดีย์
(ดร.สุรศักดิ์ บำรุงวงศ์)
ศัตรูในการมีอายุยืนยาวของวัสดุอีกข้อหนึ่งก็คือ ความชื้นของน้ำ ถ้าน้ำสามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวของคอนกรีตได้ แล้วก็เข้าไปทำลายเหล็ก จะทำให้อายุของคอนกรีตสั้นลง โดยธรรมชาติแล้วน้ำจะมีอยู่ในอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ในบ้านเราประมาณ ๗๕ % จะมากกว่าหรือน้อยกว่านั้นแล้วแต่ช่วงเวลา ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นกับอาคารขนาดใหญ่ก็คือ เราจะพบว่าในเวลากลางคืน เมื่ออากาศเย็นลง น้ำที่มีอยู่ในอากาศจะกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ เชื่อว่าปรากฏการณ์ก็จะเกิดขึ้นทั่วๆ ไป ภายในมหาธรรมกายเจดีย์ โอกาสที่ความชื้นจะมาเกาะนั้นมีมาก พระเจดีย์บางแห่งที่เราไปสำรวจ พบว่าอายุไม่ยืนยาว เพราะมีความชื้นข้างในมากทำให้เกิดเชื้อราเกิดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสิ่งทำลายวัสดุเราจึงคำนึงถึงปัญหานี้ แล้วหาวิธีไล่ความชื้นให้ออกไป จากภายในอาคารมหาธรรมกายเจดีย์ เพื่อให้อาคารแห้งที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ โดยการใช้พลังงานธรรมชาติจากพลังงานแสงอาทิตย์ มาช่วย
เนื่องจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นผิวโลกโดยเฉลี่ยประมาณ ๖๐๐ กว่าวัตต์ต่อตารางเมตร จากการคำนวณก็พบว่า พลังงานมีมากพอที่จะสร้างแรงขับดันให้อากาศภายในมหาธรรมกายเจดีย์ ออกมาภายนอกได้ เพราะเมื่อพลังงานแสงอาทิตย์ตกกระทบบนแผ่นโลหะบรอนซ์ บรอนซ์ก็จะมีอุณหภูมิสูงขึ้น อากาศที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความร้อนจากบรอนซ์ก็จะลอยตัว เมื่ออากาศร้อนลอยตัวขึ้น อากาศเย็นที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือภายในธรรมกายเจดีย์ก็เคลื่อนออกมาทดแทน เกิดการไหลเวียนของอากาศภายใน ข้างในก็จะโปร่งแห้ง ปราศจากความชื้น แล้วมหาธรรม-กายเจดีย์ก็จะมีอายุยืนยาว เรียกว่า Thermo-siphon แปลว่า กาลักความร้อน
ระบบการป้องกันน้ำท่วม
(อ.วิจิตร ชินาลัย)
ในเรื่องของน้ำ เราพยายามหาวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกัน ลักษณะของมหาธรรมกายเจดีย์เป็น Slope ลงมานั้น ถ้าเกิดมีฝนตกหนัก น้ำก็จะไหลลงตลอดแนว ซึ่งมีการดักน้ำเป็นขั้นๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าฝนตกหนัก ๓-๔ วัน การระบายน้ำด้วยระบบ Mechanical ของโซนต่างๆ อาจจะไม่สามารถรับได้ทันที ตรงนี้เราจะมีปั้มสำหรับระบายน้ำออก
ระบบป้องกันฟ้าผ่า
(อ.วิจิตร ชินาลัย)
เรามีระบบป้องกันฟ้าผ่าด้วยการติดตั้งสายล่อฟ้ากระจายไปทั่วบริเวณ โดยระบบ ที่จะติดตั้งนี้ กำลังประสานงานกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีขั้นตอนสลับซับซ้อนมากมาย อุปกรณ์แต่ละชิ้นมีการตรวจสอบมาอย่างดี ประกอบการพิจารณาจากทีมงานวิศวกรของ ดร.สุรศักดิ์ จึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยจริงๆ
ระบบป้องกันแผ่นดินไหว
(ดร.ลาภ จิตนุยานนท์)
สำหรับเรื่องแผ่นดินไหวนี้ โชคดีที่มหาธรรมกายเจดีย์ของเราเป็นอาคารไม่สูงมากนัก ถ้าเกิดแผ่นดินไหวก็จะไม่มีการเซไปเซมาเหมือนอาคารสูงๆ เพราะฉะนั้นแผ่นดินไหว จึงไม่เป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับมหา-ธรรมกายเจดีย์ของเรา
ระบบการทำความสะอาด
(พระภูเบศ ฌานาภิญโญ, ดร.ลาภ จิตนุยานนท์)
มหาธรรมกายเจดีย์ของเราเป็นองค์ที่แปลกที่สุดในโลก ยังไม่เคยมีในอดีตกาล และในอนาคตกาลก็คงจะไม่มีอีกแล้ว การทำความสะอาด จึงไม่ใช่เป็นเรื่องของมนุษย์ ต้อง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเทวดาทำความสะอาด เวลาฝนตกก็ถูกชะล้างเองโดยน้ำฝน ซึ่งเราเรียกว่า Self Cleaning และในช่วงที่ไม่มีฝนเราจะมีปั๊มน้ำฉีดทำความสะอาดได้
ไฟล์แนบ
-
DSC00601_1.jpg 937.64K
75 ดาวน์โหลด
