รักมากขึ้น.. อออยากจะศึกษาวิชชาธรรมกาย
รักมากที่สุด… อยากไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม
รักจริงแท้ ใจต้องไม่คลาดจากศูนย์กลางกายเลย
อย่างนี้เรียกว่า “รักธรรมะจริง”
ชีวิตนักบวช เราไปรักคนอื่นไม่ได้
เราควรรักธรรมะยิ่งสิ่งอื่นใด
“สละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ
สละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต
แต่พึงสละชีวิตเพื่อรักษาธรรม”
รักแค่ชีวิตหรือรักยิ่งชีวิต
รักคนอื่นอาจผิดหวังได้ แต่รักธรรมะไม่มีผิดหวัง
พระบรรพต ลิขิตารก?โข
พระเกื้อกูล สุภนน?โท
พระชัยยันต์ คุณชโย
พระชัยสิทธิ์ อริยวํโส
ให้แตะเบา ๆ …แตะไม่ใช่จิ้ม ! แตะเบา ๆ เหมือนวางขนนกลงบนผิวน้ำ
ถ้าแตะแล้วรู้สึกแคบลง ๆ นั่นแสดงว่า “กด” แล้วไม่เบา ถ้าเบาต้องขยายไม่แคบ
วางไว้ตรงไหนสบายที่สุด ให้หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น… ที่เดิม ที่เดียว ไม่ต้องย้ายหรือควานหาใหม่
การวางใจให้เป็น เป็นหัวใจของการเข้าถึงธรรม “ถ้าวางใจเป็นจะเห็นภาพภายใน”
ถ้าวางหนัก กดจิต ผลที่เกิดคือ ความเครียด ให้คลี่คลายอย่างสบาย ๆ เดี๋ยวจะเห็นภาพ
ไม่เห็นไม่เป็นไร เราแค่สบายใจก็พอแล้ว ทำใจให้เป็นกลาง ๆ ไม่ยินดียินร้าย เห็นก็ช่างไม่เห็นก็ช่าง
ถ้านั่งแล้วสบายใจได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในเบื้องต้นแล้ว
ถ้าหากเราทำใจ ให้อยู่กับความสว่างได้ ทั้งวันทั้งคืน ใจเราจะบริสุทธิ์ ละเอียดอ่อน
“ความใสคู่กับความละเอียด” ความคิดที่ไม่ดีทั้งหลายจะหายไปจากใจ
ไม่คิดร้ายพยาบาทใคร ไม่ขุ่นมัวกับใคร พอใจใส ๆ ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็สว่าง
ดังนั้นฝึกให้ใจใส ๆ เข้าไว้อย่าให้ใจขุ่นมัว หลวงพ่อบอกว่า “ เมื่อใดใจใสสว่างเมื่อนั้นเป็นฤกษ์ดี
ทำให้เราไม่บรรลุธรรม คือ นิวรณ์ ๕
๑. ชอบตรึกเรื่องกาม แก้โดยเฉย ๆ อย่าไปสนใจมัน อย่าคิดถึงมัน
๒. ชอบตรึกเรื่องพยาบาท เราก็แผ่เมตตาเสีย ใจจะได้โปร่งสบาย
๓. ชอบเผลอหลับ กำหนดนิมิตให้ใสสว่างเข้าไว้ ให้ตื่นอยู่เสมอ
๔. ชอบฟุ้งซ่าน อย่าตามมันไป ให้ปล่อยมันผ่านไปอย่างสบาย ๆ เดี๋ยวก็หายไปเอง
๕. ชอบสงสัย หยุดนิ่งไปเรื่อย ๆ ให้หายสงสัย ! “ถ้าทำใจให้สบาย ๆ หยุด นิ่ง เฉย ไปเรื่อย ๆ
นิวรณ์ทั้ง ๕ ก็จะหมดไปเอง” อารมณ์สบายเป็นหัวใจ
หัดคิด พูด ทำ แต่เรื่องที่ทำให้สบาย หยุด นิ่ง เฉย.. เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน
ต้องมีชั่วโมงหยุดนิ่ง เหมือนนักบินมีชั่วโมงบิน