![รูปภาพ](/forum/uploads/profile/photo-thumb-1323.jpg?_r=1373459465)
สมบัติของเรา ใช่หรือไม่ใช่ของเรากันแน่
#1
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 03:12 PM
บรรดาสมบัติทั้งหลายนั้น มีคุณสมบัติพิเศษอยู่ 2 ประการ คือ
1) สมบัติของเรา หากยังไม่นำมาใช้ ย่อมไม่ชื่อว่า เป็นของเรา โดยพระอาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่า ข้าวแกงหนึ่งจานที่เราเพิ่งไปซื้อมาแท้ๆ วางบนโต๊ะอยู่ตรงหน้าเรา ใช่ของเราหรือไม่ คำตอบคือ ยังไม่ใช่ เพราะหากมีใครเผอิญมาปัดข้าวจานนั้น ตกลงไปที่พื้น ข้าวจานนั้นยังจะเป็นสมบัติของเราหรือไม่ ก็ไม่แล้ว กลายเป็นสมบัติของน้องหมา น้องแมวไปแทน นี่สมบัติของเรา เพียงแค่เปลี่ยนตำแหน่งที่วางแท้ๆ ยังกลายเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว
2) สมบัติของเรา ครั้นเมื่อนำมาใช้ สมบัตินั้นก็จะหายไป ข้าวแกงหนึ่งจานของเรานี่แหละ พอเรากินเข้าไป ย่อมได้ชื่อว่า สมบัติของเรา แต่สมบัตินั้น ก็จะหายไป
ผมก็มานั่งนึกตาม เออ จริง เงินทองต่างๆ ก็เหมือนกัน พอนำมาใช้ปุ๊บ เงินทองก็จะหายไป(จากเรา) กลายเป็นของคนอื่นไปเสียแล้ว
แล้วมีวิธีการใดล่ะ ที่จะทำให้สมบัติของเรา กลายเป็นของเราอย่างแท้จริง ท่านบอกมีวิธีอยู่ นั่นคือ ให้ฝังสมบัตินี้ไว้ในพระพุทธศาสนา ด้วยการสั่งสมบุญนั่นเอง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ในนิธิกัณฑสูตรว่า
http://www.84000.org...ha.php?b=25&i=9
ในอดีตกาลได้มี พ่อค้าท่านหนึ่ง ท่านกำลังนิมนต์พระภิกษุมาฉันภัตตาหารที่บ้าน แต่ก่อนที่จะได้ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุนั้น ก็มีราชบุรุษเข้ามาพบ แล้วบอกให้พ่อค้าไปเข้าเฝ้าพระราชา เพราะพระราชากำลังอยากได้ทรัพย์ของพ่อค้าท่านนั้นพอดี
พ่อค้าจึงบอกราชบุรุษไปว่า "ท่านจงล่วงหน้าไปก่อนเถิด รอให้ข้าพเจ้าฝังขุมทรัพย์ของข้าพเจ้าให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วข้าพเจ้าจะตามไป" ว่าแล้ว พ่อค้าก็ลงมือถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุต่อไป
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงตรัสอนุโมทนา มีใจความสรุปว่า
ขุมทรัพย์ คือบุญของผู้ใดเป็นสตรีก็ตาม เป็นบุรุษก็ตาม ฝังไว้ดีแล้ว
ด้วยทาน ศีล สัญญมะ-ความสำรวม ทมะ-ความฝึกตน
ในเจดีย์ก็ดี ในสงฆ์ก็ดี หรือในมารดาบิดาก็ดี
ขุมทรัพย์นั้นชื่อว่าฝังไว้ดีแล้ว ใครๆ ไม่อาจผจญได้ เป็นของติดตามตนไปได้
เมื่อละโลกไปแล้วขุมทรัพย์คือ บุญนี้เท่านั้นที่จะติดตามตัวเราไปได้
ขุมทรัพย์คือบุญ ไม่สาธารณะแก่ชนเหล่าอื่น โจรก็ลักไปไม่ได้ บุญนิธิอันใด ติดตามตนไปได้ ปราชญ์พึงทำบุญนิธิอันนั้น
บุญนิธินั้น(ขุมทรัพย์คือบุญ) อำนวยผลที่น่าปรารถนาทุกอย่างแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เทวดาและมนุษย์ปรารถนาอิฐผลใดๆ อิฐผลทั้งหมดนั้นๆ ย่อมได้ด้วยบุญนิธินี้
การได้ผิวพรรณวรรณะที่สวยสดงดงาม มีเสียงไพเราะเสนาะโสต มีทรวดทรงดี มีรูปกายที่สมส่วน ก็เพราะบุญนิธินี้เท่านั้น
การได้เป็นพระราชามหากษัตริย์ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิจอมราชัญ หรือเป็นจอมเทพในสวรรค์ทั้งหลาย
อิฐผลทั้งหมดนั้น ย่อมได้ด้วยบุญนิธินี้
การได้บรรรลุปฏิสัมภิทา วิโมกข์ สาวกบารมี ปัจเจกโพธิหรือเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ก็ต้องอาศัยบุญนิธินี่เอง
#2
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 07:18 PM
#3
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 08:36 PM
#4
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 09:28 PM
ผมคิดว่าข้าวแกงที่ตกลงพื้นยังเป็นของสมบัติของเรา เพราะหากเรานำไปให้น้องหมา แมวกิน ก็ยังชื่อว่าเราได้บุญ หากไม่ใช่ของเรา การให้นั้นผลบุญย่อมไม่เท่ากับการให้ของที่เป็นของเราครับ ผมคิดว่าของนั้นจะไม่ใช่ของเรา ต่อเมื่อมีการตัดใจจากของนั้นๆเท่านั้น
หากผิดพลาดประการใดขอคำชี้แน่จากผู้รู้ด้วยครับ
#5
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 10:05 PM
#6
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 10:12 PM
ใครจะคิดได้เร็วปานนั้น++++
หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ได้
ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้ ง่ายนิดเดียว
ajvj
#7
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 10:38 PM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#8
โพสต์เมื่อ 16 April 2009 - 11:57 PM
#9
โพสต์เมื่อ 17 April 2009 - 01:36 AM
#10
โพสต์เมื่อ 17 April 2009 - 09:12 AM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
#11
โพสต์เมื่อ 17 April 2009 - 11:44 AM
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
สาธุ
#12
โพสต์เมื่อ 18 April 2009 - 10:57 AM
หากคิดบริจาคสมบัติของเราเป็นทานเมื่อไหร่ สมบัตินั้นก็กลายเป็นของเราทันที แต่หากไม่คิดบริจาคทาน คิดเพียงแต่เสียดาย สมบัตินั้นก็จะไม่ใช่ของเราทันทีเช่นเดียวกันครับ
#13
โพสต์เมื่อ 26 April 2009 - 06:34 PM