ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * - - 1 คะแนน

ความฝันของ.............


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรม

เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรม
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 01:44 PM

เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วที่ผม จะเรียนจบ และได้ไปบวชเรียนต่อ แต่ว่าความรู้สึกของเรานั้น ถ้าบวชเรียนแล้วนั้น

เรากลัวว่าจะตามไม่ทันเขา เพราะเรายังไม่เคยบวชเรียน

แต่เราก็ยังไม่มีความมั่นใจ เพราะกล้าๆกลัวๆ อยู่เสมอ

ตอนนี้เราก็นึงถึงชีวิตในเมืองที่เต็มไปด้วยความสบาย และในสังคมปัจจุบันนี้ก็เต็มไปด้วยสิ่งที่น่ากลัว เช่น การปล้น การฆ่าและอื่นๆ

ทำให้เรามีความรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่น่าอยู่ เพราะบางคนขาดศิลธรรม ไม่มีหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จนทำให้เราไม่อยากอยู่ในสังคม อยากมาอยู่ในวัด เพื่อความสงบ ไปตลอดชีวิต

nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif nerd_smile.gif

เรายังไม่รู้กิจของสงฆ์ หรือสิ่งที่ พระหรือสามเณรปฎิบัติกัน อยากให้ใครที่เคยมีประสบการณ์ ช่วยแนะนำหน่อย

ขอบคุณมากนะครับ




มองแต่แง่ดีเถิด

เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองดี มีคุณจริง

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  images.jpg   2.27K   7 ดาวน์โหลด


#2 kissy

kissy
  • Members
  • 589 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 01:58 PM

kissy คิดว่า คุณ เราจะต้องเป็นผู้รับผลของกรรม

อย่ากลัวการบวชเลย คุณโชคดีมากที่ได้บวช

kissy เป็นผู้ หญิง kissy ยังอิจฉา ผู้ชายเลย

ถ้าไม่ติดตรงที่เป็น ผู้หญิง kissy บวชไปแล้ว

อย่ากลัวน่ะ สู้ ๆ เข้มแข็ง เข้าไว้



#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 05:04 PM

ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะครับ ความจริงแล้วความรู้สึกของคุณก็เหมือนๆ กับความรู้สึกของมนุษย์ทุกๆ คนนั่นแหละครับ

มนุษย์ทุกคนล้วนกลัวความมืดครับ ผมจะยกตัวอย่างให้ฟัง

สมมุติว่า ในคืนวันหนึ่ง คุณตื่นขึ้นมา พร้อมกับความรู้สึกว่า สถานที่ที่จะคุณในเวลานี้ไม่ใช่ห้องนอนของคุณ แต่กลายเป็นที่ไหนก็ไม่ทราบรอบๆ ตัวคุณมีแต่ความมืดมิดเต็มไปหมด คุณจะรู้สึกอย่างไร

กลัวใช่มั้ยครับ เป็นผม ผมก็กลัวเช่นกัน

ทีนี้ต่อมา ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านขวาของคุณว่า ให้เดินมาทางนี้สิ ทางนี้ปลอดภัย เดินมาจนสุดทางแล้วจะพบทางออก คุณรู้สึกดีขึ้นที่ยังมีเพื่อน แต่ก็ยังลังเล เพราะข้างทางมันมืดไปหมด

ต่อมาอีก ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านซ้ายของคุณบ้างว่า อย่าไปทางนั้น ทางนั้นไม่ปลอดภัย ให้มาทางนี้ดีกว่า ทางนี้ปลอดภัยกว่า เชื่อฉันเถิด คราวนี้คุณรู้สึกอย่างไรครับ สับสบ หวั่นวิตก ว่าทางใดจึงจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง ปลอดภัยสำหรับคุณ ใช่มั้ยครับ

มนุษย์เราทุกคนก็ล้วนแต่เผชิญอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ทั้งสิ้นครับ พวกเราตกอยู่ภายใต้ความมืดมิดของอวิชชา(ความไม่รู้จริง) ทำให้ต้องเดินไปในสังสารวัฏ(การเวียนว่ายตายเกิด)ด้วยความไม่รู้ ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับผู้ที่ตกอยู่ในความมืดดังที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมานั่นเอง

ทีนี้พอมีคนมาแนะนำว่า ให้ไปทำงานที่นี้สิ ที่นี้ดี ส่วนอีกคนก็มาแนะนำว่า ให้ไปทำงานที่นั้นสิ ที่นั้นดี หรือ อีกคนมาบอกว่า ให้บวชสิ บวชแล้วดี คุณรู้สึกอย่างไรครับ ผมทายได้เลยว่า คุณย่อมรู้สึกเหมือน คนที่ผมอุปมา เมื่อเขาตกอยู่ในความมืด แล้วมีคนมาชวนให้เดินไปทางซ้ายบ้าง ขวาบ้างไม่รู้จะเดินไปทางไหนดี เพราะมืดมนไปหมด

แล้วควรทำอย่างไรดีล่ะ ก็ให้ทำอย่างนี้สิครับ ชายคนเดียวกันนี้ พอมีคนมาร้องเรียกไปเดินตามไปทั้งจากทางซ้ายบ้างขวาบ้าง แต่เขายังไม่ไปในทันที ตรงข้าม เขาล้วงมือเข้าไปกระเป๋า แล้วหยิบไฟฉายขึ้นมา พร้อมกับส่องไฟฉายไปที่หนทางทั้งสองด้าน ตอนนี้เขาเห็นชัดเจนแล้ว ทางไหนควรไป ทางไหนไม่ควรไป เขาเลือกได้ด้วยตัวเขาเองแล้ว โดยไม่ต้องฟังคำชวนที่แตกต่างกันของใครๆ

คุณและผมก็เช่นเดียวกันครับ มีคนมาแนะนำหนทางเดินชีวิตให้กับเรามากมาย แล้วเราจะเลือกเดินตามใคร ผมขอแนะนำว่า ยังก่อนครับ อย่าเพิ่งรีบเดินเพราะเรายังไม่รู้ แต่ให้จุดไฟแห่งปัญญาขึ้นมา แล้วฉายไฟแห่งปัญญานั้นออกไป ด้วยการไปศึกษาหาความรู้จากตำรับตำราหรือถามไถ่ผู้รู้ว่า หนทางนั้นดีอย่างไร การบวชดีอย่างไร เมื่อศึกษาอย่างรอบคอบจนแตกฉานแล้ว เราก็ค่อยเลือกเดิืนไปในหนทางที่เรามั่นใจว่า เราได้ศึกษามาอย่างดีแล้ว อย่างนี้ดีไหมครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 คำเตือน

คำเตือน
  • Members
  • 52 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 07:17 PM

Sadhu.. Sadhu..Sadhu.....Asnwer from Khun Hutfun nakrub

#5 บางคนหาบางสิ่งมาทั้งชีวิต

บางคนหาบางสิ่งมาทั้งชีวิต
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 08:44 PM

อนุโมทนาด้วยครับ ถ้าคิดจะบวช
กิจของสงฆ์ หลักใหญ่ๆ มี 2 ครับ เอาแบบเข้าใจง่ายๆ
1. คันถธุระ คือ เรียนวิชาต่างๆ ในพระพุทธศาสนา
2. วิปัสสนาธุระ คือ ปฏิบัติวิปัสสนา (นั่งสมาธิ)

แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป พระภิกษุจะยึดถือแค่สองอย่างนี้ไม่ได้
ยังมีกิจวัตรของพระภิกษุอีก 10 ประการ
1. ลงอุโบสถ
2. บิณฑบาตเลี้ยงชีพ
3. สวดมนต์ไหว้พระทำวัตรเข้า-วัตรเย็น
4. กวาดวิหารลานเจดีย์
5. รักษาผ้าครอง
6. อยู่ปริวาสกรรม
7. โกนผม ปลงหนวด ตัดเล็บ
8. ศึกษาพระวินัย และ ปฏิบัติพระอาจารย์ ( อยู่ในทิศ 6 ข้อที่ลูกศิษย์พึงปฏิบัติต่ออาจารย์ )
9. เทศนาบัติ
10. พิจารณาปัจจเวกขณะทั้ง 4
ส่วนอื่นที่สำคัญ ๆ เช่น อนุศาสน์ 8 ( กิจที่ควรทำ และ กิจที่ไม่ควรทำ )
พระอนุสาวนาจารย์ หรือไม่ก็ พระอุปัชฌาย์ จะบอกในวันที่บวชครับ
ยังมีอีกมากมายครับ จากที่ผมได้บวชเรียนมา ไม่มีอะไรน่ากลัวครับ
พระสงฆ์เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ขอให้เราบวชและปฏิบัติตามคำสอนของท่านเถิด
เพราะไม่มีใครได้รับอันตรายจากการปฏิบัติอย่างถูกหลักตามคำสอนของท่านหรอกนะครับ
ถ้ามีผู้รู้ได้อ่านบทความนี้ แล้วผมมีข้อผิดพลาดประการใด
ผมขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
วันนี้คุณทำบุญแล้วหรือยัง !!!

#6 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 July 2009 - 11:26 PM

แสดงว่า จขกท. มีบุญเก่ามาดีนะครับ ถึงคิดอยากบวช

ถ้าบวชแล้วก็ขอให้อยู่ในผ้าเหลืองได้ตลอดนะครับ อนุโมทนาบุญครับ

กิจของพระมีน้อยกว่ากิจของฆราสเป้นร้อยเท่าครับ ไม่ต้องกลัว

#7 มือใหม่หัดถ่าย อิอิ

มือใหม่หัดถ่าย อิอิ
  • Members
  • 68 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 12:58 AM

ลองมาสมัครบวช7000 รูปก่อนสิ ง่ายนิดเดียวเองนะ แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีนะ ว่าจะเอายังงัยต่อไปนะ

#8 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 12:09 PM

QUOTE
เรากลัวว่าจะตามไม่ทันเขา เพราะเรายังไม่เคยบวชเรียน

แต่เราก็ยังไม่มีความมั่นใจ เพราะกล้าๆกลัวๆ อยู่เสมอ
- ต้องละความกลัว-ความคิดที่พาจิตใจเราออกไปนอกตัวมากเกินไป
- มุ่งศึกษา เข้าหาเป้าหมายภายใน ด้วยการหยุด นิ่ง โดยมีฉันทะเป็นสื่อนำพาให้พละ5 บริบูรณ์
- เราต่างก็เป็นมนุษย์ เป็นผู้มีคติที่งดงาม มีคุณสมบัติในการเล่าเรียนศึกษาหาความรู้ได้ สำคัญที่สุด คือ สามารถประกอบเหตุแห่งกุศลได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย จึงควรที่จะมั่นใจและภูมิใจว่า..เราเป็นผู้ได้โอกาส เราเป็นผู้โชคดี มากกว่าหลายท่านที่ละเลยโอกาสแสวงหาความรู้และความจริงแห่งชีวิตนี้

QUOTE
ตอนนี้เราก็นึงถึงชีวิตในเมืองที่เต็มไปด้วยความสบาย และในสังคมปัจจุบันนี้ก็เต็มไปด้วยสิ่งที่น่ากลัว เช่น การปล้น การฆ่าและอื่นๆ ทำให้เรามีความรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่เราไม่น่าอยู่ เพราะบางคนขาดศิลธรรม ไม่มีหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จนทำให้เราไม่อยากอยู่ในสังคม อยากมาอยู่ในวัด เพื่อความสงบ ไปตลอดชีวิต
- เพราะอย่างนี้หมู่คณะ จึงต้องร่วมแรงร่วมร่วมใจกัน ให้พุทธบริษัท4 เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโครงการ สร้างเด็กดี คนดี ครูดี พระแท้ฯลฯ ให้สังคมน่าอยู่ โลกมีสันติสุขทั้งภายในและภายนอก
- การแยกตัวออกจากสังคม ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งช่วยพัฒนาเฉพาะตัวเรา แต่ไม่ได้เป็นการจุนเจือสังคมแต่อย่างไร
- หลักของหมู่คณะ คือการรวมตัวของคนดี สร้างสังคมให้ร่มเย็นด้วยธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดได้ยาก เนื่องจากในหมู่คนดีๆในกามภพ นั้นสามารถกระทบกระทั่งได้ การรวมตัวของคนดีจึงยังต้องมีวินัยเพื่อให้การดำเนินงาน เป็นหนึ่งเดียวกัน
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#9 sphere

sphere
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 12:20 PM

อ่านข้อความจากคุณหัดฝันทีไร รู้สึกปลี้ม และตรงใจทุกทีเลยค่ะ

#10 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 12:23 PM

เป็นข้อความของผู้รู้ที่ผมจำๆ มาน่ะครับ ดังเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัิติชอบ โดยเฉพาะคุณครูไม่ใหญ่ ครูของนักเรียนอนุบาลฝันในฝันทุกคน

"ไม่มีแสงสว่างใด เสมอด้วยแสงแห่งปัญญา"
"ปัญญา เป็นแสงสว่างในโลก"

พุทธพจน์
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#11 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 July 2009 - 04:27 PM

นัตถิ ปัญญา สมา อาภา

เร่งสร้างปัญญาด้วยการทำใจหยุดนิ่งนะครับ

(หยุดเป็นตัวสำเร็จ)
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#12 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 28 July 2009 - 12:52 AM

อยากบวชก็ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะ

ลองมาบวชระยะสั้น ในโครงการธรรมทายาทหมู่ดู ที่วันพระธรรมกายมีโครงการบวชปีละหลายโครงการ จบโครงการแล้วถ้าชอบก็บวชต่อไป

ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรอกค่ะ ยิ่งการสร้างบารมีต้องมีกำลังใจที่มั่นคงเข้มแข็ง ปณิธานที่มุ่งมั่น เรื่องทุกอย่างอยู่ที่ใจค่ะ

ถ้าคิดว่ายาก มันก็จะยิ่งยาก ถ้าคิดว่าทำได้...มันก็ต้องพยายามจนได้น่ะแหละค่ะ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป