ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ธรรมะพิเศษ (ุ14) : เฉพาะกิจ สำหรับขุนรบพิเศษเท่านั้น !!!


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 pandin24

pandin24
  • Members
  • 29 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 October 2009 - 03:50 PM







ธรรมะพิเศษ เพื่อขุนรบพิเศษ

ตอน

ทุ่มชีวิตเพื่อกฐินคุณยาย


(บันทึก จากท่านกัลยาณมิตร ศรันย์ ภูริปรัชญา ที่ได้นำเรื่องราวอานุภาพบุญมาแบ่งปัน)



ปัจจุบันรายได้ที่นำมาทุ่มทำบุญเกิน 80 %หลังจากบวชพระคิดที่จะทำธุรกิจสักอย่างเพื่อช่วยงานหลวงพ่อ เลยเริ่มทำรองเท้าต่อจากพ่อ เริ่มจาก Mix star รองเท้าแตะ Monobo รองเท้าผู้หญิงขายดีมาก



พระอาจารย์ท่านแนะนำว่าถ้าอยากขายรองเท้าดี ให้เอามาถวายพระ หลังจากถวายพระไม่ถึง 7 วันออเดอร์ต่างประเทศเข้าตลอด

พอพระเดชพระคุณหลวงพ่อคิดโครงการที่จะนิมนต์พระล้านรูปก็เลยคิดที่จะผลิตรองเท้าถวายพระ เลยสร้างแบรนด์ใหม่ Kadas เริ่มนำมาถวาย 30,000 คู่แรกวันคุ้มครองโลก และเปิดโรงงานที่ 2 ขนาด 20 ไร่



พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ให้พรว่าอีกหน่อยจะขายและดังไปทั่วโลก



เด็กๆไม่เคยคิดที่จะทำธุรกิจเลย คิดจะเป็นผู้กำกับหนัง แต่พอหลังบวชจึงทำกิจการผลิตรองเท้าต่อคุณพ่อ แต่คุณพ่อเป็นผู้ผลิตอย่างเดียว รับทำให้แบรนด์ต่างๆ แต่ก็ไม่รวยเพราะพ่อไม่เก่งเรื่องการตลาด เก่งแต่เรื่องการผลิต

แต่พอหลังบวชก็เลยคิดจะทำต่อคุณพ่อ เพราะอยากออกไปรวย เริ่มต้นด้วยการไม่มีทุนเลย เอาของคนอื่นไปขาย แล้วเอากำไรส่วนต่างเก็บเล็กผสมน้อยไปเรื่อยๆ



เข้าวัดปี 2536 เริ่มเข้าวัด ทำบุญครั้งแรก 100 บาท หลังจากนั้นก็สร้างองค์พระเป็นหมื่น เสาเข็มเป็นแสนจากที่ไม่มีหนี้ก็เริ่มมีหนี้เพราะกู้เงินมาทำบุญ เสาใต้ดิน เสาค้ำเจดีย์ พระแกนกลาง ไม่มีเงินเก็บ ตัวแดงล้วนๆ เพราะคิดว่าถ้ารอตัวเองรวยแล้วเสาเสร็จก็ทำบุญไม่ได้



จ่ายดอกเบี้ยมากว่า 10 ปี เสาคนอื่นต้นละแสน แต่ของผมต้นใหญ่กว่าคนอื่นเพราะดอกเบี้ยร้อยละ 20 กว่าต่อปี แต่ก็คิดในแง่ดีว่าเสาเราต้นใหญ่กว่าคนอื่นเพราะไม่ใช่แค่แสนเดียว องค์พระแกนกลางคนอื่น 30,000 ของผม 45,000 คิดในแง่ดีจะได้มีกำลังใจในการทำบุญ



แต่ทุกคนเป็นห่วงผมหมด เพราะกลัวผมถูกหลอก แต่ผมไม่เคยคิดเสียใจเพราะตั้งแต่เข้าวัดมาตั้งแต่ปี 2536 บุญทุกบุญที่ผมทำมันทำไม่ได้อีกแล้ว และตั้งแต่ผมทำบุญยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปี มันเพิ่มแล้วขึ้นเรื่อยๆทุกปีอย่างปีแล้วผมตั้งเป้าที่ 300 M ก็ปิดยอดที่ 400 M ปีนี้ผมตั้งเป้า 700 M แต่ผ่านไปสองไตรมาสก็ 300 กว่าM แล้วเพราะจริงๆปีนี้น่าจะเงียบมาก เพราะค่าโฆษณาเราก็สูง นาทีละ 450,000 บาท



เริ่มมาสำเร็จปี 2546 เพราะปี 2545 มีหนี้อยู่ 10 M แล้วยังทำบุญสลายร่างคุณยายอีก 1 M ตอนนั้นคิดว่าหนี้เยอะมากแล้วแต่พอทำบุญนี้อีกก็คิดเตรียมหนีแล้ว แต่ก็คิดในใจว่าเงินที่เราเป็นหนี้ก็เพราะเราทำบุญ ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยทำบุญ 1 M มาก่อน แต่ตอนสลายร่างยายไปยืมคนอื่นหลายๆคนมาจนได้ 1M เพราะคิดว่าคุณยายฯลำบากสร้างวัดมา แต่ถ้าเราเป็นหนี้จะลำบากอีกก็ไม่กี่ปีมันก็คุ้มเพราะภาพที่ทำบุญมันจะจดจำไปจนวันลาจากโลก และผมยังได้ทดแทนคุณครูบาอาจารย์ที่ท่านให้มา พระคุณของคุณยายไม่อาจประมาณได้



วันที่ไปจุดไฟแก้วผมขำตัวเองเหมือนยาจกไปอยู่กับหมู่เศรษฐี แทบจะจำไม่ได้ว่ายืมเงินใครบ้าง แต่ไม่ถึงปีเริ่มทำรองเท้าก็ไม่ค่อยดีมาก แต่จู่ๆรองเท้า mix star ก็ประสบผลสำเร็จเฉยเลยทั้งๆที่ก็ทำแบรนด์นี้มาก่อนหน้านี้ พอปี 2546 หนี้ผม 10 กว่า M ก็ใช้หมดเลย และยังเหลือเงินในแบงค์อีกหลาย M ด้วย ผมมานั่งถามตัวเองคงเพราะเราใจกล้า เป็นไงเป็นกัน บุญจึงส่งผลแบบเร็วและแรง จนผมไม่รู้ตัว แค่เพียง 6-7 เดือนเอง หลังจากนั้นก็เริ่มทำบุญเป็น M มาหลายๆ M พอลองมานั่งคิดบวกๆดูก็เกือบ 60-70 M แล้ว แต่ก็ยังไม่อิ่มใจถ้าเทียบกับงานที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อจะทำ













แบรนด์ Monobo ทีแรกคิดไว้ว่าสองปีจึงจะดัง ที่ไหนได้ออกเดือนเดียวก็ดังเลย ตี5 ลูกค้าไปนั่งรอหน้าร้านที่สำเพ็ง เถ้าแก่ที่สำเพ็งบอกลูกน้องผมว่าตั้งแต่เปิดร้านมาไม่เคยมีลูกค้ามานั่งรอหน้าร้านแบบนี้เลย ของยังไม่ได้เก็บเข้าร้านก็ขายหมดแล้ว เราก็ไม่ได้เตรียมตัวว่ามันจะขายดี โรงงานก็เพิ่งสร้าง เครื่องผลิตก็มีแค่ตัวเดียว จนลูกค้าต่อว่าพร้อมกันทั่วประเทศเพราะต้องการสินค้า แต่ผลิตไม่ทัน ผมจึงเชื่อว่ามันคืออานุภาพบุญ



เหมือนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่าถ้าบุญมาแม้ปีนต้นไม้ก็หนีไม่ทัน ลูกน้องผมเองแต่ก่อนก็ไม่ศรัทธาวัด เดี๋ยวนี้ฝากเงินผมไปทำบุญเพราะเห็นผมจากที่มีรถกระบะคันเดียว เดี๋ยวนี้มีสิบกว่าคัน จากที่ไม่มีโรงงาน เดี๋ยวนี้มีโรงงาน จากโรงงานเดียว เดี๋ยวนี้มีพันธมิตรอีกหลายโรงงาน โรงงานที่ผลิต NIKE ที่มีคนงานหลายพันคน เดี๋ยวนี้ยังต้องขอให้ผมมาช่วยเลย ในช่วงนี้มีบุญใหญ่คือโมดูลพอดี ทำบุญไปเงินก็มา ทำบุญไปเกือบ 20 M เงินในบัญชีเก็บก็ยังเท่าเดิม จึงเข้าใจที่หลวงพ่อบอกว่าสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง



คิดยังไงกับคำว่าความทุกข์ในชีวิต?



ต้องคิดตลอดเรื่องจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายเช็ค แต่พอผมไปดูสมุดบันทึกที่ผมจด สิ่งที่ผมอธิษฐานก็เป็นจริงทุกอย่าง คือ ขอให้ผมขายดี ขอให้มีโรงงาน ขอให้ของเราไปขายในร้านค้าหมดภายใน 3 วัน 7 วันเพราะบางร้านค้าก็ไม่ได้มีทุนเยอะ ผมจึงเชื่อในสิ่งที่พระอาจารย์อารักษ์พูดว่าใจเราเป็นธาตุสำเร็จ เพราะถ้าเราคิดไม่ดี เราคิดเอาเปรียบตัวเราเอง คิดแล้วจะติดลบ



ผมก็อ่านหนังสือของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายๆเล่ม เพราะผมการศึกษาไม่สูง แต่พออ่านแล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เยอะ แต่มาแก้ปัญหาได้ที่วัด ในเวลาที่ผมทุกข์ใจ ผมเดินไปในสภาฯเห็นรูปคุณยาย และไปอ่านเจอคำสอนคุณยายที่ว่า อดทนนะ เพราะเรามาสร้างบารมี อ่านแล้วคำเดียวจบเลยเพราะเราเกิดมาสร้างบารมี เราต้องอดทน มีหนี้เท่านี้ต้องอดทน ตอนไม่มีเงินทุกข์ไปอีกแบบ พอตอนมีเงินก็ทุกข์ไปอีกแบบ เหมือนเมื่อก่อนผมขับกระบะเก่าๆมาวัดหลังจากไปส่งของล็อครถไม่ล็อคก็ไม่สนใจ แต่เดี๋ยวนี้ขับเบ๊นซ์เวลาไปจอดไหนก็ต้องระวัง



เหตุการณ์ไฟไหม้เป็นเรื่องที่แปลก วันที่ 14 กุมภา 2552 เวลา 11.00 น. ช่วงนั้นทำบุญก็เยอะ ผมเชื่อว่าเราเป็นลูกหลวงพ่อ ปีนี้ผมตั้งใจทำบุญเยอะ พอเราจะทำมากเท่าไหร่ เค้าก็ต้องกันเรามากเท่านั้น ผมก็ไม่ยอม ผมก็ทุ่มทำ ช่วงนั้นเป็นช่วงปิดเจดีย์ ผมตั้งใจทำ 1,000 องค์ วันเกิดเหตุวันเสาร์ วันศุกร์เบิกเงินเก็บไว้ในเซฟ เพราะวันศุกร์แบงค์ปิด วันอาทิตย์จะเอาเงินไปถวายหลวงพ่อ ผมก็ไม่คิดว่ามันเกี่ยวกัน มันเป็นวิบากกรรมเก่าของผมเอง ผมคิดว่าบุญช่วยเพราะถ้าเปลี่ยนเวลาจาก 11 โมงเช้าเป็น 11 โมงกลางคืน มีกรงเหล็กปิดมิดชิด ชั้น 3 จะมีผม แฟน และคุณแม่ ถ้าไหม้กลางคืนก็คงเป็นหมูปิ้งกันแน่ ในบ้านมีเชื้อไฟอย่างดีทุกอย่าง



เหมือนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูดทุกอย่าง ของที่เรารักจะจากไปจากเราทุกอย่าง เครื่องเสียงของผม 5-6 ล้านก็ไปหมด แต่ห้องพระไฟไหม้แต่พระที่เป็นเรซิน พระอื่นๆกับรูปกระดาษพระเดชพระคุณหลวงปู่ไม่เป็นอะไรเลย แต่ผมก็ไม่เคยท้อ คิดว่าเค้าก็คงสู้กับเราเต็มที่เราก็ต้องเต็มที่ จากแรกคิดว่าจะทำพันองค์ เปลี่ยนเป็น 3,000 องค์เลย



และผมได้กำลังใจจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อว่าอีกหน่อยจะได้อยู่บ้านหลังใหญ่กว่าเดิม อีกหน่อยเค้าเหมือนมัคคโท (พ่อค้าที่โดนฟ้าผ่าถึงสามครั้งแต่ต่อมาได้เป็นใหญ่ถึงกษัตริย์) พอมาถึงตอนนี้เมื่อก่อนออฟฟิศผมรวมกัน 3 ชั้นไม่ถึง 100 ตารางวา แต่ตอนนี้มาได้ที่ใหม่ 20 ไร่ จึงคิดว่าเป็นเพราะบุญส่งผลให้เรา



ผมเข้าวัดปี 2536 ตอนเย็นผมได้มีโอกาสไปถวายปัจจัยกับคุณยายประจำ แต่ก็ไม่กล้าเอาเรื่องทุกข์ใจไปถามคุณยายฯเหมือนคนอื่นๆ แต่มีคืนหนึ่งผมทุกข์ใจมากๆ คุณยายมาเข้าฝัน คุณยายฯนั่งและก็จับมือพูดว่า “ยายดีใจกับคุณด้วยนะ เงินที่คุณหามาคุณไปสร้างวิมานใหญ่โต ยายดีใจและอนุโมทนาบุญกับคุณด้วยนะ” มันทำให้เราได้กำลังใจมาก



ดังนั้นสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่าพวกเราอยู่ในสายตาคุณยายฯ และมหาปูชะนียาจารย์นี้เป็นเรื่องจริง แม้แต่ช่วงหนึ่งผมทุกข์ใจมาก พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ท่านมายืนให้ผมเห็น ผมวิ่งไปกราบแทบเท้าเลย หลวงปู่บอก “เอ็งไม่ต้องห่วงหรอก สมบัติเอ็งกำลังจะมา” ผมก็ดีใจมาก เวลาผมมีปัญหาอะไรผมขอคุณยายฯ ปัญหาก็ผ่านไปได้ทุกอย่าง









ตอนนี้ผมอายุ 45 ปี อายุขัยเฉลี่ยมนุษย์ 75 ปี เหลืออีก 30 ปี ผมมีเวลาอีก 9,000 วัน นอนก็ 3,000 วันแล้ว ผมจึงต้องรีบขยัน รีบทำ ผมเป็นคนนิสัยไม่มีก็ทำ มีก็ยิ่งทำ และยิ่งทำก็ยิ่งมี อย่างตอนที่งานสลายร่างคุณยายฯ ตอนนั้นคิดยังไงถึงทำ เพราะตอนนั้นมีทั้งหนี้เป็น 10 M ไม่เหมือนตอนนี้ที่มีทางมาแห่งทรัพย์ ตอนนั้นคิดอย่างเดียวคือ กตัญญูคุณครูบาอาจารย์



ที่คุณยายฯสร้างวัดมาให้ผมมาสร้างบารมี ฉะนั้นถ้าถามว่า 1M เนี่ยถ้าให้ผมลำบากเท่าไหร่ผมก็ยอม มันเป็นเรื่องที่ผมตัดสินใจถูก ถ้าวันนั้นไม่ได้ทำไฟแก้วคุณยายฯ ผมก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ คือ กล้าที่จะทำบุญ M ถ้าM นึงยังไม่กล้า แล้วจะเป็นคนรวยได้ยังไง !!!



ผมจึงเข้าใจที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ และ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ หลวงพ่อท่านสอนว่า ใจเราเป็นธาตุสำเร็จ พอใจเราเปิดปุ๊บ ทรัพย์ก็มาทันที ทำบุญอย่าเอ๊ะอ๊ะ



อย่างพี่สาวผมมาพนาวัตน์ปีที่แล้ว ฟังคุณสองพูดพี่สาวผมจะทำ พอลงมาสามีไม่โอเคก็เลยไม่ได้ทำ ศรัทธาแต่ไม่ได้ทำ แล้วชีวิตเค้าก็ไม่ได้ดีขึ้น แต่ก่อนผมต้องยืมเงินพี่สาว แต่ตอนนี้พี่สาวต้องยืมเงินผม แต่ก่อนพี่สาวไปดูหมอสี่เจ้าเค้าฟันธงหมดเลยว่าผมจะเจ๊ง แต่พี่สาวผมก็ไม่ได้รวยขึ้น แบบปีที่แล้วผมทำไป 20 กว่า M แต่เค้าไม่ได้ทำเลยกลับแย่ลง นี่คนขยันนะพี่สาวผมเนี่ย ขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่เชียงใหม่ ขาย 365 วัน ไม่มีวันหยุด แต่ไม่รวย แต่ผมอาทิตย์นึงเข้าออฟฟิศ 2-3 วัน อย่างมาก 4 วัน นอกนั้นน้องผมดูแลให้หมด ผมทำงานสบายขึ้น ย้อนกลับไปปี 2546 ตอนนั้นมาวัดยังลำบากอยู่เลย เข็นรถส่งของอยู่เลย



จากที่ผมดูพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ หลวงปู่ ท่านอายุ 75 ท่านทำงานตลอดเวลา ทำวิชชาตลอด พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็ป่วย ท่านยังบอกบุญผ่าน DMC ทุกวัน คุณยายฯท่านอายุ 70 ท่านยังออกมารับปัจจัยทุกวัน แล้วท่านสร้างวัด เมื่ออายุท่าน 60 ปี ฉะนั้นผมอายุเท่านี้ จะบอกว่าเหนื่อยไม่ได้ !!!



พวกเราอย่าไปคิดแทนพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทุกอย่างที่ท่านสั่ง คือทุกอย่างท่านตรวจตรามาแล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างสำคัญต่องานพระศาสนาทั้งสิ้น



อย่างอาคาร 100 ปีนี้เป็นสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านสั่งไว้เมื่อปี 2500 ว่าให้คุณยายรอกลุ่มผู้มีบุญจะมาเผยแผ่วิชชาธรรมกาย ใช้เวลา 50 กว่าปีเพิ่งจะเกิดอาคาร 100 ปีคุณยาย ซึ่งเป็นอาคารที่จะเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก บุญนี้บุญใหญ่มหาศาล ถ้าไม่คิดไม่แปลก แต่ถ้าคิดแล้วมันเป็นสิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงปู่สั่งเอาไว้ ฉะนั้นจึงหยุดไม่ได้



น้องสาวผมยังกลัวเพราะผมทำทุกอย่างตั้งแต่รองเท้าแตะ รองเท้าผู้หญิง Monobo นี่ก็จะรองเท้าผู้ชาย Kadas เค้ากลัวคู่แข่งลงขันกันสั่งยิงผม ผมก็บอกไม่กลัวเพราะมีพระดีรุ่นหนึ่ง เรามีบุญเป็นเกราะป้องกัน เราไม่ได้รวยเพราะอยากมีเงินในแบงค์เยอะๆไม่ใช่ เราอยากจะรวยเพราะเราอยากจะทำบุญ ฉะนั้นสิ่งที่เราทำเราก็ช่วยงานพระศาสนา เราก็ช่วยสร้างคนให้เป็นคนดี อย่างงานบวชหมื่นรูป หรือ งานบวชแสนรูปที่ต้องใช้เงินมากมาย ถ้าไม่ใช่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯแล้ว ใครจะคิดทำ พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเอาบุญเป็นที่ตั้ง ท่านยอมขนาดนี้ ยอมเสียเงินขนาดนี้ ยอมเหนื่อยขนาดนี้ แล้วเราเป็นลูกเราจะกลัวทำไมคำว่า เหนื่อยไหม เลิกคิดไปได้เลยครับ





อาคารคุณยายฯได้ยินครั้งแรกตอนบ้านไฟไหม้ ก็ดูบ้านตัวเองกำลังตกแต่งก่อสร้าง พอยืนๆดูบ้านก็คิดว่าถ้าเราทำบุญนี้กี่ภพกี่ชาติเราคงมีบ้านเหมือนวังเลยเนอะ คิดเล่นๆแป๊บเดียวคุณฮุ้งโทรมาพูดถึงอาคารคุณยาย เลยคิดว่าบุญอย่างนี้น่าทำสัก 100 M ผมเป็นคนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อสั่งแล้วรีบทำ ไม่เอ๊ะอ๊ะ จะได้รีบรวย รวยตอนหนุ่มดีกว่าตอนแก่ พอไปสัมมนาที่เมืองทองเห็นคุณอนันต์พูด ตอนนั้นถ้ามีเงินในแบงค์ถวายหมดเลยนะ เพราะอาคารนั้นมีโรงเรียนปริยัติธรรม เพราะผมมีการศึกษาน้อย ใจเลยอยากคิดสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม



ย้อนไปสมัยพระเดชพระคุณหลวงปู่ ท่านสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม ฉะนั้นการสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมต้องบุญมาก พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านถึงทำ



สำหรับ อาคารนี้จะรวมคนทั่วโลกมาทำงานเผยแผ่วิชชาธรรมกาย เป็นทั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรม ห้องสัมมนา และที่เผยแผ่วิชชาธรรมกาย ฝ่ายพุทธศิลป์ชวนผมทำบุญจอมอนิเตอร์ของ DMC ผมทำบุญปุ๊บได้แบบรองเท้าใหม่ปั๊บทันที ผมมาวัดผมมีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสียเลยนะ อาคารที่ทำจะทำให้คุณมีอาชีพมั่นคง เพราะเป็นการฝังรากงานพระพุทธศาสนา อาคารที่ทำ ทำเพื่อวิชชาธรรมกาย เผยแผ่งานอายุพระพุทธศาสนา 100% ตลอด 24 ชั่วโมง มีอาคารไหนในโลกจะกล้าการันตีว่าที่นี่คนทำงานอย่างน้อยศีล5 ศีล 8 ศีล 10 ศีล 227 ยิ่งคิดยิ่งได้บุญ











หิน ดิน ทราย ตะปู ทุกตารางนิ้วของอาคาร เราได้บุญอย่างเดียว ตอนแรกน้องผมก็กังวลว่ามันดูเลิศหรู สร้างดูสมัยใหม่ แต่ผมก็บอกว่าลองย้อนกลับไปดูบรมพุทโธที่อินโดนีเซีย อัฟกานิสถานที่เพิ่งโดนยิงระเบิดไปนั้นบ่งบอกถึงความเจริญของอายุพระพุทธศาสนา พวกเรารู้มั้ยว่าวิชชาธรรมกายดียังไง สำคัญยังไงต่อชาวโลก และเป็นของแท้ของพระพุทธศาสนา ฉะนั้นอาคารแค่นี้ถ้าเราสร้างตึกแค่สามชั้น ฝรั่งมาเห็น แค่นี้เองเหรอจะเผยแผ่ไปทั่วโลก เหมือนไปห้าง ถ้าไปเอ็มโพเรียม มันดูหรู ดูใหญ่ ดูไฮโซ มันรู้สึกมีอะไรน่าเข้าไปดู



อาคารหลังนี้จึงบอกว่าความเจริญของพระพุทธศาสนามีแค่ไหน ฉะนั้นจึงต้องให้ดีเลิศ ประเสิรฐ Excellent ตราบเท่าที่คุณอนันต์เค้าจะออกแบบสร้างได้ พวกเราก็ต้องสู้และสร้างให้สำเร็จ ฉะนั้นอาคารนี้ All in one ทุกอย่างเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา



ผมอยากให้พวกเรารวย ไม่ต้องกังวลจะมีเงิน ไม่มีเงิน เศรษฐกิจไม่ดี จะมีหนี้เท่าไหร่ ลืมไปเลยว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าเราคิดปุ๊บ เราเสร็จเค้าเลย อย่าไปรับรู้ในสิ่งที่ทางโลกเค้ารับรู้เลย เพราะหกพันกว่าล้านคนเค้ารับรู้ไปแล้ว เราต้องสร้างภาพในใจว่าเราต้องรวย หลวงพ่อต้องสร้างเท่าไหร่ กองเท่าไหร่ เราต้องคิดภาพว่าเราไปเดินในวันงานกฐิน ทำยังไง จะหาวิธียังไง และคิดว่าเราทำให้ได้



ตอนนี้ผมขยันดูบัญชีมากกว่าปกติเลย นอนไม่ค่อยหลับ วันเวลาเรามีน้อย เราต้องรีบเอาบุญ ผมเป็นตัวแทนคนที่จะพูดว่าบุญสำคัญ ผมมีเทคนิคว่าเราต้องไม่กลัวเค้า เรามีข้อดีที่ว่าเรามีหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย คนอื่นเค้ามีครูแค่คนเดียว แต่เรามีตั้งสามคน แล้วก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดา แล้วจะกลัวไปทำไม เราต้องคิดบวกอย่างเดียว ผมอ่านหนังสือคนที่ประสบความสำเร็จในโลกสรุปได้ว่าต้องคิดบวกอย่างเดียว คิดแต่จะสำเร็จ คิดจนไม่ใช่ทางพวกเรา ทางพวกเราต้องคิดรวย รวยเร็ว รวยแรง รวยรวด รวยแบบไม่มีเหตุผล รวยแบบไม่ต้องคิดอะไร ใครจนเรื่องคนอื่น พวกเรารวย



พระเดชพระคุณหลวงพ่อสอนว่า



ทั้งชีพเหนื่อย เมื่อยล้า ทุกทีไป ถ้าหนื่อย เหนื่อยอย่างไรถ้าคุ้ม เหนื่อยสร้างบารมีไง ควรเหนื่อย เหนื่อยอย่างนี้ บุญอุ้ม ส่งให้ สุดธรรม







กราบ ขออนุญาต และ ขอขอบพระคุณ กัลยาณมิตร ศรันย์ ภูริปรัชญา ที่ได้นำเรื่องราวอานุภาพบุญมาแบ่งปันแด่ลูกพระธัมทั่วโลกทุกท่านครับ สาธุ





เรียบเรียงโดย แผ่นดิน omg_smile.gif (สู้ๆ) มาเป็นแผ่นทองเดียวกันกับคุณครูไม่ใหญ่กันนะครับ



ขอบพระคุณ ท้องฟ้า ที่ช่วยเหลือในทุกสิ่งทุกอย่างครับ



#2 usr20631

usr20631
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 October 2009 - 07:09 PM

ขออนุโมทนาบุญกับคุณศรันย์ด้วยค่ะ เป็นแรงบันดาลใจที่สุดยอดเลย!!

#3 luckynara

luckynara
  • Members
  • 714 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 October 2009 - 08:10 PM

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

#4 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 01 October 2009 - 08:12 PM

กราบอนุโมทนาบุญกับคุณศรันย์ ภูริปรัชญา
และท่านpandin24 ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

เส้นทางนี้เส้นทางธรรมเส้นทางบุญ.........



#5 gimji

gimji
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 October 2009 - 12:55 AM

สาธุ สาธุ สาธุ

#6 Nida49

Nida49
  • Members
  • 456 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 October 2009 - 10:56 AM

อ่านแล้วใจฟู ขึ้นอย่างมากเลย

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

สาธุ

#7 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 02 October 2009 - 11:57 AM

อ่านแล้วทุกถ้อยคำเปี่ยมด้วยกำลังใจจริงๆ ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#8 ปีติบุญ

ปีติบุญ
  • Members
  • 153 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 October 2009 - 01:19 PM

ขออนุโมทนาบุญกับทุกบุญของคุณศรันย์ และคุณpandin24 และทุกบุญของทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ

#9 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 October 2009 - 01:54 AM

สาธุ ครับผม


#10 Gig

Gig
  • Members
  • 29 โพสต์

โพสต์เมื่อ 03 October 2009 - 09:17 PM

พรุ่งนี้อาทิตย์ต้นเดือน เต็มที่ค่ะ คิดบวก ไม่ห่วงไรแล้ว ถึงเป็น นักบุญทุนน้อย แต่ก็จะสู้ค่ะ เรือ่งอื่นช่างมัน ยิ่งมาเข้าวัดช้า ยิ่ง ต้องเร่งสร้างบุญให้เต็มที่ เพราะโอกาสจะได้ทำบุญอย่างคุณ ศรัณย์ น้อยกว่าแล้ว ยิ่งเสียดายไม่ได้พบคุณยาย ยิ่งต้องเอาบุญกับท่านให้ท่านคุ้มครอง

ขออนุโมทนา กับคุณแผ่นดินที่นำธรรมะ ดีๆ มาฝาก ให้ตลอด สาธุนะคะ