-
--------
#1
โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 08:18 PM
#2
โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 09:29 PM
#3 *sky noi*
โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 09:40 PM
เป็นบุญของน้องแล้วนะคะที่ได้เข้ามาช่วยรับบุญที่วัด
มีคนอีกมากมายที่ไม่มีโอกาสแบบนี้ อนุโมทนาบุญกับ บุญเกิดด้วยนะ
เราต้องอย่าลืมความตั้งใจครั้งแรกของเรา เราต้องหมั่นทบทวนสิ่งนั้น
และจำไว้ว่าเรามี "ธรรมะ ภาระกิจ และหลวงพ่อ" อยู่ในใจเสมอ
ปรับที่มุมมองของเราก่อนและเข้าใจในหน้าที่ของการเป็นลูกหลวงพ่อ
ให้นึกเสมอว่างานทุกอย่างที่ทำเป็นบุญ หยิบจับทำอะไรก็เป็นบุญ เพราะบางครั้งความเคยชินก็ทำให้เราลืมไป
มีความสุขกับทุกสิ่งที่ทำ เพราะนั่นคือบุญของเรา พยายามตรึกธรรมะให้ได้ตลอดเวลาในทุกกิจกรรม
ทำการบ้าน 10 ข้อของหลวงพ่อ เวลาทำงานก็พยามทำการบ้านของหลวงพ่อ ไม่ต้องซีเรียสว่าได้หรือไม่ถ้าทำบ่อยๆจะชินเอง
นั่งสมาธิให้ได้ดี การบ้าน 10 ข้อสำคัญมาก และอย่านอนดึกเพราะต้องตื่นเช้า รีบเคลียร์ตัวเองห้ามเกิน 4 ทุ่ม
ง่วงก็หลับเลยก็ได้ นั่งก็ได้บุญแล้วเหมือนกำปั้นทุบดินไง ยังไงก็โดน
เราเจอคนเยอะเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้แม้เวลาแค่ 1 นาทีเราเจอคนสองคน อีกคน 1 ทำให้เราใส อีกคนทำให้เราหมอง มันมีเป็นเรื่องปกติ
แต่ขอให้เรารีบเอาใจกลับมาที่ศูนย์กลางกายแล้วทิ้งสิ่งที่เราไม่ชอบใจตอนนั้นเลยค่ะ
สู้สู้ บุญเกิดทำได้ และทำได้ดีอยู่แล้ว..
#4
โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 09:45 PM
ไม่มีอะไรอยากเกินไป ถ้าเราอยากที่จะทำมันหรอก...
ใครก็ไม่สามารถช่วยเราได้...นอกจากตัวของเราเอง....
เหนือยนัก ก็มาพัก หายเหนื่อยแล้วค่อนไปทำไหม่
"ถ้าไม่เหนื่อยแล้วจะได้บารมีมาจากไหน" จริงไหม
ไม่มีเวลาไม่มีในโลก แต่เวลาที่มีเราจะเอาไปทำอะไรบ้างก็ต้องแล้วแต่เราแล้วแหละ ... ให้รางวัลตัวเองบ้าง...
พักใจ พักกาย เอาเรื่องวุ่นวายออกจากสมอง นั่งสมาธิทุกๆๆๆวันนะ อย่าบอกว่าไม่มีเวลา เพราะเวลาเป็นของเรา
แล้วก็อย่าลืม"ความตั้งใจก่อนที่จะมาสร้างบารมีในวัด" ต้องหมั่นตอกย้ำปณิธานและเป้าหมายของตัวเอง
"ถ้าท้อจะเพียงถ่าน แต่ถ้าผ่านจะกลายเป็นเพชร" จำไว้น้า
อย่าลืมว่า "พ่อเหนื่อยกว่าเราเยอะ พ่อยังไม่ท้อเลยพ่อยังสู้ และไม่เคยหยุดพัก แล้วเราจะปล่อยให้พ่อเหนื่อยอยู่คนเดียวอย่างนี้เหรอ"
สุดท้าย ท้ายที่สุด หัดให้กำลังใจตัวเองเยอะๆนะ ไม่มีใครให้เราได้มากเท่ากับที่ตัวเราต้องสร้างกำลังใจด้วยตัวเราเองหรอก
สู้ๆๆๆ
#5
โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 09:45 PM
คุณบุญเกิด กำลังเข้าสู่ภาวะ ขั้นตอนการอัดตัวจนใสปิ๊งเป็นเพชรที่มีค่ามากค่ะ
จากถ่าน กว่าจะเป็นเพชรได้ ต้องผ่านการอัด ดัน เผา หลอม ด้วยไฟจากแกนโลกซึ่งมีอุณหภูมิสูงมาก
อีกไม่นาน คุณบุญเกิด กำลังจะกลายเป็นเพชรน้ำงามแล้วค่ะ
คงมีหลายๆ คนที่ผ่านกระบวนการนี้มาก่อน แล้วหากเข้ามาอ่าน ก็จะเห็นเหมือนอย่างที่ฟ้าฯ เห็นค่ะ
ตอนนี้คุณบุญเกิด อาจมีความคาดหวังสูง กับการรับบุญ จากที่เมื่อก่อน มองภาพเข้ามา เห็นแต่ความสวยงาม แต่ในความเป็นจริงแล้ว งานทั้งเหนื่อย ทั้งหนัก ทั้งมีเรื่องสารพัด ฯลฯ หากใจไม่ใสตลอดเวลาต่อเนื่องแล้วละก้อ กอปรกับว่า ขาดกัลยาณมิตรคอยประคับประคอง กำลังใจละก็ ท้อแน่นอน
เอาใหม่นะคะ ฟ้าฯ ขอเป็นกำลังใจให้
ต้องหัดคิดใหม่ กลับด้านจากลบ ให้เป็นบวกให้ได้ ในทุกๆ ด้าน
ยกตัวอย่างเช่น
เหนื่อย รับบุญหนัก บังคับใจตัวเองให้มองมุมกลับให้ได้ ว่า เรากำลังได้บุญมากกว่าใครๆ เลยนะนี่ บริวารสมบัติเกิดขึ้นพรึ่บพรั่บ เป็นต้น
ท้อ ก็ให้มองว่า ถ้าเราเอาเวลา ไปทำงานข้างนอก ก็ท้อเหมือนกัน แถมยังเหนื่อยกว่าด้วย ต้องรบราฆ่าฟันกับกิเลสของคนที่ซึ่งมีมาก แต่เราจะได้ปัญญาบารมีนะคะ
ฯลฯ
อยากให้ระลึกไว้เสมอนะคะ ของทุกอย่าง มีสองด้านเสมอ
ในร้าย มีดี.. ในดีมีร้าย
อยู่ที่เรา จะเลือกมองด้านไหน
อยู่ที่เรา จะเลือกสรรหาความทุกข์มาใส่ตัวเอง หรือสรรหาความสุขตลอดเวลามาใส่ตัวเองค่ะ
ไหนๆ ก็ตัดใจมาช่วยงานหลวงพ่อแบบเต็มตัวแล้ว เอาให้ได้บุญเน็ตๆ ไปเลยค่ะ เรามีชีวิตอยู่อีกแค่ไม่กีปีเท่านั้น ก็ต้องกลับบ้านเก่า บ้านดุสิตบุรีไงคะ บนนั้น เราจะได้พักกันค่ะ (ชั่วคราว) ^^
คิดว่าทุกอนู ทุกวินาที คือการทำบุญ ทำหน้าที่ แล้วพยายามไม่เอาใจเราไปติดกับสิ่งที่พูด, ได้ยิน, กระทำ สลัดมันออกไปไม่ยึดติด
ยิ้มๆ เข้าไว้ เดี๋ยวใจก็จะใสเอง สลัดอารมณ์ขุ่นมัวบ่อยๆ เอาอารมณ์ดีๆ ด้วยการนึกถึงองค์พระ หรือหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย ให้ท่านเป็นเรา เราเป็นท่าน บ่อยๆ เมื่อช่วงอารมณ์เสียๆ ทำบ่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ อย่าลืมทำ เดี๋ยวดีเองค่ะ
เอาใ่จช่วยเต็มที่ค่ะ มีอะไร มาแบ่งปันในเว็บบอร์ด ก็ได้ค่ะ ยินดีต้อนรับและเป็นกำลังใจให้เพื่อนนักสร้างบารมีนะคะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#6
โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 11:05 PM
#7
โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 11:19 PM
- ปรับใจให้มีฉันทะ หากภาระงานมากเกินกำลัง เริ่มท้อแท้ หมดกำลังใจ ควรหาเวลามา(ชาร์จแบต)กลั่นใจให้ใส ละเอียด พร้อมกลับมารองรับงานหยาบได้เต็มกำลัง
#8
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 12:33 AM
พี่ว่ายังไงก็ต้องฝืนใจนั่งสมาธิให้ได้ทุกๆ วันนะคะ ไม่ว่าจะเหนื่อย จะง่วงแค่ไหนก็ตาม
ลองเปลี่ยนจากนั่งสมาธิก่อนนอน เป็นนั่งสมาธิหลังจากตื่นนอนดูซิคะ รับรองไม่เหนื่อย ไม่ง่วงแน่ๆ ค่ะ เพราะว่าพักผ่อนมาเต็มที่แล้ว
สู้ๆ นะคะ อย่าลืมว่าน้องไม่ได้สู้อยู่คนเดียวนะคะ ลูกหลวงพ่อทุกๆ คน ก็ต้องสู้กันทั้งนั้นล่ะค่ะ ไม่ว่าอยู่ในวัดหรือนอกวัด
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#9
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 08:00 AM
ก.สุข
ข.ทุกข์
เลือกเอา เราเลือกได้นี่คะ จะ เลือก ก ข สุข ทุกข์, ขข ทุกข์ ทุกข์ หรือ กก สุข สุข แล้วแต่เราคะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
happiness is all around
#10
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 01:18 PM
และขอกราบอนุโมทนากับทุกบุญด้วยนะครับ สาธุ สาธุ...
..AT LAST YOU WIN...
ไฟล์แนบ
#11
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 02:00 PM
ไฟล์แนบ
#12
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 02:56 PM
#13
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 04:51 PM
ถ้าท้อก็เป็นถ่าน ถ้าผ่านก็เป็นเพชร ครับ เอาใจช่วยนะครับ ทำงานก็ต้องมีอุปสรรคเป็นธรรมดาครับ สู้ สู้ ครับ
#14
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 08:13 PM
และคำชี้แนะที่ดีของกัลยาณมิตร SaDhu.gif 22.04K 44 ดาวน์โหลด
นอกจากเรื่องการบริหาร จัดสรรเวลางานส่วนรวมกับเวลานั่งสมาธิแล้ว
ขอเสริมเรื่อง โยนิโสมนสิการ ครับ
ยาจก วนิพก แม้มีทรัพย์น้อย ไร้ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือไร้ญาติมิตร
ก็มีความสุขในชีวิตได้ ถ้าใช้โยนิโสมนสิการ
เศรษฐี คหบดี นายกรัฐมนตรี สุลต่าน หรือมหาราชา
แม้มีทรัพย์มหาศาล มากด้วย ลาภ ยศ สรรเสริญและกำลังบุคคลในทิศ ๖
ก็อาจไร้ความสงบสุขทางใจ มีความกังวล ทุกข์ทางใจ เคร่งเครียดในชีวิตเสมอ
ถ้าขาดโยนิโสมนสิการ
นักสร้างบารมี ก็เช่นกันครับ
แม้มีศรัทธา มีศีล มีวิริยะ มีสติ มีสมาธิ มีปัญญา ในการรับบุญ หมั่นสร้างกุศลกรรมเนือง ๆ
แต่ถ้า ไม่ใช้ โยนิโสมนสิการ ในกาลที่ควร ก็อาจใจตก ท้อแท้ในการทำความดีได้ครับ
ลองศึกษาเรื่อง โยนิโสมนสิการ 10 วิธี
แล้วเลือกมาปรับทัศนคติ ในการสร้างบารมี ดูนะครับ
โยนิโสมนสิการ
http://www.bloggang....w...=24&gblog=4
วิธีแก้ไขเมื่อใจหมอง ด้วยเหตุใดๆ :
จรดใจที่ศูนย์กลางกายฯ ๗ , ทำสมาธิ นั่งสมาธิ , ทำการบ้าน ๑๐ ข้อ , นุสสติ ๑๐ ,บุญกิริยา ๑๐ , กุศลกรรมบท ๑๐
#15
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 08:15 PM
อย่าลืมว่าเริ่มแรกเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นนะคะ
นั่งสมาธิไม่ว่าจะนั่งแล้วหลับ หรือนั่งไม่ได้เหมือนตอนที่มาวัดครั้งแรกๆ
ตอนนี้รับบุญ งานหยาบต้องควบคู่กับงานละเอียดด้วยนะคะ
เพราะหากข้างงานหยาบไม่ละเอียด แล้วงานละเอียดจะหยาบค่ะ
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
#16
โพสต์เมื่อ 25 November 2009 - 09:45 PM
#17
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 12:18 AM
"อย่านึกว่าเข้ามาสร้างบารมีในวัดแล้วจะมีบุญมาก คนมีบุญมาก
คือคนที่นึกถึงบุญได้"
ผมเองเคยได้ฟังว่าครั้งหนึ่ง หลายปีมาแล้วตอนที่คุณครูไม่ใหญ่
กำลังเดินลงจากมหาธรรมกายเจดีย์..ท่านก็พูดกับลูกๆและคนใกล้
ชิดว่า "เรารู้จักลูกท้อมั้ยจ๊ะ แต่ไม่เคยรู้จักพ่อท้อใช่มั้ยจ๊ะ เพราะ
พ่อไม่เคยท้อ"
ปล.1อนุโมทนาบุญกับทุกๆบุญของคุณบุญเกิดด้วยนะคร้าบ...
ปล.2ชอบภาพประกอบของคุณบุญเลี้ยงจังเลยครับ น่ารักมาก
ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"
#18
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 12:25 AM
#19
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 05:17 AM
ยึดคำพูดของหลวงพ่อ มาตลอด
แค่คำพูดธรรมดาเล็กน้อยที่ได้ยินมาจากหลวงพ่อนี่ก็ทำให้ใจใสแล้ว
เช่น ใจเป็นธาตุสำเร็จ
ตีความหมายให้แตก ใจหนักแน่น ตรึกอยู่ในบุญ
แข็งแกร่งแล้ว มีอะไรมากระทบก็ไม่หวั่นไหว
แม้นใครไม่เข้าใจก็ ไม่สะทกสะท้าน
ยิ่งถ้าใครได้ผ่านช่วงปีสี่ศูนย์ที่ถูกมารสะกัด
พวกเราในวัดนิ่งเสียยิ่งกว่าสิ่งใด
ใครด่าก็บาปเค้า เราไม่เกี่ยว มีหน้าที่แก้ต่างเท่านั้น
เชื่อไม่เชื่อตามใจเค้า เพียงได้ทำหน้าที่แล้วใจใส
แค่คิดแค่นี้ก็ปลี้มแล้ว
เรื่องที่พบคนที่ไม่เข้าใจวัดเล็กๆน้อยๆนี่ เรื่องน้อยจิ๋วไปเลยล่ะคร้าบบบ
เลือกเอา ใจใสๆ
#20 *sky noi*
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 12:50 PM
อย่าไปไหนนะ ให้อยู่วัด
ให้นึกถึงแต่บุญนะ
ตายแล้ว เราเอาอะไรไปไม่ได้ เอาไปได้ แต่บาปกับบุญนะ
#21
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 05:44 PM
ได้อ่านของทุกท่านแล้ว บอกตรงๆ ว่า คนไกลบ้าน มีกำลังใจในการทำบุญ สร้างบารมีอีกมากโขค่ะ
ชอบมากๆ "พ่อไม่ท้อ" ------------ นะคะ เจ้าของกระทู้ อย่าท้อนะคะ เรารู้อยู่ว่า เราทำอะไร เพื่อใคร และจุดหมายเราคืออะไร
คุณยายท่านบอกว่า "การสร้างบารมี ไม่ใช่ของง่าย ยายสู้มานักหนา สู้หัวชนฝา" ขนาดคุณยายท่านมีบุญมาก มีบารมีสูง
ท่านยังได้ออกเหงื่อ ออกแรง รับภาระหนักอึ้ง เราลูกหลานยาย ต้องสู้นะคะ...
"สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย..สู้ดีกว่านะ"
ขอให้ทุกท่าน อยู่เย็นเป็นสุข ค่ะ
คนไกลบ้าน แต่หัวใจใกล้วัด...
#22 *sky noi*
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 06:59 PM
งั้นหัวใจเราก็ใกล้กัน
#23
โพสต์เมื่อ 26 November 2009 - 10:23 PM
#24
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 08:28 AM
ที่คอยประคับประคองกันและกัน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ๆ เราก็มีใจเดียวกัน
LOVELY LOVE LOVELY LOVE LOVELY LOVE...............
ทันสมัย ใหม่เสมอ จนกว่าคุณจะชนะค่ะ
ส่วนมากพวกเราเหล่าต้นกล้าน้อย อินทรีย์ยังอ่อนก็มักจะป็นกันเช่นนี้
อันที่จริงถือว่าโชคดีที่ได้เข้าวัด ได้ทั้งบุญและได้ทั้งวัดธรรมะในตัวเราเอง
ด้วย เพื่อที่จะได้พัฒนาให้เติบโตถูกทิศทาง ทางดำ ทางขาว หรือ มัวซัว
ขอเป็นกำลังใจสู้ต่อไปนะคะ อย่าติดที่กระพี้แต่ให้เอาแก่นธรรมเป็นหลัก
บุญจะได้ไม่ตกไม่หล่น และต้องไม่ลืมว่าปลามาได้ งูก็มาได้เช่นกันเพราะ
วัดเปรียบเป็นเช่นทะเลบุญ สรรพสัตว์ทั้งหลายกำลังแหวกว่ายกันอยู่
รวมทั้งตัวเราด้วย เพื่อไปให้ถึงฝั่งพระนิพพาน ขอให้บุญรักษา ดวงบุญ
โตวันโตคืนนะคะ และปัญหาหมดไปค่ะ
#25
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 06:40 PM
แต่ตอนนี้ไม่มีโอกาสตรงนั้นแล้วค่ะ
เพราะอยู่ไกล แต่ใจยังอยู่ใกล้นะคะ
#26
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 10:01 PM
-
#27
โพสต์เมื่อ 27 November 2009 - 10:56 PM
โอกาสได้ไปวัดมีน้อยมาก
ดีจังเลยค่ะ ได้อยู่ในวัด สามารถเอาบุญได้เต็มที่เลยละ
สู้ๆ นะคะพี่บุญเกิด
พี่บุญเกิดมีบุญมากเลยย ที่ได้มาทำงานตรงนี้ อยากทำบ้าง
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
#28
โพสต์เมื่อ 28 November 2009 - 03:03 PM
ด้วยความเป็นห่วงจากเพื่อนนักสร้างบารมี
#29
โพสต์เมื่อ 28 November 2009 - 05:24 PM
ทำให้ใจใสๆกลับมาเหมือนเดิม นี่คือคุณค่าของคำว่า "กัลยาณมิตร" วันไหนคุณบุญเกิด
เห็นนอ.ฝันในฝันท่านใด ขาดกำลังใจ ก็จงอย่ารีรอที่จะเข้าไปให้กำลังใจ เหมือนที่คุณบุญเกิดได้รับในครั้งนี้นะครับ
เพราะโลกนี้ขาด "กัลยาณมิตร" ไม่ได้
#30
โพสต์เมื่อ 28 November 2009 - 08:11 PM