มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ใยไหม]

หนูและสามีแต่งงานกันมา 5 ปี แล้ว เรามีลูกด้วยกัน 2 คน อย่างละ 1 ค่ะ แต่ตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันหนูไม่มีความสุขเลยค่ะ
และตัวสามีเองก็ไม่เคยเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี ไม่เคยเป็นสามีที่ดี ไม่มีคำปลอบโยนเวลาที่เราเสียใจ ไม่เคยให้กำลังใจในยามที่เราต้องการ
ติดเพื่อน รักสนุกกับการตกปลา ครอบครัวมาทีหลัง และปัญหาทีสำคัญอีกเรื่องคือ ทางครอบครัวสามีโดยเฉพาะแม่สามี ชอบพูดจาดูถูกต่อว่า
กระแนะกระแหนทุกครั้งที่เราพาครอบครัวไปเยี่ยมเค้า พูดจาเหน็บแนมแม่ของเราซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก แต่ทางสามีซึ่งเป็นคนกลางกลับ
ไม่เคยแก้ไขอะไรเลย พูดให้แต่เราเข้าใจและทำใจยอมรับในตัวพ่อแม่เค้า ซึ่งเรื่องพวกนี้สะสมมานานจนวันนึงหนูตัดสินใจบอกเลิกกับสามีแต่เค้าก็
ยังไม่ยอมหย่าให้หนูเค้าพูดแต่ว่าเค้ารักหนูรักลูกเค้าไม่ยอมหย่า แต่ตัวเค้ากลับไม่ปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น โทรไประรานที่ทำงานใหม่ของหนูจนปัจจุบัน
หนูและสามีแยกกันอยู่ได้เกือบครึ่งปีแล้ว ถ้าถามใจหนู ณ เวลานี้หนูอยู่กับลูก 3 คน หนูสบายใจมาก หนูสามารถจะทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องรอเค้า
ไม่ต้องขออนุญาตเค้า ถามตัวเองว่ามีความสุขหรือเปล่าที่เป็นแบบนี้ ในใจก็ตอบกลับมาทุกครั้งว่ามีความสุขมาก หนูจะทำยังงัยดี

[kissy]

สู้ ๆ นะคะ พยายามอย่าไปคิดเรื่องสามี ให้ใจหมอง

วันอาทิตย์ ก็พาลูก ๆ มาวัด บ้างนะคะ

ทำใจใส ๆ

[WISH]

ปรับใจให้มีความสุขกายสบายใจ รักษาใจเราไว้อันดับแรก และ เผื่อแผ่ให้คนที่รักอีก 3คน

ลอง download ไว้ศึกษาด้วยตนเองครับ"ครอบครัวอบอุ่น"

http://www.kalyanami...tail.php?id=134

[หัดฝัน]

ดังที่คุณ sky noi บอกมานั่นแหละครับว่า

หากสร้างบุญร่วมกันมามากๆ ก็จะเป็นเนื้อคู่บุญบารมีกัน

แต่หากสร้างบาปร่วมกันมามากๆ เหอ เหอ ก็จะเป็นเนื้อคู่กรรมคู่เวรกันนั่นแหละครับ

[~{ TID }~]

สู้ๆนะครับ

อยู่ในบุญ ใจใสๆนะครับ

คนที่ไม่ครองเรือนเพราะเรื่องแบบนี้อะครับ

มาสร้างบารมีกับหลวงพ่อ

ไปที่สุดเห่งธรรมดีกว่าครับ

[kissy]

คู่สร้างคู้สม คู่บุญคู่บารมี คู่เวรคุ๋กรรม คู่กัด _*_

โห....มีตั้ง 4 คู่

แต่ขอเจอเฉพาะ คู่บุญเถอะ

[นายดีใจ]

พาสามีมาวัดครับ อธิษฐานประกอบ ให้ได้เข้าหาหมู่คณะที่ดี่

ทำดีกับสามีให้ดีที่สุดครับ ยิ่งทำมากกรรมยิ่้งน้อยลง

[ใยไหม]

ขอบคุณนะค่ะสำหรับทุกกำลังใจ สำหรับคู่ของหนูและสามีคงจะเป็นคู่กรรมคู่เวร คู่หนังคู่กระดูกซะมากกว่า 555555

แต่ปัจจุบันหนูได้พบผู้ชายอีกหนึ่งคน ซึ่งอายุน้อยกว่ามากตั้ง 13 ปี แหน่ะค่ะ แต่มีหลายๆ อย่างที่เราเข้าใจกันถึงเค้าจะอายุยังน้อย

แต่มีความคิด ความสามารถหลายอย่างขยันขันแข็ง (ที่บ้านเค้าทำผลไม้ส่งออกค่ะ)

และเค้าก็รับสภาพในความเป็นคุณแม่ลูก 2 ได้ อีกทั้งครอบครัวเค้าก็เข้าใจเรารักเราและลูกของเรา ทางแม่ของฝ่ายชาย

เคยเอาดวงไปดูด้วยกันเค้าก็บอกว่าเป็นเนื้อคู่ที่เกื้อหนุนกัน หนูก็เลยไม่รู้ว่าตกลงใครคือเนื้อคู่ที่แท้จริงของเรา

เพราะหนูเองก็ไม่อยากมีตราบาปติดตัวว่าอยากจะเลิกกับคนหนึ่งเพื่อไปรักอีกคนหนึ่ง แต่เวลาที่หนูอยู่กับเค้าและครอบครัวเค้า

หนูและลูก ๆ มีความสุขมาก ซึ่งผิดกับเวลาที่อยู่กับสามีมากหน้ายังไม่อยากเห็นเลยค่ะ

[@--แสงตะวัน--@]

ขอถามพื้นฐานการสร้างบารมีของทั้งฝ่ายเจ้าของกระทู้ กับฝ่ายสามี ซะหน่อยได้ไหมครับ เพราะเป็นข้อมูลสำคัญในการให้ความเห็น
สามีดื่มเหล้าหรือเปล่าแล้วศีลข้ออื่นมีข้อไหนพร่องอีกหรือเปล่า แล้วขออนุญาติถามถึงเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับว่าศีลครบหรือไม่ โดยเฉพาะข้อ 4 อีกคำถามถ้าไ่่ม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ ตอนที่แต่งงานกันรักกันหรือเปล่า แ้ล้วจำความรู้สึกที่ดีๆ กันก่อนแต่งานได้หรือเปล่า (หลับตาแล้วย้อนคิดนะครับ)

จริงๆ คำตอบทั้งหมดอยู่ในหนังสือครอบครัวอบอุ่นแล้วหละครับ ถ้าไม่อยากตอบคำถามข้างต้นก็ลองหยิบหนังสืออ่านก็ได้ครับ เพราะเรืื่องนี้มัน sensitive พอสมควรกับการให้ความเห็น ขนาดทั้งผมและภรรยาเข้าวัดด้วยกันทั้งคู่ ยังทะเลาะในเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่เป็นประจำเลยครับ ฮิ ฮิ ลิ้นกับฟันครับอย่าคิดมาก ถ้าได้ฟัง case study มามาก จะเห็นเลยว่าปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นได้กับแทบทุกคนในชีวิต "เราเคยทำไว้อย่างไรก็ได้ผลอย่างนั้น" ฝากรูปนี้ไว้เป็นกำลังใจคุณแม่ผู้เด็ดเดี่ยวนะครับ

 P1010503.JPG   167.56K   54 ดาวน์โหลด

[@--แสงตะวัน--@]

เพิ่งเห็นคำตอบล่าสุดของคุณใยไหม ขอเตือนว่าผู้ชายส่วนใหญ่เชื่อไม่ได้ทางโทรศัพท์ ยิ่งถ้าเพิ่งคบกันไม่ถึง 1 ปี ยิ่งไปกันใหญ่
เตือนด้วยความเป็นห่วงนะครับ ไม่เชื่อลองให้คะแนนของทั้งเราและเค้าใน 3 เรื่องคือ ศรัทธา ศีล และทิฐิ ว่าเสมอกันหรือเปล่า หรือถ้าจะดูดวงแนะนำให้ดูดวงในตัวดีกว่า แม่นกว่าเยอะ :-)

ด้วยความเคารพนะครับ ผมเป็นคนพูดตรงๆ ไม่โกรธกันนะครับ

[ใยไหม]

ขอบคุณค่ะคุณแสงตะวันที่ทำให้มองเห็นอะไร ๆ ในแง่มุมที่แตกต่างกันไป ดีซะอีกค่ะที่มีคนคอยแนะนำคอยเตือน

เพราะบางครั้งการที่เราคิดอยู่คนเดียวเราก็ว่าความคิดของเราถูก เพราะตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตคู่เราต้องทำเองทุกอย่าง

คิดเองตัดสินใจเองสามีไม่เคยช่วยอะไรได้เลย ฉะนั้นเลยทำให้เราคิดว่าเราตัดสินใจถูกแล้ว

ไหมก็ว่าคนใหม่เค้าอาจจะเข้ามาในยามที่เราต้องการใครซักคน ซึ่งบังเอิญมันช่างเหมาะเจาะอะไรปานนั้น

เลยทำให้เราคิดไปว่าเค้าคือคนที่ใช่ ยังงัยไหมจะลองทบทวนศึกษาเค้าไปก่อนนะค่ะ (ไม่รุว่าจะผิดหรือเปล่า)

แต่ตอนนี้ไม่ว่ายังงัยไหมก็ยังยืนยันกับตัวเองอยู่ว่า "เราอยู่ได้โดยไม่มีเค้า"

เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันก็เหมือนไม่มีเค้าอยู่อยู่แล้ว ก็เลยไม่รู้สึกเหนื่อยหรือลำบากอะไรมากขึ้นไปกว่าเดิม

[@--แสงตะวัน--@]

ดีครับ เหมือนกับคุณไหมมีคำตอบในใจแล้ว ผมว่านั่นหละคือคำตอบที่ถูกต้อง เพราะปัญหาในชีวิตคงให้ใครมาตัดสินใจแทนไม่ได้ เพราะยังไงมันก็ชีวิตเรา เพียงแต่เราต้องเปิดใจมองปัญหาในหลายๆ มุมมองมากกว่า และผมว่า web board DMC ให้มุมมองใหม่ๆ ในทุกๆ ปัญหา

บางครั้งถ้าเรามองปัญหาในมุมมองของผู้อื่นที่มองมา โดยเราอาจถอดใจว่าเราไ่ม่ใช่ตัวเราเอง แต่เราอยู่เหนือกว่าตัวเราเองในตอนนี้ (ประมาณนั่งสมาธิให้ใจใสเยอะๆ หนะครับ) แล้วมองย้อนกลับเข้าไปดู บางทีเราอาจจะพบว่าสิ่งที่เป็นปัญหามันเกิดจากเราทั้งสั้น อาจจะไม่ใช่เราในชาตินี้ แต่อาจเป็นเราในชาติที่ผ่านๆ มา และถือซะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการสร้างบารมีแล้วกันนะครับ ชาติหน้าจะได้ดีกว่านี้ ตอนนี้สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือลูกครับ ดูแลประคับประคองเค้าให้ดีนะครับ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าสำคัญคือตัวเองครับ อย่าลืมว่าเราเกิดมาคนเดียวตายก็คนเดียว ว่าแล้วก็ขอ promote เพลงหน่อยแล้วกัน ฮิ ฮิ ไม่ค่อยเกี่ยวแต่ขอเอี่ยวด้วยคน

"หลับตาหยุดใจให้คิด ให้ดวงจิตสะอาดผ่องใส แล้วเราก็คงจะรู้ความหมายในทุกๆ สิ่ง
แท้จริงว่ามันนั่นคืออะไร ว่าใครที่ควรจะรักอย่างแท้จริง คนที่ไม่เคยจะทอดทิ้ง ความรักที่แท้จริงๆ คือรักตัวเอง"

[ลูกพระธัมฯเชียงใหม่]

ชีวิตครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก

บางทีเรามักจะคิดว่าตัวเองถูกเสมอ

เราต้องมาลองจับผิดตัวเองดูบ้าง

คนที่เราควรคิดถึงเขามาก ๆ ก็คือ ลูก

หากผ่านการไตร่ตรองที่ดีแล้ว ก็เลือกในสิ่งที่คิดว่า ดีที่สุด

ขอเป็นกำลังใจให้คุณไหม สู้ ต่อไปนะค่ะ

อย่าลืม สร้างบารมี ด้วยการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ด้วยนะค่ะ

[น้ำแข็งใส]

มิใช่เรื่องแปลกค่ะ สามีภรรยาที่อยู่ร่วมกัน ก็มาจากต่างครอบครัวการอบรมเลี้ยงดูก็ต่างกัน มันเลยมีปัญหากระทบกระทั่งกันบ้าง ร่วมถึงสภาวะปัจจัยภายนอกอีกหลายอย่างเช่น งาน เงิน หรือคนรอบข้าง คุณต้องมองสามีให้เหมือนลูกชายที่แสนน่ารัก เวลาที่มีปัญหาก็มองว่าเหมื่อนลูกชายที่งอแงอยากได้ของเล่นอะไรทำนองนั้น แต่ถ้านึกไม่ออกลอง คิดถึงวันแรกที่คุณเจอกัน รักกัน ลองมองแต่สิ่งดี อย่างน้อยก็มองว่าเค้าเป็นเพื่อนร่วมโลก ร่วมทุกข์-ร่วมสุข อยู่ในวัฏะสงสารเช่นเดียวกับเรา น้ำแข็งเวลาที่ไม่ชอบใครน้ำแข็งจะคิดแบบนี้เสมอ มันทำให้จิตเรายกระดับสูงขึ้น จากอาคาดพยาบาท ก็เปลี่ยนเป็นเมตตาสงสารแทน....ว้า!!!...โลกนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพู อยู่กันด้วยความรัก.....