เห็นเขาพูดกันแถวบ้านและแถวมหาลัยขอผมครับว่าใครที่บวชแล้วสึกและกลับไปบวชอีกมักจะกลายเป็นคนบ้าเพี้ยนไม่สมประกอบ
เพราะบวชแล้วสึกบ่อย
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ
แล้วทำไมคนเราถึงเชื่อถือประเพณีมากกว่าคำสอนที่ถูกต้องของศาสนาครับ
เช่น งานบวชจัดงานฉลองมรสพการละเล่นละเลี้ยงสุราเมรัย
เพื่อนผมคนหนึ่งเขาพูดว่า งานบวชเขาต้องมีเหล้า เพื่อจะได้มีหน้าตาในสังคม ต้องฆ่าสัตว์ เพราะถ้างั้นพ่อแม่จะกินอะไร
และเพื่อนคนนี้เป็นคนชอบเลี้ยงกุมารทอง ชองเรียนคาถาไสยศาสตร์ ชอบเล่นดนตรีไทยเรียนของด้วย
มันจะเชื่อค่านิยมสังคมไทยมากกว่าคำสอนพระพุทธเจ้าครับ
ผมจะมาบวชธรรมทายาทอยู่แล้ว เขาก็ว่าไอ้ชายสามโบสถ์ เพราะปิดเทอมครั้งก่อนผมเคยบวชธรรมยุตที่วัดในหมู่บ้านมาแล้วแต่ผมศรัทธาอยากมาธรรมทายาทและในที่สุดหลีงลาสิกขาไป ก็กลับมาเรียนอีก 2ปีให้จบแล้วจะกลับมาโครงการบวชอุทิศถวายเป็นพุทธบูชาเลย ไม่ลาสิกขาอีกต่อไปแล้ว แต่เพื่อนๆ มักจะล้อ ว่า บ้าผ้าเหลือง บวชมากเดี๋ยวบ้า เดี๋ยวชีวิตตกต่ำ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น
อยากรู้นักว่าคำวกนี้ใครสอนครับ
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#2
หัดฝัน
-
- Members
- 4531 โพสต์
- Gender:Male
- Interests:ธรรมะ
โพสต์เมื่อ 28 December 2009 - 08:18 AM
เขาว่ากันว่า คนที่บวชแล้วสึกหลายครั้งมักจะบ้า เสียสติ บ้าผ้าเหลืองจริงหรือไม่
ตอบ ไม่จริงครับ ศึกษาได้จากเรื่องชายเจ็ดโบสถ์ ก็ยังเอาดีได้ข้างล่างนี้
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=21951
แต่ถ้าถามว่า คนที่มีเชื้อบ้าอยู่แล้ว ไปทำอะไรก็ตาม เช่น ไปเรียนหนังสือ ไปทำการงาน ไปดื่มเหล้า ไปพูดคุยกับผู้คน ไปนั่งสมาธิ หรือ แม้แต่ไปบวช ก็สามารถเป็นบ้าได้ใช่หรือไม่
ตอบ อันนี้จริงครับ เพราะเชื้อบ้ามีอยู่แล้ว รอเวลาที่จะสำแดงออกเท่านั้นเอง ดังนั้น จึงไม่เกี่ยวกับการบวช แต่เกี่ยวกับเชื้อบ้าในตัวคนคนนั้นเอง
เขาพูดกันว่า บวชแล้วสึกบ่อย คือ ไม่สมประกอบ เพี้ยน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ตอบ หากเป็นสมัยก่อนที่คนนิยมบวชตลอดชีวิต การบวชแล้วสึกและบวชใหม่แล้วสึกใหม่บ่อยๆ สาเหตุหลักคือ ใจโลเล ครับ ดังเรื่องชายเจ็ดโบสถ์ ที่ยกมาข้างต้น
แต่หากเป็นในสมัยปัจจุบัน ผู้คนนิยมบวชช่วงสั้นๆ เมื่อเวลาและโอกาสเอื้ออำนวย การบวชแล้วสึกบ่อยจึงมีอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ติดขัดด้วยเรื่องเวลาไม่เอื้ออำนวยให้บวชยาวๆ นั่นแหละครับ
ส่วนพวกที่เพี้ยนๆ อยู่แล้ว แต่ยังไม่สำแดงออก หากมาบวชแล้ว อาการเพี้ยนสำแดงออกพอดี พวกนี้ก็เลยเพี้ยนครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์กับเรื่องบวชแล้วสึกนะครับ พวกเพี้ยนพวกนี้ อาจยินดีอยู่เป็นพระไปตลอด แต่เมื่อพระผู้ใหญ่ท่านทราบว่าเพี้ยน ก็อาจจับสึก แล้วไม่ได้บวชอีกครับ
ทำไมคนเราถึงเชื่อประเพณี มากกว่า คำสอนในพระพุทธศาสนา
ตอบ เป็นเพราะ ประเพณีนำให้คนปฏิบัติมากกว่า คำสอนในพระพุทธศาสนาน่ะสิครับ ส่วนคำสอนในพระพุทธศาสนานั้น พอเวลาผ่านไปคนปฏิบัติน้อยลงๆ ทำให้คนรุ่นหลังๆ กลายเป็นนักทฤษฎี(นักอ่าน) มากกว่าจะปฏิบัติตามคำสอนจริงๆ แล้วก็ตีความคำสอนตามความคิดตัวเอง นานวันเข้า คนทั่วๆ ไป เลยไปเข้าใจว่า คำสอนทางศาสนานั้นยาก ต้องมานั่งอ่านตำรา ทั้งๆ ที่ความจริงไม่จำเป็นเลย แค่ปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา ก็ใช้ได้แล้ว ในสมัยพุทธกาล มีพระภิกษุมากมาย บรรลุธรรม โดยไม่รู้พระไตรปิฎกเลยก็มีครับ
คุณเจ้าของกระทู้มักจะถูกเพื่อนล้อ ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
ตอบ หากไม่สนใจ ก็เป็นลมเป็นแล้ง หากสนใจก็เป็นเรื่องเป็นราว น่ะครับ ขนาดหลวงพ่อทั้งสองเอง ตอนวัยรุ่น ก็ถูกเพื่อนล้อว่า มหาบ้าง หมอผีบ้าง ขุนกลับแกล้มวินาศบ้าง (เพราะกินแต่กลับแกล้มไม่กินเหล้า) หลวงพ่อก็ไม่ได้นำพามาเป็นอารมณ์เลยครับ ท่านก็ยังตั้งใจปฏิบัติตามอุดมการณ์ของท่าน จนได้มาบวชตลอดชีวิตในที่สุด
ตอบ ไม่จริงครับ ศึกษาได้จากเรื่องชายเจ็ดโบสถ์ ก็ยังเอาดีได้ข้างล่างนี้
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=21951
แต่ถ้าถามว่า คนที่มีเชื้อบ้าอยู่แล้ว ไปทำอะไรก็ตาม เช่น ไปเรียนหนังสือ ไปทำการงาน ไปดื่มเหล้า ไปพูดคุยกับผู้คน ไปนั่งสมาธิ หรือ แม้แต่ไปบวช ก็สามารถเป็นบ้าได้ใช่หรือไม่
ตอบ อันนี้จริงครับ เพราะเชื้อบ้ามีอยู่แล้ว รอเวลาที่จะสำแดงออกเท่านั้นเอง ดังนั้น จึงไม่เกี่ยวกับการบวช แต่เกี่ยวกับเชื้อบ้าในตัวคนคนนั้นเอง
เขาพูดกันว่า บวชแล้วสึกบ่อย คือ ไม่สมประกอบ เพี้ยน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ตอบ หากเป็นสมัยก่อนที่คนนิยมบวชตลอดชีวิต การบวชแล้วสึกและบวชใหม่แล้วสึกใหม่บ่อยๆ สาเหตุหลักคือ ใจโลเล ครับ ดังเรื่องชายเจ็ดโบสถ์ ที่ยกมาข้างต้น
แต่หากเป็นในสมัยปัจจุบัน ผู้คนนิยมบวชช่วงสั้นๆ เมื่อเวลาและโอกาสเอื้ออำนวย การบวชแล้วสึกบ่อยจึงมีอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ติดขัดด้วยเรื่องเวลาไม่เอื้ออำนวยให้บวชยาวๆ นั่นแหละครับ
ส่วนพวกที่เพี้ยนๆ อยู่แล้ว แต่ยังไม่สำแดงออก หากมาบวชแล้ว อาการเพี้ยนสำแดงออกพอดี พวกนี้ก็เลยเพี้ยนครับ ซึ่งก็ไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์กับเรื่องบวชแล้วสึกนะครับ พวกเพี้ยนพวกนี้ อาจยินดีอยู่เป็นพระไปตลอด แต่เมื่อพระผู้ใหญ่ท่านทราบว่าเพี้ยน ก็อาจจับสึก แล้วไม่ได้บวชอีกครับ
ทำไมคนเราถึงเชื่อประเพณี มากกว่า คำสอนในพระพุทธศาสนา
ตอบ เป็นเพราะ ประเพณีนำให้คนปฏิบัติมากกว่า คำสอนในพระพุทธศาสนาน่ะสิครับ ส่วนคำสอนในพระพุทธศาสนานั้น พอเวลาผ่านไปคนปฏิบัติน้อยลงๆ ทำให้คนรุ่นหลังๆ กลายเป็นนักทฤษฎี(นักอ่าน) มากกว่าจะปฏิบัติตามคำสอนจริงๆ แล้วก็ตีความคำสอนตามความคิดตัวเอง นานวันเข้า คนทั่วๆ ไป เลยไปเข้าใจว่า คำสอนทางศาสนานั้นยาก ต้องมานั่งอ่านตำรา ทั้งๆ ที่ความจริงไม่จำเป็นเลย แค่ปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา ก็ใช้ได้แล้ว ในสมัยพุทธกาล มีพระภิกษุมากมาย บรรลุธรรม โดยไม่รู้พระไตรปิฎกเลยก็มีครับ
คุณเจ้าของกระทู้มักจะถูกเพื่อนล้อ ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
ตอบ หากไม่สนใจ ก็เป็นลมเป็นแล้ง หากสนใจก็เป็นเรื่องเป็นราว น่ะครับ ขนาดหลวงพ่อทั้งสองเอง ตอนวัยรุ่น ก็ถูกเพื่อนล้อว่า มหาบ้าง หมอผีบ้าง ขุนกลับแกล้มวินาศบ้าง (เพราะกินแต่กลับแกล้มไม่กินเหล้า) หลวงพ่อก็ไม่ได้นำพามาเป็นอารมณ์เลยครับ ท่านก็ยังตั้งใจปฏิบัติตามอุดมการณ์ของท่าน จนได้มาบวชตลอดชีวิตในที่สุด
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#3
usr32278
-
- Members
- 33 โพสต์
โพสต์เมื่อ 28 December 2009 - 08:50 AM
บางทีคนบางคนก็ไม่เข้าใจถึงจุดประสงค์ของการบวช บางคนก็บวชตามประเพณี พ่อแม่ต้องการให้บวช บางคนก็บวชเพื่อหนีปัญหา บางคนก็บวชเพื่อสืบสานอายุพระพุทธศาสนานำคำสอนมาเผยแผ่ให้ชาวบ้าน แต่ทั้งนี้จุดประสงค์การการบวชแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป ที่นี้การบวชแล้วสึกหลายครั้งแล้วเป็นบ้านี่ ผมก็ไม่เห็นมีใครเลยที่ผมรู้จักจะเป็นบ้าเลย แล้วเพื่อนของเจ้าของกระทู้เคยเห็นมาหรือ ถึงได้คิดเช่นนั้น ตามหลักคำสอนเรื่อง กาลามสูตร
อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้
อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา
อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง
อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน
อย่าได้เชื่อถือโดยความตรึกตามอาการ
อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว
อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา
ขอให้เราหนักแน่นเข้าใจในธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอะไรก็ปล่อยวาง เราไม่อาจที่จะบอกว่าเพื่อนคนนั้นว่าเขามีกิเลสบังตา กิเลสครอบงำจิตใจ ในเมื่อเพื่อนคนนั้นยังไม่เข้าใจคำสอน สิ่งหนึ่งที่ควรชีแจงไปคือบวชแล้วได้อะไร ประโยชน์ของการบวชที่เกิดขึ้นกับผู้บวชเอง แล้วที่เพื่อนของท่านบอกว่าบวชแล้วชีวิตตกต่ำอันนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้ ลองคิดดูสิว่าบางคนก่อนบวชเดินไปไหนก็มีแต่คนว่า ไม่ให้ความเคารพ แต่พอได้บวชหลังจากห่มผ้าเหลืองก็ได้รับการกราบไหว้ แล้วแบบนี้จะตกต่ำได้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ละเลยไม่ได้ก็คือเมื่อบวชกายแล้วก็ต้องบวชใจ ด้วย หมั่นศึกษาธรรมะแล้วนำมาสอนชาวบ้าน ชาวบ้านถวายข้าวแด่พระ ก็หวังให้พระป็นที่พึ่งนำไปสู่ความสุข ดังนั้นการบวชเป็นสิ่งที่ดี เพราะผู้เป็นพระต้องรับผิดชอบมากกว่าการเป็นฆาราวาส
ผมเคยเจอเพื่อนแบบนี้ชอบหาว่าผมบ้าศาสนาบ้าง โดนล้างสมองบ้าง แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งจริง หากเพื่อนคนไหน ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ ก็อาจต้องปล่อยวางดีกว่าให้เขาดึงเราลงไป
อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ ด้วยครับที่ตั้งใจที่จะบวช
อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้
อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา
อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง
อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน
อย่าได้เชื่อถือโดยความตรึกตามอาการ
อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว
อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา
ขอให้เราหนักแน่นเข้าใจในธรรมะ ของพระพุทธเจ้า ใครจะว่าอะไรก็ปล่อยวาง เราไม่อาจที่จะบอกว่าเพื่อนคนนั้นว่าเขามีกิเลสบังตา กิเลสครอบงำจิตใจ ในเมื่อเพื่อนคนนั้นยังไม่เข้าใจคำสอน สิ่งหนึ่งที่ควรชีแจงไปคือบวชแล้วได้อะไร ประโยชน์ของการบวชที่เกิดขึ้นกับผู้บวชเอง แล้วที่เพื่อนของท่านบอกว่าบวชแล้วชีวิตตกต่ำอันนี้ก็ไม่น่าเป็นไปได้ ลองคิดดูสิว่าบางคนก่อนบวชเดินไปไหนก็มีแต่คนว่า ไม่ให้ความเคารพ แต่พอได้บวชหลังจากห่มผ้าเหลืองก็ได้รับการกราบไหว้ แล้วแบบนี้จะตกต่ำได้อย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ละเลยไม่ได้ก็คือเมื่อบวชกายแล้วก็ต้องบวชใจ ด้วย หมั่นศึกษาธรรมะแล้วนำมาสอนชาวบ้าน ชาวบ้านถวายข้าวแด่พระ ก็หวังให้พระป็นที่พึ่งนำไปสู่ความสุข ดังนั้นการบวชเป็นสิ่งที่ดี เพราะผู้เป็นพระต้องรับผิดชอบมากกว่าการเป็นฆาราวาส
ผมเคยเจอเพื่อนแบบนี้ชอบหาว่าผมบ้าศาสนาบ้าง โดนล้างสมองบ้าง แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นสิ่งจริง หากเพื่อนคนไหน ไม่สามารถดึงขึ้นมาได้ ก็อาจต้องปล่อยวางดีกว่าให้เขาดึงเราลงไป
อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ ด้วยครับที่ตั้งใจที่จะบวช
#4
tong_tong_tong
-
- Members
- 169 โพสต์
โพสต์เมื่อ 28 December 2009 - 09:04 AM
ใครได้บวช รุ่นผู้บริหารบ้างรอบนี้ จะได้รู้จักหมอเทียม(เป็นอาจารย์หมอ เครื่อง MRI ที่ รพ ศิริราช และหมอพิเศษ ของบำรุงราษและ เกษมราช และ นนทเวช)
หมอเทียมบวชครั้งแรกเมื่อ ปี 50 พร้อมกับผมรุ่นผู้บริหาร
ครั้ง2 เมื่อ รุ่นบูชาธรรม ปี 51
ครั้ง3 เมื่อ รุ่นผู้บริหาร ปี 51 พร้อมกับผมรุ่นผู้บริหาร
ครั้ง4 เมื่อ รุ่นบูชาธรรม ปี 52
ครั้ง5 เมื่อ รุ่นผู้บริหาร ปี 52 เพิ่งสึกแล้วไปพบกับผมโดยบังเอิญที่
งานตักบาตรพระทุ่งทานตะวันลพบุรี หลังจากตักบาตรเสร็จ หมอจะไปเที่ยวต่อที่ตรุกีในตอนเย็น
หมอเทียมอายุ 36 ปี พยายามเก็บวันลา เพื่อมาบวช ทุกปี ปีละ ครั้ง 2 ครั้ง
เสียดายที่รุ่นแสน และ พระพี่เลี้ยง นานไปหน่อย หมอเลยมาบวชไม่ได้
ไม่เห็นว่าหมอท่านจะ เสียสติอะไรเลยครับ ขอยืนยัน
หมอเทียมบวชครั้งแรกเมื่อ ปี 50 พร้อมกับผมรุ่นผู้บริหาร
ครั้ง2 เมื่อ รุ่นบูชาธรรม ปี 51
ครั้ง3 เมื่อ รุ่นผู้บริหาร ปี 51 พร้อมกับผมรุ่นผู้บริหาร
ครั้ง4 เมื่อ รุ่นบูชาธรรม ปี 52
ครั้ง5 เมื่อ รุ่นผู้บริหาร ปี 52 เพิ่งสึกแล้วไปพบกับผมโดยบังเอิญที่
งานตักบาตรพระทุ่งทานตะวันลพบุรี หลังจากตักบาตรเสร็จ หมอจะไปเที่ยวต่อที่ตรุกีในตอนเย็น
หมอเทียมอายุ 36 ปี พยายามเก็บวันลา เพื่อมาบวช ทุกปี ปีละ ครั้ง 2 ครั้ง
เสียดายที่รุ่นแสน และ พระพี่เลี้ยง นานไปหน่อย หมอเลยมาบวชไม่ได้
ไม่เห็นว่าหมอท่านจะ เสียสติอะไรเลยครับ ขอยืนยัน
#5
WISH
-
- Moderators
- 3579 โพสต์
โพสต์เมื่อ 28 December 2009 - 10:29 AM
QUOTE
เห็นเขาพูดกันแถวบ้านและแถวมหาลัยขอผมครับว่าใครที่บวชแล้วสึกและกลับไปบวชอีกมักจะกลายเป็นคนบ้าเพี้ยนไม่สมประกอบ เพราะบวชแล้วสึกบ่อยข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรครับ
- เขาน่ะใครเอ่ย หากไม่ใช่สัตบุรุษใยต้องอ่อนไหวกับคำพูดเหล่านั้น จริงหรือเท็จนั้น เราต่างหากที่ทราบคำตอบเพราะ...ได้บวชเรียนมาแล้วนี่ครับQUOTE
แล้วทำไมคนเราถึงเชื่อถือประเพณีมากกว่าคำสอนที่ถูกต้องของศาสนาครับ เช่น งานบวชจัดงานฉลองมรสพการละเล่นละเลี้ยงสุราเมรัย
- เพราะหลายท่าน ไม่หาเวลามาศึกษากาลามสูตรไงครับ ปล่อยใจไหลไปกับกระแสโลกๆQUOTE
เพื่อนผมคนหนึ่งเขาพูดว่า งานบวชเขาต้องมีเหล้า เพื่อจะได้มีหน้าตาในสังคม ต้องฆ่าสัตว์ เพราะถ้างั้นพ่อแม่จะกินอะไร
- ผู้ทุศีลย่อมเห็นผิดเป็นชอบ...มนุษย์ทั้งหลายย่อมอาศัยอาหารเพื่อดำรงสุขภาพครับQUOTE
และเพื่อนคนนี้เป็นคนชอบเลี้ยงกุมารทอง ชอบเรียนคาถาไสยศาสตร์ ชอบเล่นดนตรีไทยเรียนของด้วย มันจะเชื่อค่านิยมสังคมไทยมากกว่าคำสอนพระพุทธเจ้าครับ
- นี่ไงครับ ตัวอย่างเห็นผิดเป็นชอบ...ง่ายต่อการชักจูงโดยกิเลส...เช่น เห็นโฆษณาสุราบางชนิด ก็ชื่นชมว่า นี่ไง สำนึกดี สังคมดี หรือ เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน หรือ ผมให้พี่หมดเลย ฯลฯ หารู้ไม่ว่านี่คือหนึ่งในช่องทางของการเพาะเชื้อแห่งความเห็นผิดQUOTE
ผมจะมาบวชธรรมทายาทอยู่แล้ว เขาก็ว่าไอ้ชายสามโบสถ์ เพราะปิดเทอมครั้งก่อนผมเคยบวชธรรมยุตที่วัดในหมู่บ้านมาแล้วแต่ผมศรัทธาอยากมาบวชธรรมทายาทและในที่สุดหลังลาสิกขาไป ก็กลับมาเรียนอีก 2ปีให้จบแล้วจะกลับมาโครงการบวชอุทิศถวายเป็นพุทธบูชาเลย ไม่ลาสิกขาอีกต่อไปแล้ว แต่เพื่อนๆ มักจะล้อ ว่า บ้าผ้าเหลือง บวชมากเดี๋ยวบ้า เดี๋ยวชีวิตตกต่ำ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น อยากรู้นักว่าคำนี้ใครสอนครับ
- กิเลสในตัวเขาบังคับบัญชาใจเขาเอง...อภิชฌา มิจฉาทิฏฐิ- หากท่าน จขกท.ได้ครองผ้ากาสาวพักตร์เมื่อใด อย่าลืมมโนปณิธานรื้อขนสรรพสัตว์ผู้หลงผิดทั้งหลายไปแดนเกษมด้วยนะครับ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#6
@--แสงตะวัน--@
-
- Members
- 723 โพสต์
- Gender:Male
- Location:Thailand
โพสต์เมื่อ 28 December 2009 - 11:22 AM
font ใหญ่ดีนะครับ คงเหมือนใจของผู้ตั้งกระทู้
อย่าเอาหัวใจของนักสร้างบารมีไปเทียบกับหัวใจของคนทั่วไปครับ
อย่าเอาคำพูดของคนอื่นมาดึงเป้าหมายชีวิตของเราให้หายไป
อย่าลืมครับตอนนี้เป็นช่วงกัลป์ไขลงเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติที่เราต้องเจอครับ ผมเชื่อว่า จขกท จะได้คำตอบที่ดีๆ จาก web นี้นะครับ
อย่าเอาหัวใจของนักสร้างบารมีไปเทียบกับหัวใจของคนทั่วไปครับ
อย่าเอาคำพูดของคนอื่นมาดึงเป้าหมายชีวิตของเราให้หายไป
อย่าลืมครับตอนนี้เป็นช่วงกัลป์ไขลงเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติที่เราต้องเจอครับ ผมเชื่อว่า จขกท จะได้คำตอบที่ดีๆ จาก web นี้นะครับ
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"
#7
kissy
-
- Members
- 589 โพสต์
โพสต์เมื่อ 28 December 2009 - 09:04 PM
อย่าไปสนใจเลย เวลาเราทำความดี มักจะมีอะไร มาทำให้เราเปลี่ยนแปลงความคิด
น้าของ kissy ก็เพิ่งน้อยใจ จากการโดนคนในหมู่บ้านล้อเลียน
เรื่อง ไปชวนบวช นี้แหละ
ตัว kissy เอง kissy ก็โดน หนัก...เหมือนกัน แทบหมดกำลังใจเลย แต่นึกถึง หลวงพ่อแล้ว
ไม่ถอยเด็ดขาด...
kissy ไม่สนใจ ว่าใครจะมองยังไง แต่ kissy จะทำหน้าที่ ให้สำเร็จ
kissy เจอ 2 คน ที่ร้าย สุด ๆ
แต่ kissy ไม่สนใจ แล้วก็มองเค้า แล้วก็คิดในใจว่า
" น่าสงสารเนอะ ไม่มีโอกาส ได้ทำบุญ kissy ไม่รู้จะช่วยยังไงนะ คุณไม่มีบุญเอง "
น้าของ kissy ก็เพิ่งน้อยใจ จากการโดนคนในหมู่บ้านล้อเลียน
เรื่อง ไปชวนบวช นี้แหละ
ตัว kissy เอง kissy ก็โดน หนัก...เหมือนกัน แทบหมดกำลังใจเลย แต่นึกถึง หลวงพ่อแล้ว
ไม่ถอยเด็ดขาด...
kissy ไม่สนใจ ว่าใครจะมองยังไง แต่ kissy จะทำหน้าที่ ให้สำเร็จ
kissy เจอ 2 คน ที่ร้าย สุด ๆ
แต่ kissy ไม่สนใจ แล้วก็มองเค้า แล้วก็คิดในใจว่า
" น่าสงสารเนอะ ไม่มีโอกาส ได้ทำบุญ kissy ไม่รู้จะช่วยยังไงนะ คุณไม่มีบุญเอง "
#8
ตะกร้าอีกใบ
-
- Members
- 1297 โพสต์
โพสต์เมื่อ 30 December 2009 - 10:16 PM
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง
7 ส.ค. 48
