โดนขโมยขึ้นบ้าน... รับปีใหม่ เฮ้อ!!!
#1
โพสต์เมื่อ 16 January 2010 - 11:26 PM
(หมายเหต : บ้านเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น ของหายส่วนใหญ่อยู่ชั้น 2,1 ที่ใช้ทำงานกัน เลยไม่ได้ยิน ว่ามีคนเข้ามา เพราะ นอน ชั้น 3-4)
#2
โพสต์เมื่อ 16 January 2010 - 11:54 PM
..เอาเป็นว่าแบบนี้ครับพี่ สิ่งสำคัญที่สุดที่ใครเอาไปไม่ได้คือ ความรัก ความศรัทธา ในหมู่คณะ ในเพื่อนฝูง ในหลวงพ่อ ในบิดามารดา และอื่นๆ ไม่มีใครเอาไปได้เพราะมันไม่ใช่สิ่งของ ส่วนสิ่งของย่อมเสื่อมสลาย ย่อมสูญไปตามกาลเวลา แม้อยู่กับเรา ของของเรา ก็ใช่จะเป็นของเราตลอดไป โจรไม่ขโมยก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่หายเอง ไม่ลืม ไม่สลาย ไม่หายไปด้วยหายนะจากธรรมชาติอื่นๆก็หาไม่... สิ่งที่เสียไปแม้จะไปฆ่าโจรหรือตีนแมวนั้นสิ่งที่ได้กลับมาคืออะไร? การสนองกรรม หรือเวร หรือหยุดการจองเวรเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ทำได้ยากที่สุด การเสียใจ การพลัดพราก เป็นสิ่งที่ลืมได้ยากที่สุด แต่เป็นสิ่งที่ประเสริฐสุดหากทำได้
...ผมก็ขอให้พี่รักษาความดีของพี่ไว้ อย่าให้หายไป งาน หรืออาชีพแม้จะสลายไปกับการถูกตีนแมวเอาไปครั้งนี้ ก็หาได้พรากพี่ออกจากหมู่คณะผู้หมายจะไปถึงที่สุดแห่งธรรมพร้อมหลวงพ่อไม่... กำลังใจที่ดีที่สุด คือ เป้าหมาย ขอให้พี่รักษาเป้าหมายที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้ไว้ให้มั่น แล้วเดินไปกับหมู่คณะของเรา ไปดุสิตบุรีด้วยกัน ความสบาย ความสุข ทั้งปวงไม่มีในโลกนี้ ไม่จีรังเลย ....พี่ก็เสียใจได้กับเหตุการณ์นี้ แต่ขอให้ทิ้งไปให้เร็ว แล้วเดินหน้าต่อ อะไรหายก็หามาใหม่ อะไรสลายก็สร้างขึ้นมาใหม่ แต่ศรัทธาและเป้าหมายอย่าให้หาย อย่าให้เสียนะครับ... แล้วพบกันที่ความสำเร็จ..
#3
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 12:14 AM
.
.... เคยได้ยินพระสอนให้เด็กนักเรียนท่องตามว่า ....
"อะไรจะเสียก็เสียไป ขอเพียงใจเราอย่าได้เสีย"
"อะไรจะหายก็หายไป ขอเพียงใจเราอย่าได้หาย"
เพราะถ้าใจเราเสีย เพราะถ้าสุขภาพใจของเราหาย ชีวิตของเราก็แทบจะไม่มีอะไรหลงเหลือค่าอยู่อีกเลย
อะไรจะหายบ้าง ก็ช่างเถอะ !!.... เผื่อว่าข้าวของชิ้นนั้น มันจะเป็นประโยชน์แก่คนที่เขาเอาไป
[ คัดลอกจากหนังสือ ธรรมะอ่านสบาย หลวงพ่อปัญญา ]
รักษาใจไว้ไม่ให้หาย..ก็จะส่งผลถึงแรงกายเพื่อจะได้หาของใหม่มาแทนของที่หายไป
หากใจหายไป..เงินทองมากมายแค่ไหนก็ไม่มีทางซื้อได้..
.
.
#4
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 01:08 AM
เอ้ามาเข้าประเด็น โดนขโมยขึ้นบ้าน..... เห็นด้วยมาก ๆเลยค่ะทั้งคุณดินสอแห่งธรรมที่ว่า
"ศรัทธา เป้าหมาย" นั้นอย่าลืม และคุณ ศิษย์มีครู ที่ว่า "รักษาใจไว้ให้ได้ อะไรจะหายก็หายไป แต่ใจต้องไม่หาย"
อะไรประมาณนี้แหละค่ะ
ดิฉันเองจะมีเพลงปลอบใจประจำตัวอยู่เพลงหนึ่งคือ "อย่าร้องไห้" นึกถึงสินามิ แล้วปลงค่ะโลกธรรม 8. & กฏแห่งกรรม
" ทุกเวลานาที มีสิ่งไม่คาดฝัน และทุก ๆวันก็ไม่มีความแน่นอน อย่าร้องไห้" ฟังสะบาย ๆ ไม่ปวดหัว(ศรีษะ) และมันช่วย
รักษาหัวอีกหัวหนึ่งคือ หัวใจด้วยค่ะ กลัวมากที่สุดคือหัวใจ เพราะใจเป็นนายกายเป็นบ่าว ใจไม่สะบาย กายก็จะเสือมไว
ผิดปกติ ความเครียดเป็นที่มาแห่งโรคต่าง ๆ มากมาย เช่นเนื้องอกธรรมดา (TUMOR) ก็จะไปเร่งให้มันเป้นมะเร็ง(CANCER
หรือ malignant) เนื้อร้าย......ในทางกลับกันสมาธิสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งได้ด้วย
ไม่ทราบว่าไปแจ้งความแล้วยัง แล้วก็ทำใจนะคะ นำธรรมะมาใช้ให้ทันการณ์นี่แหละบทพิสูจน์ว่าเราทำได้ ถ้าได้ทำค่ะ
#5
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 02:02 AM
กว่าจะเป็นรูปร่างแบบนี้ขึ้นมาได้ คิดว่าแต่ละท่านเจอปัญหามาแบบไหน ขนาดไหนบ้าง
ถ้าเทียบกับปัญหาที่พวกเราเจอกัน ผมว่าเด็กๆ นะครับ :-)
ส่วนเรื่องของที่หายไป ใครจะไปรู้บางครั้งการทำขึ้นมาใหม่อาจจะดีกว่าเดิมก็ได้
ผมเคยแอบคิดอยู่เหมือนกันว่า อยากให้ notebook ตัวเองหายไป จะไ้ด้ refresh ตัวเองทุกอย่างจากเรื่องเก่า แล้วเริ่มต้นทุกอย่างจากศูนย์อีกครับ ซึ่งในความเป็นจริงชีวิตของเราทุกคนคงทำไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรมันก็ต้องสู้กันต่อไป โทษทีนอกเรื่องไปหน่อย แต่ก็ใกล้เคียงนะ :-)
็Happy&Smile นะครับ
อยู่ในบุญนะครับ
@--แสงตะวัน--@
#6
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 09:00 AM
หนึ่ง โชคดีที่เรายังเหลือลมหายใจอยู่ ขโมยไม่ฆ่าเรา ไม่ฆ่าญาติพี่น้องเรา สิ่งของที่หายไปเราหาใหม่ได้
สอง ชาติก่อนเราอาจเคยทำคนอื่นแบบนี้ ชาตินี้เขาเอาคืน
#7
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 09:35 AM
แต่ถ้าโจรมันมาเอาชีวิตของเราและญาติพี่น้องเราไปนั้น กว่าเราจะเกิดใหม่มาเป็นมนุษย์มันยากมากๆ
บุญบารมีที่คุณสร้างสะสมมานั้น ก็ยังคงติดตัวป็นของคุณนะคะ โจรมันไม่สามารถเอาได้ ขอให้คุณมีกำลังใจค่ะอย่าท้อ
#9
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 11:34 AM
#10
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 01:03 PM
#11
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 05:00 PM
ให้เริ่มต้นที่ มานั่งหลับตาเบาๆแล้วนึกถึง"บุญ"ครับ
จรดใจนิ่งที่กลางดวงบุญใสๆนะครับ หากแม้ทรัพย์สิ่ง
ของต่างๆจะไม่กลับมา แต่อย่างน้อยสติและกำลังใจจะ
เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่าลืมนะครับว่า สติและกำลังใจเปลี่ยน
เป็นทรัพย์สมบัติได้ แต่ทรัพย์สมบัติเปลี่ยนเป็นสติและกำลังใจไม่ได้!
ปล.มาร่วมเป็นกำลังใจให้ครับ สำหรับผมเองก็มีอุบัติเหตุรถชนต้อน
รับปีใหม่เหมือนกัน วันอาทิตย์ที่แล้วช่วงสายนั่งธรรมะที่สภา ตอนเที่ยง
ขับรถออกจากวัดจะไปช่วยเพื่อนชวนคนบวชที่หัวลำโพง แต่รถชนตรง
ก่อนถึงดอนเมือง แต่บ่ายก็ยังเลยไปชวนคนบวชอยู่ครับ ที่หัวลำโพง
ได้manๆสมัครบวชที่จ.ชัยนาท 1 ท่าน
เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิด ต้องรักษาใจใสๆที่072ไว้ก่อนครับ
ถ้าอยากได้"จริง"จะได้...แต่ตอนจะได้ไม่"อยาก"
#12
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 07:36 PM
ขโมยขึ้นบ้านก็เป็นเพราะเราเคยไปขโมยของเขามา เขาก็มาเอาคืน คิดแค่เนี๊ยก็สบายใจแล้วค่ะ
#13
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 08:11 PM
#14
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 08:43 PM
#15
โพสต์เมื่อ 17 January 2010 - 09:27 PM
ไม่มีใครเอาไปได้
เขาสร้างความหวาน
ให้แก่โลกแล้วก็ทิ้งรวงไป
ลมพัดควันมันทำให้เขาตาลาย
เจ้าผึ้งน่ารักที่จากฉันไป
แมวอ้วนที่สดใส
จากฉันไปมีครอบครัว
นั่นมันเป็นเรื่องส่วนตัว
อ่ะ..ฉันก็ไม่ว่าอะไร
แม้ฉันจะสูญเสียสิ่งที่เป็นที่รักไป
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้สูญเสียไป
ไม่มีใครเอาลมหายใจ
และศูนย์กลางกายไปได้
ฉันใช้แต่สิ่งนี้(ฉันใช้แต่สิ่งนี้)
สร้างความสุขที่แท้จริง (สร้างความสุขที่แท้จริง)
เพียงแค่หลับตาเบาๆ
ผ่อนคลายสบายๆ
ดวงตะวันก็สว่างอย่างง่ายๆ
ที่ศูนย์กลางกายของฉันเอง
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง
#16
โพสต์เมื่อ 18 January 2010 - 09:19 AM
#17
โพสต์เมื่อ 18 January 2010 - 10:24 AM
เป็นกรรมเก่าของเรา เคยดูเคสของคุณโน๊ส อุดม ที่เคยไปขโมยจักรยานตอนเด็ก ๆ
เมื่อโตขึ้น ถูกโจรขึ้นบ้านขนไปหมดทั้งบ้านหลายครั้ง มาก ๆ
ตอนนี้ก็ขอบารมี หลวงปู่ หลวงพ่อ และคุณยาย ช่วยให้สามารถผ่านพ้นความทุกข์ใจไปได้นะคะ
เราคิดว่ายังโชคดี ที่โจรไม่ได้ทำร้ายเรานะคะ เพราะเค้าเข้ามาถึงตัวเราได้เอาไปแค่ของนอกกาย ดีกว่าเค้ามาทำร้ายเรานะคะ
ทำใจให้นิ่งนะคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#18
โพสต์เมื่อ 18 January 2010 - 04:30 PM
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อคิดและเป็นกำลังใจครับ และขอบคุณห้องสาวที่ตั้งกระทู้นี้และเป็นกัลยาณมิตรพาเข้าวัด จึงรู้ดีว่านี่เป็นเพียงวิบากกรรม
#19
โพสต์เมื่อ 19 January 2010 - 01:31 PM