ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

หิริโอตัปปะคืออะไรหรองับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 หยุดนิ่ง

หยุดนิ่ง
  • Members
  • 60 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 May 2008 - 02:07 PM

หิริโอตัปปะคืออะไรหรอครับ ท่านไหนรู้บอกผมหน่อยนะครับ
ขอบคุนมั่กๆค้าบ

#2 noomania

noomania
  • Members
  • 34 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 May 2008 - 03:56 PM

หิริโอตตัปปะ = เทวธรรม, ธรรมะที่ทำให้ได้เป็นเทวดา, หิริ = ความละอายต่อบาป, โอตตัปปะ = ความเกรงกลัวต่อบาป
อ่านว่า หิ-หริ-โอด-ตับ-ปะ

ขอท่านผู้รู้อื่น ๆ ช่วยเสริมด้วยครับ

สาธุ

#3 *YTTRA*

*YTTRA*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 07 May 2008 - 04:38 PM

คนตั้งกระทู้ชื่อแปลกดี แปลว่าไรอ่ะ???

#4 เด็กผู้น้อย

เด็กผู้น้อย
  • Members
  • 436 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 May 2008 - 04:41 PM

หิริและโอตตัปปะ (หิ - หริ - โอด - ตับ - ปะ ) คือธรรม 2 ประการ ที่เรียกว่า โลกบาลธรรม หมายถึง ธรรมที่คุ้มครองโลก เป็นธรรมที่ีทำให้โลกดำเนินไปอย่างปกติสุข โดยเป็นธรรมที่ปกครองและควบคุมจิตใจมนุษย์ให้อยู่ในความดี ไม่ให้ละเมิดศีลธรรมและให้อยู่ร่วมกันด้วยความเรียบร้อย สงบสุข ไม่เดือดร้อน สับสน วุ่นวาย



#5 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 May 2008 - 11:32 AM

ขออนุญาตเล่าธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ฟังมาจากครูบาอาจารย์ของเราค่ะ

เรื่องที่ 1

ธรรมะเพื่อประชาชน เรื่อง ศีล และ หิริโอปตัปปะ


พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทราบด้วยพระญาณว่า ภิกษุทั้ง 500 เกิดกามวิตก
ต้องการลาสิกขาเพื่อไปดำรงในเพศคฤหัสต์
เมื่อทราบเช่นนั้นก็ห่วงใยประดุจบิดาห่วงใยบุตร
จึงได้ทรงให้พระอานนท์ไปนิมนต์ ภิกษุทั้ง 500 นั้นมา
เพื่อประธานโอวาท ว่า....

“ ภิกษุทั้งหลายที่ลับย่อมไม่มีในโลก ฉะนั้นบัณฑิตรู้อย่างนี้แล้วจึงไม่กระทำบาป”
แล้วพระองค์ก็ได้ประธานเล่าเรื่องราวในอดีตของพระบรมโพธิสัตย์ว่า

สมัยที่พระเจ้าพรหมทัต ปกครองเมืองพาราณสี
พระโพธิสัตย์ทรงเกิดในตระกูลพราหมณ์
ได้มาศึกษาที่สำนึกหนึ่ง และได้เป็นหัวหน้ามานพทั้ง 500
ท่านอาจารย์ของพระโพธิสัตย์ มีลูกสาวรูปร่างหน้าตาสวยงาม เป็นกุลสตรี
ท่านอยากจะยกให้ศิษย์ จึงประกาศว่า

“บัดนี้ลูกสาวของอาจารย์อยู่ในวัยที่จะแต่งงาน
อาจารย์ประสงค์จะจัดงานแต่งงานให้เธอ
จึงต้องใช้ผ้า และ เครื่องประดับต่าง ๆ
อาจารย์จะรับผ้าและเครื่องประดับ ที่ขโมยมาโดยไม่มีผู้ใดรู้เท่านั้น
แล้วอาจารย์จะมอบลูกสาวให้เป็นคู่ครองแก่ผู้ที่นำสิ่งที่เหมาะสมมา”

ศิษย์ ทุกคนต่างหมายปองลูกสาวของท่านอาจารย์
จึงลากลับบ้านไปขโมยของๆญาติของตน
ขโมยได้มากบ้างน้อยบ้าง โดยที่ญาติไม่รู้เลย แล้วต่างนำมาให้ท่านอาจารย์

เว้นแต่พระโพธิสัตย์เท่านั้นที่มิได้นำสิ่งใดมาเลย
ท่านอาจารย์จึงได้ถามว่า “เธอไม่นำสิ่งใดมาเลยหรือ”

พระโพธิสัตย์จึงได้ตอบท่านอาจารย์ว่า
[b]“ผมคิดว่าไม่มีการทำบาปใดจะเป็นความลับไปได้เลย
แม้ไม่มีใครเห็น แต่ผม และ อาจารย์ต่างก็รู้เห็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมนี้
แม้ผมจะรักลูกสาวของท่านอาจารย์
แต่ผมรักศีลมากกว่า จึงไม่กล้ารักขโมยของมีค่า ตามคำสั่งของท่าน
“[/b]

จากนั้นพระโพธิสัตย์จึงได้กล่าวสุภาษิตอันไพเราะว่า
“ ในโลกนี้ย่อมไม่มีที่ลับแก่ผู้ทำกระทำบาป
ต้นไม้ที่เกิดในป่า ยังมีคนเห็น
คนพาลย่อมสำคัญผิด คิดว่าบาปนั้นเป็นความลับ
ข้าพเจ้าย่อมไม่เห็นที่ลับ
แม้ที่ว่างเปล่า ก็ไม่มีในที่ว่างเปล่า
ถึงแม้ข้าพเจ้าจะไม่เห็นใครในที่นั้น ก็ไม่ว่างเปล่าจากตัวข้าพเจ้า”

อันที่จริงท่านอาจารย์ต้องการทดสอบว่า มีศิษย์คนใดที่มีศีล เหมาะสมกับลูกสาวของท่าน
ซึ่งก็คือพระโพธิสัตย์นั่นเอง

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงธรรมเรื่องนี้ ทำให้ภิกษุทั้ง 500 เกิดความละอาย
และไม่กล้าส่งใจไปที่อื่นแล้วได้ประพฤติธรรม จนบรรลุพระอรหันต์ทั้ง 500
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#6 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 May 2008 - 11:42 AM

เรื่องที่2ธรรมะเพื่อประชาชน หลวงพ่อครูไม่ใหญ่ :
มงคลที่ ๑๖ ประพฤติธรรม – ธรรมะคุ้มครองโลก


มีพระบาลีใน ขุททกนิกาย เทวธรรมชาดก ว่า

“หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺนา สุกฺกธมฺมสมาหิตา
สนฺโต สปฺปุริสา โลเก เทวธมฺมาติ วุจฺจเร</b>

สัปบุรุษผู้สงบระงับ ประกอบด้วยหิริและโอตตัปปะ
ตั้งมั่นอยู่ในธรรมขาว ท่านเรียกว่าผู้มีธรรมของเทวดาในโลก


ผู้มีกาย วาจา ใจสงบ มีสติ มีหิริโอตตัปปะ ไม่เบียดเบียนสัตว์โลก ท่านเรียกว่าเป็นสัปบุรุษ ผู้สงบระงับแล้วจากบาปกรรม มีความละอายต่อความชั่วและเกรงกลัวต่อบาป มีธรรมของเทวดาที่เรียกว่า “เทวธรรม” ผู้ประพฤติตามธรรมนี้ ละโลกไปแล้ว จะไปบังเกิดเป็นสหายแห่งเทวดาในสุคติโลกสวรรค์ เพราะตั้งมั่นอยู่ในสุกกธรรม คือ ธรรมขาว หรือธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้

หิริโอตตัปปะ คือ ธรรมคุ้มครองโลก ที่ทำให้โลกเกิดความสงบสุขร่มเย็น เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเจริญทางจิตใจของมวลมนุษยชาติ หิริโอตตัปปะและศีล ๕ เป็นสิ่งที่ต้องประพฤติร่วมกัน เพราะเป็นคุณธรรมพื้นฐานที่เป็นปกติของมนุษย์ เป็นเหตุให้มนุษย์อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข







เรื่องที่ 3 หิริโอปตัปปะ เสียงธรรมเทศนา โดย พระเดชพระคุณหลวงปู่สด จันทสฺโร


Clicke ที่นี่
เรื่อง หิริ โอปตัปปะ ค่ะ

http://www.kalyanami...ing.asp?catid=1




เรื่องสุดท้าย

ดิฉันสรุปเองค่ะ happy.gif

ธรรมคุ้มครองโลก เพราะเป็นธรรมที่กำกับดูแลเรา
ไม่ให้ทำชั่วทำบาป แม้ในที่ลับ หรือในที่แจ้ง
หรือ แม้มีเราคนเดียวที่รู้เห็น ก็ไม่กระทำสิ่งอันเป็นบาปทั้งปวง




ผิดพลาดอย่างไรขออภัยค่ะ
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#7 noomania

noomania
  • Members
  • 34 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 May 2008 - 08:42 AM

พระโพธิสัตย์ ต้องสะกดเป็น พระโพธิสัตว์ จึงจะถูกครับ

สาธุ


#8 usr33027

usr33027
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 January 2010 - 12:15 AM

biggrin.gif หิริ คือ ความละอายต่อบาป

โอตตัปปะ คืก ความละอายต่อบาป

หิริใช้กับคนที่ภูมิต่ำกว่า

โอตตัปปะใช้กับคนที่มีภูมิสูงกว่า

เป็นหมวดธรรมะที่คุ้มครองโลกอยู่เป็นเจตสิกที่ดีงาม(โสภณเจตสิก25)แบ่งเป็นโสภณสาธารณเจตสิก19
หิริโอตตัปปะจึงไปสอดคล้องกับอกุศลเจตสิก14อยู่ในสัพพกุสลสาธารณเจตสิก4
คือ โมหะ ความหลง
อหิริกะ ความม่ละอายต่อบาปนั่นเอง


#9 usr33027

usr33027
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 January 2010 - 12:27 AM

*ขอแก้ข้างบนนะค่ะ
เปลี่ยนโมหะเป็นอโนตัปปะ คือ ไม่สะดุ้งกลัวต่อบาป