ท้อจังเรย
#1
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 08:33 PM
ชาวยด้วยนะค่ะ
#2
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 08:54 PM
ส่วนถ้าแม่เริ่มมีทัศนคติในแง่บวกน้อยหน่อย ลบมากหน่อย การไม่พูดอะไรในเบื้องต้น ถือว่า ทำถูกต้องครับ ทำนอง น้ำกำลังเชี่ยว อย่าเพิ่งเอาเรือไปขวาง
แต่ให้ใช้ทางอ้อมแทน เช่น นำหนังสืออยู่ในบุญ ที่มีภาพบวชพระแสน หรือ บวชอุบาสิกาแสน ทำเป็นวางไว้ตามโต๊ะรับแขก และก็ทำเป็นไม่ได้สนใจว่าวางหนังสือทิ้งไว้อยู่ (ตามหลักภาษิตที่เขาว่าไว้ว่า "อยากแต่ทำเหมือนไม่อยาก")
อาจจะดีขึ้นก็ได้นะ จะบอกให้
#3
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 09:20 PM
...การรักษาศรัทธาของตนเองว่ายากแล้ว แต่การรักษาของคนอื่นก็ยากเช่นกัน การเสียศรัทธาเป็นเรื่องร้ายแรงที่สุดต่อนักสร้างบารมี เพราะจะทำให้ห่างบุญ ห่างหมู่คณะออกไปเรื่อยๆ แถมยังมีวิบากกรรมข้ามภพชาติอีก แต่ที่ผมพูดไม่ได้มีเจตนาให้หมองนะครับ ลองอ่านต่อ...
...เหมือนคนคนหนึ่งเคยกินข้าว แต่ไปฟังมาว่า ข้าวมิใช่สิ่งจำเป็น เป็นสิ่งไม่ดี ไม่ควรกิน ไปกินก๋วยเตี๋ยวดีกว่า ...ถ้าแบบนี้ การที่คนคนนั้นหนีไปทานก๋วยเตี๋ยว เขาก็ไม่ได้ลืมรสของข้าวไปหรอกนะครับ หากมีโอกาสเขาก็จะกลับมาทานข้าวอีก ถ้าเขาได้ข้อมูลใหม่ว่า ข้าวดีอย่างไร แตกต่างกับก๋วยเตี๋ยวอย่างไรนั่นเอง ข้อมูลใหม่ที่ว่า ก็ขึ้นอยู่ทุกสิ่งรวมทั้งบุญเก่าของผู้ที่จะฟังข้อมูลด้วย ถ้าเขาไม่ฟัง ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่เขาปฏิเสธข้าวไปตลอดชีวิต ด้วยการปิดหู ปิดตา ปิดปาก ไม่ยอมรับอะไรอีกแล้ว ซึ่งก็คงไม่มีสิ่งใดไปช่วยเขาได้ ...เหมือนกับสิ่งนี้คือ "หากใครไม่ยอมรับธรรมะของพระศาสดาแล้ว เขาย่อมเข้าใจว่าธรรมะไม่มีประโยชน์อยู่จริง" แต่ทว่า หน้าที่ของลูก มีหน้าที่เดียวคือเป็นลูกที่ดีและตอบแทนพระคุณผู้ให้กำเนิด คุณรู้ว่าต้องทำอย่างไรแล้ว แม้มารดาจะเห็นผิดในยามนี้ แต่การสร้างบารมีจะไปปรับความเห็นถูกในยามหน้า หรือปรโลกหน้าก็ได้ ...คุณอย่าเพิ่งเสียใจ ท้อใจไปเลย บุญไม่ทิ้งเรา ไม่ทิ้งคนของเราหรอกครับ ..เราพยายามโปรดให้ท่านเห็นถูกได้เท่าไหร่ ก็เอาเท่านั้น แต่อย่าท้อ อย่าวิตก อย่ากังวลจนใจหมอง ซึ่งจะเกิดผลเสียต่อมารดา และตัวคุณด้วย พญามารเขาร้ายแบบนี้แหละ คุณต้องสู้ อย่ายอม ...สู้ก็ตาย ..ไม่สู้ก็ตาย ...งั้นสู้ดีกว่า..
#4
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 09:32 PM
เข้าข่าย เป็นเพียง "ท้อเทียม" ยังไม่ถึงกับ "ท้อแท้"
แม่เราทั้งคน อย่าท้อเลยน๊าคะ ให้มันรู้ไปว่าแม่จะเชื่อคนอื่นมากกว่าลูกแก้วลูกขวัญของแม่
ส่วนมากที่ครอบครัวเปลี่ยน และ เกิดศรัทธายอมคล้อยตามลูก ตามมาวัด ก็คือ เห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นคนดีวันดีคืน อย่างหน้ามือเป็นหลังมือของลูกแก้วของแม่
หลายบ้านงงที่อยู่ๆ ลูกปลุกพ่อแม่ เพื่อมารับการกราบ
เชื่อเถิดค่ะ แม่ย่อมรักลูกมากกว่าคนในตลาดแน่นอน....
กราบแม่สิคะ และ พูดว่า เรารักแม่ อยากให้แม่ทำบุญด้วยกัน
อย่าท้อเลยน๊า..... สู้ๆ ค่ะ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#5
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 10:08 PM
#6
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 10:59 PM
#7
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 11:24 PM
เราต้องรีบอาบน้ำ แล้วเติมกำลังใจให้ตัวเองใหม่ เพราะคนเราขาดกำลังใจไม่ได้ "
" ไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาดูถูก แต่เราอย่าดูถูกตัวเราเอง !!
พ่อแม่ยังรอความหวังจากเรา ญาติพี่น้องยังรอความหวังจากเรา "
#8
โพสต์เมื่อ 21 March 2010 - 11:36 PM
แต่เราก็ใช้วิธีนิ่งๆไว้ ถ้าเค้าถามก็อธิบายเป็นกลางๆไม่พูดละเอียดเยอะ เพราะตอนนั้นใจแม่เค้าไม่เห็นด้วยเต็มที่ ยิ่งตอบแบบละเอียด
จะยิ่งงงไปกันใหญ่
พอหลังจากนั้นก็ทำตัวเหมือนเดิม เป็นลูกที่ดีเหมือนเดิม ใช้เวลาสักนิดเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วแม่เค้าจะเห็นคำตอบเอง
โดยการปฏิบัติตัวของลูกแทนคำตอบทุกข้อทึ่เค้าสงสัย
อีกอย่างลองถามแม่ว่าคิดว่าเราเป็นลูกหรือเป็นเด็กที่ดีมั้ยและต่อด้วยคำว่านี้แหละคือลักษณะของคนที่เข้าวัด แม่ว่ามันดีมั้ยละ
เราลองใช้วิธีนี้มาหลายครั้งใช้การปฏิบัติแทนคำพูด และแม่ก็เชื่อในสิ่งที่เค้าเห็นสิ่งที่เราทำทุกวัน
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่เจอปัญหานี้นะค่ะ สู้ๆๆการได้พาครอบครัวมารู้จักธรรมะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดปลอดภัยที่สุดนะค่ะ
คำพูดนั้นสำคัญ แต่การกระทำสำคัญที่สุดค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 09:39 AM
ทำหน้าที่ของลูกหลวงพ่อ หลายคุณยายอย่างเข้มแข็งเหมือนเดิมน่ะค่ะ อย่ายอมแพ้ สู้ สู้ ค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 09:50 AM
- ค่อยๆตะล่อมท่านให้มาในวันอาทิตย์ต้นเดือนและงานบุญใหญ่
- ที่บ้านก็อย่าลืมชวนท่านดู dmc นะ
ได้กุศลอันสูงสุดคือเป็นกัลยาณมิตรให้กับท่าน แล้ว สำหรับตัวเราเองก็...อย่าลืมทำการบ้าน10ข้อของคุณครูไม่ใหญ่ล่ะ
เดี๋ยวท้อจะเปลี่ยนเป็นทึ่ง!
#11
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 11:14 AM
"เลิกท้อ" แล้วเดี๋ยวดวงปัญญาจะให้ทางออกที่เหมาะสมเอง อย่าลืมนะครับ "เลิกท้อ"
ยำ้อีกครั้งเป็นครั้งที่สาม "เลิกท้อ"
้happy&smile
#12
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 02:16 PM
#13
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 03:10 PM
#14
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 04:24 PM
#15
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 07:06 PM
เบื่อความท้อแท้กันดีกว่านะคะ
#16
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 07:29 PM
ก็อย่างนี้แหละ เรานี่เสื้อเหลืองจัด เวลาไปวัดพระธรรมกายก็ท้อว่าทำไมหมู่คณะเราเป็นพวกเสื้อแดง ทำไมชอบทักษิณกันนัก แต่ก็ต้องทำใจ แล้วแต่คนคิด ยังไงก็ตาม สักพักใหญ่ๆก็กลายเป็นสีขาวหมด
"พุทธบริษัทสี่ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว"
#17
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 07:32 PM
#18
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 07:58 PM
#19
โพสต์เมื่อ 22 March 2010 - 10:20 PM
ก็คงต้อง พยามเข้า ซักวันหนึ่งก็จะช่วยท่านได้ครับ โดยเป็นลูกที่ดีของท่าน
ทำการบ้าน 10 ข้อ นั่นหล่ะให้ท่านเห็น กราบเท้าท่านก่อนนอน ทุกคืนเลยนะ
เอาให้ท่านเห็นว่า "ลูกเรานี่ดีจริง ๆ
วัดของเรานี่ดีจริง ๆ สอนให้ลูกเราดีขนาดนี้เชียวหรือ"
เมื่อจิตเป็นกุศล เดี๋ยวก็ชวนง่ายขึ้นเยอะครับ
#20
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 01:16 AM
จะเสื้อสีไหนก็มาเถอะ มาได้ทุกสี
มาวัดแล้ว ก็มาประพฤติปฏิบัติธรรมกัน
จะเสื้อสีไหน มาวัดก็ต้องใส่เสื้อสีขาว ไม่มีการแตกแยก
เพราะความแตกแยกนำมาซึ่งความเสื่อม
ความแตกแยกที่เกิดขึ้นนำความเสื่อมมาสู่
พระศาสนา สังคมและประเทศชาติ
อย่างนี้ต้องถามตัวเราเองแล้วล่ะ
ว่าเราอยากเป็นส่วนหนึ่ง ในความแตกแยก
อันนำมาซึ่งความเสื่อมแก่พระศาสนาและประเทศชาติหรือไม่
ถ้าไม่อยากก็หยุดแบ่งแยกได้แล้ว
พุทธบริษัทสี่ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน
เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว
ว่าอย่างไร ก็ต้องว่าตามกัน
#21
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 03:17 AM
ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ฟันธงค่ะ...
กรุณาอย่านำเรื่องร้อนหู ร้อนตา ร้อนใจ มายุ่งเกี่ยวเลยค่ะ
#22
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 09:30 AM
ก็คอยสังเกตโอกาสคุยกับคุณแม่เหมือนกัน ตอนนี้ดูท่านยังร้อนๆอยู่ (ก็เรื่องกีฬาสีจริงๆแหละค่ะ)
ตอนนี้ที่ห้องรับแขกก็นำหนังสืออยู่ในบุญที่มีภาพบวชพระแสน หรือบวชอุบาสิกาแสนไปวางเรียบร้อย ทีวีก็เปิด DMC ตลอด
#23
โพสต์เมื่อ 23 March 2010 - 08:27 PM
...
แนะนำบวชให้ท่านไหมคะ จะได้เอาบุญนั้นมากลั่นใจให้ใสๆ พอบุญของท่านส่งผลปุ้ป ใจท่านก็เปิดอีกรอบหละคะ
ทีนี้ ต่อให้ใครจะมาพูดยังไง ท่านก็จะไม่เปลี่ยนใจจากวัดเราแล้วหล่ะคะ นะคะ ลองดู เอาใจช่วยนะคะ
#24
โพสต์เมื่อ 25 March 2010 - 05:02 AM
แม่งามงอนสีไหนไม่สำคัญ
ขอเพียงแม่เจ้าเฝ้าเพียรฝัน
มุ่งสร้างสรรในสิ่งที่ดีงาม
นั้งธรรมะให้ใจใสสว่าง
ปีติซาบซ่านถึงซึ่งแก่นสาร
มุ่งสร้างบารมีสู่นิพพาน
แก่นสารชีวีนี้สำคัญ
(ชวนคุณแม่บวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 22 เม.ย.นะค๊ะ)