มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[usr32278]

หากมีคนพูดจาให้รู้สึกโกรธ โดยการพูดนั่นเป็นความจริงบางส่วน เท็จบางส่วน
เราควรทำอย่างไร เพื่อที่ระงับความโกรธแล้วใช้สติแก้ไขปัญหา มีหลักธรรมหรือหลักปฏิบัติอย่างไรบ้าง
ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้คงแก้ไขไม่ได้ในวันเดียว อาจต้องค่อยปรับตัว

ขันติ เป็นตบะ อย่างยิ่ง

[slumpmax]

สำคัญที่สุดเลย คือ ห้ามโกรธครับ ถ้าโกรธก็ระงับความโกรธก่อน เฉย ๆ นิ่ง ๆ
เขาพูดให้เราโกรธได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องโกรธ
เราห้ามคำพูดของคนอื่นไมไได้ แต่เราห้ามใจตัวเองได้
อย่าไปยึดถือ ตีความ หรืออะไรทั้งสิ้น สำคัญอย่างเดียวคือ ต้องไม่โกรธให้ได้ทุกกรณี
ถ้าไม่โกรธได้แล้ว ค่อยคิดวิธีแก้ปัญหาครับ เพราะถ้ายังโกรธอยู่ ปัญหาก็คือใจเราเองที่ยังควบคุมไม่ได้
จะไปแก้ไขปัญหาภายนอกได้อย่างไร ฝึกใจตัวเองไม่ให้โกรธให้ได้ก่อนครับ ไม่ยากหรอก
มันจะยิ่งยากถ้าปล่อยให้ตัวเองโกรธบ่อย ๆ แต่ถ้าเราฝึกไม่โกรธบ่อย ๆ มันก็จะง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

[Love Boon]

โกรธ คือ โง่ โมโห คือ บ้า
ถ้าโกรธแล้วก็อย่าให้ติดอยู่ในใจเรานาน
ทำใจใสๆ ค่า ดูอย่างคุณยายสิค่ะ ไม่เคยโกรธใคร

[หัดฝัน]

ถ้าที่ครูไม่ใหญ่เคยแนะไว้ ท่านบอกว่า ปรกติแล้ว เวลาจะเกิดอารมณ์อะไรขึ้นมา มันจะสัมพันธ์กับการหายใจเข้าออกของเราพอดี เช่น เวลาที่เรากำลังจะใจหมอง ลมหายใจที่เราหายใจเข้าไปก็จะหมอง

ดังนั้น ท่านจึงแนะนำ เวลาที่เราำำกำลังจะใจหมอง เช่น กำลังจะโกรธ ให้ใช้วิธีสั่งหมองออกมา (คล้ายๆ สั่งน้ำมูก แต่ทำเบาๆ) คือ ไม่ให้ลมหายใจที่จะทำให้ใจหมองนั้นเข้าไป โดยการหายใจออกแทน ซึ่งเป็นการหยุดความต่อเนื่องของอารมณ์ฝ่ายไม่ดี

ผมเคยลองบ้าง ก็ได้ผลใช้ได้ทีเดียวครับ เสียแต่ว่า ผมไม่ค่อยได้โกรธใคร จึงไม่ค่อยได้ใช้วิธีนี้สักเท่าไหร่

[ตำรวจรักบุญ]

ทำหูเราให้เป็นหูกระทะถ

[usr23182]

ขอออกความคิดด้วยคนค่ะ ถ้าไม่ถูกต้อง ไม่ถูกใจ ก็ขออภัยด้วยค่ะ

1.คุณต้องตรวจสอบก่อนว่าคนที่พูด รู้เรื่องของคุณมากน้อยแค่ไหน เขาอาจจะไม่ตั้งใจพูดเท็จก็ได้

2.เขาพูดความจริงส่วนหนึ่ง พูดเท็จส่วนหนึ่ง เขาอาจจะไม่อยากมีปัญหากับคุณก็ได้ และ อาจจะอยากให้คุณสบายใจ

จึงพูดความจริงไม่หมดทุกอย่าง เพื่อเลี่ยงการมีปัญหากับคุณก็ได้ค่ะ

3.คุณต้องลองพิจารณาว่า สิ่งที่เขาพูดเกิดผลประโยชน์ กับ คุณ มากกว่าเกิดผลเสียกับ คุณ หรือเปล่า

4.ให้ลดความโกรธลงทุกวัน โดยการให้อภัย อโหสิกรรมให้เขา แผ่เมตตาให้เขาทุกวันค่ะ

5.ให้นึกถึงความดีที่เขาทำกับคุณ อย่านึกถึงความผิดพลาดที่เขาทำกับคุณ คนเราย่อมทำผิดกันได้ค่ะ

6.ให้พิจารณาดูที่เจตนา ว่า หวังดี หรือ หวังร้าย กับคุณ อย่าพิจารณาที่คำพูด เพราะคำพูดอาจจะไม่ถูกใจคุณค่ะ

7.ปัจจุบัน คนที่พูด ยังทำความดีกับคุณอยู่หรือเปล่า ยังคุย ยังยิ้ม ยังอยู่กับคุณ ยังให้ความสำคัญกับคุณอยู่หรือเปล่า

หรือ ทำไม่ดีกับคุณแล้ว ถ้าเขายังทำดีกับคุณอยู่ ให้อภัยเขาเถิดค่ะ ก็แสดงว่าเขายังมีความจริงใจให้กับคุณค่ะ

8.ขออนุญาติ ยกคำสอนของหลวงพ่อมาเล่าให้ฟังค่ะ ท่านเคยบอกว่า ไม่มีใครทำผิด มีแต่ทำไม่ถูกใจ ให้อภัยเขาเถิด

9.ชีวิตเป็นของน้อย ไม่นานก็ตายจากกัน ให้อภัยต่อกัน เอาชีวิตที่เหลือมาทำความดีต่อกัน พูด ยิ้ม ให้กันดีกว่าค่ะ

10.คนเราย่อมมีการทำผิดพลาดกันได้ค่ะ ด้วยความไม่รู้ และ ด้วยอารมณ์ค่ะ

11.คุณควรหาโอกาส คุยกับเขา ฟังเขาพูดอธิบายก่อน ปรับความเข้าใจกับเขาน่ะค่ะ

12.คุณต้องลองพิจารณาตัวคุณดูค่ะ ทำไมเขาถึงต้องพูดเท็จกับคุณ ไม่พูดความจริงทั้งหมด เพราะเขากลัวคุณจะโกรธเขาหรือเปล่า

เพราะคุณจะไม่ฟัง ไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาจะพูด หรือเปล่า แสดงว่า คนที่พูดเขาแคร์ความรู้สึกของคุณน่ะ

13.เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นและจบลงแล้ว วันนี้ ควรเริ่มต้นใหม่ ให้โอกาสกันใหม่ ที่จะชวนกันทำแต่บุญ สร้างบารมีด้วยกัน

14.ให้ตั้งสติพิจารณา อย่าใช้อารมณ์พิจารณา

15.ถ้าเขาเป็นคนที่มีนิสัยขี้โกหก ก็เลิกคบเถอะค่ะ ไม่ต้องไปกังวลอะไรแล้ว คุณจะคบคนดี คนที่มีความจริงใจให้กับคุณ

หรือคุณจะคบคนไม่ดี คนที่ไม่มีความจริงใจกับคุณล่ะค่ะ แล้วต้องมานั่งระแวงว่าเขาจะโกหกคุณอีกไหม

16.คุณนั่งสมาธิเยอะ ๆ ทุก ๆ วัน เอาเวลามารักษาใจตัวเองให้ใส ๆ ดีกว่าค่ะ

17.มาคิด มาทำ มาพูด แต่เรื่องดี ๆ คิดพูดทำแต่ในแง่บวกกันดีกว่าค่ะ หยุดคิด หยุดพูด หยุดทำ ในเรื่องที่ขุ่นมัวกัน


ทุกเรื่อง ทุกคน ไม่มีใครทำอะไรให้ถูกใจ เราทุกอย่างค่ะ ให้อภัยกันได้ รัก สามัคคีกันได้ จะดีกว่าค่ะ

ลูกหลวงพ่อจะได้รวมกันเป็นหนึ่งเหมือนตะวันดวงเดียวกัน ประเทศชาติจะได้สงบสุข อย่าปล่อยให้ฝ่ายดำมาบังคับบัญชาได้ค่ะ

เราเป็นลูกหลวงพ่อ ควรใช้วิชาแบบลูกหลวงพ่อค่ะ ให้อภัย แผ่เมตตา



ถ้าเขียนอะไรมาไม่ถูกใจ ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกอารมณ์ ก็ขออภัยด้วยน่ะค่ะ

ขอให้ลูกหลวงพ่อทุกคนมีความสุข ช่วงนี้มีบุญชวนบวชอุบาสิกาแก้ว อย่าลืมลุยงานบุญใส ๆ กันน่ะค่ะ มาเอาบุญดีกว่าค่ะ

บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งของพวกเราทุก เป้าหมายของพวกเราคือที่สุดแห่งธรรม ที่พักระหว่างทางคือดุสิตบุรี

นั่งสมาธิเอาใจใส ๆ องค์พระสว่าง ๆ บุญใส ๆ กันดีกว่าค่ะ


ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ ทุกบุญที่ทุกท่านทำน่ะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

[Tree]

ผมแถมจากเพื่อนสมาชิกนะครับ
ถ้าเขาว่าเราก็ให้มองเสมือนประหนึ่งว่าเขาเอาหมาเน่ามาโยนใส่เรา ถ้าเราเผลอรับเอาใว้ (เก็บคำพูดเขาใว้ในใจ) ก็ขอให้โยนมันทิ้งไปเร็วๆ เหมือนกันโยนซากสุนัขเน่านั้นทิ้งเสีย

องค์ความรู้นี่ได้มาจากพระอาจารย์ครับ

[คนไร้ค่า]

รู้ให้พร้อม

หลวงพ่อสนอง กตปญโญ แห่งวัดสังฆทาน ได้ปราถภการปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ ถึงเรื่องการละกิเลสว่า

"หลวงปู่ครับทำอย่างไรจึงจะตัดความโกรธให้ขาดได้"ฯ

หลวงปู่ ดุลย์
องค์ท่านตอบว่า

"ไม่มีใครตัด ให้ขาดได้หรอก มีแต่รู้ทัน เมื่อรู้ทันมันก็ดับไปเอง"

กระผมฝักเรื่องนี้มามาก สิ่งหนึ่งของฝากเพื่อนไว้ก็คือ ต้องมีสติ และมีความตั้งใจว่า ถ้ามีเรื่องที่ทำให้เราโกรธจะต้องรู้ทัน แล้ววางให้เร็ว
การภาวนา สร้างสติ แรกจะรู้ไม่ทัน ต่อไป ก็จะทัน ส่วนความโกรธขึ้นนั้น ใช้หัวข้อธรรมมาสอนใจของเขา ที่ครูบาอาจาร์ยสอนให้ใช้คือพรหมวิหารสี่ ฯลฯ มีอีกมากที่จะบอก

สุรป
ขอแนะนำนะ
๑. ต้องมีสติรู้ให้ทัน หรือให้ตั้งใจสังเกตว่า เราโกรธแล้วแสดงออกไปนััน รู้ตอนไหน (ส่วนการที่รู้ทันว่ามีความโกรธขึ้นทันที่นั้น อยู่ที่การฝึก และต้องมั่นภาวนาบ่อยๆ)

๒.ต้องไม่โต้ตอบ แรกอาจจะโต้ตอบ แต่เรานึกได้แล้วหยุด จะแพ้ชนะ ชั่งมัน การโกรธเหมือนเอาไฟเผาตัวเรานะ นึกไว้อย่างนี้ก็ได้นะ

๓.เมื่อความโกรธนั้นมันใช่ จะหยุดเฉพาะเมื่อมีเรื่องนะ แต่ความโกรธมันจะตามตัวเราตลอด ถ้ามันขึ้นมาเพราะความคิดเราก็ใช้ข้อธรรมสอนเรา
หรือบอกกับตัวว่าเราเอาไฟเผานะไม่คิด และใช้องค์ภาวนา

[DJ.]

ใครๆก็พูดถึง"สติ", "ต้องมีสติ,ๆ,ๆ,ๆ,ๆ", แต่ทำไม"ถึงยัง"ไม่ได้ใช้สติกันบ่อยๆ,

หรือเป็นเพราะ ยังไม่รู้จักแม้แต่"ที่ตั้ง"ของสติ,

ถ้าใจอยู่ ณ. ที่ตั้งของสติ บ่อยๆหรือตลอดเวลา, ก็จะใช้สติได้ทันการณ์, ใช่ไหม ?

ใครรู้จัก"ที่ตั้ง"ของสติบ้างเอ่ย ? ( know where ),

แล้วช่วยเฉลย know how (วิธีใช้สติให้ระลึกได้ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร,เป็นต้น)ด้วยนะ, สาธุๆๆ.

[Airy]

โปรดใช้สติ...ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร...

สาธุ....สาธุ....สาธุ...

เรื่องโกรธ..ผมว่าต้องนั่งธรรมมากๆ ครับ

เวลาผมขาดนั่งธรรมนานๆ ไม่ผีเข้า ก็มีผีออกมาอาระวาด ทุกทีโกรธ.. (โทษทีที่ให้ผีรับไปเต็มๆ)

[usr33487]

"หากมีคนพูดจาให้รู้สึกโกรธ โดยการพูดนั่นเป็นความจริงบางส่วน เท็จบางส่วน"


จากที่ จขกท. เขียนมา แสดงว่าเขาคนนั้นโดยปกติแล้วอาจจะไม่ใช่คนพาลซะทีเดียวเผลอๆ อาจจะเป็นคนรักษาศีลเหมือน จขกท.ก็ได้ แต่อาจจะเป็นเพราะเกิดความเข้าใจผิดกัน หรือ จขกท.เกิดไปทำอะไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจเป็นอย่างมากโดยไม่ได้มีเจตนา จึงทำให้เขาโกรธเคือง นอกจากจะมองว่าเขาทำไม่ดีกับเราแล้ว ให้เราลองกลับย้อนมองตัวเราเองว่าแล้วเราทำอะไรไม่ดีกับเขาหรือเปล่า หากพิจารณาแล้วพบว่า จขกท.เองก็ไปทำร้ายจิตใจเขาก่อนเหมือนกันตรงนี้ก็ต้องมาปรับที่ตัวของคุณเองว่าจะทำอย่างไรเพราะปัญหาทุกอย่างจะแก้ไขได้ดีจะต้องมองไปที่สาเหตุของปัญหาไม่ใช่ไปมองที่ผลลัพธ์ที่ออกมา แต่ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าคุณไม่เคยไปทำร้ายเขาทั้งกาย วาจา ใจเลยก็อโหสิกรรมให้เขาเถิดอาจเป็นเพราะเขาไม่รู้จริงๆ ก็ได้ ทั้งนี้ จขกท.ต้องวางใจเป็นกลางๆ อย่าลำเอียงหรืออคติจนเกินไปแล้วเราจะเข้าใจในสิ่งที่เขาทำ จากนั้นจึงหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป