คืออย่างแรกเลย ฌาณ4 คืออะไรครับ แล้วการได้มาต้องฝึกยังไงครับ
โสดาบันล่ะฝึกยังไง ขอบคุณมากๆนะครับ
ช่วยแนะนำเรื่อง ฌาณ4 หรือ โสดาบัน ทีเถิด
เริ่มโดย ปลัดใจบุญ, Apr 14 2010 04:02 PM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 14 April 2010 - 04:02 PM
#2
โพสต์เมื่อ 14 April 2010 - 04:49 PM
นั่งสมาธิคือคำตอบของทุกคำถามครับ
#3
โพสต์เมื่อ 14 April 2010 - 05:29 PM
เหล่ากัลยาณมิตร นักเรียนอนุบาล ได้ตอบไว้แล้วในบอดร์ดนี้ครับ
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=16415
สรุปสั้นๆ
รูปฌาน 4 เป็นสัมมาสมาธิ เป็นหนึ่งในอริยมรรคมีองค์ 8
เราต้องบำเพ็ญอริยมรรค หรือโดยย่อคือไตรสิกขานี้ให้สมบูรณ์
จะขาดสิ่งใดไปไม่ได้ มิฉะนั้น ไตรสิกขาไม่สมบูรณ์ บรรลุธรรมไม่ได้
โดยเจริญสมถะ วิปัสสนา ตามแนวสติปัฏฐาน 4 ควบคู่กันไป ไม่มีเดี่ยวๆในที่สุด แต่จะเน้นอันไหนก่อนหลัง ก็แล้วแต่จริต บริบท เหตุการณ์
ในวิชชาธรรมกายก็ได้มีการแสดงวิธีการปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน ลองเข้าไปดูในลิงค์นะครับ
สรุปโดยใจความว่า
เน้นสมถะก่อนในเบื้องต้น แล้ววิปัสสนาควบคู่ในภายหลัง
เริ่มโดยการเพ่ง บริกรรมนิมิตตเป็นดวงแก้วสว่างเป็นอาโลกกสิณนิมิต จนบรรลุอาโลกสัญญา ถึงดวงปฐมมรรค
แล้วพิจารณาเจริญกายในกายจนครบทั้ง 18 กายหลัก
จากนั้นอาศัยใจพระธรรมกายอรหัต เจริญฌานต่อไป วิปัสสนาที่อยู่บนพื้นฐานแห่งฌานนี้เป็นวิปัสสนาที่แท้
เมื่อเจริญฌานชำนาญเป็นวสีแล้ว พิจารณาอนุปัสสนา วิปัสสนา จนละความยินดีในฌานสมาบัติเสียได้ ธรรมกายอรหัตที่หยาบจะตกศูนย์ ที่สุดละเอียดจะไปปรากฎในอายตนะนิพพาน ยึดเหนี่ยวเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์
เมื่อถึงขั้นนี้แล้วเรียกได้ว่าโคตรภูญาณ โคตรภูบุคคล เป็นการหลุดพ้นแบบชั่วคราวเรียกว่า วิกขัมภนวิมุตติ
ต่อไปให้เราเจริญอาสวักขยญาณเบื้องสูงสืบต่อไป เป็นโลกุตตระวิปัสสนา ปหานอกุศลจิตของกายในภพ 3 เสียได้ จนสามารถละกิเลศได้อย่างน้อย 3 ข้อ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพตปรามาส ได้อย่างเป็นสมุทเฉทประหาน จึงจะสำเร็จเป็นพระโสดาบัน
เท่านี้ก่อนนะครับ หวังว่าเรียนรู้แล้วควรจะลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังให้เข้าถึงธรรมนะครับ อย่าสักแต่เรียนรู้ นักเรียนอนุบาลทุกท่าน
แต่เท่าที่ผมสรุปมา บางท่านอ่านแล้วผ่านไป กว่าผมจะสรุปแบบนี้ได้ มาจากประสบการณ์ปฏิบัติอันยาวนานพอสมควรเลยนะครับ หากใครจะจดจำไปบอกต่อ ได้ธรรมทาน แต่ไม่ได้ปฏิบัติจริงก็เท่านั้นนะครับทุกท่าน
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=16415
สรุปสั้นๆ
รูปฌาน 4 เป็นสัมมาสมาธิ เป็นหนึ่งในอริยมรรคมีองค์ 8
เราต้องบำเพ็ญอริยมรรค หรือโดยย่อคือไตรสิกขานี้ให้สมบูรณ์
จะขาดสิ่งใดไปไม่ได้ มิฉะนั้น ไตรสิกขาไม่สมบูรณ์ บรรลุธรรมไม่ได้
โดยเจริญสมถะ วิปัสสนา ตามแนวสติปัฏฐาน 4 ควบคู่กันไป ไม่มีเดี่ยวๆในที่สุด แต่จะเน้นอันไหนก่อนหลัง ก็แล้วแต่จริต บริบท เหตุการณ์
ในวิชชาธรรมกายก็ได้มีการแสดงวิธีการปฏิบัติไว้อย่างชัดเจน ลองเข้าไปดูในลิงค์นะครับ
สรุปโดยใจความว่า
เน้นสมถะก่อนในเบื้องต้น แล้ววิปัสสนาควบคู่ในภายหลัง
เริ่มโดยการเพ่ง บริกรรมนิมิตตเป็นดวงแก้วสว่างเป็นอาโลกกสิณนิมิต จนบรรลุอาโลกสัญญา ถึงดวงปฐมมรรค
แล้วพิจารณาเจริญกายในกายจนครบทั้ง 18 กายหลัก
จากนั้นอาศัยใจพระธรรมกายอรหัต เจริญฌานต่อไป วิปัสสนาที่อยู่บนพื้นฐานแห่งฌานนี้เป็นวิปัสสนาที่แท้
เมื่อเจริญฌานชำนาญเป็นวสีแล้ว พิจารณาอนุปัสสนา วิปัสสนา จนละความยินดีในฌานสมาบัติเสียได้ ธรรมกายอรหัตที่หยาบจะตกศูนย์ ที่สุดละเอียดจะไปปรากฎในอายตนะนิพพาน ยึดเหนี่ยวเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์
เมื่อถึงขั้นนี้แล้วเรียกได้ว่าโคตรภูญาณ โคตรภูบุคคล เป็นการหลุดพ้นแบบชั่วคราวเรียกว่า วิกขัมภนวิมุตติ
ต่อไปให้เราเจริญอาสวักขยญาณเบื้องสูงสืบต่อไป เป็นโลกุตตระวิปัสสนา ปหานอกุศลจิตของกายในภพ 3 เสียได้ จนสามารถละกิเลศได้อย่างน้อย 3 ข้อ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพตปรามาส ได้อย่างเป็นสมุทเฉทประหาน จึงจะสำเร็จเป็นพระโสดาบัน
เท่านี้ก่อนนะครับ หวังว่าเรียนรู้แล้วควรจะลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังให้เข้าถึงธรรมนะครับ อย่าสักแต่เรียนรู้ นักเรียนอนุบาลทุกท่าน
แต่เท่าที่ผมสรุปมา บางท่านอ่านแล้วผ่านไป กว่าผมจะสรุปแบบนี้ได้ มาจากประสบการณ์ปฏิบัติอันยาวนานพอสมควรเลยนะครับ หากใครจะจดจำไปบอกต่อ ได้ธรรมทาน แต่ไม่ได้ปฏิบัติจริงก็เท่านั้นนะครับทุกท่าน
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#4
โพสต์เมื่อ 14 April 2010 - 10:57 PM
ก็ยาวอยู่ดี เคยมีสุดยอดนักหลับตาท่านหนึ่งบอกว่า"รู้แจ้งดีกว่ารู้จำ ถ้ารู้จำก่อนจะรู้แจ้งยาก" คนอื่นรู้มาเล่าให้ฟังก็ไม่แน่ว่าจะเข้าใจอย่างที่เขาเข้าใจ หลับตาทำเฉยๆ
เดี๋ยวรู้เอง
เดี๋ยวรู้เอง
#5
โพสต์เมื่อ 14 April 2010 - 10:59 PM
สาธุค่ะ อนุโมทนาในธรรมทานค่ะ ยังนึกดวงแก้วไม่ออก หลวงพ่อบอกให้นึกถึงของในครัวก็ได กินก็ได ทาก็ได
หากยังนึกไม่ได้อีก ก็ไม่ต้องกินมัน ทั้งสาละเปา แตงโม ( พริกทั้งเขียว เหลือง และแดงอันนี้ว่าเองน่ะ)
มะพร้าวก็ได กะโถนก็ได้เปลี่ยนเป็นดวงแก้ว จนเป็นองค์พระมาก็มีแล้วคุณยายอาจารย์ทองสุกไง
...........................................................
สรุปตามหลวงปู่ง่าย ๆ สะบาย ๆ สั้น ๆ " หยุดเป็นตัวสำเร็จ" ทำได้ ถ้าได้ทำ ทำไม่ได้เพราะไม่ได้ทำ
ขอให้อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่น500,000 นี่เข้าถึงธรรมกันยกชั้นเลยนะคะ (ธรรมมีหลายชั้นนะตั้งแต่อนุบาล ไปถึง..........)
หากยังนึกไม่ได้อีก ก็ไม่ต้องกินมัน ทั้งสาละเปา แตงโม ( พริกทั้งเขียว เหลือง และแดงอันนี้ว่าเองน่ะ)
มะพร้าวก็ได กะโถนก็ได้เปลี่ยนเป็นดวงแก้ว จนเป็นองค์พระมาก็มีแล้วคุณยายอาจารย์ทองสุกไง
...........................................................
สรุปตามหลวงปู่ง่าย ๆ สะบาย ๆ สั้น ๆ " หยุดเป็นตัวสำเร็จ" ทำได้ ถ้าได้ทำ ทำไม่ได้เพราะไม่ได้ทำ
ขอให้อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่น500,000 นี่เข้าถึงธรรมกันยกชั้นเลยนะคะ (ธรรมมีหลายชั้นนะตั้งแต่อนุบาล ไปถึง..........)
#6
โพสต์เมื่อ 16 April 2010 - 02:36 AM
เข้ามาอ่านดูครับผม
#7
โพสต์เมื่อ 17 April 2010 - 11:05 AM
หนังสือ "คู่มือสมภาร" อธิบายไว้อย่างละเอียดเลยครับ ว่าเมื่อเข้าถึงพระธรรมกายแล้วต้องทำอย่างไรต่อไปจึงจะบรรลุเป็นขั้น ๆ แต่อ่านแล้วอาจจะเกิด "รู้จำ" ขึ้นมา เวลานั่งสมาธิก็จะเก็บเอาไปคิดเองได้นะครับ
#8
โพสต์เมื่อ 18 April 2010 - 10:16 PM
หยุด...ให้ได้ซะก่อน เรื่องอื่น ค่อยว่ากัน...เรื่องอื่นใหญ่โต มโหฬารนัก...(คำเทศน์หลวงปู่)