ในสมัยพุทธกาล
พระเจ้าประเสนธิโกศล แห่งกรุง สาวัตถี ได้เสด็จเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลเรื่องของ เศรษฐีผู้หนึ่งอยู่ในกรุง สาวัตถี
ไม่มีบุตรธิดา ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ นำปลายข้าว มาต้มกินกับน้ำผักดอง เป็นอาหารทุกมื้อ เสื้อผ้าก็ใช้แต่ของหยาบๆราคาถูก
ร่มที่ใช้ก็ทำด้วยใบไม้ รถที่ใช้ก็เป็นรถเก่าๆ
แม้นใครเอา อาหาร เสื้อผ้า และเอาสิ่งของที่ดีๆมาให้ เศรษฐีก็จะโกรจไม่พอใจ เอาสิ่งของนั้นขว้างปาทิ้งบ้าง ขว้างใส่คนที่นำมาให้บ้าง จนต้องหนีกันหมด ครั้นเมื่อสิ้นชีวิตแล้วไม่มีบุตรมารับ มรดก พระองค์จึงต้องขนเอา ทรัพย์สินของเศรษฐีนั้น ที่มีอยู่จำนวนมากมาย เข้ามาใว้ในพระคลังหลวง
พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้แสดงถึงอดีตชาติ ของท่านเศรษฐีผู้นี้ว่า.....
อดีตชาตินั้น เขาได้เกิดในตระกูลเศรษฐี วันหนึ่งขณะที่เขานั่งกินอาหารอยู่นั้น ได้เห็นพระ ปัจเจกพุทธเจ้า พระนามว่า คตรสีขี
ซึ่งออกจากผลสมาบัติ ณ ภูเขาคันธมาทน์ ออกโปรดสัตว์
เขาเกิดมีจิตเลื่อมใสที่จะถวาย ภัตตาหาร จึงสั่งให้ภรรยาถวายบิณฑบาต แล้วก็ลุกจากที่นั่งไป ฝ่ายภรรยาเศรษฐีเห็นว่า ทุกวันเศรษฐีผู้เป็นสามี ไม่เคยสั่งให้ถวายบิณฑบาตเลย และวันนี้ได้โอกาสแล้ว ที่จะได้ถวาย บิณฑบาต พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ปราศจากกิเลส จึงมีจิตยินดีเป็นอย่างยิ่ง
นางได้ออกไปต้อนรับและได้ ถวายด้วยอาหารที่ปรุงอย่างปราณีต ประดับด้วยของหอมเศรษฐีได้กลิ่นอาหาร ได้เห็นอาหารที่ปราณีต ก็เกิดความรู้สึกเสียดาย เร่าร้อนใจ คิดว่าอาหารนี้ ถ้าให้ข้าทาสบริวารของตนบริโภคยังจะดีกว่า เพราะเขาเหล่านั้น ยังต้องทำงานให้ประโยชน์แก่ตนได้
หลังจากนั้นเมื่อเศรษฐีได้ตายไปแล้ว จากผลของการตั้งใจถวายบิณฑบาต พระปัจเจกพุทธเจ้าในตอนแรก จึงได้ไปบังเกิดบนสวรรค์ถึง 7 ครั้งแล้วไปบังเกิดในตระกูลเศรษฐีอีก 7 ครั้ง แต่เนื่องจากมีจิตคิดเสียดายในภายหลัง จึงทำให้ไม่มี จิตคิดบริโภคอาหารที่ปราณีต ไม่มีจิตคิดจะสวมใส่เสื้อผ้าที่ดีๆ ไม่มีจิตที่จะใช้รถใหม่ๆ และใช้ร่มดีๆ
และในชาตินั้นเศรษฐีได้ ฆ่าหลานชายของตัวเอง ซึ่งเป็นบุตรของพี่ชาย ที่เสียชีวิตไปนานแล้ว เพื่อที่จะได้ครอบครองทรัพย์สมบัติ ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
ด้วยวิบากกรรมนี้ได้ทำให้เขาต้อง ตกนรกนานแสนนาน เศษของกรรมทำให้เขาไร้ทายาทรับมรดก ทรัพย์สมบัติมากมายของเขา ต้องถูกทางการขนเข้าท้องพระคลังหลวงมาแล้วถึง 7 ชาติ
***ให้ทาน แล้ว เสียดาย***
เริ่มโดย สาคร, Apr 20 2010 11:52 AM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 20 April 2010 - 11:52 AM
#2
โพสต์เมื่อ 20 April 2010 - 12:36 PM
น่าสงสารอย่างยิ่ง หากไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ คนเราย่อมไม่มีทางเข้าใจถึง เหตุในอดีตของเราเลย เมื่อไม่เข้าใจสาเหตุวิธีการแก้ไขก็ผิดวิธี เพราะแก้ไม่ตรงสาเหตุ ปัญหาก็จะคาราคาซังไม่สิ้นสุด
เช่น เกิดมายากจน แต่ไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะไม่มีสั่งสมบุญมา เลยเข้าใจไปว่า สาเหตุเป็นเพราะครอบครัวยากจน เราเลยจน วิธีแก้ปัญหาคือ ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินลูกเดียว ไม่ต้องสนใจใคร โดยไม่สนใจสั่งสมบุญเลย หรือทำบ้างนิดๆ หน่อยๆ
อย่างนี้ ภพชาติต่อๆไปก็จะยิ่งยากจนลงเรื่อยๆ เฮ้อ
เช่น เกิดมายากจน แต่ไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะไม่มีสั่งสมบุญมา เลยเข้าใจไปว่า สาเหตุเป็นเพราะครอบครัวยากจน เราเลยจน วิธีแก้ปัญหาคือ ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินลูกเดียว ไม่ต้องสนใจใคร โดยไม่สนใจสั่งสมบุญเลย หรือทำบ้างนิดๆ หน่อยๆ
อย่างนี้ ภพชาติต่อๆไปก็จะยิ่งยากจนลงเรื่อยๆ เฮ้อ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#3
โพสต์เมื่อ 20 April 2010 - 02:18 PM
คนที่ทำบุญแล้วเสียดาย
เปรียบเสมือน คนที่กระหายน้ำ และเมื่อเทน้ำลงในแก้ว เพื่อที่จะดื่มน้ำเพื่อดับกระหาย
แต่....แก้วที่เขาที่เขาใว้สำหรับรองรับน้ำนั้นรั่ว เขาย่อมได้ดื่มน้ำนั้นได้อย่างไม่เต็มที่
ฉันใด บุคคลที่ทำบุญแล้วเสียดาย เมื่อบุญส่งผลย่อม ได้ผล
บุญไม่เต็มเม็ดไม่เต็มหน่วย ฉันนั้น ครับ
เพราะฉะนั้น เมื่อทำบุญควรปลื้ม ก่อนทำ กำลังทำ หลังทำ กันเถอะครับ
เปรียบเสมือน คนที่กระหายน้ำ และเมื่อเทน้ำลงในแก้ว เพื่อที่จะดื่มน้ำเพื่อดับกระหาย
แต่....แก้วที่เขาที่เขาใว้สำหรับรองรับน้ำนั้นรั่ว เขาย่อมได้ดื่มน้ำนั้นได้อย่างไม่เต็มที่
ฉันใด บุคคลที่ทำบุญแล้วเสียดาย เมื่อบุญส่งผลย่อม ได้ผล
บุญไม่เต็มเม็ดไม่เต็มหน่วย ฉันนั้น ครับ
เพราะฉะนั้น เมื่อทำบุญควรปลื้ม ก่อนทำ กำลังทำ หลังทำ กันเถอะครับ
...............................
เศียรเกล้านี้ขอมอบแด่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย
#4
โพสต์เมื่อ 20 April 2010 - 02:21 PM
ผู้ให้ธรรมะ เป็นทานย่อมชนะการให้ทั้งปวง
ขออนุููโมทนาบุญด้วยครับ....สาธุ
ขออนุููโมทนาบุญด้วยครับ....สาธุ
#5
โพสต์เมื่อ 21 April 2010 - 02:46 AM
บางทีผู้ที่มีวิบากกรรมเช่นนี้ ก็เพราะมีผู้ไร้ศีลไร้ธรรม มีมารมาผจญถึงกับโดนกลั่นแกล้งแบบบางเคสก็มี
ซึ่งวิบากกรรมสำหรับพวกที่ให้ร้ายคนอื่นคงตามติดให้เห็นให้เร็ววันนี้
ซึ่งวิบากกรรมสำหรับพวกที่ให้ร้ายคนอื่นคงตามติดให้เห็นให้เร็ววันนี้
เลือกเอา บัวมีสี่เหล่า
เลือกเอา ใจใสๆ
เลือกเอา ใจใสๆ
#6
โพสต์เมื่อ 21 April 2010 - 05:44 AM
บางครั้งถ้าเราทำทานกับผู้ที่ไม่สม แล้วเขาเอาทรัพย์ที่เราให้นั้นไปใช้ในทางที่ผิด เราอาจจะเกิดความเสียดาย(เช่นรำพึงว่า รู้อย่างนี้ไม่น่าให้เลย) อันนี้ก็ค่อนข้างจะเข้าข่ายนะครับ
ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การเลือกเนื้อนาบุญที่เราจะทำทานด้วยนะครับ
ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือ การเลือกเนื้อนาบุญที่เราจะทำทานด้วยนะครับ