ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

พ่อและแม่


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 131072

131072
  • Members
  • 237 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 09:59 AM

คืออยากจะถามว่า การที่เราจะเกิด พ่อและแม่จะต้องทำกรรมทั้งดีและชั่วเท่ากับ ลูกที่มาเกิดใช่ไหมค่ะ

แล้วทำไมบุคลากรในวัดหลายท่านมาก พ่อกับแม่ถึงไม่ยอมให้ลูกเข้าวัด บางคนก็เข้ามาแล้วพ่อกับแม่ก็อยากให้ออกไปอยู่ข้างนอก

ถ้าลูกมีบุญที่จะอยู่เขตใน แล้วทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่มีสัมมาทิฎฐิเสมอลูกล่ะค่ะ แล้วพ่อกับแม่ถือว่ามีบุญมากไหมที่มีลูกได้ไปสร้างบารมีถึงเขตในได้

#2 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 10:13 AM


ผมว่าลูกก็มีวิบากเป็นของตนเองเช่นกันครับ
เช่น เคยไปห้ามไม่ให้คนทำบุญมาก่อน พอมาชาตินี้บาปได้ช่องก็ส่งผลมาให้พบพ่อแม่ที่ไม่เข้าใจบ้าง

การที่ได้เป็นบุคคลากรในวัดไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิบากกรรมเก่ามาก่อนใช่มั้ยละครับ
ดูอย่างพระพุทธเจ้าในชาติสุดท้ายยังโดนวิบากเก่าตามมารังควาญอยู่หลายๆครั้งได้เลย
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#3 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 10:37 AM

....จะมาเกิดเป็น บิดา มารดา และบุตร ร่วมกันในชาตินี้เกิดจากกรรมปรุงแต่งดังนี้

1. สร้างบุญร่วมกัน
2. สร้างบาปกรรมร่วมกัน
3. จองเวรกันไว้ หรืออธิษฐานไว้

..หากจะเปรยว่า มีบุญเสมอกันก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่บุญหรือบาปเป็นของส่วนตัว ส่วนบุคคล แม้ตายจากกันก็ไปกันคนละทิศละทางตามชั้น ตามกำลังแห่งบุญและบาป หากมีวิบากกรรมเป็นมิชฉาทิฏฐิข้ามชาติ ชาตินี้ก็มีสิทธิ์ติดนิสัยเดิมอยู่ และบั่นทอนบุญให้น้อยลงไป หรือตกไปอบาย หากผู้เกิดร่วมกันอยากช่วยเหลือ ก็ต้องช่วยกันให้ความรู้เรื่องบุญบาป ค่อยๆให้เกิดความเห็นถูก เชื่อในพระรัตนตรัย และดำรงไว้ซึ่ง ทาน ศีล ภาวนา ...แม้ยาก แต่ก็เป็นไปได้ แต่ยังดีกว่าไม่ได้พยายามนะจ๊ะ สู้ๆ และอดทน
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#4 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 10:50 AM

กรรมที่ทำให้มาเป็นพ่อแม่ลูกกันก็อยู่ส่วนหนึ่ง
แต่กรรมที่ทำให้คนเรา ยากดีมีจน เป็นั่นเป็นนี่ ก็อีกส่วนหนึ่ง ของใครของมันครับ




#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 12:53 PM

ก็ดูอย่างในสมัยพุทธกาลสิครับ คุณบุญเกิด ตอนที่พระพุทธเจ้าท่านถือกำเนิดมา ตอนนั้น พราหมณ์ทั้งหลายทำนายว่า หากอยู่ทางโลกจะได้เป็นกษัตริย์ผู้ครองโลก แต่หากอยู่ทางธรรมจะได้เป็นพระพุทธเจ้า มีแต่โกณฑัญญะพราหมณ์คนเดียวที่ทำนายว่า ท่านต้องเป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน

แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ พระเจ้าสุทโธทนะ(บิดา) กลับไม่อยากให้ท่านได้บวช หากวิธีการสารพัด เช่น ให้นักบวชออกนอกเมืองให้หมด ให้ทั้งเมืองมีแต่สิ่งเจริญตาเจริญใจ คนแก่เจ็บตายไม่ให้มีเลย

ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า การมาเกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันนั้น ไม่เฉพาะแค่เรื่องกรรมดีชั่วเท่ากันเท่านั้นนะครับ แม้เคยทำบาปทำบุญร่วมกันมา ก็มีโอกาสมาเกิดร่วมกันได้ แม้บาปบุญไม่เท่ากันก็ตาม (สังเกตุง่ายๆ ว่า พระเจ้าสุทโธทนะ บำเพ็ญบารมีมาเพียง แสนกัป (พระอรหันต์) ในขณะที่พระพุทธเจ้าบำเพ็ญบารมีมาถึง 20 อสงไขยแสนกัป บุญบารมีต่างกันมากๆ ทำไมมาเกิดเป็นพ่อลูกกัน ใช่มั้ยครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 ดงบัง...โดรายากิ

ดงบัง...โดรายากิ
  • Members
  • 170 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 12:56 PM

QUOTE
การที่เราจะเกิด พ่อและแม่จะต้องทำกรรมทั้งดีและชั่วเท่ากับ ลูกที่มาเกิดใช่ไหมค่ะ



ต้องใช้คำว่าใกล้เคียง ครับ ไม่เท่ากันเลยซักทีเดียว biggrin.gif

...............................

เศียรเกล้านี้ขอมอบแด่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย

#7 เด็กกะปิ

เด็กกะปิ
  • Members
  • 130 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 01:24 PM

เดาว่าคุณบุญเกิด เป็นเจ้าหน้าที่เขตในแน่ ๆ เลยใช่มั้ยครับ smile.gif เจ้าหน้าที่เขตในส่วนใหญ่จะไม่ได้มาจากครอบครัวที่เป็นครอบครัวธรรมกายแต่เดิมน่ะครับ อาจมีบ้างที่เป็นครอบครัวที่มีการปลูกฝังทางด้านการเข้าวัดทำบุญตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ส่วนมากเลยที่ผมเจอจะไม่ค่อยสนับสนุนการมาอยู่วัดของพวกเราเลยครับ ก็ต้องเข้าใจท่านนิดนึงน่ะครับว่าท่านก็ส่งเสียเราจนเรียนจบสูงขนาดนี้ ท่านก็คงไม่เข้าใจว่ามาอยู่วัดทำไม แต่ ๆ พี่ ๆ ที่เป็นอุบาสกอุบาสิกาเก่า ๆ เค้าก็ให้กำลังใจน้อง ๆ เจ้าหน้าที่เขตในรุ่นใหม่ ๆ ว่าให้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้ท่านบ่อย ๆ ถึงจะโดนว่าโดนดุบ้างก็เพราะท่านยังไม่เข้าใจครับ วันนึงท่านต้องเข้าใจเราแน่นอน อย่างพ่อแม่ของพี่ ๆ รุ่นเก่า ๆ ปัจจุบันก็ตามพระลูกชาย,ลูกชาย,ลูกสาวเข้าวัดกันเยอะแล้วนะครับ อีกอย่างเมื่อถึงวันที่ท่านต้องหลับตาลาโลกไปวันนั้นท่านจะเข้าใจที่สุดครับว่าเราทำไปเพื่ออะไร เพราะหากเราตั้งใจสั่งสมบุญทุกวัน บวกกับพรหมจรรย์และศีลของเราที่สู้รักษามาอย่างดีตลอดชีวิตของการสร้างบารมี พระท่านไม่ปล่อยให้พ่อแม่ของเราต้องลำบากแน่นอนครับ คุณบุญเกิดสู้ ๆ นะครับ smile.gif

#8 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 05:28 PM

การมาเกิดของเราแต่ละครั้งไม่ใช่ว่าบุญของเรากับบิดามารดาจะเสมอกันนะครับขึ้นอยู่กับการกระทำของเราในอดีตด้วยคือสร้างกรรมดีบ้างสร้างกรรมชั่วบ้าง บุญมากกว่าบาปบ้าง บาปมากกว่าบุญบ้างขึ้นอยู่กับกำลังบุญและกำลังบาปว่าสิ่งไหนจะชิงช่วงช่วงชิงกันได้ซ่องก่อนกัน ผัดกันไปผัดกันมาอยู่อย่างนั้นไม่แน่นอนเสมอไป สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะดีหรือร้ายล้วนเกิดขึ้นจากกรรมดีกรรมชั่วที่เราเคยทำเอาไว้ในอดีตทั้งนั้น ฉะนั้นเราจะต้องใจเย็นและอดทนอดกลั้น สู้ชีวิต สร้างแต่ความดี ทาน ศีล ภาวนา และศึกษาธรรมะจากพระพุทธศาสนาให้เข้าใจด้วยดี ผู้ที่มีบุญบารมีมากคือผู้ที่สามารถสอนตัวเองให้มีสัมมาทิฐิได้ สาธุ สาธุ สาธุ

#9 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 07:14 PM

QUOTE
7.คุณพ่อและคุณแม่ของลูก ยังไม่เข้าใจการสร้างบารมี เพราะท่านยังห่วงเรื่องการทำมาหากินของท่าน ท่านทั้งสองเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาบ้าง บางชาติเจอ บางชาติไม่เจอ
ดังนั้นต้องให้เวลาในการอธิบายกับท่านหน่อย เพื่อให้ท่านเข้าใจ เพราะตอนนี้ท่านห่วงลูกแบบชาวโลก แต่ตอนนี้เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ต้องค่อยๆพาท่านมาปฏิบัติธรรมบ่อยๆ เป็นระยะๆ ท่านจะค่อยๆเข้าใจขึ้น

ถาม -- น้องของลูกทั้ง 2 คน เข้าวัดไปช่วยงานของหลวงพ่อหมดแล้ว เหลือแต่ตัวลูก ใจจริงลูกอยากเข้าวัด แต่เป็นห่วงพ่อแม่ เพราะลูกเป็นหลานชายคนโตของตระกูล ลูกควรแต่งงานตามที่คุณพ่อคุณแม่ท่านต้องการหรือไม่ และลูกจะมีบุญพอได้เข้าวัดและบวชอุทิศชีวิตตามที่ลูกต้องการได้ไหมครับ หากเรา 3 คนเข้าวัดควรจะเลี้ยงดูและปฏิบัติต่อคุณพ่อคุณแม่อย่างไรครับ
ตอบ -- ชาติที่ผ่านมา ลูกเคยบวชตลอดชีวิตกับพระราชาองค์ที่ออกบวชมาแล้ว และมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีด้วย การแต่งงานจะทำให้เปลี่ยนผังเดิมจากวงใน ไปเป็นกองเสบียง และจะมีเครื่องกังวลตามมาอีกมากมาย
ผู้ใหญ่สบายใจแล้วก็จากไป แต่ลูกต้องรับห่วงมาแทน ลูกจบด๊อกเตอร์มาแล้ว ให้ใช้สติปัญญาพิจารณาเอาว่าจะทำตามผังเดิมเพื่อให้ผังเดิมแน่นขึ้น หรือทิ้งผังเดิมแล้วเปลี่ยนผังใหม่มาเป็นกองเสบียง ซึ่งอยู่ในเพศภาวะที่ต่ำกว่า ให้ตัดสินใจเอา
http://www.dmc.tv/pr...2548-03-25.html

มีอีกเคสนึง ต้องนั่งธรรมมะให้เข้าถึงพระธรรมกาย จึงจะสามารถทำให้พ่อกับแม่เข้าใจการสร้างบารมีได้ ...แต่ยังหาเคสไม่เจอค่ะ(คอมฯ ที่ใช้ตอนนี้ ไม่เอื้ออำนวยในการสืบค้น) เคสออกช่วงใกล้ๆ กับเคสสุขุมาลชาติ กับเคสราชองค์รักษ์

ยังไงก็อย่าเพิ่งท้อใจนะคะ สู้ต่อไป หลายๆ ท่านในที่นี้ ต้องใช้เวลาหลายปี ในการทำให้พ่อแม่เข้าใจ หลายๆ ท่านพ่อแม่ก็ยังไม่เข้าใจ
เวลานั่งสมาธิก็ให้เอาท่านมาไว้ที่ศูนย์กลางกายบ่อยๆ อธิษฐานจิตบ่อยๆ ส่งบุญไปให้ท่านบ่อยๆ ทำบุญใส่ชื่อท่านบ่อยๆ

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#10 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 08:30 PM

คุณเป็นอภิชาติบุตรครับ อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

จากมงคลชีวิต 38 ประการ

๑๒.การสงเคราะห์บุตร

คำว่าบุตรนั้น มีอยู่ ๓ ประเภทได้แก่
๑.อภิชาติบุตร คือบุตรที่มีความดี คุณธรรม และความสามารถเหนือกว่าบิดา มารดา
๒.อนุชาตบุตร คือบุตรที่มีความดี คุณธรรม และความสามารถเสมอบิดา มารดา
๓.อวชาตบุตร คือบุตรที่มีความดี คุณธรรม และความสามารถต่ำกว่าบิดา มารดา

**** นี่คือคำตอบว่า ไม่จำเป็นต้องสร้างบุญมาเสมอๆกัน แต่ต้องสร้างบุญสรางกรรมมาอย่างเกี่ยวพันหรือสอดคล้องกันครับ

การที่เราเป็นพ่อ เป็นแม่ของบุตรนั้น มีหน้าที่ที่ต้องให้กับลูกของเราคือ
๑.ห้ามไม่ให้ทำความชั่ว
๒.ปลูกฝัง สนับสนุนให้ทำความดี
๓.ให้การศึกษาหาความรู้
๔.ให้ได้คู่ครองที่ดี (ใช้ประสพการณ์ของเราให้คำปรึกษาแก่ลูก ช่วยดูให้)
๕.มอบทรัพย์ให้ในโอกาสอันควร (การทำพินัยกรรม ก็ถือว่าเป็นสิ่งถูกต้อง)


และคุณก็ต้องสร้างบารมีสงเคาระห์พ่อแม่คุณด้วย ดังนี้

๑๑.การบำรุงบิดามารดา

ท่านว่าพ่อแม่นั้นเปรียบได้เป็นทั้ง ครูของลูก เทวดาของลูก พรหมของลูก และอรหันต์ของลูก ความหมายโดยละเอียดมีดังต่อไปนี้คือ

ที่ว่าเป็นครูของลูก เพราะว่าท่านได้คอยอบรมสั่งสอนลูก เป็นคนแรกก่อนคนอื่นใดในโลก
ที่ว่าเป็นเทวดาของลูก เพราะว่าท่านจะคอยปกป้อง คุ้มครอง เลี้ยงดู ประคบประหงมมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก บำรุงให้เติบใหญ่เป็นอย่างดี ไม่ให้เกิดอันตรายต่อลูกในทุกด้าน
ที่ว่าเป็นพรหมของลูก เพราะว่าท่านมีพรหมวิหาร ๔ นั่นก็คือ มีเมตตา หมายถึงความเอ็นดู ความปรารถนาดีต่อลูกในทุกๆด้าน ไม่มีที่สิ้นสุด มีกรุณา หมายถึงให้ความกรุณาต่อลูก ลูกอยากได้อะไรก็หามาให้ลูก ให้การศึกษาเล่าเรียน ส่งเสียเท่าที่มีความสามารถจะให้ได้ มีมุทิตา หมายถึงความรักที่ยอมสละได้แม้ชีวิตของตัวเองเพื่อลูก ยอมเสียสละได้ทุกอย่าง และมีอุเบกขา หมายถึงการวางเฉย ไม่ถือโกรธเมื่อลูกประมาท ซน ทำผิดพลาดเพราะความไร้เดียงสา หรือเพราะความไม่รู้
ที่ว่าเป็นอรหันต์ของลูก เพราะว่าท่านมีคุณธรรม ๔ ประการอันได้แก่
เป็นผู้มีอุปการะคุณต่อลูก คืออุปการะเลี้ยงดูมาด้วยความเหนื่อยยาก กว่าจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่
เป็นผู้มีพระเดชพระคุณต่อลูก คือให้ความอบอุ่นเลี้ยงดู ปกป้องจากภยันตรายต่างๆ นานา
เป็นเนื้อนาบุญของลูก คือลูกเป็นส่วนหนึ่งของกรรมดีที่พ่อแม่ได้ทำไว้ และเป็นผู้รับผลบุญที่พ่อแม่ได้สร้างไว้แล้วทางตรง
เป็นอาหุไนยบุคคล คือเป็นเหมือนพระที่ควรแก่การเคารพนับถือและรับของบูชา เพื่อเทอดทูนไว้เป็นแบบอย่าง
การทดแทนพระคุณบิดามารดาท่านสามารถทำได้ดังนี้

ระหว่างเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็เลี้ยงดูท่านเป็นการตอบแทน ช่วยเหลือเป็นธุระเรื่องการงานให้ท่าน ดำรงวงศ์ตระกูลให้สืบไปไม่ทำเรื่องเสื่อมเสีย รวมทั้งประพฤติตนให้ควรแก่การเป็นสืบทอดมรดกจากท่าน ครั้นเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็ทำบุญอุทิศกุศลให้ท่าน ส่วนการเป็นลูกกตัญญูต่อพ่อแม่ในคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านกล่าวว่าไว้ดังนี้

๑.ถ้าท่านยังไม่มีศรัทธา ให้ท่านถึงพร้อมด้วยศรัทธา คือพยายามให้ท่านมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา เชื่อในเรื่องการทำดี
๒.ถ้าท่านยังไม่มีศีล ให้ท่านถึงพร้อมด้วยศีล คือพยายามให้ท่านเป็นผู้รักษาศีล ๕ ให้ได้
๓.ถ้าท่านเป็นคนตระหนี่ ให้ท่านถึงพร้อมด้วยการให้ทาน คือพยายามให้ท่านรู้จักการให้ด้วยเมตตาโดยไม่หวังผลตอบแทน
๔.ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ให้ท่านถึงพร้อมด้วยปัญญา คือพยายามให้ท่านหัดนั่งทำสมาธิภาวนาให้ได้



ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#11 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 08:57 PM

...สรุป เกิดมาเป็นคนดีแล้ว ตอบแทนผู้ให้กำเนิด บุญประเสริฐและพิเศษย่อมตกอยู่ที่ผู้กระทำ
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#12 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 09:58 PM

อย่าว่าแต่เกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันเลยครับ พระพุทธองค์เคยตรัสว่า สัตว์โลกที่มองเห็นกัน ที่จะไม่เคยเกิดเป็นพ่อแม่ญาติพี่น้องกันไม่มี

เราทั้งผองพี่น้องกัน ร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย

#13 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 10:03 PM

ต้องยกให้คุณ ณ 072 ว่าเป็นผู้เลิศในด้านการค้นข้อมูลจากเคสฯเลยครับ
ไม่ว่าใครจะถามอะไร ยกเคสมาตอบได้หมด
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#14 usr23182

usr23182
  • Members
  • 114 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 May 2010 - 11:25 PM

พ่อกับแม่ ไม่จำเป็นต้องทำกรรมดี หรือ กรรมชั่ว เท่ากับ ลูกที่จะมาเกิดด้วยค่ะ
แต่ พ่อ กับ แม่ อาจจะมีกรรมบางอย่างที่เคยร่วมกันทำกับลูกมา ลูกจึงมาเกิดด้วย ค่ะ

พ่อแม่ ทุกคนค่ะ เป็นห่วงลูก อุตส่าห์ส่งให้เรียนจนจบสูง ๆ อยากเห็นอนาคตลูกดี มีงานทำที่ดี และ รวย หวังที่จะเป็นที่พึ่งของพ่อแม่ได้
เมื่อลูกได้ตัดสินใจเข้ามาอยู่วัด มาทำงานให้วัด แม้ว่าลูกจะมาถือศีล 8 ก็ตาม พ่อแม่ทุกคนก็ยังรับไม่ได้ เหมือนความหวังของท่านได้
ล่มสลายลง ความหวังที่จะได้พึ่งลูก ในยามที่ท่านเจ็บป่วย แต่เมื่อลูกเข้าวัด เหมือนจากอกของท่านจะได้กลับมาอยู่กับท่านอีกไหม
หัวอกคนเป็นพ่อแม่ หวังแค่นี้ค่ะ หวังให้ลูกได้อยู่กับท่าน

พ่อกับแม่ เป็นสัมมาทิฏฐิ ค่ะ เพียงแต่ท่านไม่เห็นประโยชน์ที่ลูกต้องจากท่านเข้าวัดในตอนนี้เท่านั้นค่ะ เพราะฉะนั้นความต้องการของท่าน
ความต้องการของลูก ไม่ตรงกัน แค่นั้นค่ะ จะว่าท่านมีสัมมาทิฏฐิไม่เท่ากับลูกไม่ได้หรอกค่ะ

บุญที่ลูก มาทำงานให้กับวัด บุญนี้มหาศาลนับไม่ถ้วน ทุกบุญให้ตั้งจิตอธิษฐานบุญให้กับท่าน และ หมั่นบอกให้ท่านอนุโมทนาบุญกับเรา
ท่านจะได้บุญที่ลูกทำทุกบุญค่ะ ขอให้ลูกได้ตั้งใจ ทำทาน รักษาศีลให้เยี่ยม นั่งสมาธิเป็นยอด บุญนี้เหมือนลูกได้บวชให้พ่อกับแม่
ท่านย่อมได้รับบุญนี้หาประมาณมิได้เช่นเดียวกันค่ะ

อยากให้ท่านเข้าใจเรา เราต้องเข้าใจท่านก่อน และ ต้องปฏิวัติตัวเองให้สมกับที่เป็นลูกหลวงพ่อ ทำให้ท่านเห็นว่าเราเปลี่ยนไปในทางที่ดี
มากขึ้น ตั้งแต่ ความมีเหตุผล ความอ่อนน้อมถ่อมตน ความเคารพ ความไม่ดื้อดึงกับท่าน ความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และ สิ่งสำคัญ
ต้องหมั่นโทรหาท่านบ่อย ๆ กลับบ้านบ่อย ๆ หรือ พยายามหาทางให้ท่านมาพบเราที่วัด เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสมาทำทาน นั่งสมาธิ
บ่อย ๆ ท่านก็จะได้เข้าใจเราค่ะ เพราะท่านได้มาเห็นว่าคุณทำอะไรที่วัด ท่านก็จะเริ่มหมดห่วงคุณ ท่านก็จะเริ่มปล่อยคุณ

เคยมีคนบอกว่า อยากให้ใครสักคนเข้าใจเรา มีความสุขด้วยกัน เราต้องมอบความรักให้เขาก่อนค่ะ คุณแสดงความรักกับพ่อแม่บ่อย ๆ
รับรองท่านย่อมใจอ่อนค่ะ โทรบอกรักท่านบ่อย ๆ น่ะค่ะ หรือ เมื่อเจอท่านกอดท่านแน่น ๆ และ บอกรักท่านน่ะค่ะ ต่อหน้าเพื่อน ๆ
ท่านจะปลื้มมาก แม้ท่านจะอาย แต่ท่านจะหัน ไปบอกคนทั้งหลายว่า นี่ลูกฉัน มาทำงานที่วัดให้หลวงพ่อจ้า

เรากอดแม่ต่อหน้าคนอื่นบ่อย จนเขาชิน และ ปลื้มเราทุกครั้ง ที่มีสายตาพ่อแม่คู่อื่นมองมาอย่างอิจฉาเล็ก ๆ ว่า ดีจังลูกรักคุณ

ลองดูน่ะค่ะ คำพูดสักล้านคำว่ารักแม่กับพ่อ ไม่เท่ากับที่เราจะทำให้ท่านรู้สึกว่าเรารักเขา แล้ว พ่อกับแม่จะมอบโลกทั้งใบให้คุณค่ะ

ขอให้สำเร็จน่ะค่ะ ที่จะพาท่านมาสร้างบารมีกับคุณได้สำเร็จค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ





#15 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 21 May 2010 - 12:09 AM

QUOTE
แม้ตอนนี้โยมพ่อและน้องชายจะไม่ค่อยสนใจพระพุทธศาสนาก็ตาม แต่ต่อไปเมื่อได้ลูกเป็นกัลยาณมิตร ก็มีสิทธิ์มาสร้างบุญกับหมู่คณะได้อีกจ่ะ!
ส่วนโยมแม่ แม้ตอนนี้จะคุ้นเคยกับการนั่งสมาธิแบบสายอื่นก็ตาม ลูกก็สามารถไปโปรดท่านได้
วันใดที่ลูกได้เข้าถึงพระในตัว, มีความสุขมาก ๆ และเข้าใจธรรมะปฏิบัติมากกว่านี้ , วันนั้นก็จะเป็นวันสว่างของทุกคนในครอบครัวจ่ะ!
http://www.dmc.tv/pa...2548-07-29.html

ต้องใช้เวลาอยู่นานเป็น 10ปี จึงสามารถทำให้โยมแม่เข้าใจวัด
QUOTE
โยมพ่อ, โยมแม่ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา โดยเป็นกองเสบียงทั้งคู่ ประเภทตามอารมณ์ไม่สม่ำเสมอนัก ดังนั้นบางชาติก็เจอกัน, บางชาติก็ไม่เจอกัน
มาเป็นพ่อ-แม่-ลูกกัน เพราะเคยเป็นพ่อ-แม่-ลูกกัน ได้สร้างบุญร่วมกันเมื่อหลายกัปที่แล้ว เมื่อมาเจอกันชาตินี้ บุญที่เคยทำร่วมกันก็ทำให้มาเป็นพ่อ-แม่-ลูกกันอีก

โยมแม่เข้าใจเรื่องการบวชของตัวลูกช้า แต่โยมพ่อเข้าใจได้เร็วกว่า เพราะโยมแม่มีบุญบวชและบุญสนับสนุนในการบวชมาน้อยกว่าโยมพ่อ บวกกับความรักความหวงลูกชายในปัจจุบันมาก จึงตัดใจสนับสนุนเรื่องการบวชพระลูกชายได้ช้ากว่า
เมื่อบุญที่เกิดจากการอนุโมทนาบุญบวชลูกชาย ส่งผลนั้น ก็จะทำให้โยมแม่ได้อานิสงส์ช้ากว่าโยมพ่อ เช่น ถ้าบุญบวชพระลูกชายส่งผลตอนตายแล้ว ก็จะทำให้โยมแม่ ที่มี...ศักดิ์, ยศ, อธิปไตย เป็นต้น น้อยกว่าโยมพ่อ
และถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์ โยมแม่ก็จะอยู่ในตระกูลที่สนับสนุนให้อยู่ในทางพระพุทธศาสนา น้อยกว่าตระกูลของโยมพ่อ คือ จะถูกห้าม, ค้าน ก่อนที่จะอนุญาตให้มาทำบุญ ไม่ว่าจะบวชหรือไม่บวชก็ตาม
http://www.dmc.tv/pa...2549-08-28.html

QUOTE
ถ้าลูกอยากให้คุณพ่อและสามีเข้าวัดทำบุญเหมือนตัวลูก ในตอนนี้ให้ทำบุญใส่ชื่อของคุณพ่อและสามีไปก่อน แล้วอธิษฐานจิตทุกครั้งที่ทำบุญ อีกทั้งให้ลูกหมั่นปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระในตัวให้ได้ แล้วจะเกิดพลังใจ และดวงปัญญาที่จะทำหน้าที่กัลยาณมิตร
http://dmc.tv/pages/...2549-08-23.html

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป