![glare.gif](style_emoticons/default/glare.gif)
![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/0fdfd9e15e3092ace3cc09640551c7ee?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
เครียดครับ
#1
โพสต์เมื่อ 12 August 2010 - 04:07 PM
![glare.gif](style_emoticons/default/glare.gif)
#2
โพสต์เมื่อ 12 August 2010 - 04:59 PM
ให้ไหว้พระ และสวดมนต์ อาราธนาศีล
ให้นึกถึงบุญทุกๆ บุญที่ผ่านมา และอธิษฐานจิต
แล้วค่อยนั่งสมาธิ ให้ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาในชีวิต
ให้เปิดเสียงนำนั่งสมาธิพอให้ได้ยินชัดเจน และปล่อยใจไปตามเสียงนำนั่งสมาธิ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#3
โพสต์เมื่อ 12 August 2010 - 07:54 PM
#4
โพสต์เมื่อ 12 August 2010 - 09:51 PM
....เวลานั่งสมาธิแบบเครียดๆ กลุ้มๆ คือหมองๆ ใจขุ่นๆ ให้เอาลมหายใจเป็นตัวนำดูนะครับ คือ สูดหายใจเข้าออก แบบลึกๆๆๆเลย เอาแบบแทบสุดลมหายใจเลย พอเราจะหายใจไม่ออกนั่นแหละช่วงนั้นมันลืมทุกเรื่องเลย 5555 เป็นวิธีที่แปลก แต่ผมใช้แล้วได้ผลนะ เหมือนว่าจะขาดใจแล้ว มันลืมคิดเรื่องอื่นแล้วประมาณนั้น แล้วก็ค่อยๆผ่อนมัน สุดท้ายก็จะหายใจลึกๆแบบสบายๆอ่ะครับ หัวงี้โล่งเลย เสร็จแล้ว พอนั่งเสร็จเราก็มาสะสางต่อ จากที่จดไว้ไงคับ เพราะถ้าไม่จดไว้ก่อน อาจลืมได้ และอาจห่วงมันจนทำให้สมาธิไม่ดีนั่นแหละจ้า
#5
โพสต์เมื่อ 12 August 2010 - 10:01 PM
ธรรมะที่อาศัยสมาธิเป็นธรรมะที่ก่อให้เกิดสติปัญญา
การทำงานด้วยการมีสมาธิและธรรมะ คนก็จะสำราญ การงานก็จะสำเร็จนะครับทั่น
ชีวิตมิใช่ความทุกข์ แต่เป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ได้ เราจึงควรเจริญสติเพื่อเรียนรู้จากชีวิตแล้วประกอบใจให้เป็นสมาธิอันก่อเกิดปัญญาโดยธรรมะเทอญ
สำหรับบางท่านอย่าเข้าใจว่าสมาธิเป็นเรื่องที่ต้องเอาเป็นเอาตายเพราะหากคิดเช่นนั้นจะเหนื่อยใจ
แต่สมาธิคือการที่จิตใจตั้งมั่นอยู่ในธรรมะและปล่อยวางจากอารมณ์ กำหนดสมาธิเมื่อไหร่ มีสุขที่นั่น
กิจอื่นนอกจากหนทางไปพระนิพพานแล้ว เป็นกิจของมารทั้งสิ้น แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เราต้องอาศัยโลกิยะนั้น เพื่อมุ่งสู่โลกุตตระ ดังนั้นจึงสมควรที่จะทำการงานแบบโลกิยะเพื่อประโยชน์แก่โลกุตตระเทอญ อย่าได้หลงผิดไปจนทำให้โลกิยะเป็นทางขวางกั้นโลกุตตระเลยครับทั่น
เทคนิคคือ
หยุด เป็น ตัวสำเร็จ หยุดตรึกหยุดนึกหยุดคิด มองใจตนเองบ้าง ที่ 072 มองใจตนเองอย่างมีสติแล้วก็ทำใจให้ใส ใสแล้วให้สว่าง ด้วยการนึก(บริกรรมนิมิตต) กำหนดลมหายใจผ่านและกระทบดวงแก้ว ที่ 072 ใจอยู่ตรงกลางจุดเล็กใสสว่าง แล้วบริกรรมภาวนาเบาสบายๆเข้าไปตรงกลางจุดเล็กใสนั้น ว่า "สัม มา อะ ระ หัง" บอกกับตนเองว่า "ปล่อยวางซะบ้าง" จากนั้นทำไปเรื่อยๆไม่ต้องสนใจหรือคาดหวังอะไรคล้ายๆคนกำลังจะหลับ จิตจะปล่อยวางไปเอง จะลืมหมดทุกสิ่ง พอมีสติอีกทีคือความสงบ แสงสว่าง ดวงแก้ว และองค์พระธรรมกายภายใน
เวลาที่เหมาะสมมากๆสำหรับการนั่งสมาธิคือ ตอนตื่นนอนแล้ว หลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว
ดังนั้นเราจึงควรเข้านอนให้ไวขึ้นอีกซักหนึ่งชั่วโมง แล้วตื่นให้ไวขึ้นหนึ่งชั่วโมง อาบน้ำเรียบร้อยแล้วมานั่งสมาธิซักหนึ่งชั่วโมง จนพบประสบการณ์ภายในอันสงบสว่าง แล้วจึงค่อยไปทำงานตามปกติ ลองทำตามนี้ดูครับ รับรองผล
![](http://www.adintrend.com/upload_img/c345828.gif)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 12 August 2010 - 10:40 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#7
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 12:16 PM
#8
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 12:36 PM
ฮ่าฮ่า (บ้าง)
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#9
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 03:12 PM
![laugh.gif](style_emoticons/default/laugh.gif)
#10
โพสต์เมื่อ 13 August 2010 - 09:33 PM
1.คิดให้ตกว่าสุดท้ายเราก็ต้องตายจากทุกอย่างรวมทั้งปัญหา หรืองานที่เรากำลังเครียดอยู่
2.สุดท้ายเราก็ต้องผ่านมันไปไม่ช้าก็เร็ว
3.พยายามจินตนาการนึกถึงวันสุดท้าย หรือนาทีสุดท้ายของชีวิต แล้วค่อยๆหลับตา มันจะวางเอง ใจจะคลายเอง
#11
โพสต์เมื่อ 14 August 2010 - 09:15 PM