![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/268fdfd7c2df02f89aba1aa0edff7530?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
หนูสับสนมากค่ะ
#1
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 11:27 PM
หนูก็เข้าใจว่า เค้ามีธุระทางบ้านเยอะ ทำงานเยอะ จนไม่มีเวลาให้กับหนูอีกเลย บางครั้งหนูโทรไปหาเค้าก็มักบอกว่าไม่ว่าง
ที่เวลาเค้าว่าง ก็มัวแต่เล่นคอมไม่สนใจหนูเลยย เวลาทะเลาะกันเค้าก็เริ่มพูดจาหยาบคายกับหนู และชอบพูดแช่งครอบครัวของหนู
หนูไม่เข้าใจเค้าเลยว่า ทำไมต้องพูดแบบนี้ หนูรู้สึกเสียใจมากๆๆ เลยค่ะ จนมาถึงตอนนี้หนูเริ่มปลงแล้วนะค่ะ ว่าเค้าไม่ใช่คนที่ดีเหมือนที่หนูคิด
แต่หนูยอมรับว่า เค้าเป็นคนเก่ง มีความเป็นผูนำ ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่เค้ามักชอบพูดจาไม่ดี(แบบหมาๆๆ) บางครั้งเค้าก็มักดูถูกหนู
ว่างานอดิเรกดูแลสัตว์ของหนูไร้สาระ หนูรู้สึกเสียใจมากค่ะ จนหนูรู้สึกเบื่อมากๆๆ
ตอนนี้หนูเริ่มคิดได้ว่าหนูควรทำตัวใหม่อย่างไรที่จะได้หลุดพ้นจากความทุกข์นี้ค่ะะ
#2
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 11:44 PM
เค้าเคยเป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจกับหนูตอนที่หนูโดดเพื่อนหักหลังงง
#3
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 12:07 AM
#4
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 12:22 AM
พี่เองก็กำลังจะไปนอนเหมือนกัน และไม่ทราบสภาพแวดล้อมอย่างอื่น ก็ทำได้เพียงการคาดเดาเท่านั้น
รู้แต่เพียงว่า การสูญเสียคนที่รักนั้น กระทบกระทั่งกับจิตใจ จะกระทบมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าผูกพันธ์กันมากแค่ไหน
เอาอย่างนี้แล้วกัน คืนนี้...ให้สวดมนต์ แล้วก็นั่งสมาธิ แล้วก็เข้านอนเสีย
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#5
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 12:58 AM
#6
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 04:53 AM
![](http://img814.imageshack.us/img814/8565/30843149.png)
#7
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 05:32 AM
ทำใจสบาย ๆ กลาง ๆแล้วลองพิจารณานะจ้ะ คือคิดว่าถ้าเราเป็นเขา
เราสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป และยังต้องทำหน้าที่อีกมากมาย มันคงจะเหนื่อยไม่น้อยเลย
ฉะนั้นเมื่อมีเวลาก็อยากมีเวลาเป็นของตัวเอง พักผ่อน ผ่อนคลายโดยวิธีใดก็ตาม รวมไปถึงเข้าไปใช้คอม
เมื่อเราเป็นเพียงเพื่อน(ไมรู้ว่าอยู่ในวงนอกวงในใกล้ไกลใจเขาแค่ไหน ?) เราต้องวางตัวให้พอดี ๆ อันนี้ยากหน่อยนะ
เพราะมักจะเกิดการเข้าใจผิดได้ง่ายมาก อย่างเช่นผู้ชายแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเต็มที่ เทคแคร์ผู้หญิงดี ผู้หญิงอาจเข้าใจผิดคิดว่ามาจีบ
ได้ ทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาปฎิบัติอย่างนั้นกับทุก ๆ คน และในทำนองเดียวกันผู้หญิงดีกับผู้ชายเพราะรู้สึกว่าเขามีบุญคุณอย่างหนูเวลานี้
ก็ได้แต่ผู้ชายอาจจะมองว่าหนูกำลังตื้อหรือดีกับเขามากเกินไปเพราะหลงรักเขาก็ได้ ทำให้เขารำคาญ จึงมีอาการอย่างว่าก็ได้
นี่เป็นเพียงข้อสมุติฐานนะอย่าคิดว่าสอนเลย และมันยังมีเหตุต่าง ๆที่เราไม่รู้ก็ได้อีกเช่นกัน แต่สำคัญ " รักษาใจเราให้ดี ไม่มีทุกข์ต่างหาก"
ฉะนั้นคิดว่าน่าที่จะให้เวลาเขา ให้เขาเป็นตัวเขาเอง และเราถามหาแต่พอสมควรในฐานะเพื่อนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ไม่รบกวนใจกัน
และทำไมจะต้องให้เขามาด่าเรา เราก็มีศักดิ์ศรีคนหนึ่งเอาเวลานี้มาทำให้เป็นประโยชน์อย่างอื่นดีกว่า เช่นศึกษา ดูว่า WWW.DMC.TV
มีอะไรดี น่าสนใจ หาบุญใส่ตัวดีกว่าไปให้เขาว่าเสีย ๆ หาย ๆ นายคนนี้อาจจะดีหรือไม่ดีก็ต้องศึกษาให้ดี ๆ หากดีมีค่าเขาจะเห็นคนเป็นคน
และรู้ค่าของคน ให้เกียรติ์คนอื่น ไม่ดูถูกเหยียดหยามหรือเยียบย่ำทำลายนำใจกันโดยไม่มีเหตุผลพอเพียง(เขาไม่จำเป็นต้องบอกเราก็ได้
แต่ถ้าเขาบอกกล่าวก็ดี ทำไมถึงทำอย่างนี้ ถ้าสนิทกันมากพอ พูดกันรู้เรื่องนี่นา) ก็ใจเย็น ๆ ไว้ก่อนแก้ที่ตัวเราหาหนังสือธรรมะอ่านมาก ๆ
ฟังเพลงจาก dmcนี่ดีสุด ๆ ไม่ฟุ้งซ่าน มีใครคนหนึ่งพูดไว้ว่า " รักกันจริงไม่ทิ้งกันหรอก รักหลอก ๆก็ทิ้งกันไป" แม้จะเป็นความรักระหว่าง
เพื่อนต่อเพื่อนหรืออะไรก็ตาม น่าคิดนะคะ จงให้เวลาอันมีค่ากับตัวเองค่ะ และเพื่อนดี ๆคนอื่นก็ยังมีใช่มั้ย ? โชคดีนะคะ
ขอแนะนำให้อ่านหนังสือ "ความรักที่น่ารัก หรือ Lovely Love" ค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 11:35 AM
พยายามเข้าใจเถอะนะ อะไร ๆ มันไม่แน่นอนหรอก ไม่มีอะไรในชีวิต ในโลกนี้ ยุติธรรม และ แน่นอน ตัวของ kissy เอง ก็ผิดหวัง กับคำ ว่า แน่นอน และยุติธรรมมาเยอะแล้ว เคยสงสัยว่าทำไม ชีวิต ถึงเป็นแบบนี้ เหมือนกันคะ แต่วันนึง ได้ฟังหลวงพี่ อบรมสั่งสอน ว่าชีวิตในโลกมนุษย์อันตราย ไม่ปลอดภัย และไม่มีอะไรแน่นอน ยุติธรรม กับเรา ให้เราประคองใจไว้ที่ 072 อยู่เสมอ
ที่เวลาเค้าว่าง ก็มัวแต่เล่นคอมไม่สนใจหนูเลยย
ลองปล่อยให้เค้าอยู่กับตัวเองสักระยะนึงดีกว่าไหม ลองสังเกตุดูว่าเค้าต้องการอะไร เค้ายังต้องการเราอยู่ในชีวิตเค้าไหม พยายามเอาหูไปนา เอาตาไปไร่บ้าง
ทำได้แน่นอน แต่ต้องมีกัลยาณมิตรที่ดีด้วยนะคะ
#9
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 02:10 PM
ท่านได้แนะนำให้หมั่นอธิฐานเวลาทำบุญ แล้วก็มีหลายเคสที่ทำแล้วเห็นผล
หากคิดโดยเอาเรื่องกฎแห่งกรรมเป็นเกณฑ์ ผมคิดว่ากรรมคงจะได้ช่องตอนช่วงที่เพื่อนน้องใจหมอง กรรมเลย
บีบบังคับความคิดความเข้าใจ ทำให้นิสัยเปลี่ยนแปลงไป อุปมาเหมือนคนที่ดื่มเหล้า พอเหล้าเข้าปากกรรมก็
ได้ช่องมาตัดรอนความคิดสติปัญญา ดังที่เห็นเป็นข่าวอุบัติเหตุเพราะเมาเหล้า หรือมีเรื่องทะเลาะวิวาท บางราย
กรรมบังสติปัญญาไว้ซะมิด เห็นผิดเป็นชอบ เห็นการดื่มเหล้าเป็นเรื่องดี เช่น เห็นเหล้าเป็นเครื่องมือกระชับมิตร
เห็นเหล้าเป็นยารักษาโรค ทั้งที่เหล้าให้โทษมากกว่าคุณ แต่เขากับเห็นโทษเป็นเรื่องดีไป ฉันใดฉันนั้นครับ
ลองทำอย่างที่คุณครูไม่ใหญ่ท่านเคยแนะนำให้ไว้ดูสิครับ ทุกครั้งที่ทำบุญก็อธิฐาน นั่งสมาธิก็แผ่เมตตาให้เพื่อน
ของน้องเห็นถูกเป็นถูก เห็นผิดเป็นผิด มีหิริโอตัปปะ ผมว่าบุญน่าจะช่วยได้นะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 05:54 PM
#11
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 11:57 PM
อกุศลเข้าสิงจิต ให้คิดผิด พูดผิด ทำผิด มารเป็นนาย สอดไส้คุมเขาเสียแล้วค่ะ
พระ(พระรัตนตรัย)เป็นนายจะใช้วาจาสุภาษิต ถ้าจะไล่มารต้องนั่งสมาธิ ที่เดียวเท่านั้น ณ ๐๗๒ มารมิอาจแทรกได้
หนูต้องรอเป็น หาวิธีการดี ๆหรือกัลยาณมิตรดี ๆค่อย ฝึกตัวเองไป ไปวัดพบปะคนดี ๆ แล้วต่อไปคงพบวิธีการช่วยเหลือเพื่อน
เองค่ะ อย่าผูกโกรธนะคะ แต่ถ้าสุดวิสัยช่วยไม่ได้ต้องวางใจอุเบกขา อย่าให้เราจมน้ำคลำตายไปกับเขาด้วย เราต้องใส น้ำใสใจสว่างค่ะ
แม้ว่าวันนี้ยังมืดมิดอยู่ก็ตาม ต้องคิดบวก ทำบวก คิดลบคือคิดร้าย ๆ ไม่ดี ไม่เอา ไม่ทำค่ะ ขอเป็นกำลังสู้ ๆ นะคะ
#12
โพสต์เมื่อ 21 October 2010 - 10:26 AM
หนูก็เข้าใจว่า เค้ามีธุระทางบ้านเยอะ ทำงานเยอะ จนไม่มีเวลาให้กับหนูอีกเลย บางครั้งหนูโทรไปหาเค้าก็มักบอกว่าไม่ว่าง
ที่เวลาเค้าว่าง ก็มัวแต่เล่นคอมไม่สนใจหนูเลยย เวลาทะเลาะกันเค้าก็เริ่มพูดจาหยาบคายกับหนู และชอบพูดแช่งครอบครัวของหนู
หนู ไม่เข้าใจเค้าเลยว่า ทำไมต้องพูดแบบนี้ หนูรู้สึกเสียใจมากๆๆ เลยค่ะ จนมาถึงตอนนี้หนูเริ่มปลงแล้วนะค่ะ ว่าเค้าไม่ใช่คนที่ดีเหมือนที่หนูคิด
แต่หนูยอมรับว่า เค้าเป็นคนเก่ง มีความเป็นผูนำ ชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่เค้ามักชอบพูดจาไม่ดี(แบบหมาๆๆ) บางครั้งเค้าก็มักดูถูกหนู
ว่างานอดิเรกดูแลสัตว์ของหนูไร้สาระ หนูรู้สึกเสียใจมากค่ะ จนหนูรู้สึกเบื่อมากๆๆ
ตอนนี้หนูเริ่มคิดได้ว่าหนูควรทำตัวใหม่อย่างไรที่จะได้หลุดพ้นจากความทุกข์นี้ค่ะะ
น้องครับนี่หละคือธรรมมะ
คนๆนึงไม่ใช่ของเรา การที่เราทำดีกับคนๆนึง เพราะเรารักตัวเอง อยากให้บุคคลอันเป็นที่พอใจอยู่ใกล้ๆเรา
น้องบอกว่า เพื่อนเปลี่ยนไป เป็นธรรมดาครับ ทุกๆคน ย่อมเปลี่ยนไป ยิ่งเราอยากให้เค้าเป็นอย่างที่เราหวัง
เป็นอย่างเดิมที่เขาเป็น เราย่อมทุกข์ เพราะก่อนหน้าจะพบกัน เค้าก็ไม่ใช่ของเรา
อย่าไปยึดมั่นในคนสัตว์สิ่งของ เพราะเหล่านี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ ถามว่าถ้าตายจากกันไปสัก 10 ปี ความรู้สึกยึดมั่นว่าเขาเป็นของเรามันอยู่อีกมั้ย..
ดูความจริงว่า แม้แต่ตัวเราก็เปลี่ยน ก่อนหน้านี้ไม่ยึดมั่นเค้าขนาดนี้ ทำไมวันนี้ เค้าไม่เป็นเหมือนเดิมเราทุกข์
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ พึ่งรู้จักกันวันแรก เราก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้ นี้ชี้ให้เห็นว่า ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ทุกๆคนเป็นทั้งคนดีและคนเลว คนเลวเป็นคนดีก็ได้ คนดีวันนึงกลายเป็นคนเลวได้
ทุกๆวันของคนเรา ทุกข์บ้างสุขบ้าง(ถ้าตามความจริงในอริยสัจ มันมีแต่ทุกข์มาก กับทุกข์น้อย)
อยากหลุดพ้น ให้พิจรณาทุกวันดังนี้
- คนเราทุกข์เป็นขณะๆ เมื่อคิดถึงใครบางคน ไม่มีใครทุกข์ทั้งวัน เราทุกข์เมื่อเราคิด
เรามาดูกัน.. ทำไมทุกข์เพราะคิด เช่น คิดถึง น้องแมว ไอคิดนี่หละมันจะปรุงแต่งว่า
เคยทำอะไรกับน้องแมว สุขยังไงมาบ้าง นั่น.. ไปคิดถึงอดีต
- บางคนบอกว่า โอ้ยไม่จริง ชั้นทุกข์ทั้งวัน อย่างน้อยก็เกือบทั้งวัน
โถ... คุณน้อง แม้แต่คนอกหัก ไอตอนอกหัก หนะเกิดปวดท้องขึ้นมา
ปัดโถ่... ลืมเลยว่าทุกข์เพราะอกหัก จะปลดทุกข์วิ่งหาส้วมกันแทบไม่ทัน
ถ้าถ่ายเสร็จ ก็ทุกข์ต่อ เหตุนี้หละที่บอกว่า ทุกข์เป็นขณะๆ ทุกข์เมื่อคิด
ต่อให้วันนี้เค้าเลวแค่ไหน ไปคิดอดีตที่ดี มันก็เลยดักดาน โงหัวไม่ขึ้น เพราะ (คิด)
- พิจรณาดูความจริงว่า แม้แต่เรายังเปลี่ยนเลย จะเอาอะไรกับคนอื่น
ที่มันทุกข์หนะไปยึดมั่นกับบุคคลนั้น อยากให้เค้าดีกับเรา มันก็เลยทุกข์ มามองดูตัวเองดีกับตัวเอง นั่งธรรมมะ ใสๆ
อย่าบอกนะว่า มันทุกข์ เลยนั่งไม่ได้ ก็เพราะทุกข์นี่หละยิ่งต้องนั่ง อยู่กับคำว่าสัมมาอรหัง
แล้วดูว่า ใน 1 นาที ถ้าใจเราอยู่กับสัมมาอรหัง โดยไม่คิดเรื่องอื่น ทุกข์มันเบาไปมั้ย
- พิจรณาว่า โถ...ในชีวิตนึง เรามีเพื่อนมาแล้วกี่คน ทุกคนเมื่อถึงเวลาก็จากกันไป แล้วพบคนใหม่
ความพรัดพรากจากของรักนั้นเป็นทุกข์ แต่ก็หนีไม่พ้น ไม่จากเป็นก็จากตาย
การจะดับทุกข์ได้ เราต้องเห็นเหตุแห่งทุกข์
เราทุกข์ที่ไหน ..... แท้จริงมันทุกข์ที่ใจเรานี่หละ
ใจเรามันยึด เราก็ทุกข์ คนอื่นมันเป็นแค่สิ่งมากระทบ
แต่ตัวทุกข์จริงๆ มันมาจากใจ เพราะไปยึดมั่น ดับที่ตรงนั้นนะ ^^
เดี๋ยวจะยาวเกินไป เอาเป็นว่า ฝากไว้เท่านี้ก่อน
ขออนุญาตินำคำพูดของ แม่ชีทศพร ครูบาอาจารย์ของผมอีกท่าน ยกมาให้ฟังกันนะครับ ^^
คนบางคนผ่านมาแล้วผ่านไป
บางคนฝากร่องลอยไว้ ณ ดวงใจเนิ่นนาน
บางคนเพียงแว๊บผ่าน...อาจเปลี่ยนชีวิตคนบางคนตลอดกาล
การมาพบพุทธศาสนา ครูบาอาจารย์ และ กัลยาฯ นี่หละสำหรับผม คือการเปลี่ยนทุกสิ่งผมไปตลอดกาล