ชีวิตที่ออกแบบได้
เริ่มโดย niwat, Jun 05 2007 12:02 PM
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 05 June 2007 - 12:02 PM
ชีวิตที่ออกแบบได้
.....เรื่องราวในการดำเนินชีวิตของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันออกไป บางคนร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง
แต่บางคนจะกินไปแต่ละมื้อก็ยังลำบากเลย ถ้าถามว่ารูปแบบชีวิตทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
หลายคนบอกว่าแล้วแต่กรรมพาไป บางคนยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ มอบหน้าที่ให้พระพรหมเป็นผู้ลิขิต
แล้วในความเป็นจริงนั้น ใครกันที่เป็นผู้กำหนด ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนหรอกครับ ก็ตัวเราทุกคน
นั่นแหละคือนักออกแบบชีวิตของตัวเราเอง เราเป็นผู้แต่งแต้มชีวิตทั้งที่อยากให้มี อยากให้เป็น
และอยากให้ผ่านพ้นชีวิตของเราไป หากใครอยากมีชีวิตที่ดีในภพนี้และภพหน้าก็ต้องสร้างเหตุ
แห่งความดีโดยการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อยู่ในสัดส่วนที่พอเหมาะพอควร
.....การทำทาน เป็นพื้นฐานในการทำความดี เราสามรถทำได้หลายทางครับ เช่นอามิสทาน คือ
การทำทานด้วยวัตถุ ธรรมทาน คือการให้ธรรมะเป็นทาน และการให้อภัยทาน การสละอารมณ์โกรธ
พยาบาทให้ขาดออกจากใจ คติโบราณท่านกล่าวไว้ว่า คนทำทานมามากจะทำให้ร่ำรวยเพราะผลบุญ
จากการให้ทานนั้นมีพลังในการดึงดูดทรัพย์สมบัติให้เกิดขึ้นกับผู้ทำ ฉะนั้นการออกแบบชีวิตของเรา
เริ่มเทฐานรากด้วยการทำทาน นับว่า ไม่ประมาทครับ
.....การรักษาศีล เป็นการรักษาความปกติของมนุษย์ คนที่มีอายุยืนยาวก็เพราะผลจากการไม่เคย
เบียดเบียนชีวิตใคร ไม่ต้องกลัวใครจะมาทำร้ายเรา จนต้องจบชีวิตก่อนวัยอันควร สำหรับคนที่เป็นโรค
ประสาทโรคจิตนั้น เพราะไม่ซื่อสัตย์ชอบคดโกงคนอื่นเขา ส่วนโรคเอดส์โรคร้ายแรงก็เกิดจากการไม่
สำรวมระวังผิดลูกผิดเมียเขา และคนที่ชอบพูดโกหกมากๆก็เช่นกัน สุดท้ายโรคความจำเสื่อม ก็ถามหา
เพราะสิ่งที่โกหกไปมากจนจดจำไม่ไหว สำหรับทุกข์ที่เห็นชัดเจนจากการดื่มน้ำเมา คือโรคพิษสุราเรื้อรัง
ตับแข็ง และการทะเลาะวิวาทจนได้รับบาดเจ็บก็เพราะการออกแบบชีวิตที่ขาดระเบียบวินัยกำกับอย่าง
รัดกุมนั่นเอง
.....การเจริญภาวนา การทำหยุดทำนิ่งนั้น ตามปกตินิสัยของจิตมนุษย์มักคุ้นกับกิเลส
หากเราไม่ฝึกจิตให้หยุดนิ่งละทิ้งออกจากกองกิเลส แม้ร่างกายจะสมบูรณ์แข็งแรง และมีทรัพย์สิน
เงินทองมากมาย หากไม่รู้จักการหยุดนิ่งของใจแล้ว ก็ถือได้ว่ายังไม่ได้พบความสุขที่แท้จริง
.....การดำเนินชีวิตไปตามกระแสกิเลสเป็นการดำเนินชีวิตที่ประมาท เริ่มออกแบบชีวิตไปในทาง
บุญกุศลตั้งแต่วันนี้ ในแต่ละวันจะเริ่มจากการทำทาน การรักษาศีล และเจริญภาวนา หรือจะเอาอะไร
ก่อนหลังไม่สำคัญ ขอเพียงประกอบกิจทั้งสามประการให้ครบถ้วนก็เป็นพอแล้วละครับ
จีระ ศุภวัฒน์
#2
โพสต์เมื่อ 06 June 2007 - 12:19 AM
อนุโมทนาบุญกับบทความดีๆด้วยนะครับ สาธุๆๆ
#3
โพสต์เมื่อ 14 July 2007 - 01:35 PM
ขอกราบอนุโมทนาบุญกับคุณ niwat ด้วยนะครับ สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 17 February 2011 - 03:16 PM
อนุโมทนาบุญกับธรรมทานด้วยครับ สาธุ