สืบเนื่องจาก มีกระแสความคิดเห็นส่วนหนึ่งที่อ้างพระไตรปิฎกมาว่า พระภิกษุห้ามยุ่งเกี่ยวกับเงินทอง แล้วก็ใช้ความคิดเห็นของตนตีความไปว่า "ห้ามยุ่งเกี่ยวทุกกรณี ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม"
เพื่อเป็นการทำความเข้าใจให้ถูกต้องโดยอ้างอิงจากตำราเช่นเดียวกัน ผมจึงได้ไปค้นพระไตรปิฎกมาบ้าง ในเรื่องราวของชฏิลเศรษฐี ที่อดีตชาติเกิดเป็นช่างทอง ในชาตินั้น พระอรหันต์ (ในตำราใช้คำว่า พระขีณาสพ) ในยุคของพระกัสสัปสัมพุทธเจ้า เมื่อท่านได้ทราบจากมหาชนว่า เจดีย์ที่สร้างบูชาพระพุทธเจ้า ยังสร้างไม่เสร็จ เหตุที่สร้างไม่เสร็จเป็นเพราะทองคำไม่พอ
เมื่อท่านทราบเช่นนั้น ท่านจึงได้เข้าในไปเมือง แล้วก็บอกบุญเชิญชวนมหาชนบริจาคทองคำ เพื่อนำไปสร้างพระเจดีย์เพิ่มเติม จนเนื้อหาโยงใยมาถึง ชายหนุ่มช่างทอง ซึ่งชาติต่อมากลายมาเป็น ชฏิลเศรษฐี
สรุปประเด็นในความเห็นผม หลังจากศึกษาพระไตรปิฎกท่อนนี้ก็คือ หากเป็นไปเพื่อประโยชน์แห่งพระศาสนา เป็นไปเพื่อการประกาศคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ยิ่งๆ ขึ้นไป พระท่านสามารถบอกบุญ และรับบริจาคเงินทอง ได้ครับ
http://www.84000.org...?b=25&i=36&p=33
ขีณาสพ หรือ กษีณาศรพ /กะสีนาสบ/ แปลว่า ผู้มีอาสวะสิ้นแล้ว, ผู้สิ้นอาสวะแล้ว หมายถึงพระอรหันต์ผู้หมดอาสวะแล้ว เพราะกำจัดอาสวะคือกิเลสที่หมักหมมอยู่ในจิต ที่ชุบย้อมจิตให้ชุ่มอยู่เสมอได้แล้วอย่างสิ้นเชิงไม่กลับมาเกิดทำอันตรายจิตได้อีกต่อไป เรียกเต็มว่า พระขีณาสพ หรือ พระอรหันตขีณาสพ
ขีณาสพ เป็นผู้ละอาสวกิเลสได้แล้วทั้ง 3 อย่าง คือ
- กาม ความติดใจรักใคร่ในกามคุณ ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส เป็นต้น
- ภพ คือ ความติดอยู่ในภพ ในความเป็นนั่นเป็นนี่
- อวิชชา ความไม่รู้จริง ความลุ่มหลงมืดมัวด้วยโมหะ
แก้ไขโดย ทัพพีในหม้อ 13 November 2013 - 02:16 PM
เพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา