ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

การร่วมบุญและการรับใบอนุโมทนาบุญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 justmin

justmin
  • Members
  • 132 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 01 December 2013 - 06:52 PM

เช้านี้้ตั้งใจไปปฏิบัติธรรมนั้งสมาธิ บุชาข้าวพระ และถวายภัตราหาร วันอาทิคย์ต้นเดือน หลังจากนั้นก็ไปร่วมปัจจัยบุญบูชาข้าวพระ กองทุนภัตราหาร กองทุนคิรานเภสัช กองทุนเครื่องห่มกันหนาว กองทุนเด็กดี Vstar  ที่ตู้ Containner 

ก็ยืนเข้าแถวรอติว ร่วมปัจจัย พอถึงคิวปรากฎว่า เจ้าหน้าที่รับแต่ปัจจัย พร้อมจ่ายบัตรคิวให้   แล้วเราก็ยื่นบัตรของเดือนก่อนให้เธอ เธอบอกว่าให้มารับอีกทีช่วงบ่ายยังไม่มีเวลาค้น...(ตอนนี้ก็เกือบ 12.00 น. อ้อคิวยาว)  เราก็ออกมายื่นรอๆแถวนั้น  สักครู่ก็ไปต่อคิวใหม่เพราะเห็นแต่คนที่เข้าถือบัตรรอใบอนูโมทนาเกือบทั้้งนั้น

 

มันไม่ปกติที่บางคนเจ้าหน้าที่ก็หาให้บางคนก็ให้มารับใหม่...(อ้อเมื่อเช้าคงออกใบโม..ไม่ทัน)  พอถึงคิวเรา เราก็บอกว่าเป็นของเดือนที่แล้ว เธอก็บอกว่าให้มารับใหม่ช่วงบ่าย  เราบอกว่าจะกลับแล้วและก็เป็นใบโม..เดือนที่แล้ว   เธอก็บอกว่ามันเสียเวลาหา  OK เราก็บอกว่างั้นขอยืนรอข้างๆ ให้เธอรับปัจจัยท่านอื่นก่อน....

 

อ้าวแล้วทำไมทีคนอื่นๆพอยื่นปัจจัยทำบุญ  และยื่นบัตรคิวให้  ทำไมหาให้ละ  ...ก็เลยถามเธอว่าทำไมไม่หาให้เราด้วย  เธอบอกว่ามันอยู่ตระกล้าอื่น   เราก็ยืนรอต่อ

 

พอถึงคิวผู้หญิงคนหนึ่ง  ที่พอคุ้นหน้า   ยื่นปัจจัยให้พร้อมบัตรคิวเดือนก่อน  เธอหาให้เฉยเลย  แถมบอกขอใบโมใหม่ด้วยเลย...เฮอก็บริการให้...

 

ทำไมมันหลายมาตรฐานบริการจัง...ตระกร้าก็มีแค่ 3 ใบแค่นั้น..เซ้งอารมณ์จริงๆ...(บัตรคิวของเราเดือนก่อน  มารับช่วงบ่ายก็บอกยังไม่ได้  มารับเดือนนี้ก็ให้รอก่อน ...บุญของเราตกหล่นเลย...

 

ขอบ่นหน่อยน่ะค่ะ....เพื่อเสียงบ่นนี้จะไปถึงห้องตู้คอนเทนเนอร์เพื่อจะปรับปรุงได้บ้าง...

 

 

 



#2 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 02 December 2013 - 10:24 AM

ขออธิบายอย่างนี้นะครับ

 

1. แต่ละช่องทำบุญ  ในอาทิตย์ต้นเดือนจะถูกกำหนดว่า  ช่องนี้เน้นที่รับออกอนุโมทนาบัตรของบุญใดก่อน  เพื่อความรวดเร็ว  เพราะทางวัดมีอนุโมทนาบัตร 2 แบบ  แบบที่เป็นของวัดแบบหนึ่ง  กับแบบที่ร่วมทำบุญส่วนตัวกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ อีกแบบหนึ่ง  แต่เครื่องพิมพ์เป็นแบบ Dot และใช้กระดาษต่อเนื่อง จะใส่ใบอนุโมทนาบัตรได้แบบเดียวเท่านั้นต่อ 1 เครื่อง  เพราะฉะนั้น

 

1.1  ถ้าท่านมาร่วมทำบุญตรงกับเรื่องที่ทางช่องรับอยู่ อนุโมทนาบัตรก็จะถูกออกอย่างเร็วและอยู่ตรงหน้าเจ้าที่  หาให้ได้ทันที

 

1.2  ถ้าท่านมาร่วมบุญไม่ตรงกับที่ทางช่องรับที่ตั้งไว้  เจ้าหน้าที่  จะนำซองไปยื่นให้ช่องอื่นที่ออกอนุโมทนาบัตรตรงกับบุญที่ท่านร่วมทำ  แล้วเจ้าหน้าที่ ที่ช่องนั้นๆ ก็จะใส่ตะกร้ารวมไว้  เจ้าหน้าที่ที่เราไปทำบุญจะต้องใช้เวลาในการไปค้นออกมาให้เรา

 

1.3 ถ้าเราทำบุญหลายๆ อย่างในครั้งเดียวกัน  ซองจะถูกมัดรวมแล้วส่งเข้าโต๊ะข้างใน  เจ้าหน้าที่ด้านในจะพิมพ์ใบอนุโมทนาบัตรให้  แล้วใส่ตะกร้าไว้  เจ้าหน้าที่ ที่รับซองเราก็ต้องใช้เวลาในการค้นหา

 

โดยปกติ  ถ้าเจ้าหน้าที่มีมากพอ  จะมีเจ้าหน้าที่เดินแยกอนุโมนาบัตรในตะกร้าต่างๆ ให้  แต่ถ้าคนไม่พอ  เจ้าหน้าที่รับซองจะต้องเป็นผู้ดูแลทั้งหมดคนเดียว

 

ส่วนที่เป็นปัญหาเรื่องของเดือนที่แล้วนั้น  ตรงหน้าเจ้าหน้าที่  จะมีตะกร้าเฉพาะของสัปดาห์ที่แล้วเท่านั้นวางอยู่  ส่วนของตกค้างก่อนหน้านั้นจะรวมอยู่ที่โต๊ะด้านใน  ซึ่งต้องใช้เวลาค้นหานานกว่า  

 

ตอนเราเข้าไปทำบุญ  เราอาจจะมองเห็นว่ามีเพียงคนไม่กี่คนเท่านั้นที่รออยู่  แต่อยากจะเรียนให้ทราบว่า  ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าที่เจ้าหน้าที่เริ่มเข้ามา  ก็จะมีผู้นำบุญ  ผู้นำรถ  เจ้าหน้าที่ภาค  เจ้าหน้าที่ศูนย์  บ้านกัลยาณมิตร และสารพัด   ที่รวบรวมปัจจัยในการทำบุญในส่วนที่ตัวเองดูแล  มายื่นให้เจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว  ซึ่งแต่ละท่าน  ไม่ได้ยื่นเพียงสิบหรือยี่สิบซอง  ใครทำบุญเพียง 1 บาท  ทางวัดก็ต้องออกอนุโมทนาบัตรให้  ทำให้บางผู้นำบุญมีรายชื่อยาวกันเต็มหน้ากระดาษกันเลยทีเดียวในแต่ละประเภทบุญ  (ที่บูธจะมีผู้นำบุญท่านหนึ่งมายืมพื้นที่จัดการเรื่องนี้เป็นประจำ  ถืออนุโมทนาบัตรมาปึกเบ่อเร่อ  แล้วมานั่งแยกชื่อ  แยกบุญ  แยกกลุ่ม  เอาหนังยางรัดเป็นปึกอีก)

 

ทำให้ใน 1 ช่องรับบริจาค  ถึงจะมีเจ้าหน้าที่นั่งประจำอยู่ 4 ท่านก็ตาม  แต่ในบางครั้งก็จะเหลือเจ้าหน้าที่ เพียงท่านเดียวในการรับเรื่องหน้าช่อง  เพราะท่านอื่นต้องเร่งออกใบอนุโมทนาบัตรทีส่งล่วงหน้ามาก่อนแล้ว  เลยทำให้ดูเหมือนว่า พิมพ์กันตั้ง 4 คน  แต่ทำไมแถวที่ยืนต่อกันไม่หดลงไปสักที 

 

ถ้าจะตั้งแง่ว่า  ทำไมไม่เพิ่มเจ้าหน้าที่  ต้องเรียนให้ทราบว่า  ในห้องนั้นเจ้าหน้าที่วัดจะมีเพียงไม่ถึง 10 ท่าน  นอกนั้นเป็นอาสาสมัครเสียสละเวลาในการปฏิบัติธรรมมาช่วยงานพระพุทธศาสนาแทน  เจ้าหน้าที่วัดไม่ได้มีเยอะอะไรมากมาย  แต่ต้องแบ่งไปดูแลทุกฝ่ายทั่ววัด  ถ้าจะเพิ่มก็ต้องเพิ่มอาสาฯ  ซึ่งก็ไม่สามารถที่จะกำหนดได้ว่าต้องมาทำ  ทำให้ไม่สามารถกำหนดตัวแน่นอนได้  อีกทั้งต้องเพิ่มอุปกรณ์โดยไม่จำเป็น เพราะเหตุการณ์นี้เกิดเฉพาะวันอาทิตย์ต้นเดือนเท่านั้น  อีก 3-4 อาทิตย์ที่เหลือห้องจะว่างมาก  อีกทั้งเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็ต้องเข้มนิดนึงในการจัดการ  ยิ่งเป็นเงินทำบุญของคนอื่น  เราทำพลาดไปจะติดตัวไปอีกนานทีเดียว  ทำให้ขั้นตอนตรวจสอบค่อนข้างช้าจนน่ารำคาญทีเดียว  นับแล้วนับอีกอยู่นั่นแหละ

 

แล้วจะทำยังไงดี

 

ขอเรียนให้ทราบว่า  ทางวัดได้พยายามดูแลจัดการในเรื่องนี้เต็มที่แล้ว  คือ

 

1. ทางวัดได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำบูธของภาคต่างๆ ในการดูแลเรื่องนี้ให้แล้ว  ท่านสามารถเดินไปที่ภาคที่ท่านสังกัด  แล้วให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเขตพื้นที่เราจัดการให้ได้  ทางเจ้าหน้าที่จะจัดการให้ตามนี้  ถ้ามาดำเนินการก่อนนั่งสมาธิภาคเช้า  ช่วงบ่ายก็จะได้รับอนุโมทนาบัตร  หรือ  ท่านสามารถมารับในวันอาทิตย์ถัดไปได้  เพราะเจ้าหน้าที่ภาค  ดูแลกลุ่มเล็ก  หาของให้เราได้เร็วกว่า  หรือให้จัดส่งทางไปรษณีย์ไปให้เราก็ได้  และในกรณีนี้จะยิ่งมีประโยชน์กับตัวเรา  เพราะเจ้าหน้าที่จะรู้จักเราสามารถประชาสัมพันธ์ข่าวบุญต่างๆ ได้ถึงตัวเราโดยตรง  โดยเฉพาะข่าวบุญพิเศษเฉพาะกลุ่มที่จัดขึ้นกันเอง เช่น ปฏิบัติธรรมนอกสถานที่ เป็นต้น

 

2.ระบบบริจาคอัตโนมัติหน้าห้องรับบริจาค  เมื่อทำรายการเสร็จก็สามารถนำสลิปไปยื่นที่ช่องเฉพาะเพื่อรับอนุโมทนาบัตรได้ทันที(ลองแล้ว  สะดวกดีครับ)

 

3.ระบบบริจาคออนไลน์ https://donate.dkcmain.org  สามารถร่วมบริจาคผ่านออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา  และนำรหัสการทำบุญไปยื่นเพื่อรับอนุโมทนาบัตรได้ทันที  หรือให้ทางวัดจัดส่งไปรษณีย์ให้ก็ได้(ขอยืนยันว่าสะดวกจริง  เพราะผมทำทุกวันครับ  และส่งอนุโมทนาบัตรมาถึงบ้านจริงๆ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม  สะดวกมากๆ ---ยิ่งถ้าไปบอกบุญคนอื่น  ยิ่งสะดวก  เพราะเราสามารถแสดงหลักฐานให้เขาเห็นได้ทันทีหน้าจอว่า เงินเข้าถึงวัดแล้ว)

 

ดูเหมือนการอธิบายทั้งหมดจะเป็นการแก้ตัว  แต่ก็อยากจะให้เข้าใจการทำงานของทางวัดด้วย  ที่ไม่สามารถจะให้บริการได้อย่างใจกับทุกๆ ท่าน  ทางวัดไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหาที่มีมาทั้งหลาย  ได้พยายามจัดหาทางเลือกที่สะดวก สบายเพิ่มมากขึ้นให้แล้ว  ยังไงลองใช้บริการดูนะครับ  

 

ส่วนเรื่องอาสาสมัครนั้น  ทางวัดจะทำการอบรมในเรื่องการอธิบายให้มากกว่านี้  ยังไงก็ขอความเห็นใจให้กับผู้เสียสละเหล่านี้ด้วยนะครับ  เพราะอาทิตย์ต้นเดือนนั้นหนักจริงๆ เวลาเพลคือเวลาประชุม  กว่าจะเลิก คือ 2 ทุ่มในวันอาทิตย์ต้นเดือน  ไม่ได้ร่วมพิธีงานบุญใดๆ ยังไงก็ทำใจร่มๆ นะครับ  อย่าให้บุญตกหล่นเลย

 

ขออนุโมทนาบุยกับท่านเจ้าภาพทุกท่านด้วยนะครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#3 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 02 December 2013 - 06:34 PM

... *-)  ก็เป็นบางอารมณ์ของเจ้าหน้าที่ด้วยนะครับ อันนี้ก็เกิดกับตัวผมเหมือนกัน จริงอยู่บางวันอยากจะกระตือรือร้นทำให้ทุกอย่างแบบทุกคน ทุกครั้ง ยิ้มหวานทุกครั้ง แต่บางอารมณ์พอมีสิ่งมากระทบแว๊บเดียว ความตั้งใจจะทำนั้นก็หายวับไปเลย บางทีมีกระทบกระทั่งทางคำพูดมาสะกิดหน่อยเดียวก็ทำให้อารมณ์เปลี่ยนน่ะครับ ...

 

...จริงๆแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ถ้าจะให้ใสตลอด เย็นตลอดก็ทางเดียวก็คงยากนะครับ ทางสาธุชนก็ต้องใสด้วย เย็นด้วย ก็อาจจะพอรักษาใจให้กันได้ เรียกว่า เจ้าหน้าที่ต้องรักษาใจสาธุชน และสาธุชนก็รักษาใจเจ้าหน้าที่บ้าง คือ ไม่เร่ง ไม่บึ้ง ไม่ขึ้นเสียง ไม่เหน็บแนม ฯลฯ เท่านี้ สิ่งเหล่านี้ก็จะดีต่อทุกฝ่าย  แต่สุดท้ายเมื่อหายเหนื่อย หายเครียด ก็ให้อภัยกันเถิดนะครับ อารมณ์วูบชั่ว เอ๊ย ..ชั่ววูบ ก็ทำให้เป็นคนทำสิ่งที่ไม่สมควรได้ทุกคนน่ะครับ.. บางที อารมณ์ขยันก็หายไปหมด มีอารมณ์เบื่อหน่ายมาแทน และปฏิบัติแบบไม่เท่าเทียมกัน (ตามความรู้สึก) นั้นก็ย่อมเกิดขึ้นได้น่ะครับ...

 

...จริงอยู่ที่เจ้าหน้าที่ อาสาสมัคร ฯลฯ ควรต้องมีความอดทน ต้องฝึกให้ดี  แต่ทว่า ถ้าทางสาธุชนนั้นไม่ฝึกตนเช่นเดียวกัน บางทีก็อาจเกิดเรื่องที่ไม่ควรได้ตลอดนะครับ ดังนั้น หากมีความอดทนทั้งสองฝ่าย และฝึกตนให้ดีทั้งสองฝ่าย เพราะต่างก็พี่น้องญาติทางธรรมเหมือนกัน ก็น่าจะค่อยๆดีขึ้นนะครับ 

 

...ก็เหมือนอย่างกฎระเบียบที่ห้องแก้ว... คือ ห้ามนำอาหาร และเครื่องดื่มเข้าไป  ท่านสาธุชนที่น่ารัก และเป็นทหารแท้จริงของพระราชาก็จะนำของไว้ข้างนอกหมดทุกชิ้น จะคาว จะหวาน จะผลไม้ก็วางข้างนอกหมด... แต่สาธุชนบางท่าน ก็แอบเอาเข้าไป ฝ่าประตูโดยไม่สนใจคำทัดทานบ้าง บึ้งใส่ อสม.บ้าง หรือแอบซุกใส่ย่าม ใส่กระเป๋า ใส่ถุงเข้าไปบ้าง ..ฯลฯ  เมื่อกฎระเบียบของพระราชาฯ ทหารยังกล้าฝ่าฝืน แล้วเราจะไปถึงที่สุดแห่งธรรมเป็นหมู่คณะด้วยกันได้อย่างไรครับ?  อสม. ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งคำสั่งนี้มาจากพระราชาฯ โดยตรงด้วยซ้ำ อสม.ไม่ได้คิดเอง ตั้งกฎขึ้นมาเอง .. แต่ทหารผู้ฝ่าฝืนกลับละเลยกฎระเบียบของท่าน จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ท่านก็ได้ทำไปเสียแล้ว...

 

...หลวงพ่อทัตตะ เคยพูดจริงจังกับ อาสาสมัคร( อสม.) ไว้ครั้งนึง ไม่ขอบอกว่าสถานที่ใดละกันครับ.. ท่านบอกว่า " ถ้าพวกมุง ทำไม่ได้ ... ก็ให้คนอื่นมาทำ" ... ดังนั้น อสม. นั้นยังไงก็ต้องทำ ต้องรักษากฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าทำไม่ได้ ก็ควรให้คนที่กล้า หรือแข็งกว่ามาทำแทน แต่กฎระเบียบจะไม่มีหย่อนยาน ..เด็ดขาด...!!! ^_^

 

...ผมก็ขออนุโมทนาบุญ กับ ทหารของพระราชา ท่านที่เป็นทหารแท้ๆ คือ "ว่ายังไง ว่าตามกัน!!"  ... กฎระเบียบอย่างไรก็ปฏิบัติตาม แม้อารมณ์นั้นจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจแต่ก็ปฏิบัติตาม..  ขอให้ท่านได้มีบารมีไปถึงที่สุดแห่งธรรมสมความปรารถนาเถิด เพราะท่านไม่เพียงแต่เป็นทหารนักรบกล้าตีฝ่าแนวหน้าอย่างไม่ย่อแท้แล้ว ท่านยังเป็นทหารกล้าที่รักษาระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด.....   แต่.. สำหรับท่านที่ ยังไม่ได้ปฏิบัติตาม หรือไม่อยากปฏิบัติตาม ทั้งที่ไม่เข้าใจ หรือไม่อยากจะเข้าใจ ก็ขอให้ท่านโปรดเห็นใจกันเถิด

 

....อสม. คือ อาสา มาทำหน้าที่ เขาไม่ได้รับเงินทอง สิ่งของใดๆเลยตอบแทนนะครับ.. (ท่านที่เข้าใจผิดเข้าใจใหม่นะ) นอกจากไม่ได้รับแล้ว ก็ยังไม่อยากรับด้วย มีแต่อยากให้ และไม่อยากรบกวนใดๆของวัดฯ ..... และ อสม. ก็ต้องรักษาหน้าที่ของตน เพราะได้รับมอบหมายมาแบบนี้ แม้ไม่ทำ ก็จะมีคนอื่นมาทำแทนแน่นอน .. แต่ จำนวน อสม ไม่ได้เยอะพอจะทำหลายๆสิ่งให้ท่านสาธุชนพอใจได้ตลอดนะครับ ก็พยายามกันเต็มที่แล้ว ทั้งประชุมแล้ว สรุปงานแล้ว ฯลฯ  ก็ตั้งใจอยากให้ดีขึ้นเรื่อยๆนั่นแหละครับ..

 

...นี้ก็เป็นเพียงเสียงเล็กๆ เบาๆ จากอาสาสมัครคนนึง ที่อยากให้ทุกท่านที่อ่าน ได้บุญกันไปเต็มๆ แบบใจใสๆ คือ ถ้ามีความอดทน และให้อภัยนำหน้า และยังมีปณิธานเดียวกัน และมีระเบียบไปพร้อมๆกันแล้ว  ก็ขอให้ ว่าอย่างไร ว่าตามกันเถิดครับ และขอยืนยันว่า .. "รอยยิ้มของสาธุชน  คือ กำลังใจที่ดีที่สุดที่มีต่ออาสาสมัครทุกๆคน" .. จริงๆ คำว่า "เหนื่อย" ก็คือ เหนื่อยนะครับ  เวลาผมเหนื่อยมากๆ หิว ร้อน เมื่อย ฯลฯ แต่พอเจอสาธุชนยิ้มให้ หรือเดินมาขออนุโมทนาบุญด้วย  ผมก็มีแรงรับบุญต่อเยอะเลย เหมือนว่า คำว่า "บุญ" ให้หวนกลับมาแทนที่คำว่า "เหนื่อย" เหล่านั้นได้จริงๆ......


..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....