ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

กายมนุษย์เท่านั้นสร้างบารมีได้ จริงหลืไม่


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Souriya

Souriya
  • Members
  • 53 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ส.ป.ป.ลาว
  • Interests:วิชชาธรรมกาย

โพสต์เมื่อ 03 April 2014 - 02:55 PM

ขอความกรุนาเพื้อนฯ โปรดให้ข้อมูลด้วยครับ...คือผมเคียอ่านในเว็บ และผมก่อไม่เข้าใจว่าทำไมกายมนุษย์เท่านั้นถืงจะสร้างบารมีได้...

 

 

สาธุครับ


สิ่งที่ต้องสะสมคือบุนกุสน สิ่งที่ต้องสะแหวงหาคือพระรัตนะไตรพายใน เป้าหมายชีวิดคือที่สุดแห่งทัม ที่พักละหว่างทางคือ ดุสิดบุรี วงบุนพิเสด เขดพระโพทิสัด.

ละชั่วทุกอย่าง ทำดีทุกรูบแบบ ทำใจให้พ่องใส อยากไปไหนก่อไปได้ทุกที่...


#2 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 April 2014 - 07:24 PM

จะอธบายยังไงดี  ให้เข้าใจง่ายๆ โดยไม่มีคำถามตามมาอีก  เพราะต้องอธิบายถึง 2 เรื่อง  คือ  

 

1. บุญกับบารมีต่างกันอย่างไร  เพราะเข้าใจว่าท่าน Souriya  น่าจะเข้าใจว่า  ทั้งสองอย่าง คือ สิ่งเดียวกัน  ถึงได้ถามมาแบบนี้

 

2. วิสัยของกายต่างๆ  อันนี้ถ้าลงเรียน DOU จะเข้าใจได้ง่ายเลย  รู้เลยว่าทำไมกายอื่นๆ ถึงสร้างบารมีไม่ได้  หรือได้ก็ไม่เต็มที่  เต็มกำลัง นิดๆ หน่อยๆ

 

ไม่รู้นะครับ  ขอแบบคร่าวๆ แล้วกัน  ไม่งั้นยาว   

 

สิ่งที่ทำแล้วคนอื่นไม่เดือดร้อน  เราไม่เดือดร้อน  และเกิดประโยชน์  นั่นคือบุญ   การขวนขวายเพื่อจะทำสิ่งเหล่านั้นด้วยปัญญา  ด้วยความพยายามต่างๆ อย่างเต็มที่  เต็มใจ  เต็มกำลัง  คือ บารมี

 

ต่ำกว่าระดับมนุษย์ลงไป  เกิดจากกรรมบีบคั้น  ทำให้ไม่มีสติ  ไม่สามารถใช้ปัญญาในการไตร่ตรองได้  ไม่มีเวลาคิดแม้เรื่องบุญ เรื่องกุศล

 

สูงกว่ามนุษย์ขึ้นไป  ก็ถุกบุญหล่อเลี้ยง  ทุกอย่างเกิดตามอำนาจบุญเท่านั้น  แม้บุญบางอย่างยังกระทำได้  แต่ก็ขาดการขวนขวายในการสร้างบารมี  เช่น

 

ทานบารมี  ทิพยสมบัติเป็นของเฉพาะตน  เกิดขึ้นเฉพาะตนเท่านั้น  ชั้นแรกก็หมดสิทธิแจกจ่ายให้ทานใครแล้ว  จะไปขวนขวายมาจากไหนก็ไม่ได้   แม้จะใช้อำนาจบุญในตัวกลั่นให้กลายเป็นของกึ่งหยาบเพื่อใส่บาตรพระสุปฏิปันโน  ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ  ทุกครั้ง  มีข้อกำหนดมากมายขีดคั่นอยู่อีก  แถมของที่ใส่บาตรก็ไม่ได้หุงหา  ลงมือทำ  แค่นึกก็ได้มา  แม้ได้บุญมาบ้างก็ขาดการสร้างบารมี

 

ศีลบารมี  ปกติเทวดาจะมีหิริและโอตัปปะเป็นธรรมประจำตนอยู่แล้ว    แม้สมาทานศีลได้บุญก็จริง  แต่ก็ขาดการใช้สติ  ใช้ปัญญาไตร่ตรองเพื่อให้การใช้ชีวิตประจำวันกับการรักษาศีลไปด้วยกันได้  เพราะสำหรับเทวดา  ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนั้น  ทำให้การล่วงละเมิดศีลเป็นไปแทบไม่ได้เลย  จึงไม่ต้องพยายามรักษาศีล

 

ในบารมีข้ออื่นๆ ก็ทำนองเดียวกัน

 

แต่กายมนุษย์นั้น  กรรมไม่ได้บีบคั้นจนมากมาย  และก็ไม่ได้สบายเพียงใจนึกเหมือนเทวดา  ทุกสิ่ง ทุกอย่างต้องใช้สติ  ใช้ปัญญาในการไตร่ตรองก่อนกระทำทั้งนั้น  ต้องใช้การขวนขวายหามาเพื่อให้ได้ทำในสิ่งที่เรียกว่า บุญ  ทำให้เกิดการพัฒนาตัวเองให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป  ด้วยการสร้างสมบารมี  ยิ่งบารมีมาก  ยิ่งทำบุญได้มาก  ยิ่งมีบุญมาก  การสร้างสมบารมีก็สะดวก  รวดเร็วยิ่งขึ้น  

 

คงอธิบายได้ประมาณนี้แหละครับ  ยังไงรอพระอาจารย์ท่านมาขยายความอีกทีดีกว่านะครับ  


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#3 ศีลห้า ปัญญาบารมี

ศีลห้า ปัญญาบารมี
  • Members
  • 3 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 April 2014 - 08:55 PM

ตอบได้ดี  โดนใจจริงๆ  ผมก็เคยสงสัยอยู่บ้าง  แต่ความสงสัยของผมไม่รุนแรงเท่าไหร่ พอจะเข้าใจอยู่บ้าง  แต่ไม่กระจ่าง  ขอบคุณท่าน ทัพพีในหม้อ มากมายครับ กบในกะลาอย่างผมตาสว่างขึ้นกว่าเดิมครับ



#4 skynoi

skynoi
  • Admin
  • 603 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 April 2014 - 09:19 PM

กายมนุษย์เท่านั้นสร้างบารมีได้ จริงหรือไม่

 

ถ้าจะให้ฟันธงกันลงไปเลยว่าจริงหรือไม่จริง ก็ลำบากใจเหมือนกันนะคะ เพราะว่าคำถามโหดร้าย ฮ่าๆ :D

 

แต่ถ้าจะต้องตอบ จะขอตอบว่า

 

คำตอบ ไม่จริงค่ะ
 

    กายอื่นๆก็สร้างบารมีได้ โดยจะขอให้เหตุที่ว่า ในขณะที่พระโพธิสัตว์ปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสร้างบารมีอยู่นั้น ในขณะที่บารมียังไม่เต็มเปี่ยม ก็เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสังสารวัฏ ท่านมีโอกาสผิดพลาดไปอบายบ้าง นรกบ้าง เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์ เป็นลิง เป็นราชสีห์ เป็นพยานาค เป็นพรหม ซึ่งก็หมายความว่าท่านก็ได้ใช้กายอมนุษย์ในการสร้างบารมีได้ ได้แก่ ชาดกต่างๆ ที่ได้ยินได้ฟังกันมา หรือทศชาติชาดก 10 พระชาติก่อนที่ท่านจะมาเป็นพระพุทธเจ้านั่นเอง

      การสร้างบารมีด้วยกายที่ไม่ใช่มนุษย์ นั่นคือท่านก็มักจะเป็นจ่าฝูง เป็นหัวหน้า เป็นผู้นำ ในการต่อสู้ ช่วยเหลือ หรือคิดแก้ไขปัญหา เสียสละต่างๆ เพื่อให้เป็นบุญบารมี (บารมีมีตั้ง 10 อย่าง ได้แก่ ให้ให้มากๆๆ รักษาศีลยิ่งชีพๆๆ อดทนมากๆๆ ฉลาดมากๆๆ เป็นต้น)

 

แต่เราต้องเข้าใจต่างหากว่ากายมนุษย์หยาบนั้นเหมาะกับการสร้างบารมีมากที่สุด

 

และกายมนุษย์หยาบที่ถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัตินั้น ย่อมเหมาะกับการสร้างบารมีมากๆๆที่สุดอีกด้วย

 

ถ้าอย่างนั้นแล้ว อย่าลืมเร่งออกแบบสร้างผังชีวิตในการสร้างบารมีของตนเองในอนาคตนะคะ :D



#5 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 04 April 2014 - 09:28 AM

ขออนุญาติท่าน skynoi  แทรกตรงนี้  นิดนึงนะครับ

 

ตามตัวอย่างพระโพธิสัตว์นั้น  ถุกต้องแน่นอน   แต่นั่น  เราต้องพูดแบบจำเพาะเจาะจงลงไป  ไม่สามารถกล่าวถึงในภาพรวม  แม้แต่สัตว์ที่เกิดในยุคศีลธรรมรุ่งเรื่อง  สามารถพูดและเข้าใจภาษามนุษย์ได้  นั่นคือ  มีสติและปัญญา  ก็สามารถสร้างบารมีได้เช่นกัน  แต่ก็เป็นเฉพาะยุคนั้นๆ เท่านั้น  (แต่ก็เป็นกรณีที่น่าศึกษาทีเดียว)

 

ถ้าจะสรุปรวมแบบง่ายๆ  ก็สามารถกล่าวได้ว่า  บุญใดก็ตามที่ประกอบด้วยสติและปัญญา  นั่นคือบารมี  

 

และจากการพูดคุยกันในเรื่องนี้  ทำให้ผมมองเห็นซึ้งถึงคำสอนของคุณยายอาจารย์ฯ ของพวกเราอีกข้อหนึ่ง  ที่ท่านเมตตาย้ำนัก  ย้ำหนากับพวกเรา  แต่เรากลับมองไม่เห็นประโยชน์   นั่นคือ  คำอธิษฐานจิตที่ว่า   "...ให้สามารถสั่งสอนตนเองได้ไปทุกภพ ทุกชาติ..."  

 

ลองคิดดูสิครับ  ถ้ากายมนุษย์เป็นการเดียวที่สร้างบุญ สร้างบารมีได้อย่างสูงสุด  ช่วงอายุที่มีใจในการสั่งสมบุญบารมีก็แค่ช่วง ไม่เกินหนึ่งแสนปี(นานกว่านี้ก็เข้าใจว่าตนเป็นอมตะ  กฏไตรลักษณ์ไม่มี)   ไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยปี(กรรมบีบคั้นให้จิตใจถดถอยลงไป---หมู่คณะเรานี่สวนกระแสจริงๆ)  เทียบอายุกับกายอื่นๆ แล้ว  คนละเรื่องเลย  เป็นช่วงเวลาที่สั้นนิดเดียว

 

ลองคิดดูสิ  ถ้าสั่งสอนตัวเองไม่ได้  เวลาแห่งกายมนุษย์หมดไปแล้วเท่าไหร่  ตัวผมเอง  กว่าจะเจอหมู่คณะ  ก็ล่อเข้าไปอายุจะยี่สิบแล้ว  เสียเวลาสั่งสมบุญบารมีไปอื้อเลย  ใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนไร้แก่นสาร  มีแต่เรื่องทางโลก  สร้างวิบากกรรมมากกว่าได้สร้างบุญ สร้างกุศล  ขนาดเข้าวัดแล้ว  ก็ยังใช้เวลาอีกเป็นสิบปีกว่าจะเข้าที่เข้าทาง  เข้ารูปเข้ารอยกับเขาบ้าง  เสียเวลาไปครึ่งชีวิตแล้ว

 

แต่ถ้าเราสามารถสั่งสอนตนเองได้ตั้งแต่แรกเกิด  หรือไม่ว่าจะเกิดในภพภูมิใดก็สามารถสั่งสอนตนเองได้  ลองคิดดูว่าหนทางในการสร้างบารมีของเราจะรวดเร็วขนาดไหน  เกิดเป็นเดรัจฉานก็สร้างบุญ  สร้างบารมีได้  เกิดเป็นเปรต  อสุรกาย  สัตว์นรก  แม้แต่เทวดา  ก็สามารถสร้างบุญ  สร้างบารมีได้  น่าสนใจไหมล่ะครับ

 

คำสอนครูบาอาจารย์นั้น  ลึกซึ้งอย่างนี้เอง  ในตอนนี้เราเป็นอย่างท่านไม่ได้ก็จริง  แต่เราก็สามารถทำตามอย่างท่านได้  แค่นี้เส้นทางพระนิพพานก็ไม่ได้ไกลอย่างที่คิดแล้ว  และในเมื่อแค่คำสอนเล็กๆ ท่านยังมีคุณขนาดนี้  จึงอยากขอเชิญสมาชิกเว็บ DMC.tv ทุกท่านมาร่วมกันหล่อรูปเหมือนของคุณยายอาจารย์ฯ ท่านด้วยทองคำเป็นการบูชาคุณท่าน  ในวันที่ 22 เมษายนนี้ให้พร้อมกันทุกคนนะครับ  สร้างสายบุญเชื่อมกับท่านไว้  แม้เรายังสอนสั่งตัวเองไม่ได้  ก็ขอเกาะท่านเอาไว้ให้เหนียวแน่ไม่หลงทางไปไหน  จะปลอดภัยที่สุดครับ 


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#6 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 04 April 2014 - 01:02 PM

http://buddha.dmc.tv...ngkol02-42.html

 

http://buddha.dmc.tv...พ็ญบารมี_3.html


ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC