ท่าทางผมจะแย่แล้วครับ
เรื่องของเรื่องคือ ช่วงนี้ ภาระในการดูแลพระในบ้านค่อนข้างยุ่ง ทำให้พักผ่อนไม่ค่อยจะเป็นเวลา รู้สึกร่างกายล้ามาก
ทำให้เวลานั่งสมาธิ เมื่อใจหยุด ใจนิ่งในเบื้องต้น รู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกสบาย ไม่เครียด ไม่ปวดเมื่อย ไม่ร้อน ไม่หนาว ไม่กังวล ไม่สนใจอะไรรอบข้างทั้งนั้น ก็เลยรู้สึกอยากจะแช่อิ่มตัวเองอยุ่แค่ความรู้สึกนี้ตลอดเวลา หลังๆ มานี่ ถึงขั้นเสพติดเลยหล่ะครับ อยากจะนั่งสมาธิเพื่อให้ได้ผลเพียงเท่านี้แค่นั้น เพราะรู้สึกสบาย สบายจริงๆ นะครับ จะเรียกว่าความสุขหรือเปล่าก็ไม่รู้ รู้แต่ว่า สบ๊าย..สบาย..บอกไม่ถูก ให้อยู่อย่างนั้นตลอดไปก็ยังได้ ขนาดหลับยังรู้สึกสบายเลยครับ
แต่ก็ทราบครับ ว่านั่นเป็นเพียงเศษเสี้ยวน้อยนิดของผล ของการใจหยุดใจนิ่งในเบื้องต้นเพียงเท่านั้น จะเรียกว่าฌานก็คงยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ยังห่างไกลกับการเข้าถึงดวงธรรม ดวงปฐมมรรคแบบสุดกู่ประเทศ แต่รู้สึกสบายจริงๆ นะครับ เหมือนเราแอบตัวเราทั้งหมดอยู่ในกระดองอันปลอดภัย
และพอตั้งใจจะหยุด จะนิ่งให้ได้มากกว่านี้ เพื่อเข้าศูนย์กลางกายเมื่อไหร่ ความสบายนั้นจะเลือนหายน้อยลงไป ความง่วง ความปวดเมื่อย ฟุ้งซ่าน หงุดหงิดรำคาญใจจะแทรกเข้ามาทันทีมากบ้าง น้อยบ้าง ถ้าวันไหนใจไม่ถึงก็ต้องถอยตัวหดเข้ากระดองเหมือนเดิม จนหลังๆ นี่ แทบจะไม่ออกจากกระดองเลย ไม่มีความก้าวหน้าใดๆ เหมือนคนอื่นเขาทั้งนั้น เสียดายเวลานั่งจริงๆ ครับ
เมื่อก่อนเคยไปได้ไกลกว่านี้มาก แต่พอมาติดกับดักตัวเองแบบนี้เข้า หงอยเลยครับ ไม่ชอบเลย ท่านใดมีวิธีแก้ไขบ้างครับ ช่วยแนะนำหน่อย ใครมีประสบการณ์แบบนี้แล้วหาทางออกสวยๆ ได้ ขอกำลังใจด้วยนะครับ
ถ้าผมพลาดในการนั่งสมาธิตรงไหน บอกกันตรงๆ นะครับ จะได้รับรู้แล้วเข้าใจ แก้ไขได้ถูกต้องครับ
กราบอนุโมทนาบุญและขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ
ปล. แต่รู้สึกสบายจริงๆ นะครับ เมื่อวันตอกเสาเข็มพระมหาเจดีย์ทัตตะชีโว ผมก็หลบเข้ากระดองนี่แหละ นั่งได้ไม่ร้อนเลย แต่พอจะเอาจริง ก็เข้าใจเลยว่า หมูย่างเมืองตรังมีความรู้สึกยังไง ร้อนฝุดๆ