สู้ๆ นะครับ ตอนอยู่มหา'ลัยสมัยปู้นโน้นนนนนนน.... เคยช่วยอาจารย์ทำละครเด็ก หุ่นมือ ออกทีวีท้องถิ่นเหมือนกัน รู้เลยว่าเหนื่อยมากๆๆๆๆ
คนจะนึกว่าง่ายๆ หยิบหนังสือนิทานมาเรื่องหนึ่งก็ทำตามนั้นไป จริงๆ ไม่ใช่เลย ต้องมานั่งเขียนบทใหม่ เพราะหนังสือกับการแสดงทำได้ไม่เหมือนกัน เขียนบทเสร็จก็ต้องมานั่งลองเล่นดูว่า คนเชิดหุ่นทำได้ไหม ถนัดไหม ปรับบทกันไป แต่ก็ต้องคำนึงถึงจุดสำคัญต่างๆ ของเรื่องด้วย เอาออกมาก เด็กก็จะไม่เข้าใจ บางอย่างผู้ใหญ่ดูแล้วก็บ่นว่ามีฉากนี้ทำไม แต่คนทำละครเด็กจะรู้ว่า ถ้าขาดฉากนี้ไป เด็กจะสับสนในความคิด เพราะเด็กตามไม่ทัน ปรับบทกันจนแทบจะทำได้ 3-4 เรื่องกันเลย
พอได้บทละคร ก็ต้องมาแปลงเป็นบทสำหรับการถ่ายทำ ก็มาฉาก ตัวละคร ถ้าฉากไม่ได้ก็กลับไปแก้บทกันอีก เพราะกล้องเดียวถ่ายตรง นิ่ง ซูมอิน ซูมเอ้าท์เท่านั้น จะถ่ายยังไง ซูมตรงไหน เฟตเอ้าท์ตรงไหน จะจบฉากเพื่อเข้าโฆษณาตรงไหน กลับมาจากโฆษณาต้องทำยังไงให้ความเข้าใจของเด็กยังต่อเนื่อง สารพัด แล้วก็มาซ้อมเพื่อกำหนดระยะเวลา สั้นไปก็ไปขยายบท ยาวไปก็ไปหาวิธีตัดออก ซ้อมจนพอดี
มาถ่ายจริง ก็ต้องถ่ายอย่างน้อย 4 เทค เอาไว้ตัดต่อ ระหว่างถ่ายจะใช้เสียงจริงก็ไม่ได้ เพราะจะมีเสียงคนเชิด เสียงขยับตัว เสียงหัวชนกับฉาก(บ่อยมาก)--(ตรงนี้มีเรื่องขำๆ ในการถ่ายทำด้วย คือ ตัวผมจะสูงที่สุดในทีม ถ้าจับคู่เชิดหุ่นกับนักศึกษาอีกคนเมื่อไหร่จะเป็นเรื่องทันที คือ ไม่หัวผมโผล่พ้นฉากติดเข้าไปในกล้อง ก็จะเป็นตัวหุ่นของน้องขึ้นฉากไม่เต็มตัว เพราะความสูงของคนเชิดต่างกันมาก ต้องมีต่อเก้าอี้กันด้วย ฮากันไป) เสียงเปลี่ยนฉากหลุดเข้ามา ก็ต้องใช้คนมาอ่านบทให้หุ่นทำปากพะงาบๆ ตามไปก่อน ระหว่างนี้บางทีอาจารย์ก็จะมีความคิดบรรเจิดขึ้นมากระทันหัน มีเพิ่มบทโน่น นี่ นั่น ถ่ายเก็บไว้อีก แล้วก็เอาไปตัดต่อ
ตัดต่อเสร็จก็เอามาลงเสียง คนพากย์ก็ต้องทำเสียงให้ตรงกับปากพะงาบๆ ของหุ่นด้วย ตอนนั้นมีคนพากย์ 2 คน ก็แบ่งกันไป แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะหุ่นมือ อย่างมากก็ขึ้นพร้อมกันแค่ 4 ตัว พากย์ได้สบายๆ ผิดก็แค่ลงเสียงใหม่ ไม่เหมือนทำสดที่เวลาผิดต้องเล่นใหม่ทั้งฉาก
เสร็จแล้ว ก็ทดลองให้หลานอาจารย์มานั่งดู สนุกไหมลูก เข้าใจไหมลูก ถ้าเด็กพยักหน้าหงึกๆ ก็ ถอนหายใจโล่งอก แต่ถ้าเด็กนิ่งเงียบแล้วมองหน้าเราด้วยตาใสแจ๋วเฉยๆ งานนี้มีเครียด ตอนนั้นทำหกตอน สามสัปดาห์ช่วงซัมเมอร์ คนอื่นเขากลับบ้านกัน เราต้องมานั่งทำกันหัวฟู เพราะต้องทำเก็บไว้หลายๆ ตอน จะได้มีตัวเลือกในการออกอากาศเยอะๆ จะว่าสนุกก็สนุก จะว่าเครียดก็เครียด เพราะมีคนทำกัน 4 คน ซึ่งต้องทำงานแทนกันได้หมด ตากล้องบางทีก็ต้องตั้งกล้องทิ้งไว้เฉยๆ แล้วมาอ่านไกด์เสียง หรือมาหมุนฉาก(ที่เราเห็นเป็นภาพเลื่อนไปมาเวลาตัวหุ่นเดินหรือวิ่ง)
เป็นประสบการณ์ที่ดีอีกอย่างในชีวิตจริงๆ แต่ก็ทำแค่เทอมเดียว เพราะเทอมถัดมาก็เป็นละครเวทีแล้วซึ่งสนุกกว่าทำหุ่นมือเยอะ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีส่วนในการทำสื่อด้วยนะครับ แม้จะยากเย็นเพียงไหน แต่เราก็ทำเพื่อพระพุทธศาสนา เราจะได้อานิสงส์มากกว่าคนอื่นๆ เยอะครับ เป็นกำลังใจให้กับทุกคนอย่างที่สุดครับ
สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ .....
ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน .....
ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ .....
อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ