มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[072eve]

...คืออย่างนี้ค่ะดิฉันได้เล่าเรื่องบุญต่างๆให้น้องที่ทำงานฟังจนน้องเค้าอยากที่จะมาทำบุญที่วัดด้วย..น้องเค้ามีทีท่าดีมากเลยค่ะเหมาะที่จะเป็นผู้นำบุญในอนาคตได้เลยค่ะ ถ้าดิฉันเล่าเรื่องบุญอะไรให้ฟังหรือเค้าได้อ่านหนังสืออะไรเกี่ยวกับบุญน้องเค้าก็จะเอาเรื่องนี้ไปเล่าต่อให้เพื่อนๆฟังและชวนเพื่อนไปทำบุญกันที่วัดค่ะ..แต่อยู่ดีๆก็มีีคนเค้ามาบอกน้องเค้าว่าอย่าไปเลยที่วัดนะใครมาวัดนี้ก้มีแต่เสียเงินจะไปทำไมดิฉันเลยเข้าไปคุยและคุยกันไปคุยกันมาสรุปว่าเค้าเคยมาตอนเรียนหนังสือค่ะคือคุณครูพามาร่วมบุญช่วงบุญใหญ่ค่ะและได้เข้าแถวรับหลวงพ่อด้วยเค้าบอกไม่เห้นจะมีอะไรเลยเหนื่อยก็เหนื่อยร้อนก็ร้อนดิฉันพยายามอธิบายให้เค้าเข้าใจแต่ก็เป้น0ค่ะเลยปล่อยไปแต่ดิฉันก็พยามคุยกับน้องอีกคนน่ะค่ะไม่ให้เข้าใจผิด..สรุปก็คือน้องเค้าตกลงจะมาวัดกับดิฉันค่ะในวันที่7กันยายน แล้วดิฉันจะทำยังไงกับคนที่เค้าไม่เข้าดีหล่ะค่ะเพราะเวลาพูดอะไรไปเค้าก็จะคอยพูดตัดตลอดเลยที่สำคัญเป็นเพื่อนร่วมกันอีกต่างหากดิฉันได้แต่คอยพูดกับเค้าว่าถ้าเรายังไม่เข้าใจอะไรดีพอก็อย่าไปว่าอะไรถึงวัดเลยถ้าว่ามันบาปน่ะเค้าถึงได้หยุดค่ะ

[หัดฝัน]

ก็บอกน้องเขาไปสิครับว่า ต้องพิสูจน์นะครับ สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น มาดูไม่เห็นกับตาตัวเอง ให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า

[dhamma_072]

คนเราทิฐิมานะไม่เสมอกัน ก็พูดยาก...ทางที่ดีถ้าเขายังไม่เข้าใจวัด ไม่เข้าใจหลวงพ่อ ก็ต้องปล่อยเขาไปก่อน เพราะถ้าเรามานั่งเถียงกัน ก็ทำให้ใจเราขุ่นด้วย ไม่เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่ายครับ

[koonpatt]

อันนี้ ส่วนตัวนะคะ คือวันแรกที่มาวัดนี่ ก็ไม่กล้าบอกใครค่ะ ว่ามาวัด บอกว่า มาทัศนศึกษา (พอดีตอนนี้ ลงเรียน นิติศาสตร์ รามฯ ) ที่บ้านเลยไม่ว่าอะไร นึกว่าเป็นเรื่องของทาง มหาวิทยาลัย แต่ก็หัวเราะค่ะ เพราะเห็นตอนขึ้นรถ ว่า ทำไมนักศึกษาถึงมีแต่ นุ่งผ้าถุง ผมขาวอะไร ประมาณนั้นน่ะค่ะ กับเพื่อนๆนี่ ไม่บอกเลยค่ะ กะว่า มาดูให้รู้แน่ก่อน กลับไปถ้ามาแล้วดีถึงจะบอก พอกลับไปก็ไปเล่าให้ฟังน่ะค่ะ แต่เพราะทราบว่าคนข้างนอก จะคิดเป็นลบกับวัดในเรื่องของเงินทำบุญ ก็บอกแต่ร่วมบุญค่ารถ ไป-กลับ 300 บาท ซึ่งถ้าเดินทางเข้ากรุงเทพฯเองนี่ ไม่มีทางเป็นไปได้น่ะค่ะ (ไม่ได้บอกเรื่องสร้างองค์พระ และ สังฆทาน 10,000 วัดนะคะ เพราะถ้าบอก หูชาแน่เลย) นอกนั้นไม่ได้จ่ายอะไรเลย (ไม่ได้โกหก เพราะถ้าเราไม่ทำบุญด้วยความต้องการของเราเอง ก็ไม่มีใครมาบังคับ หรือ หว่านล้อม หรือ หลอกเราอยู่แล้วค่ะ) พอดีวันแรกที่ไป คือ 22 เมษาค่ะ เลยกลับมาเล่าให้ฟังได้ถึงบรรยากาศ และประกอบกับ ต้นเดือนพฤษภาคม มาวัด ก็ได้หนังสือ อยู่ในบุญฉบับเมษายนกลับไป ที่นี้ เอาหนังสือ ไปโม้เลยค่ะ ว่า นี่ไง พระนะเยอะมากๆเลย คนยิ่งเยอะใหญ่เลย แต่เค้าก็ยังเกร็งๆกันเรื่องเงินทำบุญนะคะ ว่า จริงๆเหรอ จ่ายแต่ค่ารถจริงๆเหรอ ก็บอกเลยว่า จริงๆ ไม่เชื่อไปด้วยกันมั๊ย เค้าก็ยังไม่มาหรอกค่ะ เพราะ ไม่อยากกระตุ้นหรือ กระตือรือล้นมากเกินไป เดี๋ยว เค้าจะกลัว ว่าเราหวังอะไรจากเค้าหรือเปล่า (อันนี้เป็นพฤติกรรมของมนุษย์ทั่วไปนะคะ คือ จะกระตือรือล้นเป็นพิเศษถ้ามีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยว)

ของคุณ 072eve ยังโชคดีค่ะ ที่ยังมีน้องจะมาด้วย คนที่ยังไม่มา ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวคนที่มากลับไปเล่าให้ฟัง ไขข้อข้องใจเรื่องเงินทำบุญว่า ไม่มีใครบังคับ ไม่มีใครหลอกใคร เอารูปวันงานบุญใหญ่ๆ ไปให้เค้าดูนะคะ เดี๋ยวเค้าก็อยากมาเอง เพราะการเอาหนังสืออยู่ในบุญที่มีภาพงานไปให้ดูนี่ ใช้การได้เลยค่ะ คนทุกคน มีส่วนที่ดีอยู่ในใจอยู่แล้ว ได้เห็นภาพ เค้าบอกว่า อยากไปทุกคนเลยค่ะ เค้าบอกว่า น่าปลื้มใจจัง เรื่องทำบุญ ถ้าใจเค้ายังไม่พร้อม ต้องให้เวลาเค้าหน่อยค่ะ เค้ามีความคิดด้านลบอยู่บ้างแล้ว อธิบายว่า ทำบุญแล้วได้อะไร เค้าจะยังไม่ฟังค่ะ เค้าจะยิ่งแอนตี้ด้วยซ้ำ ดีไม่ดีพูดอะไรที่เป็นบาปแก่ตัวเค้าด้วย เราก็ยังไม่ต้องพูดถึงค่ะ

ตัวเองจะบอกเค้าเรื่อง ไปแล้วสบายใจดี ไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องคิดอะไร ทุกคน สงบ ก็ทำให้เราสงบด้วย เว้นวรรคให้กับชีวิต แต่เรื่องที่จะพูดบ่อยๆคือ มีวัดไหนที่พระให้พรเราพร้อมกันเป็นร้อยๆ พันๆ หมื่นๆ รูปบ้าง จะมีโอกาสได้ใส่บาตรพระเป็นร้อยรูปกี่ครั้งใน 1 ปี แต่ที่นี่ อย่างน้อยก็มีทุกวันอาทิตย์นะ เริ่มจากเรื่องเล็กๆ แบบนี้ก่อนก็ดีนะคะ เพราะตัวเองเอาไปใช้แล้วได้ผลค่ะ

[MiraclE...DrEaM]

ขอแนะนำว่า ให้พาน้องที่ศรัทธามาก่อน อย่าให้พลาด สำหรับอีกคน ถ้าใจยังไม่เปิดก็ไม่ต้องไปบังคับ ปล่อยไปก่อนครับ

แต่หน้าที่ของคุณคือ เมื่อพาน้องที่ศรัทธามาแล้ว คุณจะทำยังไงให้เค้าศรัทธายิ่งขึ้นแล้วอยากมาอีก และ คุณจะประคับประคองน้องคนนี้อย่างไรให้รอดจากปากเหยี่ยวปากกาจากคนที่คิดแต่จะว่าวัด เพราะ มีไม่น้อยที่มาวัดแล้ว แต่พอกลับไป กลับถูกคนรอบข้างเป่าหูจนศรัทธาที่เกิดขึ้น หายไปจนหมดแล้วไม่อยากมาวัดอีกเป็นครั้งที่สอง

แต่ถ้าเป็นผม ถ้าไม่สามารถเปิดใจคนที่คุณบอกว่าปิดใจได้ทัน ผมก็จะไม่ฝืนพาเค้ามา สาเหตุเพราะ ถ้าคุณพาน้องที่ศรัทธา กับเพื่อนที่ไม่ศรัทธามาด้วยกัน ผมเกรงว่า คนที่ไม่ศรัทธานั่นแหละ จะคอยติโน่น ว่านี่ ขณะที่อยู่วัดให้น้องคนที่ศรัทธาฟัง แล้วการมาวัดของน้องที่ศรัทธานั้นจะได้ประโยชน์ลดน้อยลง

ในทางกลับกัน ถ้าคุณพาน้องที่ศรัทธามาคนเดียว คุณสามารถดูแล อธิบาย สิ่งๆ ต่างๆ และพิธีกรรมในวัดได้อย่างใกล้ชิด โดยไม่มีคนที่ไม่ศรัทธามาคอยพูดติในแง่ลบให้น้องเค้าฟังไงครับ เปรียบเหมือน คุณเติมน้ำให้น้องที่ศรัทธา แต่คนที่ไม่ศรัทธากับคอยตักน้ำที่คุณเติมให้น้องเค้าทิ้ง น้องเค้าเสียประโยชน์ที่ควรจะได้ครับ

[เพียงพอ]

เอาใจช่วย
คิดดี ทำดี สุดท้ายก็ต้องได้ดีอยู่ดีนั้นละครับ อิอิ
------------------

[Omena]

ไม่ต้องไปสนใจหรอกค่ะ เขาปิดเสียแบบนั้น พยายามไปก็ไม่ค่อยจะได้อะไร ก็ให้พยายามต่อไปกับคนที่เขายังดีๆอยู่ เดี๋ยวพอคนนั้นเขาสู้ไม่ได้เขาก็เลิกว่าเองค่ะ เผลอๆก็อาจจะลองมาใหม่ แต่หนูก็มีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ดื้อมากๆ ไม่ยอมฟังเลย เอาแต่ว่าๆไม่ชอบ หนูก็เลยบอกเขาไปว่า "ถ้าไม่ชอบก็อย่ามาบ่นได้ป่ะ" เขาก็ไม่ได้พูดอีกเลยเรื่องวัด

[BiBi]

เป็นกัลยาณมิตร ให้น้องที่เค้าอยากมากับเราก่อนนะค่ะ คนอื่น ๆ ไว้ทีหลัง

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ สู้ ๆ ค่ะ

[ฝันที่เป็นจริง]

สำหรับคนที่มาเขาจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเขาเอง สำหรับคนที่เคยมา แต่ไม่ชอบ ก็เป็นกัลยาณมิตรให้เขาต่อไปนะครับ ชวนเขาพิสูจน์ด้วยกัน ถ้าชวนไปปฏิบัติธรรมได้ยิ่งดี

[คนรักวัด]

สาธุ ขอขอบคุณ และอนุโมทนากับทุกความเห็นครับแล้วพวกDirec sales
สารพัดรูบแบบที่แฝงเข้ามาละครับ

[สายธารธรรม]

ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ การทำหน้าที่ก็ต้องมีอุปสรรคแบบนี้แหละค่ะ

ถ้าเราได้ใช้สติปัญญาและความสามารถของเราเพื่อช่วยคนๆหนึ่ง ให้เปลี่ยนจากคนที่ไม่รู้จักทำทาน ได้มีโอกาสมาสร้างทานบารมี (โดยเฉพาะได้ทำถูกเนื้อนาบุญ..ถือเป็นมหาทานบารมี) จากคนที่ไม่รักษาศีล ให้เปลี่ยนเป็นคนที่มีศีล รักศีล จากคนที่ไม่เคยรู้จากการทำภาวนา ให้มาเป็นคนที่ได้เจริญสมาธิภาวนา จากคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดมาทำไม มาเป็นคนที่รู้จักเป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตได้ การทำแบบนี้แม้ชวนได้เพียง 1 คน ก็ถือว่าได้บุญมากนะคะ เรียกว่าเราช่วยเปลี่ยนชีวิตของเค้าทั้งชีวิตได้เลย เพราะฉะนั้นพยายามต่อไปนะคะ

ส่วนใหญ่แล้วการทำหน้าที่ ถ้าสามารถทำให้เค้ารู้สึก รักเรา ไว้ใจและเชื่อใจเราได้ ที่เหลือไม่ยากแล้วค่ะ อาจจะค่อยๆสังเกตุดูว่าเค้ามีจริตแบบไหน แล้วค่อยๆทำให้ถูกใจเค้า เช่นถ้าเป็นคนชอบเหตุผล คำถามเยอะ ลองให้ฟังธรรมะหลวงพ่อทัตตะก็ดีนะคะ ลองค่อยๆปรับดูค่ะ

ใช้ความพยายามกับคนที่ศรัทธาก่อนนะคะ คุณจะได้ไม่เสียกำลังใจ ส่วนคนที่ไม่เข้าใจถ้ายังไม่พร้อมทำหน้าที่กับเค้าก็ปล่อยไปก่อนค่ะ ไว้พร้อมแล้วค่อยไปทำจะดีกว่า ใจเราจะได้ไม่ตกด้วย และเมื่อถึงเวลาบุญในตัวเค้าส่งผลก็จะมีช่องทางเองค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ วันที่ 7 กันยายน ทำหน้าที่ให้เต็มที่เลยนะคะ ขอกราบอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ...สาธุ

[น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14]

ด้เข้าแถวรับหลวงพ่อด้วยเค้าบอกไม่เห้นจะมีอะไรเลยเหนื่อยก็เหนื่อยร้อนก็ร้อน

วันแรกหนูก็ได้ตอนรับหลวงพ่อเลย ไม่เห้นเหนื่อยเลยค่ะ ร้อนก็ไม่ร้อนเลยสักนิด ปลื้มใจมากกว่าค่ะ ดีใจมากๆเลย

สรุปก็คือน้องเค้าตกลงจะมาวัดกับดิฉันค่ะในวันที่7กันยายน

สาธุค่ะ แล้วพามาจะมาอยุ่แผนกตอนรับหลวงพ่ออีกรึป่าวค่ะถ้ามาอาจจะได้เจอกันนะคะ แนะนำหน่อยนะคะ
ค่อยๆเป็นกัลยาณมิตรให้เขาต่อไปนะค่ะ

[dek-d ka]

ทำไมวันที่ 7 ต้องเป็นวันพฤหัสด้วยทำไมไม่เป็นวันอาทิตย์ง่า หนูต้องเรียน เซ็งเกวค่ะ

[light mint]

ทำบุญ บางครั้งอาจร้อน และเหนื่อย
แต่ร้อนและเหนื่อย ที่ได้บุญ (ร้อน-เหนื่อย แค่ไม่กี่นาที หรือไม่กี่ชั่วโมง)

ทำงาน บางครั้งอาจร้อน และเหนื่อย
แต่ร้อนและเหนื่อย แล้วไม่ได้บุญ
แต่ใครๆ ก็อดทน ทำงานต่อไป (ร้อน-เหนื่อย เป็นเวลานานๆ หลายวัน เป็นเดือน เป็นปี)

คนชั่วในโลก ที่ทำบาปกรรม
เมื่อตายไปแล้ว ต้องรับกรรมชั่ว ไปนรก
ที่ร้อนแสนร้อน เหนื่อยนี้ไม่ต้องพูดถึง เจ็บปวดสุดแสนทรมาน สุดทน เกิดตายๆๆในนรกเพื่อรับทุกข์
คนที่ตายไปแล้ว ทรัพย์สินเงินทองจากการทำงานขณะมีชีวิตอยู่ ไม่มีค่าสำหรับเขา
มีแต่บาปกับบุญเท่านั้น
บาป นำเขามานรก นำไปทุคติ
บุญ นำเขาพ้นจากนรก นำไปสุคติ

การเสาะหาแหล่งบุญ แล้วสร้างบุญคือการช่วยเหลือตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง-ช่วยชีวิตหลังความตาย

ทำบุญ บางครั้งอาจร้อน และเหนื่อย
แต่ร้อนและเหนื่อย ที่ได้บุญ
แต่อดทน ทำบุญต่อไปเถิด เพราะบุญชื่อว่าความสุข
การสั่งสมบุญ นำสุขมาให้(ทั้งภพชาตินี้และภพชาติหน้า)

[นักท่องเที่ยว]

มาสร้างบารมีกันนะ