ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

โรคเกี่ยวกับกระเพาะและระบบทางเดินอาหารที่กรรมอะไรค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 jeab18

jeab18
  • Members
  • 60 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:16 PM

รบกวนสอบถามหน่อยค่ะ ว่าโรคกระเพาะ โรคอาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และกระเพาะปัสสาวะอักเสบนี่กรรมอะไรค่ะ เห็นเป็นกันเยอะจริง ๆ

#2 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:22 PM

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ...เกิดจากการชอบอั้นปัสสาวะ smile.gif
แต่ถ้าเป็นกรรม น่าจะมาจากการ ชอบทรมานสัตว์ เช่น แกล้งไม่ให้สัตว์ปัสสาวะ แบบว่า จับสัตว์ทรมานอะไรสักอย่าง ....อย่างนี้หรือปล่าวน๊า dont_tell_anyone_smile.gif

อาหารเป็นพิษเกิดได้จากหลายสาเหตุ เนื่องจากจากการบริโภคอาหารที่มีการปนเปื้อน (เชื้อรา, เบคทีเรีย, จุลินทรีย์)
ถ้าเป็นกรรม น่าจะเกิดมาจากการแกล้งเอาหารสกปรกให้ผู้อื่นรับประทาน (คิดเอง!!)

โรคกระเพราะอาหาร น่าจะมาจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้น้ำย่อยไม่มีอะไรย่อยไปกัดกระเพาะตัวเอง เลยเป็นแผล หรือไม่ก็รับประทานยาชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป เช่น ยาแก้ปวด แก้อักเสบ ฯลฯ และเรื่องของความเครียด
ถ้าเป็นกรรม ??????

******************************************
ข้อมูลจากไทยเล็บ

กระเพาะปัสสาวะอักเสบ-Cystitis

ลักษณะทั่วไป
กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ส่วนมากเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดเดียวกับที่อยู่ในลำไส้ของคน
เราโดยเข้าไปทางท่อปัสสาวะ โรคนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า เนื่องจากท่อ
ปัสสาวะของผู้หญิงสั้น และอยู่ใกล้ทวารหนักซึ่งเป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคมาก เชื้อโรคจึงเข้า
ทางท่อปัสสาวะของผู้หญิงได้ง่ายกว่าผู้ชาย
ผู้หญิงแทบทุกคนมีโอกาสเป็นโรคนี้ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ พบมากในผู้หญิงที่ตั้ง
ครรภ์(โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์) หรือผู้หญิงที่ชอบอั้น
ปัสสาวะนาน ๆอาจพบเป็นโรคแทรกของผู้ป่วยเบาหวาน นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูก
หมากโต หรือพบภายหลังการสวนปัสสาวะ ผู้หญิงที่แต่งงานใหม่ หรือหลังร่วมเพศ อาจมี
อาการขัดเบาแบบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ แพทย์เรียกว่า โรค ฮันนีมูน (Honeymoon's
cystitis) สาเหตุเกิดจากการฟกช้ำจากการร่วมเพศ แล้วทำให้มีอาการอักเสบของท่อปัสาวะ
ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้น้อยมาก ถ้าพบมักมีความผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ต่อมลูก
หมากโตหรือมีก้อนเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือมีความผิดปกติทาง โครงสร้างของ
ทางเดินปัสสาวะ

อาการ
ปัสสาวะกะปริดกะปรอย (ออกทีละน้อยแต่บ่อยครั้ง) รู้สึกปวดขัด หรือแสบร้อนเวลาถ่าย
ปัสสาวะอาจมีอาการปวดที่ท้องน้อยร่วมด้วย ปัสสาวะอาจมีกลิ่นเหม็น สีมักจะใส แต่บางคน
อาจขุ่นหรือมีเลือดปนอาการอาจเกิดขึ้นหลังอั้นปัสสาวะนาน ๆ หรือหลังร่วมเพศ
ในเด็กเล็กอาจมีอาการปัสสาวะรดที่นอน อาจมีไข้ เบื่ออาหาร และอาเจียน

สิ่งตรวจพบ
มักตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน บางคนอาจมีการกดเจ็บเล็กน้อยตรงกลางท้องน้อย

อาการแทรกซ้อน
ส่วนมากมักจะไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แต่บางคนอาจเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ซึ่งถ้าไม่ได้
รับการรักษาเชื้อโรคอาจลุกลาม ทำให้กลายเป็นกรวยไตอักเสบ ได้

การรักษา
1. ขณะที่มีอาการ ให้ดื่มน้ำมากๆ ถ้าปวดมากให้ ยาแก้ปวด และให้ยาปฏิชีวนะเช่น
โคไตรม็อกซาโซล 2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง, อะม็อกซีซิลลิน 500 มก.ทุก 8 ชั่วโมง หรือนอร์
ฟล็อกซาซิน 400 มก. วันละ 2 ครั้ง นาน 3 วัน
2. ถ้าไม่ดีขึ้นหรือเป็นซ้ำมากกว่า 2-3 ครั้ง หรือเป็นในผู้ชาย ควรส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจ
หาสาเหตุโดยการตรวจปัสสาวะ (พบเม็ดเลือดขาวจำนวนมาก) นำปัสสาวะไปเพาะหาเชื้อ
เอกซเรย์ หรือใช้กล้องส่องตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ (cystoscope) แล้วให้การรักษา
ตามสาเหตุที่พบ

ข้อแนะนำ
1. กระเพาะปัสสาวะอักเสบ พบเป็นสาเหตุอันดับแรก ๆ ของอาการขัดเบา แต่อย่างไรก็ตาม
ยังมีโรคอีกหลายชนิดที่อาจมีอาการแสดงคล้ายโรคนี้ได้อีก ดังนั้นก่อนให้การรักษาโรคนี้
ควรซักถามประวัติอาการอย่างถี่ถ้วน ( ขัดเบา/ปัสสาวะบ่อย/ปัสสาวะมาก)
2. ในเด็กเล็กที่มีอาการปัสสาวะรดที่นอนบ่อย หรือมีไข้ และอาเจียนไม่ทราบสาเหตุ ควร
นึกถึงโรคนี้ไว้เสมอ การตรวจปัสสาวะจะช่วยวินิจฉัยโรคนี้ได้
3. ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ ควรดื่มน้ำมาก ๆ (ประมาณวันละ 3-4 ลิตร) เพื่อช่วยขับเชื้อโรคออก
และช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะ
4. การป้องกัน ผู้ที่เคยเป็นโรคนี้ เมื่อรักษาหายแล้วควรป้องกันมิให้เป็นซ้ำโดย
4.1 พยายามดื่มน้ำมาก ๆ และอย่าอั้นปัสสาวะควรฝึกถ่ายปัสสาวะในห้องน้ำนอกบ้าน หรือ
ระหว่างเดินทางได้ทุกที่ การอั้นปัสสาวะทำให้เชื้อโรคอยู่ในกระเพาะปัสสาวะได้นานจน
สามารถเจริญแพร่พันธุ์ ประกอบกับในภาวะที่มีกระเพาะปัสสาวะยืดตัวความสามารถใน
การขจัดเชื้อโรคของเยื่อบุผิวกระเพาะปัสสาวะลดน้อยลง จึงทำให้เกิดอาการอักเสบของ
กระเพาะปัสสาวะได้
4.2 หลังถ่ายอุจจาระ ควรใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดจากข้างหน้าไปข้างหลัง เพื่อ
ป้อง กันมิให้นำเชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักเข้าสู่ท่อปัสสาวะ
4.3 สำหรับอาการขัดเบาหลังร่วมเพศ (โรคฮันนีมูน) อาจป้องกันได้โดยดื่มน้ำ 1 แก้วก่อน
ร่วมเพศควรใส่ครีมหล่อลื่นช่องคลอด และถ่ายปัสสาวะทันทีหลังร่วมเพศ

โดยเข้าไปทางท่อปัสสาวะ โรคนี้พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายหลายเท่า เนื่องจากท่อปัสสาวะ
ของผู้หญิงสั้น และอยู่ใกล้ทวารหนักซึ่งเป็นแหล่งที่มีเชื้อโรคมาก เชื้อโรคจึงเข้าทางท่อ
ปัสสาวะของผู้หญิงได้ง่ายกว่าผู้ชาย
ผู้หญิงแทบทุกคนมีโอกาสเป็นโรคนี้ ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยสูงอายุ พบมากในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
(โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2-3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์) หรือผู้หญิงที่ชอบอั้นปัสสาวะ
นาน ๆอาจพบเป็นโรคแทรกของผู้ป่วยเบาหวาน นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากโต
หรือพบภายหลังการสวนปัสสาวะ ผู้หญิงที่แต่งงานใหม่ หรือหลังร่วมเพศ อาจมีอาการขัดเบา
แบบ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ แพทย์เรียกว่า โรค ฮันนีมูน (Honeymoon's cystitis)
สาเหตุเกิดจากการฟกช้ำจากการร่วมเพศ แล้วทำให้มีอาการอักเสบของท่อปัสาวะ
ผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคนี้น้อยมาก ถ้าพบมักมีความผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น ต่อมลูก
หมากโตหรือมีก้อนเนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะ หรือมีความผิดปกติทาง โครงสร้างของ
ทางเดินปัสสาวะ

#3 บุญโต

บุญโต
  • Members
  • 2192 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
  • Interests:ปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 03:38 PM

เข้าไปดูโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารทั้งหมด

http://www.bangkokhe...alth_topics.asp

(เรื่องของกฏแห่งกรรมต้องรอผู้รู้มาแนะนำอีกทีค่ะ)

#4 วัดในดวงใจ

วัดในดวงใจ
  • Members
  • 1199 โพสต์

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 04:52 PM

lสาธุ
พระพุทธเจ้ารู้
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์

#5 น้อมเศียรเกล้า

น้อมเศียรเกล้า
  • Members
  • 365 โพสต์
  • Location:ถ.ลาดพร้าว
  • Interests:พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย การรักษาโรคด้วยวิธีธรรมชาติ <br />รำนาฏศิลป์ เล่นดนตรีไทย เล่นดนตรีสากล

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 07:49 PM

วิธีบรรเทาโรคกระเพาะ คือ ทานกล้วยดิบต้มน้ำตาลกรวดวันละ 2 ลูกค่ะ

เอากล้วยดิบมาล้างให้สะอาด ไม่ต้องปลอกเปลือก หั่นบางๆ เอาไปต้มกับน้ำตาลกรวด ทานวันละ 2 ผล ตอนเย็น จะช่วยให้หายเร็วค่ะ

แล้วก็สำคัญมากทานอาหารให้ตรงเวลา ถ้าทำได้รับรองเห็นผล

เล่นโยคะ ท่าจระเข้ ท่างู คือนอนคว่ำหน้ากับพื้นน่ะค่ะ ให้ท้องแนบพื้น จะช่วยได้ด้วย แล้วก็ทำบุญมากๆค่ะ

#6 iMac24

iMac24
  • Members
  • 437 โพสต์
  • Location:Dmoc
  • Interests:เกิดมาสร้างบารมี

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 09:01 PM

ไม่อยากโรคกระเพาะต้องทานข้าวให้ตรงเวลา ไม่กินอาหารรสจัด
ผมเคยเป็นครับแต่หายแล้วตอนเป็นทรมานมากครับ แม่ผมก็เป็น
สั่งสมบุญทุกบุญครับช่วยได้แน่นอน smile.gif
จงสู้และอย่าท้อ ลูกเอย
ต้องถึงธรรมอย่างเสบย แน่แท้
ให้ทำอย่างที่เคย สอนสั่ง
นั่ง บ่ มีข้อแม้ จักได้ธรรมครอง

สุนทรพ่อ

มาร่วมกันสร้างสันติสุขให้กับโลกกันเถอะ

#7 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 15 September 2006 - 09:23 PM

สงสัยเราก็มีกรรมแบบนี้เป็นบางครั้งด้วยดิ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#8 D_jung

D_jung
  • Members
  • 109 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 01:49 AM

ชอบทำใจเครียดๆ เลยเป็นเหตุของโรคกระเพาะ
นอกจากกรรมเก่า แล้วก็กรรมปัจจุบันชาติ ที่เครียดนี่แหละ

#9 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 09:48 AM

วางยาพิษสัตว์ครับ ถ้าพิษน้อยๆ ก็ป่วยรักษาหาย ถ้าพิษมากๆ ก็เอาเรื่องเหมือนกัน
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#10 นับดาว

นับดาว
  • Members
  • 422 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 September 2006 - 11:53 AM

เมื่อวานเพิ่งไปหาหมอมา(เป็นแพทย์ทางเลือกน่ะค่ะ)

หมอตรวจร่างกาย พอมาถึงข้อเท้า หมอถามว่า

คุณอั้นปัสสาวะรึเปล่า..ให้เลิกนิสัยแบบนี้นะ

เพราะจะมีผลต่อระบบการทำงานของไตและกระเพาะปัสสาวะ

เราก็นึกๆๆๆ ว่า..ไม่นะ แม้ในระหว่างวันจะดื่มน้ำมาก ( 2ลิตรโดยประมาณ)

แต่ก็ไปห้องน้ำทุกครั้ง

หมอชี้ให้ดูรอยบวมที่ใต้ข้อเท้าด้านใน เยื้องมาทางรอยเว้าตรงกลางฝ่าเท้า

เรามองตามก็เห็นว่าเป็นรอยบวมขึ้นมาชัดเจน

แล้วก็นึกได้ว่า ทุกๆคืนก่อนนอนดื่มน้ำประมาณ 1-2 แก้ว

แล้วหลับรวดจนถึงเช้า 7-8 ชั่วโมง

ตื่นเช้าขึ้นมาก็นั่งสมาธิต่ออีก 1 ชั่วโมง

ช่วงเวลาเหล่านี้แหละคือสาเหตุของอาการ

คำแนะนำที่ได้รับมาก็คือ ..ก่อนนอน 2 ชม. ให้งดดื่มน้ำ

จะช่วยลดอาการอั้นปัสสาวะแบบไม่ได้ตั้งใจนี้ได้

เรื่องนี้ให้ข้อคิดคือ

..นอกจากเหตุคือวิบากที่ทำมาในอดีตแล้ว

เหตุในปัจจุบันก็สำคัญนะคะ ..

สังขารนี้เป็นรังแห่งโรค ต้องคอยหมั่นดูแลเอาใจใส่

ให้สังเกตุพฤติกรรมของตัวเอง..จะได้แข็งแรง

และมีอายุยืนยาว สร้างบารมีกันได้นานๆ

ก็นำมาฝากสมาชิกทุกท่านค่ะ

ขอให้แข็งแรงๆๆกันถ้วนหน้านะคะ

ปล. โรคปวดกระเพาะ ลำใส้นี่ก็เป็นมาแล้วค่ะ

ซาบซึ้งดีว่าทรมานขนาดไหน

กรรมเยอะจริงหนอเรา..เฮ้อ









ถ้าใจใส

เรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน