ขอความคิดเห็นผู้มีปัญญาทุกท่าน
#1
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 11:44 PM
-บางครั้งเห็นแค่มีผู้ชายคนอื่นอยู่ใกล้ก็หึงไปหมด แต่ที่สำคัญหึงแล้วเค้ามักจะใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายลูกน้องและไม่ยอมฟังเหตุผลเลย ทั้งที่ลูกน้องเราไม่ได้ผิด (พาล)
-ครั้งหนึ่งมาหาเรื่องถึงที่ทำงานทำเอาคนอื่นๆ พลอยอกสั่นขวัญแขวนกันไปหมด ต้องรีบให้ลูกน้องคนนั้นรีบกลับไปก่อนตามที่สามีบังคับ(ทั้งที่เป็นเวลาทำงาน)เพราะไม่อยากให้เกิดการทะเลาะวิวาทในที่ทำงาน
-บางครั้งลูกน้องคนนี้เคยมาขอความช่วยเหลือเวลาถูกเข้าใจผิดแล้วถูกทำร้าย ถึงที่บ้านเรา เราก็ออกมาพูดให้แล้ว ช่วยยืนยันถึงความบริสุทธิ์ก็แล้ว ขู่ก็แล้วก็ยังไม่เป็นผล กลายมาเป็นทะเลาะกันหน้าบ้านเราอีก เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเข้าบ้านอย่างเดียว (อาย และสงสาร )
-หลายครั้งมาที่ทำงานเพื่อจะมาเอาเงิน ทำให้ลูกน้องเราไม่เป็นอันทำงานต้องรีบกุลีกุจอโทรศัพท็ยืมเงินคนนั้นที่คนนี้ที ดีนะที่ยังไม่มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น
-เคยคุยกับลูกน้องคนนี้แล้ว ว่าไม่ให้แฟนมาที่ทำงานอีก ให้มารับ- ส่งได้ และไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวรบกวนเวลางานอีก แต่ก็ไม่เป็น
ผลเท่าที่ควร
-เคยพาลูกน้องที่ทำงานทั้งหมดมาทำบุญที่วัดเรา สามีลูกน้องยังอุตส่าห์ตามมาเช็คว่ามาจริงหรือเปล่ามีคนอื่นมาด้วยหรือเปล่า ดีที่ยังมาตอนงานบุญเลิกแล้ว ไม่งั้นคงแย่
-เคยถามลูกน้องแล้วว่าทำไม่ต้องทนแบบนี้ ก็ได้คำตอบว่าถ้าเลิกจะถูกตามทำร้าย หรือมากกว่านั้น
ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของเค้าก็ไม่เท่าไร แต่นี่กระทบต่องานแต่โชคดีที่ยังไม่มาก แต่ก็ไม่รู้ต่อไปจะมากขึ้นหรือเปล่า
ขอท่านผู้มีปัญญาช่วยเสนอแนะว่าจะจ้างลูกน้องคนนี้ต่อไปดีมั้ย บางครั้งก็สงสารกลัวเค้าจะยิ่งลำบาก บางครั้งก็อยากอยู่ห่างไกลคนพาลเอามากๆๆๆๆๆ[u]
(บอกให้ลูกน้องเค้าทำบุญ อุทิศส่วนกุศลบ่อย ๆ แล้วแต่ไม่รู้ว่าจะได้ขนาดไหน VCD ขุม ๕ ,ขุม ๓ ก็ให้ไปแล้ว)
และจะมีวิธีใดบ้างที่พอจะคลายปัญหาไปได้บ้าง ขอขอบคุณล่วงหน้า อนุโมทนาสาธุ
#2
โพสต์เมื่อ 26 September 2006 - 11:47 PM
#3
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 12:23 AM
แนะนำให้คุณลูกน้องหาเพื่อนเป็นตำรวจด้วยนะ เพื่อความอุ่นใจในความปลอดภัย
#4
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 12:26 AM
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#5
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 12:34 AM
คุณเจ้าของกระทู้คงช่วยได้แค่ให้กำลังใจลูกน้องคนนี้เท่านั้นแหละครับ อย่าได้เกินเลยมากจนเกินไป ทำนองที่ว่าไปเชียร์ให้เขาเลิกกัน เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นมาผูกเวรกับเราอีก แค่คอยให้กำลังใจ คอยให้ความรู้เรื่องธรรมะแก่ลูกน้องคนนี้ ชักชวนลูกน้องคนนี้ไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์สิครับ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เขาได้รอดพ้นจากนรกบนดินได้สักระยะนึง และช่วงนี้อยากให้คุณเจ้าของกระทู้นำเคสในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับลูกน้องคนนี้ไปเปิดให้เขาดู ให้เขาได้เข้าใจถึงกฏแห่งกรรมที่เกิดขึ้นกับเขา และคอยให้กำลังใจเขา เขาจะได้ไม่คิดสั้นก่อเวรให้กับตัวเองอีก
นี่แหละน้าโทษของความรัก ทำให้หูหนวกตาบอด เอาคนพาลมาเป็นคู่ครอง สุดท้ายหนีไม่พ้นวิบากกรรม
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#6
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 08:45 AM
- ผู้ชายอยู่ด้วยแล้วต้องการอะไร ต้องการเงิน? หากไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ เขาก็คงไม่ทนอยู่ หรืออดตายด้วยกันไปทั้งคู่
- ผู้หญิงอยู่ด้วยแล้วต้องการอะไร ต้องการความรัก? หรือ พฤติกรรมเยี่ยงคนทั่วไปที่ต้องการมีครอบครัว? หากต้องการเพียงแค่พฤติกรรมเยี่ยงคนทั่วไป ก็ยากที่จะใจแข็งทำให้ปัญหานี้จบลงได้
คนที่ผมรู้จักมีอยู่ท่านหนึ่งคล้าย ๆ กับเหตุการณ์นี้ แต่โชคดีที่เธอเป็นลูกพระธัม มีหลักวิชาที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจ จนปัจจุบันนี้ด้วยความอดทนของเธอ ทำให้สามีของเธอคิดที่จะบวชระยะยาวในเดือนหน้านี้เอง
ขอให้คุณและลูกน้องของคุณอดทนต่อไป หากทุกอย่างลงตัวสถานการณ์ก็จะดีขึ้น แต่หากกรรมยังไม่เบาบางปัญหานี้คงแก้ได้ยาก เพราะใครทำกรรมใดไว้ก็ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น แม้แต่หัวหน้างานเองก็ได้รับกรรมจากลูกน้องที่นำพาเรื่องขุ่นใจมาให้ เนื่องจากเศษกรรมในอดีตที่ผ่านมานั่นเอง
#7
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 08:46 AM
#8
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 08:47 AM
2. ถ้าข้อ 1 ยังไม่ได้ผลดีขึ้น ลูกน้องยังถูกรังควาญอีก ให้คุยกับลูกน้องว่า แบบนี้ไม่ไหวแล้ว มันกระทบกับบริษัท ยื่นคำขาดถ้าเกิดเรื่องอีกครั้งจะให้ลาออก แล้วทำเป็นหนังสือเพื่อให้สามีของลูกน้องดูด้วย
3. ถ้าเกิดเรื่องอีก ให้ลูกน้องลางานไปเลย 1-3 เดือน โดยไม่จ่ายเงิน
4. ก็แล้วแต่ เพราะเป็นวิบากกรรมของลูกน้องเองครับ
#9
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 01:36 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#10
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 02:02 PM
ช่วงนี้แนะนำให้อธิษฐานกับหลวงปู่ และตรึกระลึกถึงท่าน อาราธนาบารมีท่านช่วยให้เรื่องร้ายๆกลายเป็นดี ก็น่าจะดีขึ้นได้ครับ
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต้ อุกาสะ ขะมามิ ภันเตฯ
หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยกายก็ดี วาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี
ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดยกโทษให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ
#11
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 05:54 PM
เขาว่าอย่างไรก็ตาม ยกให้เขาหมดเสีย
สำรวจตนเองทั้งคุณและโทษที่มีอยู่ในสกลกายของเราอยู่เสมอไป
(คำสอน หลวงปู่ทา จารุธัมโม)
ทำผิด ก็ทำแก้ ให้ถูกต้อง
พูดผิด ก็พูดแก้ ให้ถูกต้อง
คิดผิด ก็คิดแก้ ให้ถูกต้อง
(คำสอน หลวงปู่เกษม อาจิณฺณสีโล)
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ
เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก
Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain
#12
โพสต์เมื่อ 27 September 2006 - 10:39 PM
ส่วนตัวเองก็อยากพ้นจากวิบากกรรมนี้ เร็วๆ เหมือนกัน
คงจะคุยกับผู้บริหารคนอื่นดูอีกครั้ง หากยังมีผลต่องานอีกคงต้องทำใจ เพราะก็เคยขู่ว่าจะให้พักงานแล้วแต่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย คงต้องทำใจหาพนักงานใหม่ (อันนี้ความเห็นส่วนตัวค่ะ )แล้วก็คงให้ความช่วยเหลือบ้างตามความเหมาะสม
ไม่รู้ว่าหัวข้อนี้จะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
แต่สิ่งที่คิดถึงมากที่สุดก็คือมงคลชีวิตข้อที่หนึ่ง ไม่คบคนพาล เพราะจะนำแต่ความเสื่อมมาให้ทั้งโลกนี้และโลกหน้า
ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งค่ะ
#13
โพสต์เมื่อ 28 September 2006 - 08:59 AM
ถ้าผมตกอยู่ในสถาณการณ์เช่นเดียวกัน ท่าน m-ss แล้วนั้น คิดว่าคงจะพยามทำให้ผู้ร่วมงานท่านนั้น ตระหนักถึงเหตุและผลของกรรมที่เค้าต้องรับ ซึ่งอาจมาจากการกระทำทั้งในปัจจุบันด้วย (อาจยังประมาทเรื่องการทำบุญทั้งแบบหยาบ และแบบละเอียด) นอกเหนือจากกรรมในอดีต (ตามกฎแห่งกรรม) ตามหลักวิชาพระพุทธศาสนา ที่ได้ศึกษาและปฎิบัติมา
แล้วก็พยายามทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่ดีที่สุด ทั้งทางตรงคือตัวต่อตัว และทางอ้อมคือแนะนำรู้จักกัลยาณมิตรท่านอื่นๆ อีก เพื่อให้เห็นถึงวิธีการที่จะจัดการกับชีวิตของเค้าเอง
และท้ายที่สุดต้อง พยายามให้เค้าเข้าใจหลักที่ว่า ตนเองเท่านั้นที่จะเป็นผู้ทำให้ตัวเองพ้นจากทุกข์ปัญหาต่างๆ พร้อมกับอธิบายแจกแจงให้เค้าทราบ และยอมรับถึงเรื่องส่วนตัวของเค้าที่อาจกระทบต่อที่ทำงานทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อให้เค้าสามารถยอมรับสภาพให้ได้ว่า ถ้าหากมากไปแล้วเค้าอาจต้องหาที่ทำงานที่เหมาะกับเค้ามากขึ้น
โดยส่วนตัวแล้ว เชื่อเป็นอย่างยิ่งเลยว่า ถ้าเค้าตระหนัก (คือไม่ประมาทให้การทำบุญกิริยาวัตถุ 10) และทราบผลของการประพฤติปฎิบัติธรรม (บุญรักษาศีล และนั่งปฎิบัติธรรม) แล้วปัญหาของเค้าจะถูกแก้ไขไปได้ ด้วยเหตุและผลของมันเอง และ ค่อยๆลด จนกระทั่งหมดไปในที่สุด (ซึ่งอาจจะใช้เวลานาน หรือไม่นาน ก็เป็นได้ซึ่งต้องทดทนทำต่อไป)
สำหรับผู้รับผิดชอบเรื่องการรับผู้ร่วมงานขององค์กรนี้ คงได้เรียนรู้ในเรื่องของการรับผู้ที่จะเข้ามาทำงานด้วยให้ละเอียดรอบคอบกว่าเดิมครับ
ขออนุโมธนาบุญ กับท่านเจ้าของกระทู้ และท่านทั้งหลายที่ได้แสดงความคิดเห็นต่างๆ ไว้ด้วยครับ
สาธุ... สาธุ... สาธุ... ครับ
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#14
โพสต์เมื่อ 28 September 2006 - 11:26 PM
#15
โพสต์เมื่อ 29 September 2006 - 12:00 PM
เรื่องคือ
น้องชายของภรรยาผมคนนี้แม่เขารักมาก เลยเอาแต่ใจตัวเองเวลาทำอะไรผิดใครจะว่าอะไรไม่ได้ แม่เป็น
ต้องปกป้อง ( พ่อเขาเสียไปแล้ว ) ทำให้เขายิ่งได้ใจ ทำให้เขามีนิสัยเสีย สูบบุหรี่ ยาเสพติด กินเหล้า
คบเพื่อนคนพาล
แล้ววันหนึ่งเขาก็มาเกี่ยวกับที่ร้านผม เขาได้เสียกับแฟนกำลังเรียนอยู่และผลสุดท้ายก็เรียนไม่จบจึงให้มา
ทำงานที่ร้าน เลยรับเอาไว้เพราะที่ร้านขาดคนอยู่แล้ว เรื่องน่าจะลงตัวเพราะช่วยให้เขามีรายได้เลี้ยง
ครอบครัวด้วย แต่ไม่เป็นดังที่คิด เพราะเมื่อแฟนมาทำงานที่ร้าน เขากลับมาเฝ้า เอาเหล้าเอาเบียร์มากิน
ที่ร้าน พี่สาวเขาพยายามห้ามปรามก็ไม่ฟัง เพราะเขาหึงแฟนเขามาก และทำให้การทำงานไม่ราบรื่น
เพราะไม่มีเหตุผล ตีกันรุนแรงบ่อยมาก ผู้หญิงก็เจ็บแต่ก็แปลก ไม่คิดเลิกและยังรักอยู่ ยอมอ่อนข้าให้ด้วย
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนั้น แล้วก็เลยพยายามห้าม ( เพราะหวังดีอยากให้รักกันและสงสารผู้หญิง ) ปรากฏ
ว่าเหตุการณ์รุนแรงตีกันหนักกว่าเดิมอีกข้าวของเสียหายแตกหัก พาลเดือดร้อนไปด้วย และสุดท้าย
ก็ไม่สามารถทำงานที่นี่ได้ ไปทำงานที่อื่นเรื่องก็เบาลง
จะเห็นว่าปัญหานั้นจบลง เมื่อเขาย้ายไปทำงานที่อื่น ( เพราะอยู่ที่เกิดหึงเพราะอะไรไม่รู้ ) ที่ร้าน
มีวัยรุ่นมาซื้อของบ่อย ๆ หลายคนมาก ( ต้นเหตุหรือเปล่า )
และสาเหตุที่เขามีแฟนแบบนี้ก็เป็นกรรมของเขาเอง เขาเราไปยุ่งเกี่ยวเวลา เวลาที่เขาเลิกทะเลาะกัน
และคุยกันเขาก็จะว่าเราลับหลังได้
เพราะฉะนั้นเรื่องของสามีภรรยา จึงไม่มีใครอยากไปยุ่งเวลาทะเลาะกัน
ควรปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปตามกรรมดีที่สุดเพราะ เธอเห็นสามีดีกว่าคุณแน่ คุณควรระวัง
หวังว่าประสบการณ์ที่เล่าให้ฟังคงช่วย เจ้าของกระทู้ได้ไม่มากก็น้อย