เบื่อชีวิตมนุษย์
#1
โพสต์เมื่อ 01 October 2006 - 12:36 AM
ทำไมเวลาทานอาหารต้องเลือกทาน
ทำไมทานหนังขาหมูอันแสนอเร็จอร่อยเข้าไปมากๆไม่ได้
ทำไมมนุษย์ต้องมาระมัดระวังรักษาสุขภาพตัวเองด้วย
ทำไมมนุษย์จะต้องเจ็บป่วยไม่สบายและล้มหายตายจาก
มนุษย์จะมีชีวิตอยู่เป็นอมตะไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไม่ได้หรือ??
ทำไมมนุษย์จะต้องต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคอันโหดร้ายทารุณต่างๆเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
ทำไมมนุษย์บางคนถึงเกิดมาพิกลพิการ
ทำไมบางคนต้องเกิดมายากจนข้นแค้น
ทำไมมนุษย์จะต้องเกิดมาพบกับปัญหาอุปสรรคหลายอย่างที่ผ่านพ้นเข้ามาในชีวิต
บอสใหญ่ไม่อยากให้มนุษย์เรามีความสุขใช่มั้ย
ทำไมเค้าจะต้องมาทำให้มนุษย์เราปั่นป่วนด้วย
และคำถามสุดท้ายที่อยากจะถาม
ทำไมต้องมีคำว่า'ความทุกข์'อยู่บนโลกนี้ด้วย
พระเจ้าจอร์ชการมีชีวิตอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออย่างแรง!!!!!!!!!!
#2
โพสต์เมื่อ 01 October 2006 - 12:50 AM
#3
โพสต์เมื่อ 01 October 2006 - 03:40 AM
แต่ชีวิตในสังสารวัฏออกแบบได้ ครับ
และท่านก็ตรัสสรุป
ว่าทางเดียวที่จะรู้ตามท่าน
ตลอดจนหยุดตามท่าน
คือการมองเข้าข้างใน
และการหยั่งรู้สรรพสิ่งออกมาจากภายใน
คือสัญลักษณ์สำคัญของพุทธแท้
พุทธแท้จะรู้ว่าการพยายามมองออกข้างนอก
เป็นวิธีที่ไม่ทำให้รู้จักประโยชน์สูงสุด
อันพึงมีพึงได้จากความเป็นมนุษย์
#4
โพสต์เมื่อ 01 October 2006 - 10:17 AM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#5
โพสต์เมื่อ 01 October 2006 - 06:03 PM
#6
โพสต์เมื่อ 01 October 2006 - 09:07 PM
#7
โพสต์เมื่อ 01 October 2006 - 09:14 PM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#8
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 03:52 AM
ขอ correct นิดนะคะ
ฟันให้ใช้ว่าซี่ค่ะ ไม่ใช่ซีก
เผื่อเด็กๆที่มาอ่านจะเอาไปใช้ผิดค่ะ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที
#9
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 07:13 AM
#10
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 09:20 AM
#11
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 12:27 PM
#12
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 01:01 PM
แต่พระองค์ไม่สรรเสริญในการกล่าวไว้ เพราะรู้ไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยทำให้เราได้หลุดพ้นก็ไม่รู้จะรู้ไปทำไม อาจจะทำให้ฟุ้งคิดมากเกินไปซะด้วยซ้ำไป
ถ้าอยากรู้ให้เราทำสมาธิไปเห็นด้วยตนเองจะดีกว่า
ก็คงจะเปรียบเหมือนบอกลักษณะของส้ม กับผู้ที่ตาบอดมาแต่กำเนิดละครับ มันก็คงไม่เห็นชัดแจ้ง เหมือนการที่เขาเห็นด้วยตาของเขาเอง
คงละไว้เพียงนี้นะครับ เพราะเมื่อก่อนผมก็สงสัยเยอะนะ แต่ทีแรกนึกว่าจะทำให้เรารู้มากขึ้นกลับทำให้เราฟุ้งมากขึ้น ซึ่งบางอย่างละได้ ปล่อยวางได้ ก็ทำสมาธิ
อุเบกขาไปจะดีกว่าครับ
#13
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 05:46 PM
เพราะนี่คือทางเดียวที่จะหลุดพ้นจากความน่าเบื่อหน่ายในสังสารวัฎ
ถ้ายังขี้เกียจนั่งธรรมะ ก็จะได้เบื่อต่อไปอีกนานนนนน.......
#14
โพสต์เมื่อ 02 October 2006 - 10:41 PM