ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

การหลับตาทำสมาธิกับลืมตาทำสมาธิ แบบไหนได้บุญมากกว่ากันคะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 โลกสีชมพู

โลกสีชมพู
  • Members
  • 12 โพสต์
  • Interests:ชอบฟังธรรมะอะค่ะ

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 04:41 PM

เนื่องจากปีที่แล้วได้มีโอกาสไปทำสมาธิที่จ.เชียงใหม่ ตลอดเจ็ดวันที่อยู่ที่นั่นมีความสุขมากๆเลยค่ะ ส่งผลให้นั่งสมาธิได้ดี มีความสงบจนสามารถเห็นองค์พระภายในได้ เป็นความสุขที่แท้จริงจริงๆ ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อเลย แรกๆก็สงสัยว่า เอ๊ะ..เราคิดไปเองหรือปล่าว เพราะมันไม่น่าจะเห็นได้ง่ายขนาดนี้ เนื่องจากเป็นคนที่นั่งสมาธิได้แค่ห้านาทีที่โรงเรียนก็หลับแล้ว เราคงต้องคิดไปเองแน่ๆเลย ก็เลยใช้วิธีลองเทียบกันดูว่า แบบคิดไปเองว่าเห็นองค์พระกับมองเห็นองค์พระจริงๆที่กลางท้องเป็นยังไง และแล้วก็หาคำตอบได้ว่า เราไม่ได้คิดไปเองนะ เพราะถ้าแบบคิดไปเองจะปวดหัว เกร็งลูกตา ไม่มีความสุขสบายเท่าได้เห็นจากกลางท้องแบบมองเห็นที่กลางท้อง ตั้งแต่นั้นมา ก็เลยเลิกสงสัยว่า เราคงไม่ได้คิดไปเองหรอก หลวงพี่บอกว่าการทำสมาธิ ทำได้ทุกอิริยาบท ไม่จำเป็นต้องหลับตาทำสมาธิ ก็เลยลองลืมตาสมาธิไว้ที่ศูนย์กลางกาย ตอนนี้หนูมีคำถามมากมายอยากให้ช่วยตอบหน่อยคะ
1. ทำไมจึงชอบลืมตาทำสมาธิมากกว่าหลับตาทำสมาธิคะ เพราะหนูรู้สึกว่าหลับตาแล้วไม่สบายตาเท่าตอนลืมตาดูองค์พระเลยค่ะ เหมือ ต้องกรอกดวงตาลงมาดู รู้สึกเมื่อยแถมเวลาเงยหน้าแล้วอย่างกับว่าองค์พระเลื่อนขึ้นมาตามดวงตาเราเลย ต่างกับตอนลืมตา จะมั่นใจมากกว่าว่าองค์พระอยู่กลางท้อง
2. การหลับตาทำสมาธิกับลืมตาทำสมาธิ แบบไหนได้บุญมากกว่ากันคะ
3. ทำไมเวลาหลับตาแล้วถึงจิตรู้สึกฟุ้งซ่านและไม่สงบเท่าตอนลืมตาคะ
4 ถ้าไม่ได้สวดมนต์ทำวัดเช้าแล้วสวดมนต์ทำวัดเย็นอย่างเดียวจะแปลกไหมคะ
5. ถ้าจำเป็นต้องให้เลือกระหว่างสวดมนต์ทำวัดเย็นกับนั่งสมาธิอย่างใดอย่างหนึ่ง พี่พี่จะเลือกทำสิ่งไหนคะ
6. ทำไมทำสมาธิแล้วถึงได้บุญคะ นอกจากเหตุผลที่ว่าเป็นการควบคุมทั้งกาย วาจา ใจให้ไปในทางที่ดี
7. ตอนนอนร่างกายขนานกับพื้นโลกควรมององค์พระในท่าไหนดีคะ
8. ทำไมการทำสมาธิถึงมีความสุขคะ นอกจากเหตุผลที่ว่าเราไม่เครียด ไม่คิดมาก ผ่อนคลายและสบายใจแล้ว

#2 pumpkin

pumpkin
  • Members
  • 67 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 04:46 PM

QUOTE
การหลับตาทำสมาธิกับลืมตาทำสมาธิ แบบไหนได้บุญมากกว่ากันคะ

ขึ้นอยู่กับว่าตอนนั้นแบบไหนสามารถทำใจหยุดใจนิ่งได้มากกว่ากัน ได้บุญเหมือนกันแหละ แต่ส่วนใหญ่คนเราจะสามารถทำใจหยุดใจนิ่งในภาวะที่หลับตาได้มากกว่า เพราะว่าไม่เห็นสิ่งภายนอกมากระตุ้นให้เกิดความไม่เป็นกลางทางอารมณ์

#3 เทพ ดำเนินฯ

เทพ ดำเนินฯ
  • Members
  • 65 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 05:03 PM

คำถามข้อ 7 ผมก็สงสัยมานานแล้วเหมือนกัน ครับ ขอท่านผู้รู้หรือมีประสบการณ์ โปรดช่วยชี้แนะด้วยครับ

#4 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 05:11 PM

1. ทำไมหลับตาแล้วไม่สบายเหมือนลืมตา เพราะว่า พอหลับตาจะไปตั้งใจมองที่ท้อง มากกว่า ตอนลืมตาน่ะครับ ตอนลืมตา เรามีเรื่องต้องพะวงคือ ภาพที่ตาเห็นด้วย ทำให้เราไม่ไปตั้งใจมองที่ท้องมากเกินไป
คุณจุ๋ม อัจจิมา ที่ร้องเพลง ปันความสุข เธอก็เคยเป็นเช่นนี้เหมือนกัน คือ ตอนลืมตา ทำสมาธิได้ดีกว่า ตอนหลับตา พอไปถามหลวงพี่ หลวงพี่ท่านก็ตอบมาแบบข้างต้นน่ะครับ ผมก็จำหลวงพี่ มาตอบอีกทีหนึ่ง

2. การได้บุญมากหรือน้อย ไม่ได้ขึ้นกับหลับหรือลืมตา แต่ขึ้นกับว่า ใจหยุดได้มากหรือน้อยกว่ากันน่ะครับ บางคนหลับตา ใจเขาหยุดมากกว่า บุญเขาก็มากกว่า บางคนลืมตาใจเขาหยุดมากกว่า เขาก็ได้บุญมากกว่า แต่เท่าที่สังเกต ถ้าคนที่ปฏิบัติได้ดีจริงๆ แล้ว ตอนหลับตาทำจริงๆ จังๆ จะได้บุญมากกว่าครับ เพราะใจไม่ต้องพะวงกับภาพที่ตาเห็น

3. ก็ตอนหลับตาตั้งใจมากเกินไปไงครับ เขาเรียก สติหนักเกินไป ต้องแก้ไขด้วยสบาย หากสบายมากเกินไปจะหลับ ต้องแก้ไขด้วย สติ สติกับสบาย ต้องไปคู่กันน่ะครับ

4. การสวดมนต์เป็นกุศโลบายให้ใจเราสะอาด สงบในเบื้องต้น จึงควรทำทั้งเช้าและเย็น เหมือนการแปรงฟัน ที่บางท่านแปรงทั้งเช้าและเย็น เพราะอยากให้ฟันสะอาด แต่บางท่านรับประทานแต่อาหารที่ไม่รสจัด ดูแลความสะอาดฟันดีแล้ว เขาอยากแปรงฟันตอนเย็นอย่างเดียว ผมว่าก็ไม่แปลกนะครับ

5. โบราณท่านว่า สวดมนต์คือยาทา ภาวนา(นั่งสมาธิ) คือ ยากิน บางคน อาจแค่ทายาก็หาย บางคนไม่ทา แต่กินยาอย่างเดียว หรือบางคนทั้งกินทั้งยาเลย น้องก็เลือกดูก็แล้วกันครับ

6. บุญ คือ คุณภาพของใจที่ดีขึ้น จากสิ่งที่ทำให้เสื่อมคุณภาพ คือ โลภ โกรธ หลง เช่น เวลาเราให้ทาน ความโลภหลุดไปจากใจ บุญก็เกิดขึ้น เรานั่งสมาธิ ใจนิ่ง ไม่มีโลภ โกรธ หลงเลย ใจมีคุณภาพดีขึ้น บุญก็เกิดขึ้นน่ะครับ

7. ท่าไหนก็ได้ที่มองแล้วสบายใจน่ะครับ

8. เพราะใจที่มีคุณภาพดียิ่งๆ ขึ้นเรื่อยๆ ย่อมมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ น่ะสิครับ ตรงข้าม ใจที่เสื่อมคุณภาพด้วยอำนาจ โลภ โกรธ หลง เรื่อยๆ ก็มีความทุกข์ มากขึ้นเรื่อยๆ น่ะสิครับ



สำหรับคุณเทพ ดำเนิน นะครับ นั่นเป็นเพราะเราคุ้นชินกับนึกแบบใช้ตามององค์พระ ถึงมีคำถามนี้ขึ้น แต่สำหรับผู้ที่เข้าถึงจริงแล้ว เขาจะเห็นทั้ง 8 ด้าน ซ้าย ขวา หน้า หลัง บน ล่าง นอก ใน ไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว จึงไร้ความจำเป็นที่จะไปนึกแบบนั้นน่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#5 เทพ ดำเนินฯ

เทพ ดำเนินฯ
  • Members
  • 65 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 05:19 PM

ขออนุโมทนาบุญร่วมกัน สำหรับธัมมัสสวนามัย สาธุ ๆ ๆ

#6 ลูกพระธัมฯครับ

ลูกพระธัมฯครับ
  • Members
  • 16 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 06:40 PM

สาธุครับ

#7 นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยว
  • Members
  • 2378 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:รู้สึกว่าจะไม่ค่อยได้อยู่กะที่อ่ะ มาดูอารายกานอ่ะ
  • Interests:มาสร้างบารมีตามติดหมู่คณะดีกว่า

โพสต์เมื่อ 20 October 2006 - 07:14 PM

7. ตอนนอนร่างกายขนานกับพื้นโลกควรมององค์พระในท่าไหนดีคะ

บางคนมองไปในองค์พระจะเห็นองค์นั่งอยู่นะครับก็ไม่ต้องคิดอะไรมากให้เรามองในองค์พระไปเหมือนปกติล่ะครับนั่งสมาธิยังไงก็แบบนั้นเลยครับไม่ยากนะถ้าเราเห็นท่านตลอด ถ้าสงสัยคุยสวนตัวได้ครับเรื่องแบบนี้ถ้าตอบไปจะตอบให้ครับ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ


เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 03:42 AM

อืม แบบไหนจะได้บุญมากกว่ากันงั้นหรือครับ ขอตอบว่า อย่าไปสนใจครับ จะนั่งหลับตาหรือลืมตา นั่ง นอน ยืน เดิน หรือแม้แต่ทำกิจกรรมประจำวัน ขอให้ใจอยู่กับองค์พระ คิดเสมอว่าตัวเราคือองค์พระ องค์พระคือตัวเรา บุญไหลมาเทมาไม่ขาดสายครับ ขอแค่ให้ใจติดอยู่กับองค์พระ อย่าไปวิตกกังวลหรือเคลือบแคลงสงสัยเด็ดขาดเท่านั้นพอครับ

ขอบอกแค่ข้อดีข้อเสียให้แทนแล้วกัน คือ
การลืมตาเห็นองค์พระนั้นมีข้อดีอยู่ที่ว่าเรานึกได้ง่ายและสบายกว่าตอนหลับตา แต่มีข้อเสียที่ร้ายกาจคือหากเราไปสนใจสิ่งอื่น ใจเราจะหลุดจากองค์พระได้ง่ายมาก
การหลับตาเห็นองค์พระ มีข้อดีที่ว่าใจเราจรดอยู่กับองค์พระได้ตลอด แต่มีข้อเสียคือ ทันทีที่เริ่มหลับตาใจจะจรดจ่อกับการเห็นมากเกินไปทำให้รู้สึกตรึงเครียดอย่างที่คุณหัดฝันได้ชี้แจงไป

คุณเจ้าของกระทู้เป็นประเภทเดียวกับผม ดังนั้นผมขอแนะนำว่าอย่าไปสนใจว่าจะได้บุญมากหรือน้อย เพราะยิ่งคิดแบบนี้จะยิ่งทำให้เวลานั่งหลับตาจะยิ่งเครียดมากขึ้นครับ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 คนรักวัด

คนรักวัด
  • Members
  • 626 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 07:10 AM

สาธุ
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ
โก หิ นาโถ ปโร สิยา
อตฺตนา หิ สุทนฺเตน
นาถํ ลภติ ทุลฺลภํ . . . ฯ ๑๖๐ ฯ

เราต้องพึ่งตัวเราเอง
คนอื่นใครเล่าจะเป็นที่พึ่งได้
บุคคลผู้ฝึกตนดีแล้ว
ย่อมได้ที่พึ่งที่ได้แสนยาก

Oneself indeed is master of oneself,
Who else could other master be?
With oneself perfectly trained,
One obtains a refuge hard to gain

#10 พิมพ์บุญ

พิมพ์บุญ
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 12:15 PM

เย้... แสดงว่า หนูมากถูกทางแล้วเหมือนกัน
ตั้งนั่ง นอน ยืน เดิน หลับตา ลืมตา พอนึกได้ก้อ จะนึกถึงศูนย์กลางกายตลอด ทั้งวันนนนนนน

มีความสุขดีค่ะ (ถึงยังไม่เห็นองค์พระ)

อนุโมทนา กับทุกท่านค่ะ
¤นักเรียนใหม่***
รักบุญ เชื่อในบุญ
mata072 windowslive.com

#11 glouy.

glouy.
  • Members
  • 605 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 October 2006 - 12:58 PM

อนุโมทนาสาธุการ ทั้ง นั้ง นอน ยืน เดิน ตลอดทั้งวัน 24 น.

อนุโมทนา กับทุกคนครับ

ลูกพระธรรม

#12 ดวงตะวันแก้ว

ดวงตะวันแก้ว
  • Members
  • 122 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 October 2006 - 03:40 PM

สาธุๆๆค่ะ


#13 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 22 October 2006 - 11:04 PM

จะทำสมาธิแบบหลับตาหรือลืมตาก็ได้ครับ
ขอให้ใจหยุดนิ่งถูกส่วนตามหลักวิชชา
บุญก็สว่างขึ้นที่ศูนย์กลางกายแล้วครับ smile.gif

ความรู้เพิ่มเติม
ประโยชน์ของสมาธิภาวนา 4 ประการ
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย สมาธิภาวนา 4 ประการนี้ คือ
1. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่ออยู่เป็นสุขในปัจจุบัน
2. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อได้ญาณทัสสนะ
3. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อสติสัมปชัญญะ
4. สมาธิภาวนาที่บุคคลเจริญทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อความสิ้นอาสวะ

ref: อัง.จตุกก. โรหิตัสสวรรค มก. 35/155, มจ. 21/68, ปส. 37/164

อนุโมทนาบุญครับ smile.gif