มีสิ่งหนึ่งที่หัวหน้าชั้นไม่ได้เตือน
#1
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 10:38 AM
#2
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 11:08 AM
#3
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 11:20 AM
คือพลาสติกที่รองนั่งในสภา มีเสียงดังกร็อบแกรบ มาก
ความเห็นของผมคือ เฉพาะในสภาเราไม่ต้องแจกพลาสติกรองนั่งก็น่าจะดีครับ
#4
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 11:37 AM
#5
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 12:32 PM
หากมีเรื่องเกียวกับถุงพลาสติกหรือเรื่องอื่นๆก็สามารถ ส่งข้อมูลคำนะนำมาได้ที่กองรักษาบรรยากาศนะครับ หน่อยงานที่ดูแล เรื่องนี้โดยตรง
หรือที่เสาP 24ก็ได้นะครับ (ทุกวันอาทิตย์ นะครับ)
#6
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 01:31 PM
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#7
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 04:28 PM
#8
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 04:34 PM
#9
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 04:35 PM
แต่ในส่วนปลีกย่อย ควรจะเป็นหน้าที่ของนักเรียนเก่าได้ช่วยกันทำหน้าที่กัลยาณมิตรมากกว่าครับ เพราะถ้าให้หัวหน้าฯ ต้องบอกกฎเกณฑ์ไปทั้งหมด ก็จะหยุมหยิมไปในบางเรื่อง
ส่วนเรื่องเสียง ก็ทำใจซะเถอะครับ หายากนะที่ๆ จะไม่มีเสียง เอาแค่ไม่อึกทึกก็ถือว่าสงบในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เชื่อไหม แม้แต่เข้าไปทำสมาธิในป่า เราก็ยังเจอเสียงครับ เช่นพวก หรีดหริ่งเรไร เสียงกบ เสียงคางคก สารพัด เพียงแต่ว่าใจเรามันปรุงแต่งว่า นี่มันเป็นเสียงที่เราชอบใจ เราก็เลยไม่ค่อยจะหงุดหงิดกับพวกกบ พวกหรีดหริ่งเรไรครับ
#10
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 07:48 PM
แรกๆที่pungpa เข้าวัด ก็เดินลากเท้าเช่นกันค่ะ
พอโดนหลวงพี่ท่านดุ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เดินลากเท้าอีกเลยค่ะ
เวลาอบรมที่วัด ก็ไม่ให้เดินลากเท้าค่ะ การเดินลากเท้าหมายถึง คนขี้เกียจค่ะ
อย่าเดินลากเท้ากันนะคะ เพื่อบุคลิกของคุณเอง และก็ไม่เป็นวิบากกรรมที่ติดตามคุณด้วยคือเดินลากเท้าเวลาคนอื่นนั่งสมาธิค่ะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด
#11
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 08:14 PM
#12
โพสต์เมื่อ 07 November 2006 - 10:44 PM
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
#13
โพสต์เมื่อ 08 November 2006 - 08:20 AM
เนื่องจาก การฟังอาจจะไม่ได้ผล คนนิยมการดูมากกว่า
#14
โพสต์เมื่อ 08 November 2006 - 10:01 PM
เมื่อก่อน เคยนึกหงุดหงิด รำคาญใจ เวลามีเสียงรบกวนขณะนั่งหลับตาทำสมาธิ แต่พอได้ศึกษาจาก Case Study หลายๆ เรื่อง ทำให้ได้เข้าใจว่า การที่มีเสียงรบกวนนั้น อาจเป็นเพราะวิบากกรรมเก่าที่เรา (อาจจะ) เคยไปทำอย่างนั้นมาก่อนในอดีต ทำให้ถึงคราวที่จะต้องประสบกับตัวเอง ตอนนี้ ก็เลยได้แต่อโหสิกรรมทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรบกวนจากคนรอบข้าง เช่น ถ้าใคร ไอหรือจามเสียงดัง ก็จะรีบนึกอโหสิ ขอให้หายไวๆ ไม่นึกโทษโกรธเคืองเขา แล้วก็หลับตา เอาใจจรดศูนย์กลางกายเหมือนเดิม
ลองใช้วิธีการเดียวกันนี้ก็ได้นะคะ ไม่สงวนลิขสิทธิ์
เวลาทำอะไรพลาด อย่าคิดนำไปก่อน เพราะมารจะเข้าแทรกผัง ให้เราคิดได้เป็นเรื่องเป็นราวทันที ยิ่งคิด ยิ่งมีผลเสียแก่ตัวเราเอง ถ้าคิดอย่างนี้แล้วใจจะตก มารจะแทรกผังสำเร็จใส่ทันที ทำให้เรื่องที่ยังไม่มีอะไร กลับกลายเป็นเรื่องร้ายทันที ยิ่งคิดจะยิ่งเสีย ฉะนั้น เมื่อเกิดเรื่อง ให้เราทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายอย่างเดียว (ขุมทรัพย์จากคุณยาย)
#15
โพสต์เมื่อ 08 November 2006 - 11:12 PM
เคยได้ยินคนคุยโทรศัพท์ขณะนั้งสมาธิ น้องอาสาสมัครแผนกรักษาบรรยากาศก็รีบเข้าไปบอก แต่
สงสารน้องอาสาสมัครที่วัดจัง ขนาดเดินเข้าไปบอกดีๆ สุภาพๆ ให้สาธุชนปิดมือถือ คุยโทรศัพท์จะรบกวนคนนั้งสมาธิ
กระนั้นบางคนยังทำหูทวนลมไม่สนใจซะงั้น คุยต่ออีกต่างหาก
ไม่รู้จะทำไงดีกับท่านเหล่านี้
(ขอให้มีจำนวนน้อยที่สุดหรือไม่มีเลยยิ่งดี)
#16
โพสต์เมื่อ 09 November 2006 - 03:32 AM
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง