ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เด็กใหม่หัดเข้าวัด


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 น้องก้อย

น้องก้อย
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 03:56 PM

สวัสดีค่ะ
สงสัยว่า การทำบุญน้อยจะได้บุญแค่ไหนคะ หมายความว่าถ้าเรามีเงินน้อยเราก็สามารถทำบุญได้ไม่มากเท่าที่ใจอยากทำ แล้วถ้าเราอยากทำบุญเยอะๆอยากได้บุญเยอะๆเราควรทำอย่างไรดีคะ...ใครช่วยตอบด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

#2 kuna

kuna
  • Members
  • 780 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 05:30 PM

การที่เราจะได้บุญมากหรือน้อย ขึ้นอยู่ที่ความตั้งใจเเละความทุ่มเทมากน้อยเเค่ไหน ถ้าเราทำอย่างเต็มที่เต็มกำลัง บุญก็เกิดเต็มที่

#3 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 05:43 PM

ถ้าป็นนักเรียน-ศึกษา ก็ไปอยู่อาสาสมัครก็ได้
.หยาดเหงื่อที่หลั่ง กลั่นเป็นบุญ.
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#4 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 07:09 PM

การทำบุญ ทำได้ตั้ง 10 วิธีนะคะ

ไม่ใช่ว่าต้อง อาศัยเงิน เพียงเท่านั้น

บุญกิริยาวัตถุ10

ทานมัย การให้ทานมีวัตถุประสงค์ เพื่อขจัดความตระหนี่ ความโลภในจิตใจมนุษย์ และการให้ทานยังมีจุดประสงค์อย่างอื่น ได้แก่ เพื่อบุชาคุณ เพื่อการสงเคราะห์ เพื่ออนุเคราะห์ เพื่อทำคุณ

การทำทานมี4ประเภทคือ 1) อามิสทาน ได้แก่ การให้วัตถุสิ่งของต่างๆ 2) วิทยาทาน ได้แก่การให้ความรู้ทางโลกแก่บุคคลอื่น 3) ธรรมทาน ได้แก่ การให้ความรู้ทางธรรม 4)อภัยทาน ได้แก่ การให้อภัยซึ่งกันและกัน

การให้ทานที่กล่าวมานั้น " การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง (ธม.มทานํ สพ.พทานํ ชินาติ) " ทั้งนี้เนื่องจากการให้ทานอย่างอื่นมีประโยชน์เฉพาะหน้า หรือในชาตินี้เท่านั้น แต่ธรรมทานมีประโยชน์ทั้งชาตินี้และชาติหน้า

สำหรับการทำบุญตักบาตรนั้น จะต้องมีองค์คุณ 3ประการ จะทำให้บุญมาก คือ
1) วัตถุบริสุทธิ์
2) เจตนาบริสุทธิ์ (ก่อนให้ทานมีจิตเลื่อมใสศรัทธา เต็มใจขณะให้ทาน ให้ด้วยจิตใจเบิกบาน หลังให้มีจิตใจแช่มชื่น ไม่นึกเสียดาย)
3)บุคลบริสุทธิ์(ปฎิคาหก คือ ผู้รับทานเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีความสงบระงับ มีกายวาจาเรียบร้อย ตั้งใจประพฤติธรรม)

บุญกิริยาวัตถุ 10
1. ทานมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน
2. สีลมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
3. ภาวนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา
4. อปจายนมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการประพฤติถ่อมตน
5. เวยยาวัจจมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการช่วยขวนขวาย
6. ปัตติทานมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ
7. ปัตตานุโมทนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
8. ธัมมัสสวนมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
9. ธัมมเทาสนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม
10. ทิฏฐุชุกัมม์ คือ การทำความเห็นให้ตรง

" เกิดมาเพื่อ ทำพระนิพพานให้แจ้ง + แสวงบุญ + สร้างบารมีค่ะ "
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "


#5 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 09:39 PM

การทำบุญนั้น จะได้บุญมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับใจ ของเราครับ แม้เรามีเงินน้อย แต่เราทำเต็มที่เท่าที่เรามีและใจเราผ่องใส และปีติในทานของเรา เราก็จะได้บุญมาก

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเรามีเงิน 100 บาท เราทำบุญไป 80 บาท แล้วเรามีปีติในบุญที่เราทำ ไม่มีความรู้สึกน้อยใจว่า เราได้ทำแค่ 80 บาทเอง อันนี้ได้บุญมากนะครับ คิดเป็นเปอร์เซนต์ เท่ากับ เราทำบุญตั้ง 80 เปอร์เซนต์ของเงินที่เรามี

ถามว่า แล้วถ้าเปรียบเทียบกับคนที่มีเงินมากๆล่ะ ทำบุญเป็นแสนเป็นล้าน เค้าจะได้บุญมากกว่าไหม ถ้าเค้าทำแล้ว เค้ามีปีติน้อยกว่าเรา เช่น มีเงิน 10 ล้าน แล้วทำบุญ 1 แสน เท่ากับเค้าทำบุญแค่ 1 เปอร์เซนต์เองนะครับ อันนี้ ผมว่า คนที่ทำบุญ 80 บาทแล้วปลื้ม เคารพในทานที่ตนเองทำ จะได้บุญเยอะกว่านะครับ

แต่ถ้า คนที่มีเงิน 10 ล้าน ทำบุญไป 8 ล้าน ก็เท่ากับ 80 เปอร์เซนต์เหมือนกัน ความปลื้มเท่ากันกับคนที่ทำบุญ 80 บาท อันนี้ คนที่ทำบุญ 8 ล้านย่อมได้บุญมากกว่าครับ อุปมาเหมือน คน 2 คน ได้นาข้าวที่คุณภาพเท่ากัน มีการเพาะปลูกและเงื่อนไขการเติบโตของต้นข้าวเหมือนกัน คนที่ปลูกต้นข้าวมากกว่าย่อมได้ผลผลิตที่มากกว่าแน่นอนครับครับ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโดยปกติแล้ว เงิน 8 ล้าน ตัดใจทำบุญยากกว่า 80 บาทครับ ซึ่งจะทำให้คนที่ทำ 8 ล้านย่อมต้องปลื้มมากกว่า คนที่ทำ 80 บาทอยู่แล้ว

#6 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 20 December 2005 - 11:50 PM

เจริญภาวนาสิครับ ได้ยอดของบุญเลย เพราะใจหยุด คือ ที่สุดแห่งบุญครับ นอกจากนี้ ยังเป็นบุญที่ไม่ต้องไปลงทุนลงแรงอะไรมาก "ใจ" แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ที่เป็นอุปกรณ์หลักของการบำเพ็ญบุญกิริยาชนิดนี้ ซึ่งตัวคุณเองสามารถปฏิบัติได้ในทุกอิริยาบถนับตั้งแต่ตื่นจนกระทั่งเข้านอน

ปล.เมื่อเจริญภาวนาแล้ว อย่าลืมว่า!!! ต้องไม่ขาดการรักษาศีลและการบำเพ็ญทานอย่างสม่ำเสมอด้วยนะครับ


#7 แก้วประเสริฐ

แก้วประเสริฐ
  • Members
  • 513 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 December 2005 - 02:00 PM

บอกบุญเอาก็ได้

#8 ยิ้ม

ยิ้ม
  • Members
  • 87 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 December 2005 - 08:08 PM

อย่าลืมว่าคนมีเงินเยอะๆ ไม่ได้ทำบุญด้วยเงินเยอะๆ กันทุกคนนะคะ

ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า สามารถ "ตัดใจ" สละเงินที่มีีอยู่ ออกไปเพื่อเป็นทานได้หรือไม่ มากเท่าใด โดยไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือนร้อน

คิดว่าตรงนี้ต่างหาก ที่จะเป็นตัวตัดสินความก้าวหน้าในการถาก "โลภะ" หนึ่งในกิเลสทั้งสาม ออกจากใจ


#9 hmongkon

hmongkon
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 December 2005 - 11:07 AM

อย่าดูถูกว่าบุญที่เราทำนั้นเป็น บุญน้อย

น้ำทีละหยด ยังสามารถเต็มตุ่มได้ ฉันใด บุญที่สะสมไว้ทีละเล็กทีละน้อย ก็ยังสามารถทำบารมีให้เต็มเปี่ยมได้ ฉันนั้น(เขียนไม่เก่งนะ)

ทำบุญตามกำลัง(แต่อย่าทำเกินกำลัง)
หลวงพ่อเคยสอนไว้ว่า ทำดี ต้อง ถูกดี ถึงดี และพอดี จ้า

#10 ปาลินารี

ปาลินารี
  • Members
  • 258 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 08:18 PM

ทำด้วยปัจจัยน้อยนิด แต่ปีติแล้ว ปีติอีก ได้บุญเยอะกว่า ทำปัจจัยเยอะแต่ปีตินิดหน่อยนะคะ

จำคุณครูไม่ใหญ่มาบอกต่อค่ะ

#11 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 07:41 PM

จากความเห็นของคุณปาลินารี ทำให้เกียรติก้องนึกถึงบุญพิเศษ ๒ อย่าง เมื่อครั้งงานสลายร่างคุณยายอาจารย์ฯ ซึ่งก็คือ "บุญสร้างแท่นมหาวิสุทธิรัตนเตโชและบุญสร้างมยุรนาวากาศ" งานนี้ นอกจากเกียรติก้องจะรับเป็นเจ้าภาพถวายผ้ามหาบังสุกุลและเครื่องไทยธรรมด้วยตัวเอง ๑ กองแล้ว ยังได้เจียดเอาปัจจัยที่ได้สะสมไว้ในกระปุกและที่เหลือจากค่าใช้จ่ายประจำวัน มาร่วมบุญพิเศษ ๒ บุญนี้ นับตั้งแต่วันที่ทราบข่าวจนกระทั่งถึงวันงาน เรียกได้ว่า "เทแล้วเทอีก" (แม้ปัจจัยในครั้งนั้นจะน้อย) พอถึงวันงานจริงๆ ก็ให้รู้สึกปลื้มแล้วปลื้มอีก มาบัดนี้ แม้เวลาจะล่วงเลยมา ๓ ปีเศษแล้ว เมื่อตรึกระลึกนึกถึงบุญนี้คราใด ก็ยังคงปลื้มปีติอยู่มิรู้หายเลย ขอแบ่งบุญนี้ให้กับทุกๆ ท่านด้วยนะครับ

#12 Pro

Pro
  • Members
  • 134 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 10:17 PM

เราต้องทำอะไรให้จริงครับ อย่ามัวแต่คิดว่าบุญน้อยหรือเยอะ "จริง"ตัวเดียวครับ ทำเลย
เห็นด้วยกับคุณ hmongkon ครับ ว่า"น้ำหยดทีละติ๋งยังเต็มตุ่มได้" แต่อย่าทำเกินกำลังครับ
ยิ้มแล้วรวย อ่านกระทู้อยู่ก็ยิ้มได้ครับ

#13 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 01:04 AM

เรียนชี้แจงต่อทุกท่านว่า "เทแล้วเทอีก" ของเกียรติก้องฯ คือ "เทหมดใจ แต่ไม่ใช่หมดตัว" นะครับ

#14 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 05 February 2007 - 03:34 PM

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ