ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

**กุฎิพระพุทธองค์บนเขาคิชกูฏของจริงหรือไม่ครับ**


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 4 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สาคร

สาคร
  • Members
  • 764 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2006 - 06:55 PM

คือผมสงสัยนะครับว่า ทำไมถึงเล็กจังเลย กะด้วยสายตา น่าจะประมาณ2คูณ3เมตร ซึ่งถือว่าเล็กมากๆ คือไม่รู้ว่าของจริงหรือเปล่า ท่านที่เคยไปมาแล้วคงพอจะวัดด้วยสายตาได้ว่าเล็กจริงๆ ถ้าพูดแบบชาวบ้านก็คือไม่สมถานะของพระพุทธองค์เลย ท่านใดมีข้อมูลที่พอจะทำให้ผมตาสว่างบ้างใหมครับ
ความรักความเมตตาและการให้อภัยเป็นสิ่งที่คนดีเขามีกัน


[email protected]

#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2006 - 07:11 PM

QUOTE
กุฎิพระพุทธองค์

ถ้าจำไม่ผิด เรานิยมใช้คำว่า"คันธกุฏี"

อาจเป็นจริงซึ่งได้รับบูรณะจากชาวบ้าน หรือ อาจเป็นสิ่งจำลอง ณ ที่ตั้งจากของจริง ซึ่งสึกหรอตามกาลเวลาก็เป็นไปได้

โดยส่วนตัวไม่ได้สนใจว่าจริงหรือไม่

แต่เมื่อได้พบเห็นแล้ว เกิดจิตศรัทธาเลื่อมใสเป็นพุทธานุสติ ย่อมบังเกิดกุศลผลบุญมหาศาล
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2006 - 09:26 PM

เขาคิชกูฎที่กล่าวถึง อยูที่ไหนครับ

#4 SmilingCat

SmilingCat
  • Members
  • 1209 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2006 - 10:42 PM

ผมขอสันนิษฐาน

น่าสนใจเหมือนกัน สถานที่ต่าง ๆ ถ้าสังเกตุดูจะมีขนาดเล็ก

สันนิษฐานว่า ระยะเวลายาวนานถึง ๒๕๐๐ ปี ทำให้หลักฐานสูญหายไปเสียมาก
เหลือเพียงเล็กน้อย จึงไม่สามารถคาดเดาได้ว่ารูปร่างที่แท้จริงเป็นอย่างไร

อย่างเมื่องโบราณที่จังหวัดสุโขทัย ที่ประทับของกษัตริย์ก็ดูขนาดเล็กเกินไปเหมือนกัน
ในสมัยก่อนคงทราบความยิ่งใหญ่ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว ระยะเวลาที่ครองราชย์
ก็คือ พ.ศ. ๑๘๒๐ - ๑๘๖๐ ผ่านมาแค่ หกร้อยกว่าปีเท่านั้น ยังเหลือเท่าที่เห็น

ท่านอื่นคิดเห็นอย่างไรก็แนะนำได้ครับ
หยุดคือตัวสำเร็จ

#5 Dsu

Dsu
  • Members
  • 30 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 December 2006 - 01:37 PM

๒. คิชฌกูฏ ภูเขาคิชฌกูฏเป็นหนึ่งใน ๕ ของบรรดาภูเขาที่ล้อมรอบพระนครราชคฤห์ แคว้นมคธ ซึ่งเรียกกันว่า เบญจครี ภูเขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่สำคัญที่มีความหมายเกี่ยวข้องกับพระพุทธ และพระพุทธประวัติดังนี้
พระคันธกุฏี คือเรือนที่ประทับของพระพุทธเจ้าบนภูเขาคิชฌกูฏ พระคันธกุฏีมีฝาเป็นไม้เนื้อหอม หลังคามุงด้วยใบไม้ใหญ่ ๆ พระพุทธเจ้าโปรดที่ประทับบนเขาคิชฌกูฏีมาก เพราะเป็นที่สงบมีอากาศเย็นสบาย พระองค์ทรงดำเนินขึ้นลงเขาเพื่อบิณฑบาตทุกวัน (คันธกุฏี แปลว่า กุฏีอบกลิ่นหอม เป็นชื่อเรียกพระกุฏีที่ประทับของพระพุทธเจ้า)
กุฏิของพระอานนท์ ที่ซึ่งพระเทวทัตกลิ้งหินทับพระพุทธเจ้าด้วยหวังจะประหารพระบรมศาสดาในเวลาเสด็จขึ้นบนภูเขาคิชฌกูฏก็ไม่อาจทำอันตรายพระพุทธเจ้าได้ เป็นเพียงสะเก็ดศิลาได้กระเด็นไปกระทบพระบาทจนห้อพระโลหิต นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พระพุทธเจ้าต้องประสบอันตรายถึงเสียพระโลหิตจากพระกาย
ถ้ำสุกรขาตา ณ ที่นี้ พระสารีบุตรอัครสาวกเบื้องขวาได้สำเร็จพระอรหัต หลังจากอุปสมบทได้กึ่งเดือน พระสารีบุตรได้สดับพระธรรมเทศนาขณะนั่งถวายงานพัดอยู่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ปริพาชก ชื่อ ฑีฆนขะผู้เป็นหลานของพระสารีบุตร ทีฆนขะได้ดวงตาเห็นธรรม แสดงตนเป็นอุบาสกในพุทธศาสนา
ที่ประทับของพระเจ้าพิมพิสาร ก่อนเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
เหวทิ้งโจร ณ ที่นี้ ทรงแสดงนิมิตต์โอภาสแก่พระอานนท์
มาตะกุฉิ สถานที่ซึ่งพระนางโกศลเทวีพระอัครมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร จะทำการรีดพระครรภ์เพื่อกำจัดโอรสในพระครรภ์ทิ้งเนื่องจากเมื่อพระนางเสวย โหรทำนายว่า พระโอรสที่อยู่ในครรภ์เกิดมาจะทำปิตุฆาต พระนางโกศลเทวีพยายามทำลายด้วยการให้แท้งเสียแต่ไม่สำเร็จ ครั้นจะรีดพระครรภ์ ณ ที่นี้ พระเจ้าพิมพิสารก็ทรงห้ามไว้ ในที่สุดพระโอรสของพระเจ้าพิมพิสารคือ พระเจ้าอชาตศัตรูก็คบคิดกับพระเทวทัตฆ่าประราชบิดาตามที่โหรทำนายไว้
ที่คุมขังพระเจ้าพิมพิสาร อยู่ ณ ที่ราบเชิงเขาคิชฌกูฏ เมื่อพระเจ้าอชาติศัตรูจับพระราชบิดามาคุมขังไว้ไม่ให้อาหารเสวย แต่พระเจ้าพิมพิสารยังทรงมีชีวิตอยู่ได้ ณ ที่นี้ เพราะได้ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นลงเขาคิชฌกูฏทุกวัน เพื่อบิณฑบาตทำให้เกิดปีติเบิกบานพระทัยเสด็จเดินจงกรม เจริญกรรมฐาน เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูเห็นพระราชปิดายังคงมีพระชนม์ชีพอยู่ได้ จึงสั่งให้ช่างตัดผมเอามีดกรีดพระบาทแล้เอาเกลือกับน้ำมันทาแผลย่างไฟ ในที่สุดพระเจ้าพิมพิสารก็เสด็จสวรรคต ณ ที่นี้ ส่วนพระเจ้าอชาตศัตรูในภายหลังทรงสำนึกถึงความผิดทั้งปวงและกลับพระทัยได้ หันมาทรงอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาและได้เป็นพุทธศาสนูปถัมกในการสังคายนาครั้งที่ ๑