ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

กลัวน้องไปอบาย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 PS-Junior

PS-Junior
  • Members
  • 247 โพสต์
  • Location:Bangkok
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 11:46 AM

ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่ และอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ไปร่วมงานตอกเสาเข็มที่ Lotus Land นะค่ะ ตัวเองก็ไปมาเหมือนกัน ปลื้มมากๆ

ที่จริงเพิ้งเริ่มต้นปีก็อยากจะให้มีแต่เรื่องดีๆมาคุยกัน แต่พอดีมีปัญหาตอนสิ้นปีพอดี ยังหาทางแก้ไม่ตกและอยากมาขอความเห็นจากเพื่อนๆพี่ๆ น้องๆในที่นี้ ถ้าหากมีใครอยู่ที่ ธรรมศาสตร์ด้วยจะดีอย่างยิ่งเลยนะค่ะ

เรื่องก็คือ น้องสาวอายุ 20 ปี เรียนอยู่ปี 3 ที่ธรรมศาสตร์ค่ะ เมื่อประมาณกลางปีที่แล้วได้มาขอยืมเงินจากพ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนๆ และคนรู้จักอีกหลายคน โดยอ้างว่าเอาไปใช้ลงทะเบียนบ้าง ซื้อหนังสือบ้างและอื่นๆที่จำเป็น โดยยืมครั้งจะหลายพัน โดยตอนแรกแต่ละคนก็ไม่ทราบเลยมาน้องไปยืมมาหลายคนแล้ว พอเห็นแปลกๆเข้าเลยตามดู และที่ร้ายคือมาแอบเอาเงินของแม่ไปและถูกจับได้ ทราบว่ายืมไปเป็นแสน พ่อแม่และพี่ๆอึ้งไปกันหมด ต้องไปตามจ่ายหนี้ที่น้องไปก่อไว้ เงินที่จะเอามาทำบุญเลยหายไปส่วนนึงเลย และน้องก็เล่าเรื่องวกไปวนมา ไม่รู้อันไหนจริงๆม่จริง แต่ที่จริงคือมีหนี้แน่ๆ เค้าบอกว่าถูกกลุ่มคนจับไปอยู่ในเกม ต้องคอยหาเงินไปให้คนกลุ่มนี้ ไม่งั้นเพื่อนอีกคนที่ถูกจับไว้จะมีอันตราย และมีการดักฟังมือถือด้วย แต่พอซักไปก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร เลยไม่รู้มีตัวตนจริงมั้ย จะให้ตำรวจจัดการ ตำรวจก็คิดว่าเป็นเรื่องหลอกของเด็กๆ หลังจากเคลียร์หนี้แล้วเรื่องก็เงียบไปซักระยะ ให้เปลี่ยนเบอร์มือถือ ทุกอย่าง

แต่แล้วไม่นาน 29 ธันวานี้เอง น้องก็ทำเรื่องอีก คือพ่อแม่มาจากต่างจังหวัดเพื่อมางานบุญใหญ่ น้องก็คะยั้ยคะยอจะไปหา แม่ก็เตรียมเงินมาทำบุญและจ่ายค่าทำบ้านที่เมืองแก้ว แต่แล้วพบว่าเงินหายไปอีก 4 พันกว่า จับได้ว่าน้องเอาไปก็ขอให้เอามาคืน พ่อแม่ขุ่นมาก พอเราและน้องอีกคนรู้เรื่องก็อึ้งกันอีกที ไม่คิดว่าน้องจะทำได้ขนาดนี้ เพราะก็เห็นไปช่วยงานที่วัดตลอด ดูทำตัวดีขึ้น ถามก็ไม่ยอมบอกความจริง แต่ที่พอทราบได้คือ คงไปติดต่อกับเพื่อนชายคนนึงมานานแล้ว ถามชื่อ-สกุล ที่อยู่ เรียนที่ไหน ก็ไม่ยอมบอก แต่โทรหากันได้ พอพ่อแม่ให้โทรไปหาคนนั้นบอกว่าพ่อแม่จับได้แล้วว่าเอาเงินแม่มา เจ้าผู้ชายนั่นก็บอกว่าแค่เงินไม่เท่าไหร่ทำไมพ่อแม่ต้องเอาเรื่องด้วย และเคยบอกให้น้องเรามาขโมยเงินเรากับน้องสาวอีกคนด้วย แต่พอดีไม่ค่อยมี และสรุปครั้งนี้ไปหยิบยืมเพื่อนๆมาอีก เกือบ 5 หมื่น พ่อแม่นี้ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาให้เลย เรื่องถึงขนาดนี้แล้วน้องเราก็ยังไม่ยอมบอกความจริง และยังแอบติดต่อกับเด็กคนนั้นอยู่ และก้ไม่ยอมให้พวกพ่อแม่พี่ทราบได้เลยว่าเจ้านั่นเป็นใคร แม้ชื่อก็ไม่บอก พ่อแม่และทุกคนก็ขุ่นมากแต่อยากเอาบุญก่อน เลยทำใสๆ ไว้ แต่แล้วน้องก็ดูไม่สำนึก ทำตัวตามปกติ ไม่มีการขอโทษ นอนตื่นสาย ไม่ทำอะไรเลยตลอดเวลาที่อยู่ที่วัด พ่อแม่ก็ไม่รู้จะแก้ได้ยังไง เราบอกให้ปล่อยให้น้องจัดการเองไม่ต้องให้เงินอีกแล้ว และให้ตำรวจมาจัดการ ถ้าถึงต้องมีเรื่องก็จะได้ลำบากมั่งจะได้รู้ว่าเพื่อนของน้องนั้นเป็นคนเลวแค่ไหน แต่แล้วพ่อแม่ก็จะตามจ่ายเหมือนเดิม

ส่วนตัวคิดว่าน้องเราคงไปรักชอบกับเด็กคนนั้นจนหลงหัวปักหัวปำ ขนาดเสียเงินไปเป็นแสน ยังปกป้องเค้าอีก พ่อแม่ก็กังวลมาก ไม่รู้จะทำยังไง เรียนก็เกือบตกทุกปี ไม่แน่อาจจะให้หยุดเรียนและเอากลับต่างจังหวัดไปคุมไว้ก่อนที่จะเสียมากกว่านี้

เลยอยากลองถามความเห็นทุกท่านว่าพอมีไอเดียอะไรดีๆเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างมั้ยค่ะ เราหล่ะกลัวน้องตกอบายจริงเลย



#2 Omena

Omena
  • Members
  • 1409 โพสต์
  • Location:44/5 หมู่ 10 ตำบลหนองอ้อ ถนนเพชรเกษม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี 70110

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 12:04 PM

คุณยายท่านเคยสอนไว้ว่าอย่าไปเข้าใก้คนพาล เพราะพอไปนานๆแล้ว เรื่องที่ไม่ดีเราจะเห็นว่าดีไปได้

จะไปช่วยอะไรก็คงยากค่ะ เพราะว่าจะห้ามไม่ให้คบ ก็เป็นเรื่องส่วนตัว จะไปบอกว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนเดี๋ยวเขาจะไม่ฟังอีกเลยค่ะ แต่แค่เตือนๆก็พอว่าคนที่ให้แฟนตัวเองขโมยเงินมาเลี้ยงตัวน่ะ สักวันในอนาคต หากลงเอยกันแล้ว เขาจะกล้าขโมยเงินภรรยาไปเลี้ยงเด็กผับ หรือเมียน้อยไหม
แต่ต้องปล่อยให้ผิดพลาดในชีวิตเอง จะได้รู้ว่าอะไรดีไม่ดีจากประสบการณ์ตัวเองค่ะ

เรื่องเงินนั้น ก็ให้รู้ไปเลยค่ะว่าเป็นของห้ามแตะเด็ดขาด แต่ว่าต้องใช้วิธีตะล่อมให้เขาฟังนะคะ ไม่ใช่เอ็ดแล้วสั่งห้าม จะสั่งให้ใครทำอะไรไม่ใช่เรื่องยาก เราต้องชมเขาก่อน ชมให้เขายอมฟังเรา ชมเรื่องด้านดีของเขาค่ะ
เมื่อไหร่หนอจะได้พบทหารหาญ
รอตั้งนานผู้ชาญศึกหายไปไหน
บอกจะพบกันครึ่งทางที่กลางใจ
อีกนานไหมจะให้พบช่วยบอกที

สุนทรพ่อ




muralath2@hotmail

#3 PS-Junior

PS-Junior
  • Members
  • 247 โพสต์
  • Location:Bangkok
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 12:24 PM

เรื่องเอ็ดนั้นคงไม่มีค่ะ พูดดีด้วย อธิบายให้ฟังทั้งหมดทั้งทางโลกและผลกรรม เค้าก็ทำทีเป็นเข้าใจแล้วว่าคนนั้นไม่ดี การขโมยเงินไม่ดี แต่พอผ่านไปหน่อยก็มาทำอีกค่ะ

#4 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 12:35 PM

QUOTE
เลยอยากลองถามความเห็นทุกท่านว่าพอมีไอเดียอะไรดีๆเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างมั้ยค่ะ เราหล่ะกลัวน้องตกอบายจริงเลย

ตอนนี้วงจรของรายนี้ถลำเข้าสู่อบายมุขตั้งแต่"คบคนพาลเป็นมิตร"นำมาซึ่งการทุศีล สร้างความเดือดร้อนแก่ตนเองและครอบครัว
คงต้องเริ่มต้นพูดคุยด้วยเหตุด้วยผล กับตัวผู้กระทำเอง ว่า;-
- ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือไม่ ถ้าพร้อมจะกลับตัวกับใจก็ใช้มงคลชีวิต"ไม่คบคนพาล"
- ถ้ายังดื้อดึง เห็นผิดเป็นชอบ คงต้องตัดวงจรอุบาทว์ในชีวิตของเขาออกไป

การช่วยเหลือนี้ต้องใช้ความอดทนมาก ใช้กำลังใจอันสูงส่งของการทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตร ประกอบกับความร่วมมือกันภายในครอบครัวและหมู่ญาติ เพราะการปรับเปลี่ยนต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง จึงจะออกดอกออกผลของทางแห่งความดี

ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#5 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 01:37 PM

ผมขออนุญาติเสนอความเห็นของกระผมครับ nerd_smile.gif

(ผมต้องกราบขออภัย และขอขมาลาโทษก่อนนะครับ
ถ้าข้อความบางตอนของกระผมทำให้ท่านเจ้าของกระทู้
หรือผู้ที่ได้อ่านบางท่านเข้าใจในมุมมองที่แตกต่าง
หรือเป็นการมองว่าก้าวล้ำสู่เบื้องลึกแห่งเสรีภาพทางความคิดของท่านผู้นั้นครับ
ผมขออภัยจากใจจริงครับ ผมไม่มีความคิดอย่างนั้น
ผมคิดแต่จะเสนอแนวทางอีกนัยหนึ่งเป็นทางเลือกให้กับ จขกท. ครับ)

เรื่องนี้ต้องใช้การบริหารแบบองค์รวมของท่านผู้นำครอบครัว
เป็นแผนแม่บทในการแก้ปัญหา 3 มิติ ดังนี้ครับ
1.แผนระยะสั้น
2.แผนระยะกลาง
3.แผนระยะยาว

1.แผนระยะสั้น ว่าด้วยการสร้างกฎระเบียบที่เป็นอนุโลม และปฎิโลม แก่บุตรของท่านที่สร้างปัญหา
กฎนี้ต้องมีผลบังคับทันที ถ้าเปรียบเทียบคือเป็นการประกาศสภาวะฉุกเฉินของครอบครัว ประมาณนี้ครับ
โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็มีอยู่ 3 กลุ่ม ครับคือ 1. ผู้มีอำนาจบังคับใช้กฎโดยตรง คือ บิดา มารดา พี่สาว
(แต่ถ้าจริงๆแล้วผู้บังคับบัญชาต้องมีไม่มากกว่า 2 ไม่เช่นนั้นการแก้ปัญหารระยะสั้นจะไม่สัมฤทธิผล
อาจจะส่งผลเป็นลูกระนาด ต่อแผนระยะกลาง และระยะยาวได้ครับ)

ผมขอยกตัวอย่างนะครับ แผนอนุโลมคือ การเข้าไปตั้งเมตตาก่อน
แล้วเราก็จะได้ข้อมูลส่วนหนึ่ง (หน้าที่นี้ผู้เป็นแม่ควรทำ)
แผนปฎิโลมคือ ผู้เป็นบิดา ควรปราม มีมาตรการลงโทษ
และวางกรอบการใช้จ่ายอย่างเคร่งครัด อาจจะทำสมุดบัญชีการใช้จ่ายเสนอทุกๆอาทิตย์
และประสานงานกับ อาจารย์ที่ปรึกษาของมหาวิทยาลัย
และอาจจะใช้จิตเวชศาสตร์บุคลากร ของมหาวิทยาลัยให้การแนะนำด้วย
สำคัญคืออย่าไปอาย อย่าไปกลัวเสียหน้า อย่าคิดกังวลว่าจะเสียชื่อเสียง
ควรจะเปลี่ยนวิกฤตินี้เป็นโอกาส เป็นบทเรียนให้กับครอบครัวอื่นๆได้มองออก
อย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ได้ตั้งขึ้นมานี้ก็ถือว่า เป็นสิ่งที่ดีมาก ครับ
เป็นการเอาปัญหาของครอบครัวมายกเป็นกรณีศึกษาให้กับหลายๆท่านได้รับรู้ ครับ
ถือเป็นบุญในกลุ่มของ สนทนาธรรม ไวยยาวัจมัย ก็อาจจะได้ครับ

ผู้เป็นพี่สาวควรจะทำการศึกษาพฤติกรรมทางสังคมกับเพื่อนชาย ดูแล สังเกตุว่าสุขภาพของน้องสาวนั้นดีทั้งกายและใจ หรือไม่

ถ้าสุขภาพของน้องสาว จขกท.ดี เธอก็จะมีพลังจะเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความแข็งแกร่งในการทำหน้าที่เรียน (ผลการเรียนเธอเป็นอย่างไรบ้าง ก็ดูครับ สะท้อนได้) ตามบทบาทต่างๆที่มีในชีวิตประจำวัน และในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความสุขกับผู้คนรอบตัว
พูดง่ายๆว่า สุขภาพทางกาย และจิต ของน้องท่าน จขกท. มีผลต่อทุกแนวทาง ทุกมิติในการแก้ปัญหาครั้งนี้ของ จขกท.ครับ
หน้าที่ตรงนี้พี่สาวและญาติสนิท จะช่วยเก็บข้อมูลให้ท่านผู้นำครอบครัว ท่านได้วินิจฉัยและมีแนวทางให้ท่าน จขกท.และผู้เกี่ยวข้องได้ทำทันทีเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาด่วนครับ ..
สำคัญที่สุดคือ อย่าใจอ่อนเป็นไม้หลักปักเลน อันตราย แต่อาจจเป็นสนต้องลมได้ ต้องมีหลัก ครับ...

เรื่องเงินนั้นมองไปที่มหาลัยไทย เด็กบางคนเขาใช้เงินกองทุนกู้เรียน กลางวันเขาไปขายเชสเตอร์กริล ที่หน้าวัดก็กำลังเปิดรับสมัคร
หรือเป็นพนักงานเซเว่น ก็ได้ (ถ้าซิมมูเลชั่น ผมเป็นผู้นำครอบครัวนะผมจะปฎิโลม งดจ่ายเงินให้เธอ จ่ายเฉพาะค่าเทอม ส่วนค่าหอ ค่ากินนั้น ให้เธอหาเอา ถ้าไม่เรียนก็ เซย์โน อันนี้ผู้เป็นบิดาต้องเด็ดขาดอย่างนี้ (แต่ไม่โหดร้าย ทน กัดฟันไว้ คนเป็นพ่อ) ทีนี้หน้าที่แม่และพี่สาว ต้องเปิดประเด็น ชี้โทษแห่งการเสียสมดุลของน้องให้เธอเห็น ก็หาแนวทางให้เธอ เอางี้พี่สาวช่วยค่าหอพักครึ่งนึงนะ ช่วงแรกๆ ที่เธอทำงานพาร์ททามที่ เซสเตอร์ กริลหน้าวัด ได้คงที่แล้ว พี่ก็จะไม่ให้ภายใน2 เดือน พี่ช่วยได้แค่นี้นะ(แต่ที่จริงช่วยได้มากกว่านี้ แต่ จขกท. ต้องฝืนตรงนี้ไว้ก่อน ครับ) ผมเคยอ่านแนวคิดของท่าน ARISTOTLE นะครับ ท่านขัดแย้งอย่างแรงกับท่าน PLATO ที่เป็นอาจารย์ เรื่องแนวคิดท่าน ARRISTOTLE ให้ความสำคัญต่อค่าของคนที่เขาหาเงินได้ ทรัพย์สินเงินที่หาได้มีค่า แต่อาจารญ์ให้ความสำคัญเรื่องของคอมมูนิสต์ ท่าน จขกท.ก็คงจะเห็นนะครับว่าทุกวันนี้ประเทศที่เป็นคอมมูนิสต์ ล่มสลายไปกี่ประเทศแล้ว ดังนั้นต้องให้น้องสาวเธอรู้จักหาเงินเองให้ได้ จะเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นได้ อย่างดีอีกทางหนึ่ง หน้าวัดตอนนี้กำลังเปิดรับสมัคร เชสเตอร์กิน น่ะครับ เขารับสมัครพนักงานพาททามอยู่ ให้กำลังใจน้องอย่าให้เธออายเขิน ท่าน จขกท.ครับ ขนาดตัวผมนี่อีกไม่นานถ้าผมมีเวลาว่างจากสอน จากทำงานประจำ ผมจะไปขับแท๊กซี่ หาเงินมาทำบุญ หลายๆคนที่ทำอย่างผม อธิบายให้น้องเห็น เธอจะได้มองมิติที่เป็นมุมกว้างออก ครับ เช่นท่าน ARRISTOTLE กล่าวว่า แม้แต่นกไม่สะสมก็ยังไม่อดตาย แล้วเป็นคน จะกลัวอดตายไปทำไม..แนะนำน้องท่านไปนะครับ ไม่ต้องกลัวเป็นหนี้เขาห้าหมื่น หรือแสน ก็ต้องหามาใช้เขาด้วยตนเองเท่านนั้น

ผมขอจบการแก้ปัญหาด้วยแผนระยะสั้นไว้แค่นี้ก่อน คราวหน้าถ้ามีเวลาผมจะมาปรารพ แผนระยะกลาง และระยะยาวต่อไปครับ

ขออนุโมทนาบุญ กับท่าน จขกท. ครับ


ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#6 panu

panu
  • Members
  • 530 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 02:28 PM

ข้อคิดและวิธีการของ คุณเถลิงเกียรติ เยี่ยมครับ

สำหรับผม ขอเสนอแนะความเห็นเพิ่มว่า น้องที่มีปัญหา (หมายถึงน้องของ จขกท) ลักษณะมีภูมิคุ้มกันตัวเองต่ำ

ไม่ทราบว่าเกิดจากการขาดความอบอุ่น หรือขาดความรักจากบุคคลในครอบครัวหรือไม่ เพราะเท่าที่

เล่าให้ฟังมา ก็รู้สึกถึงความรุนแรงของปัญหา นอกจากตัดวงจรอุบาทว์ และใช้ความอดทนในการเป็น

กัลยาณมิตรของบุคคลใกล้ชิดอย่างที่คุณ WISH ได้กล่าวไว้แล้ว ผมว่าถ้ามีโอกาส ลองปรึกษานักจิตวิทยาวัยรุ่น

เพื่อมาประกอบการตัดสินใจแนวทางปฏิบัติต่อไป ผมว่า ถ้าน้องขึ้นถึงปี 4 ได้ ปัญหาก็คงจะน้อยลง เพราะเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

ข้อสำคัญกลัวจะมีปัญหาการเรียนซะก่อน ซึ่งถ้าคิดว่าเอาไม่อยู่ ก็ควรตัดสินใจเอากลับไปอยู่บ้านก่อน 1 ปี แล้วกลับมาเรียน

ดีกว่าจะต้องเสียหายไปตลอดชีวิต ครับ


#7 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 04:54 PM

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูก้มเอาหน้าผากแตะพื้น แปลว่าช้อนเมื้อกี้เป็นช้อนสุดท้าย
แล้วหนูจะไม่หม่ำอีกเด็ดขาด ไม่ว่าพ่อจะมาไม้ไหนก็ตาม

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ตอนนี้พจนานุกรมหนูมี 3 คำ
มี้อาว แปลว่า ไม่เอา ...
มะ แปลว่า แม่ ...
จิ แปลว่า ฉี่ (ซึ่งบางครั้งพ่อก็ต้องเดาเอาว่า จะฉี่ หรือ ฉี่ไปแล้ว จงไปตามเช็ดด้วย)

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า เย็นวันที่พ่อกลับเร็วนั้นมีความหมายกับหนูแค่ไหน

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า หนูกินไม่เลือกเหมือนพ่อนั่นแหละ

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า อย่ารัดจุกหนูกลางหัว เพราะเวลาหนูคันหัวหนูจะเกาจนมันหลุด ให้รัดค่อนมาทางหน้าผาก

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูมาเกาะขาแล้วชี้ไปที่ไหน แปลว่า สิ่งนั้นมันทำให้หนูเจ็บหรือไม่ชอบใจ
(ซึ่งบางทีหนูก็เกาะขาแม่แล้วชี้มาที่พ่อ)

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูยังไม่หลับ อย่าหวังว่าใครในบ้านจะได้หลับ (อย่างเป็นสุข)

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า การจัดบ้านให้เป็นระเบียบนั้นเป็นการเสียเวลาและพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า เมื่อหนูตื่นมากลางดึก ถ้าพ่อตบก้นหนูเบาๆแล้วหนูยังไม่หลับต่อ
แปลว่าหนูหิวน้ำ จงเอาขวดน้ำมาใส่ปากหนูซะดีๆ ไม่งั้นพ่อไม่ได้หลับต่อแน่ๆ ...

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ราคาของผ้าอ้อมสำเร็จรูปไม่มีความสัมพันธ์ต่อจำนวนครั้งที่หนูจะตื่นมากลางดึก ...

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า อย่าลืมปล่อยหนูเล่นน้ำนานเกิน 10 นาที เพราะหนูจะเป็นหวัด แล้วคนที่เดือดร้อนก็พ่อนั้นแหละ

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ถ้าหนูนอนไม่หลับให้เอามือหนูมาแปะไว้ที่หน้าพ่อแล้วหนูจะหลับได้ง่ายขึ้น
(แต่ตอนตื่นมักจะกลายเป็นเท้าหนูเวียนมาอยู่บนหน้าพ่อแทนอยู่ร่ำไป)

หนูสอนให้พ่อรู้ว่า ....

แล้ววันหนึ่งที่ ....

ความรักของพ่อ ... ถูกมองว่าน้อยกว่าความรักผู้ชายอีกคนหนึ่ง
คำพร่ำเตือนสอนสั่งของพ่อ ... เสียงดังน้อยกว่าคำออดอ้อนของผู้ชายคนนั้น
ความห่วงใยของพ่อ ... มีค่าน้อยกว่าที่จะปฏิเสธคำขอผู้ชายคนนั้น
อ้อมกอดของพ่อ ... ดูเหมือนจะอบอุ่นน้อยไปกว่าอ้อมกอดของผู้ชายคนนั้น

พ่อหวังแค่เพียงว่า ผู้ชายคนนั้นจะรักและทนุถนอมหนูได้เพียงครึ่งที่พ่อรักหนู .....

หนูไม่บังอาจสอนพ่อ แต่หนูอยากจะบอกพ่อว่า พ่อต้องรู้จักปล่อยวาง นะ หนูรักพ่อ ค่ะ

บรรทัดสุดท้าย ผมเติมเองครับ
....................................................................................................
ที่มา: Forword Mail..
RELAX and ALERT smile.gif
..........................................................................


ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#8 Pungpa

Pungpa
  • Members
  • 458 โพสต์
  • Gender:Female
  • Interests:ผ่านการอบรมมัชฌิมธรรมทายาทหญิง รุ่นที่ 13 /2549 แล้วค่ะ<br /><br />รับบุญ : ฝึกงานอยู่ที่ ศูนย์ประสานงานโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 06:23 PM

เอ จขกท. เคยออก case study รึเปล่าค่ะ
เพราะเหมือนเคยฟัง case นี้แล้ว
คับคล้ายว่าเล่นเกมส์อะไรสักอย่างแล้ว ต้องขโมยเงิน
หลวงพ่อก็เลยบอกว่าให้เลือกคบเพื่อน

ขอโทษจริงๆนะคะ เพราะว่าจำไม่ได้ว่า เคสเป็นของวันไหนค่ะ
หยุดนั่นแหละเป็นตัวสมถะ
หยุดนั่นเองเป็นตัวสำเร็จ
ทั้งทางโลกและทางธรรม สำเร็จหมด

#9 PS-Junior

PS-Junior
  • Members
  • 247 โพสต์
  • Location:Bangkok
  • Interests:Meditation

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 06:38 PM

เคยออก case ไปแล้วจริงๆค่ะ ตอนนั้นจะถามรายละอียดและเล่าให้หลวงพ่อท่านฝันให้น้อง ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร แต่ผู้ประสานงานตัดออกไปเยอะเลย บอกว่าไม่สมควรถาม หรือไม่ก็อันนี้ไม่เหมาะสมหน่ะค่ะ case เลยออกมาแบบกลางๆ น้องฟังก็เฉยๆ ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะหลวงพ่อท่านบอกว่าคบคนพาล แค่นั้นหน่ะค่ะ

case ประมาณ เดือน พฤศจิกายน วันพุธค่ะ แต่วันที่จำไม่ได้

#10 Trai072

Trai072
  • Members
  • 225 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 January 2007 - 07:14 PM

^^~*

ขอแสดง ความคิดเห็นนะครับ ...

เรื่องเกมส์ คิดว่าไม่น่าจะใช้เงินจำนวนเยอะขนาดนั้นนะครับ

แต่เท่าทีรู้ว่า ตอนนี้เด็กที่ใช้เงิน และเป็นหนี้ในเวลาอันสั้นนั้น น่าจะเกิดจากการเล่นการพนันบอล

เด็กที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแล้วจะถอนตัวอยากเพราะ แรกๆ จะได้เงินดี แต่พอไปสักระยะ หนึ่ง จะเริ่มติด และติดหนี้มากขึ้น

ต้องหาเงินมาใช้ในจำนวนที่เยอะ

เจ้าของโต๊ะบอล แรกๆก็จะอนุโลมให้ แต่พอมากขึ้นจะเริ่มจะ แข็งขึ้น จนถึงขั้นทำร้ายร่างกายและ ขู่เอาชีวิต

เด็กๆ ที่เข้าสู่วงการนี้ก็จะกลัว เลยต้องไปยืมเงิน กู้ และขโมย ในสุด

ถ้าในกรณีนี้ อาจจะเป็นไปได้ 2 อย่าง

1. เด็กเล่นพนันบอลเอง

2. แฟนของเด็กเล่น และตอนนี้อยู่ในขั้นเดือนร้อน ถึงขั้นขู่เอาชีวิต

ทางแก้ไข พยายามชักจูงน้องให้ เข้าค่ายอบรมธรรมทายาท

และชี้ให้เห็นถึงบุญคุณของพ่อแม่ ให้มากๆ

ตอนนี้การบังคับ อารมณ์ ยังไม่มี เหมือนกับวัยรุ่นส่วนใหญ่ ที่กำลังเป็น

ทางแก้ก็ควรให้น้องนั่งสมาธิมากๆ นะครับจะช่วยได้






เ มื่ อ เ ร า ส ว่ า ง * * * โ ล ก * * * ก็ ส ว่ า ง ด้ ว ย ^^~*

ส า ธุ . . . ค รั บ ^^~*





#11 บารมีธรรม

บารมีธรรม
  • Members
  • 212 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 03 January 2007 - 12:56 AM

QUOTE
ก่อนอื่นต้องขอสวัสดีปีใหม่ และอนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ไปร่วมงานตอกเสาเข็มที่ Lotus Land นะค่ะ ตัวเองก็ไปมาเหมือนกัน ปลื้มมากๆ
อนุโมทนาบุญด้วยครับ


ขอแสดงความคิดเห็นเรื่องน้องสาว เจ้าของกระทู้

QUOTE
เรื่องก็คือ น้องสาวอายุ 20 ปี เรียนอยู่ปี 3 ที่ธรรมศาสตร์ค่ะ

อีกปีเดียวก็จะจบการศึกษาแล้ว อย่างไรก็ต้องประคับประครองให้เรียนให้จบไปก่อนนะครับ

QUOTE
เมื่อประมาณกลางปีที่แล้วได้มาขอยืมเงินจากพ่อ แม่ พี่น้อง เพื่อนๆ และคนรู้จักอีกหลายคน โดยอ้างว่าเอาไป...

QUOTE
ทราบว่ายืมไปเป็นแสน พ่อแม่และพี่ๆอึ้งไปกันหมด ต้องไปตามจ่ายหนี้ที่น้องไปก่อไว้

QUOTE
29 ธันวานี้เอง น้องก็ทำเรื่องอีก...พบว่าเงินหายไปอีก 4 พันกว่า จับได้ว่าน้องเอาไป... และสรุปครั้งนี้ไปหยิบยืมเพื่อนๆมาอีก เกือบ 5 หมื่น พ่อแม่นี้ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาให้เลย ..แต่แล้วพ่อแม่ก็จะตามจ่ายเหมือนเดิม

#มุมมอง
- ตอนนี้เด็กคนนี้กลายเป็นบุคคลมีเครดิตดีไปแล้วในกลุ่มที่เขานำเงินไปใช้ ซึ่งเกิดจากการที่พ่อแม่นำไปใช้หนี้ให้เขา
- ถ้าหากน้องโดนหลอก ผู้ที่หลอกให้เขาหาเงินไม่ทิ้งเขาแน่นอน เพราะเขาคือแหล่งเงินชั้นดี
- ด้วยความรักของพ่อและแม่สร้างภัยให้ลูกโดนไม่รู้ตัวครับ
#ทางออก
- ต้องสรุปให้ได้ว่าน้องสาว 1) เล่นพนัน 2) เที่ยวกลางคืน ติดเพื่อน 3) โดนหลอก จาก 3 ข้อนี้คือข้อไหนหรืออื่นๆนอกจากนี้ครับ
- เริ่มสืบจากเพื่อนๆ รอบตัวของน้องสาวก่อนครับ
- ต้องอดทน อย่างน้อยจนกว่าจะเรียนจบ
- ย้ายน้องสาวมาอยู่กับคนที่ไว้ใจได้ หรือย้ายมาอยู่ด้วยกันที่เมืองแก้วมณี...หากบ้านยังไม่เสร็จ ก็ให้เช่าคอนโดของเมืองแก้วอยู่กับเขาไปก่อน
- หากผมเป็นพ่อของน้องสาวท่านนี้ผมก็ใช้หนี้ให้เหมือนกันครับ...เพราะลูกคือสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ครับ...
ดังนั้น คนรอบข้างพ่อและแม่ต้องเข้าใจข้อนี้ให้ดี
- พี่สาวต้องหมั่นให้กำลังใจคุณพ่อคุณแม่ เรื่องอะไรที่แก้ไขแทนท่านได้ก็ทำไปเลย นำเรื่องดีๆ ของน้องสาวมาเล่าให้ท่านฟังบ้าง
- โดยสรุป ดึงเขาให้กลับมาอยู่ใกล้กับครอบครัวให้รู้ถึงความรักของทุกคนที่มีต่อเขา หาสาเหตุให้เจอ แล้วแก้ให้ตรงประเด็น







#12 ภสสรจิตโต

ภสสรจิตโต
  • Members
  • 140 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:บางบัวทอง นนทบุรี
  • Interests:ธรรมทายาท n21/590

โพสต์เมื่อ 04 January 2007 - 10:00 AM

ทำบุญมากๆ นั่งธรรมะเยอะๆ อธิฐานจิตให้หลวงปู่ช่วย เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม