มี 15 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[Nu]

พอดีไปปล่อยปลามาค่ะ แล้วก็มีเพื่อนบอกว่าถ้าปล่อยปลาแล้วห้ามกินปลานะ

เราก็ถามว่าทำไมต้องห้ามด้วยหละ
แล้วห้ามกินเฉพาะปลาชนิดนั้นรึเปล่าที่เราปล่อยไปรึเปล่า หรือห้ามทั้งหมด
แล้วห้ามกินนานเท่าไหร่หละ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี หรือ ตลอดชีวิต

แต่ไม่มีใครตอบเราได้เลย ได้แต่บอกว่า "เขาว่ากันมาอย่างนี้หนะ" แล้ว "เขา" ไหนก็ไม่รู้ด้วย

ขอความกรุณาจากผู้รู้ช่วยตอบข้อข้องใจด้วยค่ะ

[น้ำฝน มัชฌิมหญิงรุ่น14]

เพื่อนหนุก้ถามมาค่ะวันนี้ปล่อยปลาที่ร.รเพือ่นบอกว่า ปล่อยชนิดนั้นแล้วห้ามกินปลาชนิดนั้น 1ปีหรอ หนุก็ตอบไปว่าตามโบราณกล่าวมาแบบนั้นนะ เดี๋ยวจะลองมาถามพี่ๆที่บอร์ดให้ขอความกระจ่างด้วยค่ะ

[Omena]

อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาแต่ละคนนะคะ ถ้าอยากปฏิบัติตามก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้าปฏิบัติแล้วเป็นคนเลี้ยงยาก หรือใจฟุ้งซ่าน อยากกินปลาแต่ไม่กล้ากินนี่ก็ไม่ควรค่ะ

แต่ว่าในพระพุทธศาสนาไม่มีคำสอนไหนห้ามค่ะ

[Singha]

ถ้าจิตเราเคยอธิษฐานหรือศรัทธาในบุญกุศลที่เราปล่อยสัตว์ต่างๆให้พวกเขาเป็นอิสระ ก็อย่าไปทานเลย เหมือนกับเราปล่อยตัวแต่กินไข่น่ะ (มันเกี่ยวกันหรือเปล่านี่) พูดถึงการปล่อยสัตว์ เพื่อนๆที่มีธรรมะในจิตใจ สังเกตุบ้างไหมว่า เวลาเราอธิษฐานจิตแล้ว แผ่เมตตาให้กับเจ้าป่าเจ้าเขา แม่คงคาแล้วน่ะ ช่วงที่ปล่อยเต่า หรือ ปล่อยปลา (นกไม่ต้องพูดถึง เพราะไม่เคยเจอสักที) พอปล่อยแล้ว อย่าเพิ่งไปไหน ให้ยืนดูพวกเขาว่ายให้พ้นสายตา แล้วจะเห็นสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น คือ ถ้าเราปล่อยกลุ่มปลา ก็จะมีปลาตัวหนึ่ง หันมาเรา ทำปากพงาบๆ เหมือนจะขอบคุณอย่างไรอย่างนั้น แม้แต่เต่าก็ใช่ ไม่เชื่อ ลองพิสูจน์ดู เคยอ่านจากหนังสือที่คนเขาปล่อยสัตว์เล่าสู่กันอ่านเรื่องนี้ ข้าพเจ้าปล่อยมาหลายครั้งแล้ว ได้เห็นด้วยตาตัวเอง 4 ตา (เพราะใส่แว่นสายตาสั้น)เลย เป็นความจริง เห็นหลายทีแล้ว ตอนอยู่เมืองไทยแม่พาไปปล่อยเต่าและปลา แล้วแม่บอกว่า ให้ยืนดูก่อน จะมีหัวหน้าปลา และหัวหน้าเต่า หันหน้ามาขอบคุณที่ให้ชีวิตปลดปล่อยเป็นอิสระแก่พวกเขา ก็เลยทำให้สิงหารู้สิ่งนี้คร๊าบบบ เพื่อนๆลองสังเกตุดูนะคร๊าบบ ได้ความอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังบ้าง

[joey]

พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโวท่านเคยตอบเรื่องนี้ไว้ว่า

ความเป็นอยู่ในสมัยก่อนนั้น มักใช้ชีวิตอยู่ริมแม่น้ำ เมื่อเราปล่อยปลาแล้ว ปลาก็มักจะอยู่บริเวณที่เราปล่อย ถ้าเราปล่อยที่ท่าน้ำบ้านของเรา มักก็จะอยู่ตรงนั้นและออกลูกหลานอยู่ตรงนั้น สมัยก่อนในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ไม่ต้องซื้อก็มีกิน ปลูกข้าว จับปลาในน้ำก็มีกินแล้ว คนโบราณเมื่อปล่อยปลาชนิดใดแล้วจะไม่กินปลาชนิดนั้น

แต่ปัจจุบันเวลาเราทานอาหารก็ทานอาหารที่ทำสำเร็จมาแล้ว หรือไปซื้อปลาที่ตลาดที่ตายแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกำหนดว่า ปล่อยปลาชนิดไหนแล้วห้ามทานชนิดนั้น

[panu]

CODE

แต่ปัจจุบันเวลาเราทานอาหารก็ทานอาหารที่ทำสำเร็จมาแล้ว หรือไปซื้อปลาที่ตลาดที่ตายแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกำหนดว่า ปล่อยปลาชนิดไหนแล้วห้ามทานชนิดนั้น

ถูกต้องแล้ว คร๊าบ

[เด็กกะปิ]

ทานไปเถอะครับ ตราบใดที่ปลาที่เราทานยังขึ้นชื่อว่าเป็นศพปลาไม่ใช่ปลาที่เราจับมาปลิดชีวิตของมันด้วยตัวเราเอง ปลาที่เราช่วยไปก็ขึ้นชื่อว่าเราช่วยมันแล้ว ส่วนมันจะตายจะรอดก็ขึ้นอยู่กับมันแล้วล่ะครับ อย่างน้อยเราก็ช่วยให้มันพ้นจากความตายมาครั้งหนึ่งแล้ว อันนั้นมันก็เป็นบุญกุศลของเรา ใช่ว่าเราต้องตามปกป้องมันไปตลอดชีวิตนี่ครับ เหมือนกับการทานเจแหละครับ หลวงพ่อบอกว่าไม่ได้บุญกุศลหรอกครับ ใช่ว่าเราทานแล้วสรรพสัตว์มันจะหยุดตายสักหน่อย เราทานของเราแล้วก็สบายใจของเราอยู่คนเดียวตะหาก หากทานอย่างนั้นแล้วได้บุญ ป่านนี้พวกวัว ควาย มันคงไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์กันหมดแล้วล่ะครับ ทานเถอะครับ ทานได้ บุญก็ส่วนบุญ เราได้บุญไปตั้งแต่ตอน ที่คิดจะปล่อย ลงมือปล่อย แล้วก็ปลื้มปิติหลังปล่อยแล้วครับ ใช่ว่าเรากินปลาต่อแล้วจะทำให้เราบาป หรือถือว่าเราไม่ได้ช่วยชีวิตมันให้ถึงที่สุดหรอกครับ ตราบใดที่คุณไม่ได้ลงมือฆ่าปลาด้วยตัวของคุณเอง ก็สบายใจได้ครับ ในทางกลับกันแม้ ไม่ใช่ปลาชนิดเดียวกันกับที่คุณปล่อย แต่คุณได้ฆ่าแกงมันด้วยมือของคุณเอง นั้นแหละครับบาปแล้ว แน่ ๆ ชัวร์ ๆ

[หัดฝัน]

การกินปลา ที่มีวิบากกรรม เป็นดังนี้
1. ตกปลานั้น ขึ้นมาด้วยตัวเอง หรือ สั่งให้ใครตกปลานั้นมาให้ แล้วนำปลานั้นไปทำอาหารกิน อย่างนี้ผิดครับ
2. ไปภัตตาคาร อยากกินปลา จึงไปชี้ปลาที่กำลังว่ายๆ อยู่ แล้วก็บอกว่า เอาตัวนี้แหละ ไปทำมาให้หน่อย อย่างนี้ก็มีปัญหาครับ
3. ไปที่ตลาดสั่งแม่ค้าว่า พรุ่งนี้บ้านฉันจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ ให้เตรียมปลาแบบโอฬารยิ่งใหญ่ แบบไม่เคยมีมาก่อนไปเลย อย่างนี้ระวังให้ดี

ถึงจะไม่เคยปล่อยปลา แต่จะไปกินด้วย 3 วิธีที่กล่าวมาข้างต้น ผิดศีลข้อ1 ครับ และจะต้องได้รับวิบากกรรม ถ้าตามทันครับ

[WISH]

พอดีไปปล่อยปลามาค่ะ แล้วก็มีเพื่อนบอกว่าถ้าปล่อยปลาแล้วห้ามกินปลานะ

เราก็ถามว่าทำไมต้องห้ามด้วยหละ
แล้วห้ามกินเฉพาะปลาชนิดนั้นรึเปล่าที่เราปล่อยไปรึเปล่า หรือห้ามทั้งหมด
แล้วห้ามกินนานเท่าไหร่หละ 1 วัน 1 เดือน หรือ 1 ปี หรือ ตลอดชีวิต

ไม่มีปัญญัติในสิกขาบท
ยังไงการบริโภคเนื้อสัตว์ยังคงใช้หลักสากล ไม่สั่ง ไม่รู้ ไม่เห็น การฆ่า หมายเอาถึง ไม่ร่วมอนุโมทนาบาปการปาณาติปาตสัตว์นั้น และ เนื้อสัตว์นั้นต้องไม่อยู่ใน เนื้อที่ทรงบัญญัติห้าม 10อย่าง

[Nu]

ขอบคุณค่ะทุกท่าน

ขอถามต่ออีกว่า

เนื้อสัตว์นั้นต้องไม่อยู่ใน เนื้อที่ทรงบัญญัติห้าม 10อย่าง

มีอะไรบ้างคะ พอทราบมาแค่ว่า

1. เนื้อมนุษย์

ขอบคุณค่ะ

[เด็กกะปิ]

มี เนื้อ มนุษย์ ช้าง ม้า สุนัข งู ราชสีห์ เสือโคร่ง เสือเหลือง หมี และเสือดาว
ดู ต้นบัญญัติ ได้ที่
1. อุบาสิกาสุปปิยาถวายเนื้อขา
http://dharma.school...w...2&lend=1508
2. พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ภาค ๒
http://84000.org/tip...a1/vinai05.html
3. พระวินัยปิฎก
http://84000.org/tipitaka/pitaka1/
ครับ

[ideal]

เนื้อสัตว์นั้นต้องไม่อยู่ใน เนื้อที่ทรงบัญญัติห้าม 10อย่าง

http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4929

[m-ss]

เคยได้ฟังพระอาจารย์สมชาย ฐานะพุทโธ ท่านตอบน้องท่านหนึงที่ถามคล้ายกันนี้ไว้เมื่อ สิบกว่าปีก่อนว่า เปรียบเหมื่อนเราทำบุญด้วยแบ๊งค์ยี่สิบ ถามว่าแล้วเราจะไม่ใช้แบ๊งค์ยี่สิบนั้น อีกหรือ คำตอบก็คือเราก็ยังเลือกใช้เหมือนเดิม ปลาตัวที่เราให้ชีวิตไปแล้วเราก็ไม่ได้ไปเบียดเบียนมันอีก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่กินปลาชนิดนั้นอีก

[จุลจักร]

สมัยโบราณ มีผู้ใหญ่ แนะนะว่า หากจะเลี่ยง ก็ควรเลี่ยง ปลาชนิดที่เราปล่อย

เช่นปล่อยปลาดุก ก็ควรเลี่ยงปลาดุก เนื่องจากคนที่มีเจตนาปล่อยปลาจริงๆแล้ว เราจะจดจนปลาประเภทนั้นๆ และจะปฏิเสธโดยอัตโนมัติ

สมัยก่อนคนส่วนใหญ่มักจะปล่อยตามริมคลอง และต้องไปตลาดซึ่งอยู่ริมคลอง คนแถวนั้นก็จะงดกินปลาประเภทนั้นๆ เพราะเกรงว่าจะไปกินเอาปลาตัวที่ตนเอง ปล่อยไป


หากไม่สบายใจ ก็ควรที่จะไม่กินปลาก็ได้ครับ

[ครูอุ๋ย]

สำหรับดิฉัน เวลาไปบอกบุญให้เพื่อนๆ มาร่วมบุญปล่อยปลา ก็จะมีคำถามเช่นนี้เสมอๆ พอดี เคยได้ยินหลวงพ่อทัตตะ ท่านสอนไว้
ดิฉัน ก็จะยืนยัน อย่างเข้มแข็ง ว่า ปล่อยสัตว์วันนี้ ได้บุญแน่นอน เพราะเราให้ชีวิตมัน ไม่อย่างนี้น วันนี้หรือพรุ่งนี้ มันตายแน่
พอเมือ ปล่อยแล้ว จะกินอะไรก็ได้ แต่สัตว์ที่เรากินนั้น เราต้องไม่ได้ฆ่า ไม่ได้สั่งฆ่า รับรองไม่บาป
เพื่อนเค้าก็เชื่อเรา เพราะเห็นเรายืนยันแน่นหนา
แต่ เรื่องนี้ ก็ออกจะเป็นอุปสรรค สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ ทำให้ปิดโอกาส การทำบุญปล่อยสัตว์ ปล่อยปลา ปล่อยโค กระบือ ไป
เพราะกลัวว่า ถ้าปล่อยแล้ว เผลอไปกินเข้าก็จะบาป เลยไม่ปล่อยดีกว่า
และการที่ คิดว่า ถ้าไปกินแล้วจะบาป ก็เลยหลงคิดไปอีกว่า ถ้าไม่กินแล้วจะได้บุญ
ไปๆมาๆ ปล่อยสัตว์ก็ไม่ต้องปล่อย แค่ ไม่กินมัน ก็ได้บุญแล้ว

"ถ้า ปล่อยปลาช่อน แล้วไปกินปลาช่อน... บาป
กับ ไม่ได้ปล่อยปลาช่อน แล้วไปกินปลาช่อน.. ไม่บาป..หรือ..."

ก็อย่ากังวลไปเลยนะคะ ถ้ากินแล้วบาป คุณครูไม่ใหญ่ ท่านห้ามพวกเราไปนานแล้วล่ะค่ะ

[ปัจเจกชน บนทางสายกลาง]

ถ้าเรากินอย่าง **แร้ง** ผมก็ทานไปเถอะครับ