ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ไม่อยากทนเลยค่ะทำงายดี


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 20 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 24 December 2005 - 11:08 PM

คือว่ามีหลายคนนะค่ะที่ หันหลังให้วัดพระธรรมกาย อันที่จริงก็มีอยูมากมายใช่ไม๊ล่ะค่ะ แต่ว่า ในสังคมที่น้อยคนที่จะเข้าใจ แล้วมาว่าเรางมงายอย่างโน้นอย่างนี้ (เคยแก้ปัญหามาแล้วน่ะค่ะ) ไม่เห็นด้วย พยายามอธิบายให้เค้าฟังแล้วนะค่ะ อีกอย่างไม่อยากทนกับคนที่มีความคิดคนล่ะแง่กับเราจังเลยค่ะ ทำไงดี เพราะว่า พอปะทะกน คราวไหน ส่วนมาก หนูจะขึ้นก่อนและทนไม่ได้ เป็นบาปอีกที่เราไม่ว่าเค้าทั้งๆที่เค้า มีสิทธิ์ คิดอีกแบบนึง ไม่อยากมีเศษกรรมติดตัวเพราะเรื่องแบบนี้ แล้วมันจะเป็นไรไม๊ ที่เราจะไปติผู้อื่น อยากจะให้ทาง โรงเรียน ติดจานดาวธรรมมาก เลยล่ะค่ะ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี อยากจะเข้าไปบอก ผอ. ก็กลัวว่าท่านจะไม่เห็นดีด้วยกับวัดอีกอย่างนึงด้วยค่ะ จนปัญญา
ขอความเห็นด้วยนะค๊า

อนุโมทนา...

#2 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 01:57 AM

ที่หนูบอกว่า ไม่อยากทนกับคนที่มีความเห็นต่างแง่ต่างมุมกับเรานั้น ข้อนี้เป็นไปได้ยากนะครับ เพราะคนเรามันนานาจิตตัง แม้ที่สุดพี่น้องที่คลานตามกันมายังมีนิสัย ความเห็น และบุคลิกอันเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนกันเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนข้างนอกล่ะ (เข้าทำนอง "ไม้ลำยังต่างปล้อง พี่น้องยังต่างใจ" อธิบายว่า ไม้เวลาที่เราผ่าออกมาก็จะเห็นโครงสร้างภายในเป็นปล้องๆ ซึ่งในแต่ละปล้อง ทั้งๆ ที่เป็นไม้ลำเดียวกันแท้ๆ ก็ยังมีลักษณะที่แตกต่างกันเลย) อีกอย่างการสร้างบารมีนั้น ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนกับชีวิตของชาวโลกหรอก ต้องอดทนนะครับ เพราะ "มารมี บารมีลด มารหมด บารมีเพิ่ม", "ทางเตียนเวียนลงนรก ทางรกวกไปสวรรค์และนิพพาน" (จะเลือกเดินทางไหนล่ะครับ?) ส่วนการติผู้อื่นนั้น หากเป็นการติเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แล้ว พี่เห็นด้วย แต่ถ้าไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ ก็อย่าได้ไปตำหนิติติงหรือวิพากษ์วิจารณ์ใครเลย ยิ่งถ้าหากเป็นการกระทำที่ประกอบไปด้วยโทสะ โดยที่เราเป็นฝ่ายโกรธตอบบุคคลที่โกรธหรือไม่พอใจเราแล้วล่ะก็ เมื่อนั้น เราย่อมเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่า เลวกว่าบุคคลที่โกรธนั้นเสียอีก เพราะฉะนั้นพึงหลีกเลี่ยงและระวังเรื่องนี้ให้มากนะครับ สำหรับเรื่อง โครงการติดจานดาวธรรมในโรงเรียน จะสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้

๑. ความกล้าและความพร้อมในการนำเสนอโครงการดังกล่าวต่อท่านผู้อำนวยการโรงเรียน (ความกล้าเป็นสิ่งที่สำคัญ มิเช่นนั้น เราจะไม่สามารถก้าวเดินต่อไปข้างหน้าได้เลย)
๒. ต้องทำจริงและทำอย่างตั้งใจ
๓. ต้องประพฤติตัวเป็นต้นบุญต้นแบบให้ครูบาอาจารย์และเพื่อนๆ ได้เห็น และคงรักษาไว้ซึ่งความดีนั้น อย่างเสมอต้นเสมอปลาย (ข้อนี้ ถ้าหน้าอย่างหลังอย่างหรือทำตัวไม่สม่ำเสมอ ก็เป็นอันจบเห่)
๔. ต้องติดตามผลตอบกลับ (feedback) ของความเห็น ในเรื่องเกี่ยวกับการนำเสนอโครงการดาวธรรมโรงเรียน แล้วนำมาประเมินผลว่า มีข้อบกพร่องหรือปัญหาตรงจุดใดที่ควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขบ้าง

ขอให้น้องจงโชคดี


#3 Streamdhamma

Streamdhamma

    หยุด นิ่ง เฉย ได้ไหม

  • Members
  • 528 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 01:57 PM

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะค่ะ
"เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"



#4 MiraclE...DrEaM

MiraclE...DrEaM
  • Members
  • 1368 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 03:46 PM

อ่า...เจอมาเหมือนกันครับ เรื่องที่ต้องอยู่ร่วมกับคนที่เค้ามีความเห็นไม่ตรงกับเราเรื่องวัด อืม...ก็ต้องดูชนิดของคนนะครับ ก่อนที่จะเริ่มอธิบายให้เค้าฟัง อย่างที่ผมสังเกตจะใช้หลักดังนี้

1) ถ้าเป็นประเภทฝังหัว อคติรุนแรง อธิบายและชี้แจงให้ละเอียด แค่ไหน ก็ไม่อยากจะเข้าใจ ย้ำว่า " ไม่อยากจะเข้าใจ" นะครับ คนประเภทนี้ เราก็ไม่ต้องไปอธิบายเรื่องวัดให้เค้าฟังหรอกครับ คงต้องปล่อยไป ถ้าเค้าเริ่มเรื่องก่อน เราก็เฉย ไม่ต้องแก้ต่าง ไม่ต้องตอบโต้ ให้เงียบเข้าไว้ หรือไม่เราก็เปลี่ยนประเด็นชวนเค้าคุยเรื่องอื่นไปเลย จะดีที่สุดครับ อธิบายไปก็เสียเวลา พาลแต่เค้าจะด่าวัดมากขึ้น เราก็ขุ่น เค้าก็แบกบาปมากขึ้น โอกาสที่เค้าจะมาเจอพระสัทธรรมก็ยิ่งยากขึ้นเพราะเค้ากล่าวจ้วงจาบพระรัตนตรัย จ้วงจาบพระธรรมกายซึ่งเป็นกายตรัสรู้ธรรม เพราะขนาดหลวงพ่อยังเคยพูดเลยครับว่า ถ้าจะด่า ก็ให้มาด่าหลวงพ่อ อย่าด่าไปถึงคำว่า "ธรรมกาย" เพราะบาปจะหนักมาก ถ้าเจอคนประเภทนี้ คงต้องปล่อยครับ

2) ถ้าเป็นประเภทไม่เข้าใจวัด แต่มีนิสัยบัณฑิต ยอมรับฟังเหตุผล เราก็คงต้องค่อยๆ อธิบาย จากเรื่องที่เข้าใจง่าย ไปหาเรื่องเข้าใจยาก อย่าอธิบายข้ามขั้นตอน ซึ่งอันนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัญญาและวิธีการพูดของตัวเราเองแล้ว คนประเภทนี้ ถ้าเราอธิบายเค้าเข้าใจแล้ว ก็ยังแบ่งได้เป็นอีก 2 นะครับ

(2.1) ความเข้าใจเรื่องวัดดีขึ้น แต่ก็ยังไม่สนใจทำบุญกับวัดเราอยู่ดี อันนี้ ก็อย่าบีบบังคับเค้า แต่ถ้ามีบุญประเภทที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนรวมหรือเรื่องที่อินเทรนที่เป็นทีรู้กันจากข่าวคราวทั่วๆ ไป และวัดเราไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ทำบุญวัดภาคใต้ ทำบุญช่วยน้ำท่วม อันนี้ ก็ลองชวนเค้าทำดู ให้เค้าพอมีสายบุญกับหมู่คณะเราบ้าง ถ้าเค้ามีบุญกับหมู่คณะมากขึ้น ในอนาคต เค้าก็สามารถเลื่อนมาเป็นกลุ่มที่ (2.2) ได้ครับ

(2.2) ความเข้าใจเรื่องวัดดีขึ้น และเริ่มสนใจมาทำบุญกับหมู่คณะกับวัดเรา ประเภทนี้ เราต้องดูแลให้ดีนะครับ นี่แหละ แสดงว่า เราเจอลูกพระธัมฯ เข้าให้แล้ว ให้เราค่อยๆ ประคับประคอง ค่อยๆ อธิบายธรรมะ จากง่ายๆ ไปยาก คอยอัพเดทข่าวคราววัดเราเป็นระยะ ว่าวัดกำลังทำอะไร ทำไปทำไม ทำเพื่อใคร ทำเพื่ออะไร อันนี้ ถ้าพูดให้ง่ายๆ คือ เราต้องทำตัวเป็นพี่เลี้ยง ค่อยๆ สอนเค้าไป ประคับประคองเค้าไป จนเค้าสามารถยืนและเดินบนเส้นทางสร้างบารมีด้วยตัวเค้าเองครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา

*********************

รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว

เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล


คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

#5 ปาลินารี

ปาลินารี
  • Members
  • 258 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 04:18 PM

สร้างตัวเราให้เป็นภาพลักษณ์ที่ดีของคนมาวัด ด้วยการไม่หงุดหงิดคนที่ไม่เห็นด้วย

ส่วนการอธิบายก็คงต้องดูตามความเหมาะสม หากเขายังไม่พร้อม การรีบเร่งอธิบาย จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง

ซีดี ก็น่าจะช่วยได้นะ ให้เพื่อนยืมไปดู หาเรื่องที่เขาสนใจ

อนุโมทนาบุญและเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ

#6 ยิ้ม

ยิ้ม
  • Members
  • 87 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 December 2005 - 07:05 PM

You have already done your best, my dear.

Show what you have been being 'better' as an evidence of what วัดพระธรรมกาย has taught.

Take it easy & Go on making merit. Time is so short.
^-^


#7 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 12:04 AM

คือว่ามีหลายคนนะค่ะที่ หันหลังให้วัดพระธรรมกาย
*** ถามว่าเขาหันหลังให้ด้วยเหตุผลมาจากสิ่งใด ผมว่าน่าจะมีการทำวิจัยโพลสำรวจความชอบและไม่ชอบบ้างก็ดีนะครับ เพราะตัวคุณเองเป้นเพียงฟันเฟืองเล็ก ๆ ในขณะที่ปัญหามันคือจักรกลทั้งระบบ คงต้องวิจัยปัญหากันอย่างจริงจังเลิกความคิดลำพังส่วนตัวได้แล้วครับ เพราะบางครั้งเราบอกว่าดี ถามว่าคนที่เห็นด้วยว่าดีมีมากกว่าหรือน้อยกว่า ธรรมดาของสิ่งใดก็ตามถ้าดีจริงแล้วไม่มีใครเขาปฏิเสธหรอกครับ****

อันที่จริงก็มีอยูมากมายใช่ไม๊ล่ะค่ะ แต่ว่า ในสังคมที่น้อยคนที่จะเข้าใจ แล้วมาว่าเรางมงายอย่างโน้นอย่างนี้
***ข้อหาที่คุณถูกหาว่างมงามคือเรื่องอะไรครับ***

(เคยแก้ปัญหามาแล้วน่ะค่ะ) ไม่เห็นด้วย พยายามอธิบายให้เค้าฟังแล้วนะค่ะ อีกอย่างไม่อยากทนกับคนที่มีความคิดคนล่ะแง่กับเราจังเลยค่ะ ทำไงดี เพราะว่า พอปะทะกน คราวไหน ส่วนมาก หนูจะขึ้นก่อนและทนไม่ได้ เป็นบาปอีกที่เราไม่ว่าเค้าทั้งๆที่เค้า มีสิทธิ์ คิดอีกแบบนึง ไม่อยากมีเศษกรรมติดตัวเพราะเรื่องแบบนี้ แล้วมันจะเป็นไรไม๊ ที่เราจะไปติผู้อื่น

***ถ้าหมู่คณะเราปรารถนาจะไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรมจริง ๆ หมายความว่า ทั้งมนุษย์และสัตว์ ตอลดภพ 3 ต้องยอมรับพฤติกรรม หรือการกระทำของหมู่คณะเรา โดยไม่มีหมู่คณะใด ๆ แตกแยก คำถาม ผมขอถามว่าเหตุใดชาวพุทธทั้งปวงจึงศรัทธาพระพุทธเจ้า??? พระพุทธเจ้าปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้สัพพสัตว์เลื่อมใส??? เหตุใดพระองค์ทรงฉันน้ำที่ทางเกวียน ก่อนปรินิพพาน??? และเหตุใดทรงเลือกที่จะปรินิพพานใต้ต้นสาละคู่ ?? เหตุใดไม่ทรงปรินิพพานที่เชตวัน หรือบุพพาราม??? ธรรมใดเป็นไปเพื่อความมักน้อยสันโดษ สงัดจากกิเลส ธรรมนั้นเป็นธรรมของพระองค์ครับ ถามว่าหมู่คณะเราปฏิบัติตามหรือไม่??? ปัญหาทั้งหลายต้องแก้ที่เหตุครับถ้าเหตุมาจากเราเองเราก็ต้องแก้ที่ตัวเองก่อนครับ คุณอย่าไปโกรธคนอื่นเขาเลยเพราะรากฐานพุทธศาสนาบ้านเรานิยมความมักน้อยสันโดษมายาวนานเป็นพัน ๆ ปีมาแล้วครับ****


หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#8 Nu

Nu
  • Members
  • 224 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 12:29 AM

เห็นด้วยกับคุณ xlmen ในหลาย ๆ กระทู้ค่ะ ตัวดิฉันเองก็พยายามกระซิบให้เจ้าหน้าที่หลายๆ ท่านได้หยุดเพื่อกลับมาพิจารณาหมู่คณะที่รักยิ่งของเราว่าเป็นเพราะเหตุใดที่มีผู้คนมากมายหลายกลุ่มไม่เข้าใจ ไม่ชอบ อธิบายอย่างไรก็ไม่ยอมฟัง

เพราะการที่จะเข้าถึงกลุ่มพวกเขาให้ได้นั้นน่าจะต้องเริ่มจากหยุดฟังเสียงของพวกเขาเสียก่อน ว่าเป็นเพราะเหตุใด อาจจะโดยวิธีไปถามตรง ๆ หรือถามทางอ้อมจากผู้ที่รู้จักคนกลุ่มนั้น (ตัวดิฉันเองก็อาสาหาข้อมูลให้หากทางเจ้าหน้าที่เห็นด้วยกับความเห็นนี้)

จากนั้นสิ่งใดที่หมู่คณะของเราทำอยู่ (แม้ว่าไม่ใช่สิ่งที่ผิด) ที่อาจจะสร้างภาพให้ห่างไกลเกินจากที่เขาเหล่านั้นจะรับได้ เราอาจจะต้องทบทวนว่าสามารถลดดีกรีสิ่งเหล่านั้นลงมาบ้างได้หรือไม่ ภาพลักษณ์ใดที่ชนหมู่มาก หรือ mass market เขาอยากเห็น ก็อาจจะต้องเริ่มสร้างภาพลักษณ์เช่นนั้นบ้าง เป็นต้นค่ะ ทั้งนี้เพื่อให้ช่องว่างระหว่าง "เขา" กับ "เรา" นั้นแคบลง อย่างที่ทำบุญวัดในภาคใต้นั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ

แต่ดิฉันเองก็ไม่ทราบว่ามีความคืบหน้าอย่างไรกับความคิดเห็นที่กระซิบให้เจ้าหน้าที่ไป ก็เพียงแต่อยากให้คนไทยทุก ๆ คนเข้าใจวัด และรักวัด รักสร้างความดีกันทุกคน หวังว่าเจ้าหน้าที่คงจะฟังความเห็นของนักเรียนใหม่ด้วยค่ะ

#9 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 11:39 AM

ตอนที่มีเสียงโจทย์จัน ด้วยความเข้าใจผิดพระพุทธเจ้าว่า พระองค์ไปทำให้ผู้หญิงคนอื่นตั้งท้อง พระองค์ยังอดทนได้เลยครับ เราเป็นลูกศิษย์พระองค์ก็ต้องอดทนได้เช่นกัน
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#10 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 12:53 PM

QUOTE
เห็นด้วยกับคุณ xlmen ในหลาย ๆ กระทู้ค่ะ ตัวดิฉันเองก็พยายามกระซิบให้เจ้าหน้าที่หลายๆ ท่านได้หยุดเพื่อกลับมาพิจารณาหมู่คณะที่รักยิ่งของเราว่าเป็นเพราะเหตุใดที่มีผู้คนมากมายหลายกลุ่มไม่เข้าใจ ไม่ชอบ อธิบายอย่างไรก็ไม่ยอมฟัง


แหม... จนท. วัด อ่านแล้วคงแอบน้อยยยย.. ใจ
ฟังดูเหมือน คนที่วัดไม่รับฟังเสียง"กระซิบ" ของคุณ NU เลย

ที่จริงแล้ว "การทำงานกับคนหมู่มาก" ก็"ต่างมีความคิดเห็นเป็นของตนทั้งสิ้น"
และ ดิฉันอง ก็ได้มีโอกาสทำงานให้วัดบ้าง
จึงรู้ว่า วัดของเราเป็น "วัดเป็น" ไม่ใช่"วัดตาย"

ดังนั้น วัดเราจึงมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอ

ดังนั้น คำแนะนำที่มีค่าของทุกท่าน จึงเพียงแต่รอโอกาสที่จะนำไปใช้เท่านั้น
และที่สำคัญ "เมื่อเรามีความคิดเห็นใดๆที่คาดว่าจะเป็นประโยชน์ ในการทำให้งานพระศาสนาแข็งแรง"

เราควรนำความคิดนั้น ไปแจ้งกับหน่วยงานที่นับผิดชอบโดยตรง
เพราะถ้าเรา "กระซิบ" กับน้องๆ ที่วัด
น้องๆ ก็ ไม่สามารถทำอะไรได้
เพราะวัดเรา เป็นองค์กรที่ใหญ่
ดังนั้น เหมือนเราไปติดต่องานตามองค์กรใหญ่ๆ เราต้องไปติดต่อให้ถูกแผนกนะคะ

ความเห็นของทุกคน มีค่าเสมอค่ะ
และความเห็นของทุกคนก็ถูกต้องทั้งนั้น
แต่ต้อง ขึ้นกับ เวลา และสถานการณ์ด้วย

อยากให้อ่านเรื่อง
"พ่อให้ลูกชาย 4 คน ดูตะเกียง"
แล้วทายว่า ตะเกียงสีอะไร
ปรากฎว่า ลูก 4คน ตอบสี คนละสีเลย
และ "ถูกต้องทุกคนด้วย"

อะฮ้า... มันยังไง

แล้วจะเขียนให้อ่านค่ะ
มันมุมมองที่ ช่วยให้เราเข้าใจ ว่าทำไม
คนเราจึงทะเลาะกัน/มองต่างกัน ในเรื่องๆ เดียวกันได้

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
" เกิดมาเพื่อ ทำพระนิพพานให้แจ้ง + แสวงบุญ + สร้างบารมีค่ะ "
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "


#11 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 02:27 PM

ขอแถมอีกนิดค่ะ

ก่อนออกไปทำหน้าที่กัลยาณมิตร ชักชวนให้คนทำความดี
ตัวของเรา "ต้องเคลียร์ตัวเองก่อน"
ว่า "เข้าใจ และทราบหรือไม่ ว่า วัดพระธรรมกาย

"สอนอะไร และ ทำอะไรเพื่อศาสนาและสังคมบ้าง"

ถ้าเราทราบ เราก็จะตอบปัญหา ที่มีคนไม่เข้าใจ ได้อย่างชัดเจน ด้วย"ใจที่ ร่าเริง เบิกบานในธรรม "
เพราะ ถ้าเรา "ไม่ชัดเจน" เวลามีคนมาต่อว่า วัด
ด้วยหัวใจ เรารู้ว่า "เขาไม่รู้จริง และเขาเข้าใจผิด"
แต่เราอธิบาย ให้เขาเข้าใจ ไม่ได้

เราเลยมีอาการ "หงุดหงิด"
คือไม่ได้หงุดหงิดเขา
แต่จริงๆ แล้ว หงุดหงิดตัวเอง
ที่ "พูด ไม่ ล่าย ดัง จายยยย"

แม่น บ่ ?

#12 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 04:11 PM

นี่แหละครับ การทำหน้าที่กัลยาณมิตร ท่านว่า ถึงได้ฝึก บารมีครบทั้ง 10 ทัศเลย ตั้งแต่
1. ทานบารมี เสียสละเวลาประกอบอาชีพ ไปทำหน้าที่
2. ศีลบารมี
3. เนกขัมมะบารมี ตอนนั้นต้องละความสะดวกสบายในกามคุณ 5 เดินสร้างบารมีไปตามบ้านเพื่อนๆ ญาติๆ
4. ปัญญาบารมี ต้องหาวิธีพูดอย่างไรให้เขาเข้าใจ พระพุทธเจ้า ก่อนจะไปโปรดใครพระองค์ตรวจตราดูบารมีของคนนั้นๆ ก่อน เช่นกัน เราจะไปเป็นกัลยาณมิตรให้ใคร ต้องหาข้อมูลก่อนว่า คนนั้นคนนี้ ชอบเรื่องนั้น เรื่องนี้ เป็นต้น
5. วิริยะบารมี ความพากเพียร
6. ขันติบารมี ความอดทน อันนี้คงไม่ต้องบอก กัลยาณมิตรเจอเองทุกคน จนมาเป็นหัวข้อกระทู้
7. สัจจะบารมี จริงใจต่อทุกคน และต่อความตั้งใจของตัวเอง
8. อธิษฐานบารมี ทำหน้าที่เพื่อให้ทุกๆคน ได้พบความสุขที่แท้จริง
9. เมตตาบารมี รักเขา ไม่โกรธตอบ เวลาเขาว่าเอา หรือ ไม่เห็นด้วย
10. อุเบกขาบารมี วางเฉย ในกรณีพบคนที่ดื้อมากๆ ก็ต้องปล่อยไว้ก่อน
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#13 abcd

abcd
  • Members
  • 50 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 07:19 PM

There must be an indepth reason why people see/interprete one thing in different ways. One point could be that some people would need rational explanation and time to synchronize the own belief to the fact (truth), if they wish. Second, some even mix up betweeen the truth and the belief. To me the truth is objective, i.e. whether one believes or not, it is a fact--the law that applies to every single life. Meanwhile the belief is subjective depending on each individual's background.

Today I tried to tell my non-buddish friend about "the Law of Life (Samsara)". I found it is difficult to make him accept it. I myself have not seen heaven but I believe it exists as a place. He thinks I was talking about "faith" not "fact". In other words, he implies that faith is generated from the belief, not from being proved and therefore one can believe and trust. I think this can cause diversion of interpretation of the fact. Two friends I discussed with can understand that drinking alcohol/smoking is bad for their healths but cannot understand why they will be punnished after they die or they are doing demerit. One of them said it is not a corruption!

Anyway, they found that this is an interesting issue to be discussed and further explored smile.gif I would be happy if anyone can discuss further...I agrree with Khun. Crystal mind คือไม่ได้หงุดหงิดเขา
แต่จริงๆ แล้ว หงุดหงิดตัวเอง ที่ "พูด ไม่ ล่าย ดัง จายยยย". Right, I need to find time to educate myself more and practice.


#14 crystal.mind

crystal.mind
  • Members
  • 280 โพสต์
  • Gender:Female
  • Location:BKK
  • Interests:Book Music

โพสต์เมื่อ 26 December 2005 - 08:37 PM

QUOTE
There must be an indepth reason why people see/interprete one thing in different ways


จะเล่าต่อค่ะ เรื่องลูก4คน ตอบสีตะเกียง อาจจะอธิบายได้ว่า
"ทำไม คนมักจะมีความเห็น หรือทัศนะ ที่ต่างกัน"

อะแฮ่ม.. กาลครั้งหนึ่ง
มีคุณพ่อหนึ่ง พาลูกชาย 4 คน เดินเข้าไปในห้องที่มีโต๊ะ 4 เหลี่ยมตั้งอยู่ตัวหนึ่ง
คุณพ่อบอกให้ลูกทุกคน เอาผ้าผูกตาของตนเองไว้
แล้วคุณพ่อก็นำตะเกียงใบหนึง มาวางบนโต๊ะ
แล้วบอกให้ลูกคนที่1 เปิดผ้าผูกตาออก แล้วถามว่า
"ลูกรัก ลูกเห็นตะเกียงไหม"
"เห็นครับ" ลูกตอบ
"ดีแล้ว ลูกเห็นตะเกียง สีอะไร.. อะอ้า... อย่าเพิ่งตอบ เดี๋ยวพ่อจะถามทีหลังนะ ตอนนี้ลูกผูกผ้าปิดตาไว้ตามเดิมก่อนนะ"

แล้วคุณพ่อ ก็ ให้ลูกชายคนที่ 2 เปิดผ้าผูกตาออก และถามเหมือนกัน และให้ปิดตาไว้เช่นเดิม... และ ทำเช่นนี้กับลูกคนที่3 และ4

เมื่อครบแล้ว พ่อก็ถามลูกทุกคน "ซึ่งมีผ้าปิดตาอยู่" ว่า
"ลูกรัก ตะเกียง สีอะไร"

ผลคือ ลูกๆ ตอบสีของตะเกียง ไม่เหมือนกันเลย
ทุกคนต่างทุ่มเถียงกัน ว่า ตนเอง"ถูกต้อง" คนอื่น"ผิด"
เมื่อปล่อยให้ลูกทะเลาะกัน จนเกือบจะวุ่นวายมากเกินไป

คุณพ่อ ก็บอกให้ลูกไ เปิดผ้าผูกตา

ฉับพลัน เสียงทุ่มเถียง ก็ กลายเป็นความเงียบ
เพราะ ตะเกียงที่คุณพ่อหมุนให้ ทุกคน "ดู รอบๆ + โดยทั่วถึงทุกด้าน"

ปรากฎว่า ตะเกียง เป็นรูป 4เหลี่ยม
และแต่ละคน ได้ดู-เห็นเพียงด้านเดียวเท่านั้น"

********
ก็แบบนี้แหละค่ะ
แต่ละคน ก็มี "ภูมิ รู้- ภูมิ ธรรม" ที่ไม่เท่ากัน
จึงทะเลาะกัน เพราะ "รู้ไม่จริง - รู้ไม่รอบ - รู้ไม่หมด"

เหมือนเด็ก ป.4 โต้วาทีกับ ดอกเตอร์ .น่ะค่ะ

ป.4 ก็ไม่เชื่อ ที่ ดร.พูด .... หาว่า "โม้"
เพราะตนเอง ยังเรียนรู้ไปไม่ถึง... จึงปฎิเสธ
" เกิดมาเพื่อ ทำพระนิพพานให้แจ้ง + แสวงบุญ + สร้างบารมีค่ะ "
"รักษา อารมณ์ดี + อารมณ์เดียว + อารมณ์สบาย ทั้งวัน "


#15 hmongkon

hmongkon
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 01:33 PM

ไม่ทราบคำว่า"หันหลัง"หมายถึงเฉพาะผู้ที่เคยมาวัดแล้วไม่มาหรือเปล่า


#16 Nu

Nu
  • Members
  • 224 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 December 2005 - 09:14 PM

ขอบคุณค่ะที่แนะนำ ดิฉันได้แจ้ง"ผู้ที่เกี่ยวข้อง"ไปนานแล้วค่ะ แต่ก็ไม่เห็นมี feedback กลับมาซักที คนที่น้อยใจคือคนที่ให้คำแนะนำและยื่นมือที่พร้อมช่วยเหลือให้คนนี้ค่ะ บางครั้งก็น้อยใจไม่เห็นมีใครสนใจเลย แต่ก็เข้าใจเพราะคงมีงานแยะ ไม่เป็นไรค่ะ ยังเกาะติดหน้าจอ dmc อยู่เสมอไม่หนีไปไหน

#17 Pro

Pro
  • Members
  • 134 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 08:56 AM

เรามีเมตตา กรุณา มุฑิตา และก็ต้องมีอุเบกขาด้วยครับ
ยิ้มแล้วรวย อ่านกระทู้อยู่ก็ยิ้มได้ครับ

#18 hmongkon

hmongkon
  • Members
  • 54 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 11:51 AM

กระทู้"องค์แห่งทูต"อาจช่วยแก้ปัญหานี้ได้นะ

#19 ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี

    "ความเพียรเครื่องเผากิเลสพึงกระทำเสียแต่วันนี้"

  • Members
  • 2171 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ราชอาณาจักรสยามประเทศ
  • Interests:ADVANCE MEDITATION

โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 12:37 PM

พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ บอกว่าต้องอดทน ไม่อดทนไปนิพพานไม่ได้ ต้องอดทนกันจริงๆ (ที่มา : พระธรรมเทศนาของพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) เรื่อง โอวาทปาฏิโมกข์)

#20 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 01:05 PM

ไม่มีอะไรแย่เกินไปเท่าใจเรา (ที่ไม่หมั่นรักษาให้ผ่องใสอยู่เสมอ) และก็ไม่มีอะไรที่ดีเกินกว่าใจเรา (ที่คิด แต่เรื่องกุศล และรักษาใจให้ผ่องใส) ที่คุณบอกว่าไม่อยากทน ไม่น่าจะถูกต้องนะครับ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังสอนว่า ขันติ ปรมัง ตโป ตีติกขา (ความอดทน เป็นความทนทาน เป็นตบะอย่างยิ่ง) เป็นคุณธรรมข้อสำคัญของผู้ที่จะทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับชาวโลก และอีกข้อก็คือ อนูปวาโท (การไม่เข้าไปว่าร้ายผู้อื่น) สรุปความก็คือ ถ้ามีศรัทธาและความตั้งใจดีแล้วที่อยากให้ผู้อื่นได้มีโอกาสเพิ่มพูนบุญบารมีให้แก่ตัวเขาเองแล้ว ตัวเราก็ต้องฝึกตัวให้มีคุณลัษณะของกัลยาณมิตรให้ครบถ้วนด้วย จึงจะได้ผลตามที่หวังนะครับ

#21 LiL' Faery

LiL' Faery
  • Members
  • 1160 โพสต์
  • Location:@ Time : Europe
  • Interests:Basic and Advance Meditation;วิชชา ธรรมกาย<br />Birth Day : 19 January

โพสต์เมื่อ 30 December 2005 - 07:24 AM

.....therefor it's best to ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย mean while try to do the best you can... remember if you can't help them in this life time then let's do it in the next life time.....
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ^_^ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง