มี 13 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[สิริปโภ]

เมื่อสัตว์เดรัจฉาน ทำอนันตริยกรรม จะมีบาปกรรมรุนแรงเท่ากับมนุษย์ทำหรือไม่ครับ

[Pro]

ผมว่า น่าจะ มีบาปกรรมรุนแรงไม่เท่ากันนะครับ เพราะการกระทำสัตว์บางชนิดก็อาจเป็นสัญชาตญาน ของมันครับ
**อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจนะครับ**

[ปาลินารี]

อืมม์ เห็นประเด็นนี้แล้วอึ้งเลย

ไม่เคยคิดเลยนะว่ามีประเด็นนี้หรือเปล่า

[xlmen]

มนุษย์ที่ทำกรรมหนักอนันตริยกรรม เพราะจิตมีโมหะกิเลสครอบงำสูง ในสัตว์เดรัจฉานก็มีโมหะครอบงำสูงเช่นกันครับ
การทำอนันตริยกรรมเพราะความไม่รู้ จัดเป็นบาปได้รับผลไม่ต่างจากคนทำครับเพราะกายในกายของสัตว์ก็คือกายมนุษย์ละเอียดเหมือนกันครับ...เท่าที่ผมเคยอ่านในพระไตรปิฏกพอจำได้ ขนาดแม้แต่กามีจิตเป็นอกุศลได้ทำการถ่ายมูลลงบนหัวของพระปัจเจกพุทธเจ้ายังต้องได้รับกรรมตกนรกเลยครับ...
ดังนั้นภัยในสังสารวัฏจึงน่ากลัวมากยิ่งมีความไม่รู้ในอดีต ปัจจุบัน อนาคต สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำแล้วอันตรายมากๆ ครับ
อย่างกรณีหมู่คณะของเราถ้าท่านใดที่ทำบุญหวังรวยกัน ขอให้ระวังกันให้มากๆๆ นะครับ เพราะทรัพย์สมบัติถือเป็นอภิสังขารมาร อย่างหนึ่งเหมือนกันครับ ถ้าบังเอิญชาติใดเราใช้ทรัพย์ในทางที่ผิดหลงทำกรรมชั่วมากมาย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รวยเป็นเศรษฐีเพียงชาติเดียวที่เหลือก็ลงนรกกันถ้วนหน้า ยาวนานกว่าจะกลับมารวยอีกครับ
ดังนั้น จึงควรปลูกนิสัยกลัวบาปอกุศลทุกชนิดให้มากๆ ในใจ ชนิดที่ขอให้ติดในสันดานไปเลยครับ เผื่อเกิดมาชาติใดพลาดท่าเป็นสัตว์เดียรัจฉานจะได้มีนิสัยที่ดีคุ้มตัวไว้ครับ

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

อย่างกรณีหมู่คณะของเรา ถ้าท่านใดที่ทำบุญหวังรวยกัน ขอให้ระวังกันให้มากๆๆ นะครับ เพราะทรัพย์สมบัติถือเป็นอภิสังขารมาร อย่างหนึ่งเหมือนกันครับ ถ้าบังเอิญชาติใดเราใช้ทรัพย์ในทางที่ผิดหลงทำกรรมชั่วมากมาย ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รวยเป็นเศรษฐีเพียงชาติเดียวที่เหลือก็ลงนรกกันถ้วนหน้า ยาวนานกว่าจะกลับมารวยอีกครับ

ขอเรียนชี้แจงต่อทุกท่านว่า กรณีดังที่คุณ xlmen ได้กล่าวมานี้ จะเกิดขึ้นได้ก่อต่อเมื่อ เราใช้ทรัพย์นั้นทำบุญแล้วตั้งจิตอธิษฐานไม่เป็น อาทิ อธิษฐานว่า ขอให้รวยแต่เพียงอย่างเดียว โดยไม่ได้อธิษฐานล้อมกรอบให้บุญกุศลที่ได้ทำไป มารักษากาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ ตั้งมั่นอยู่ในทางมรรคผลนิพพานโดยส่วนเดียว แต่ถ้าเราทำบุญอย่างถูกหลักวิชชา อธิษฐานล้อมคอกให้แน่นหนา ปัญหาดังกล่าวย่อมจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนครับ

[xlmen]

วัฏฏะสงสารยาวนานนัก แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมัยเป็นพระโพธิสัตว์ ก็ยังเคยเสวยพระชาติเป็นพญานาค ชื่อว่า ภูริทัตโต เพราะฉะนั้นผู้ที่ปรารถนาที่สุดแห่งธรรมจริงจึงไม่ควรประมาทในธรรมทั้งป่วง ตราบใดที่เรายังไม่ชนะกิเลสต้องเวียนเกิดเวียนตายด้วยอำนาจของกิเลสมาร อย่าประมาทเป็นดีที่สุดครับ

[Omena]

ก็เหมือนไฟน่ะค่ะ ใครโดนก็ร้อนกันทั้งนั้น ใครไม่รู้ว่าไฟร้อน เอามือไปจับ มันก็ไม่เย็นให้หรอกค่ะ

แต่ในกรณีว่าสัตว์เดรัจฉานมันไม่ตั้งใจก็จะน้อยกว่าที่ทำแล้วชอบใจ พอใจที่ทำบาป อย่างนี้ก็รับไปเต็มๆเลย

แก้ไขโดย Muralath 26 December 2005 - 05:48 PM

[สิริปโภ]

พระยามิลินตรัสถามกับพระนาคเสนว่า พระคุณเจ้า คนทำบาป โดยที่รู้ว่าเป็นบาป กับคนที่ทำบาป แต่ไม่รู้ว่าเป็นบาป อย่างไหน จะบาปกว่ากัน
พระนาคเสนตอบว่า มหาบพิต เหล็กร้อน คนที่รู้ว่าร้อนมาจับ กับคนที่ไม่รู้ว่าร้อนมาจับ ใครจะจับแรงกว่ากันใครจะร้อนกว่ากัน

[Omena]

พระยามิลินตรัสถามกับพระนาคเสนว่า พระคุณเจ้า คนทำบาป โดยที่รู้ว่าเป็นบาป กับคนที่ทำบาป แต่ไม่รู้ว่าเป็นบาป อย่างไหน จะบาปกว่ากัน
พระนาคเสนตอบว่า มหาบพิต เหล็กร้อน คนที่รู้ว่าร้อนมาจับ กับคนที่ไม่รู้ว่าร้อนมาจับ ใครจะจับแรงกว่ากันใครจะร้อนกว่ากัน

ถูกเลยค่ะ
สาธุ

[ไชยานุภาพ ปราบหงสาวดี]

อืมมม... กฎแห่งกรรมนี่ ถ้าจะว่าไปแล้ว หากเปรียบเป็นเช่นตาข่าย ก็เป็นตาข่ายที่ตาถี่เอามากๆ เลยทีเดียว เรียกได้ว่า ดักได้หมดทุกสิ่ง (ยกเว้นผู้พ้นไปแล้วจากภพ ๓ นี้) และกฎเหล็กอันนี้ ก็ไม่ได้สนใจด้วยว่า ผู้ที่กระทำผิดนั้น จะมีเพศหรือรูปกายในสภาวะใด ถ้าได้ชื่อว่าเป็นผู้ผิดแล้ว ย่อมได้รับโทษทัณฑ์อย่างเสมอเหมือนกันหมดโดยถ้วนหน้า อีกประการหนึ่ง ภพมนุษย์นี้ แม้จะเป็นภูมิกลางที่ใช้ไว้สำหรับสั่งสมบุญบารมี แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นภพภูมิที่ปกปิดไว้ซึ่งผลแห่งบุญและบาป เรียกได้ว่า กว่าจะรู้ จะเห็นได้ ก็ต่อเมื่อตายแล้ว เพราะฉะนั้น เราจึงต้องตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทในธรรม และยังกุศลทั้งหลายให้ถึงพร้อมอยู่เสมอนะครับ

[sithman]

เอ.. ผมเคยได้ยินมาว่า สัตว์เดรัจฉาน ทำอนันตริยกรรมไม่ได้นะครับ
คือแค่บาปมาก มีแต่มนุษย์ ที่จะทำอนันตริยกรรม ได้
เพราะเหตุว่า มนุษย์มีสติและมีเจตนาแรงกล้ากว่าสัตว์
มนุษภูมิ จึงเป็น ภูมิ ที่สามารถ ทำบาปได้มากที่สุด(อนันตริยกรรม)
ในขณะเดียวกัน ก็จะทำบุญได้มากที่สุด(โลกุตตรฌาณสมาบัติ)เช่นเดียวกัน

[hmongkon]

เคยได้ยินใน ศศชาดก สมัยพระชาติที่พระโพธิสัตว์ไปบังเกิดเป็นกระต่าย

ซึ่งกระต่ายโพธิสัตว์นี้ปรารถนาโพธิญาน มีจิตเมตตาที่จะเกื้อกูลพราหมณ์เฒ่า(ท้าวสักกะแปลงกายา)ให้หายจากการหิวโหย จึงให้พราหมณ์ก่อไฟ แล้วกระต่ายโพธิสัตว์จึงได้บำเพ็ญปรมัตถบารมีด้วยการบริจาคชีวิต โดยการกระโดดเข้ากองไฟ(หาอ่านตอนต่อกันเองหรือกัลยาณมิตรท่านอื่นจะเล่าเรื่องเป็นธรรมทานต่อก็ได้นะ)

[ชาร์ป]

โดน...แน่ๆ
ขนาดอีกามาแอบกิน อาหารพระ ยังไปเป็นเปรตเลย.....

ถ้าให้ชัวร์ๆ ก็ต้องรอพระเดชพระคุณหลวงพ่อ

[ปัจเจกชน บนทางสายกลาง]

กราบอนุโมทนาบุญครับ สาธุ อ่านแล้วอึ้งไปเลย