![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/46ba05aeeae9c8182c2f7af580127676?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
สงวนลิขสิทธิ์ ลับเฉพาะ ( ผู้ใคร่พ้นทุกข์ )
#1
โพสต์เมื่อ 22 January 2007 - 03:56 PM
ผู้ที่ไม่ได้ศึกษาพระธรรม ก็สามารถถอนความยึดมั่นถือมั่นในกายนี้ได้ เพราะเขามีความคิดว่า กายนี้ก็แค่เป็นที่อาศัยของจิต พอตายจิตก็ออกจากกาย เขายังเห็นว่าจิตเป็นเขา ของเขา.
ผู้ที่ศึกษาธรรมะ ย่อมรู้ และเห็นว่า จิตนี่ก็มิใช่เรา มิใช่ของเรา.
บางคราวจิตก็เป็นกุศล บางคราวจิตก็เป็นอกุศล
จิตที่คลุกคลีกับ กุศล บ่อยๆ ก็เป็นกุศลบ่อยๆ
จิตที่คลุกคลีกับ อกุศล บ่อยๆ ก็เป็นอกุศลบ่อยๆ
จิตที่คลุกคลีกับ กุศล ย่อมสูงกว่า จิตที่คลุกคลีกับ อกุศล
จิตที่เป็น กุศล จะเบา จิตที่เป็น อกุศล จะหนัก
ปุถุชน ทำกรรมดี ทางกาย วาจา ด้วย จิต ที่หนัก
อริยชน ทำความดี ทางกาย วาจา ด้วย จิต ที่เบา
จึงเห็นได้ว่า คนที่จิตเป็นอกุศล ก็สามารถ ประกอบกรรมดี ทางกาย และวาจา ได้.
ความดีที่แท้ต้องทั้ง กาย วาจา และจิต
บางคนถึงกล่าวว่า ฉันทำดีทำไมถึงไม่ได้ดี เพราะความดีที่ทำใช้แค่ กาย และวาจา เท่านั้น.
จิตที่เบา กับ จิตที่หนัก จิตไหนทุกข์กว่ากัน
เราแบกของเบา เพื่อนแบกของหนัก ใครทุกข์กว่ากัน
สังเกต จิต ตามดูจิต เมื่อไหร่จิตหนัก ก็รู้ เมื่อไหร่ จิตเบา ก็รู้
ดูเฉยๆ รู้เฉยๆ เดี๋ยว จิตมันจะสอนจิตเอง.
ถ้าเราเผลอ สติ, จิต จะทำงาน.
ถ้าเรามีสติ เราจะเห็นการทำงานของจิต.
ถ้าเรามีสติ จิตจะเข้าสู่ กระแสของกุศล ( สำหรับผู้ที่อบรมจิตให้เป็นกุศลเท่านั้น ).
ช่วงนี้ถ้าเราเผลอสติ เราจะไม่เห็นตัวเรา แต่เราจะเห็นว่าเราเป็นกุศล กุศลนี้เป็นเรา เป็นของเรา ( ทางนี้ไม่ถูก ).
แต่..ถ้าเราไม่เผลอสติ เราจะเห็นว่า จิตเป็นผู้ทำกุศล จิตทำงานของมัน ก็เท่านั้นเอง เราไม่ไปยินดีว่าจิตไปทำกุศล เราเพียงแต่เป็น ผู้รู้ ผู้เห็น เท่านั้น ไม่มีการปรุงแต่ง ( การปรุงแต่ง เกิดที่จิตเท่านั้น ).
ผู้ใคร่พ้นทุกข์ทั้งหลาย ท่านเห็นคุกไหม ท่านเห็นความทุกข์ที่ต้องเผชิญในคุกไหม ท่านเห็นผู้ชี้ทางออกจากคุกไหม ท่านเห็นทางที่ผู้ชี้แสดงให้ไหม ท่านเห็นประตูออกจากคุกไหม
ถ้าท่านเห็นคุก เห็นความทุกข์ทรมานในคุก เห็นผู้ชี้ทางออกจากคุก เห็นทางที่ผู้ชี้แสดง เห็นประตูออกจากคุกแล้ว
ท่านจะรออะไร ท่านจะพักอยู่ทำไม
ถ้าท่านจะรอ เพื่อนำเพื่อนๆของท่านออกจากคุกด้วย ก็ขอให้ท่านรออยู่อย่างผู้มี สติ รู้ตัว อยู่เสมอ และพ้นจากคุกนี้ขณะที่ท่านยังมีลมหายใจ ไม่เช่นนั้นท่านก็จักตายอยู่ในคุก.
ถ้าท่านต้องการจะพัก ก็ขอให้ท่านพักอย่างผู้มี สติ รู้ตัว อยู่เสมอ เพราะถ้าท่าน เผลอ ขณะที่ท่านพัก ท่านจะหลับและพบกับ ฝันร้ายบ้าง ฝันดีบ้าง การนอนหลับฝันอยู่ในคุก ผู้รู้ไม่สรรเสริญ.
คุก นี้ยาวไกลนัก ท่านจะรอเพื่อประโยชน์ของใคร ท่านจะพักเพื่อประโยชน์ของใคร ถ้าท่านยังประโยชน์ของตนไม่ได้ ท่านจะยังประโยชน์ให้ผู้อื่นได้อย่างไร.
ณ บัดนี้ แม้ขาข้างหนึ่งของท่านเหยีบ คุก ขาอีกข้าง เหยีบอยู่นอก คุก หากท่าน เผลอสติ ท่านก็ถูกชุดกระชาก กลับเข้ามาอยู่ในคุกได้.
*** ผู้รู้ สรรเสริญ ผู้ก้าวพ้นออกจากคุก และยังนำผู้อื่นออกจากคุกด้วย เพราะ ผู้นั้น คือ ผู้ที่ยังหน้าที่ของตนสำเร็จ และยังประโยชน์แก่ผู้อื่นด้วย.
ข้าพเจ้า ยังไม่สำเร็จหน้าที่ของตน แต่ก็ไม่รอใคร ไม่พักที่ไหน คุกนี้ไม่มีใครพาใครออกมาได้ มีแต่ผู้บอกทาง.
*** ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งปวง นามรูปดับ - วิญญาณดับ - นามรูปดับ - สฬายตนะดับ - ผัสสะดับ - เวทนาดับ - ตัณหาดับ - อุปทานดับ - ภพดับ - ชาติดับ - ชรา...มรณะ.........ดับ.
คนแขนสั้นก็โทษว่า บ่อลึก คนที่แขนยาวก็บอกว่า บ่อไม่ลึก
บ่อมันก็เป็นของมันอยู่อย่างนั้น มันไม่ลึก และไม่ตื้น
อย่าโทษว่าบ่อลึก โทษตนเองดีกว่า ว่าแขนของเราสั้น และใช้ปัญญาพิจารณา ดีกว่านั่งรอว่าสักวันแขนฉันยาวแล้วค่อยว่ากันใหม่ตอนนี้ขอพักก่อน.
บ่อลึก สำหรับคนแขนสั้น ฉันใด ธรรมะ นี้ก็ลึกซึ้ง ยากที่จะเข้าใจได้, สังสารวัฎนี้ ก็ยาวไกล สำหรับปุถุชนที่ยังมี มิฉาทิฐิ ฉันนั้น.
เมื่อไหร่ สัมมาทิฐิ มีขึ้น เมื่อนั้น ก็จะเห็นบ่อเดิมนั่นแหละ แต่ความลึกของมันหายไป. ที่ว่า ความลึกของมันหายไป เพราะมิจฉาทิฐิ หายไปเท่านั้นเอง.
ขอความเจริญในธรรมมีแก่ทุกท่านทั้งผู้ที่มี มิฉาทิฐิ เป็นที่อาศัย และผู้ที่มี สัมมาทิฐิ เป็นที่อาศัย.
โลกอยู่ภายใต้การครอบงำของชรา ก้าวเข้าไปสู่ชรา ไม่ยั่งยืน
โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่มีผู้เป็นใหญ่
โลกไม่มีอะไรเป็นของตน จำต้องละทิ้งสิ่งทั้งปวง
โลกพร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา.
- สละโลกได้ ก็พ้นทุกข์ได้
#2
โพสต์เมื่อ 22 January 2007 - 04:38 PM
#3
โพสต์เมื่อ 22 January 2007 - 05:27 PM
ถ้าเรามีสติ เราจะเห็นการทำงานของจิต.
ถ้าเรามีสติ จิตจะเข้าสู่ กระแสของกุศล
บทความดีมากเลยค่ะ
สาธุ
ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคือ...อย่ารัก...
#4
โพสต์เมื่อ 22 January 2007 - 06:33 PM
#5
โพสต์เมื่อ 22 January 2007 - 09:51 PM
#6
โพสต์เมื่อ 23 January 2007 - 01:52 AM
![](http://i141.photobucket.com/albums/r52/peacefulness072/Dhammas%20for%20citation/Webboard/038.gif)
It seems like I'd owe you a Thank again for bringing up the topic to remind everybody of something quite important in somehow.
![](http://i141.photobucket.com/albums/r52/peacefulness072/Dhammas%20for%20citation/Webboard/093.gif)
![](http://i141.photobucket.com/albums/r52/peacefulness072/Dhammas%20for%20citation/Webboard/156.gif)
![](http://i141.photobucket.com/albums/r52/peacefulness072/Dhammas%20for%20citation/Webboard/029.gif)
![](http://i141.photobucket.com/albums/r52/peacefulness072/Dhammas%20for%20citation/Webboard/Bar_06.gif)
![](http://i141.photobucket.com/albums/r52/peacefulness072/Dhammas%20for%20citation/Be%20fit%20787_DMC/Agintai-Jasit.gif)
ขอเชิญร่วม อนุโมทนาบุญ งานบุญกฐินพระราชทาน ที่ วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก คลิ๊กที่นี้
Who am I?__>>> CLick Here <<< to see my answer Post # 7
.
รวมภาพองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า: คลิ๊กที่นี้คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 58 files, 120.99 MB, for easy listening dharmas.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ D/L 121 really-good-to-read e-books, 295.67 MB.
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Free Download Manager ช่วย Download ไฟล์ใหญ่ๆ ต่างๆ ฟรีครับฟรี
คลิ๊กที่นี้ เพื่อ Download โปรแกรม Acrobat Reader V.5
.
The basic knowledge of Buddhism to become a better buddhist Edition 2 คลิ๊กที่นี้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
-= Hillary Clinton =-.... >>>>>>> CLicK HeRe <<<<<< To Be wisher, To Be smarter, and To Know Better !!!
#7
โพสต์เมื่อ 23 January 2007 - 10:04 AM
#8
โพสต์เมื่อ 24 January 2007 - 09:01 AM
![laugh.gif](style_emoticons/default/laugh.gif)
#9
โพสต์เมื่อ 04 February 2007 - 01:36 PM