พอดีหากระทู้เดิมไม่เจอเลยขอตั้งกระทู้ใหม่นะ อาจจะดูเป็นคำถามเด็ก ๆ หน่อยแต่ขอรบกวนเพราะสงสัยมานานแล้วคือ
1. การอนุโมทนา นั้นสามารถทำได้สำหรับบุญทุกบุญใช่ไม๊
----------------------------------------------
มีกรณีที่มีเพื่อนศาสนาอื่น เช่น ศาสนาอิสลาม ซึ่งทำบุญในศาสนาของเขาซึ่งก็คือการทำทานดี ๆ นี่เอง เพียงแต่มีวิธีปฏิบัติที่ต่างไปจากของเรา แล้วเราก็บอกอนุโมทนาด้วยนะ
ถ้าเป็นอย่างนี้จะกลายเป็นว่าเราเห็นว่าศาสนาอื่นเป็นของดีของถูกต้องไปด้วยหรือเปล่า (คือกลัวว่าจะพลัดไปศาสนาอื่นค่ะ อยากเกิดเป็นผู้ประพฤติธรรมในศาสนาพุทธทุกชาติทุกภพไป)
2. การอนุโมทนา นั้นามารถทำย้อนหลังได้ไม๊
------------------------------------
ข้อนี้สงสัยเพราะว่าหากมีเพื่อนบอกว่า อ้อ เคยทำอย่างนี้บุญที่วัดนี้ไปเมื่อปี 2538 เมื่อ 10 ปี ที่แล้วโน้น เราก็โอ้โห นำสมัยจริง ๆ แล้วก็กล่าวอนุโมทนา
ถ้าเป็นอย่างนี้น่าจะ ok ใช่ไม๊
3. การอนุโมทนา นั้นามารถทำย้อนล่วงหน้า ได้รึเปล่า
------------------------------------------
ข้อนี้สงสัยเพราะว่าหากมีเพื่อนบอกว่า อื่ม กำลังจะไปธุดงค์ปีใหม่นะ เราก็โอ้โหดีจังเลย (เราไปเที่ยว ฮ่า ฮ่า แย่จริงเรา) แล้วเราก็กล่าวอนุโมทนา ว่า "อนุโมทนาล่วงหน้านะจ๊ะ"
ถ้าเป็นอย่างนี้จะใช้ได้ไม๊
ขอบคุณค่ะ
![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/a54363e74286a8710c6ca5724a779d8a?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
การอนุโมทนาบุญ (ต่อจากกระทู้ มโทนา & อนุโมทนา)
เริ่มโดย Nu, Dec 28 2005 04:58 PM
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 04:58 PM
#2
*ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 05:04 PM
ได้
#3
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 07:37 PM
อนุโมทนาบุญ ก็คล้ายกับการแสดง มุฑิตาจิต แหละครับ
แค่เราได้ฟังเรื่องที่เป็นบุญกุศล เกิดจิตปิติยินดี หรือมุฑิตาจิต อิ่มใจสุขใจ จนต้องอุทานทางวาจาว่า "ยินดีด้วยครับ" หรือ โมทนาบุญด้วยครับ หรือ อนุโมทนาบุญด้วยครับ เพียงเท่านี้บุญก็เกิดในใจเราแล้วครับ
แค่เราได้ฟังเรื่องที่เป็นบุญกุศล เกิดจิตปิติยินดี หรือมุฑิตาจิต อิ่มใจสุขใจ จนต้องอุทานทางวาจาว่า "ยินดีด้วยครับ" หรือ โมทนาบุญด้วยครับ หรือ อนุโมทนาบุญด้วยครับ เพียงเท่านี้บุญก็เกิดในใจเราแล้วครับ
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน
#4
โพสต์เมื่อ 28 December 2005 - 09:57 PM
เห็นด้วยกับคุณ xlmen ครับ การอนุโมทนาบุญ คือ การมุทิตาจิต ยินดีเมื่อผู้อื่นทำความดี ในทางกลับกัน ถ้าคุณไปเห็นคนทำสิ่งไม่ดี ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดๆ เช่น คนที่ไปเชียร์คนต่อยมวยกัน ดีใจที่นักชกอีกคนโดนต่อย หรือ แม้แต่การประชาทัณฑ์คนร้าย แล้ว คนที่รู้เรื่องก็บอกว่า "สมน้ำหน้า เลวแบบนี้สมควรโดนแล้ว" อันนี้ก็เข้าข่ายอนุโมทนาบาปเหมือนกัน เพราะ มีจิตยินดีที่คนร้าย ถูกรุมประชาทัณฑ์ครับ ซึ่งจริงๆ แล้ว ถ้าเราทราบข่าว ก็ควรทำใจเป็นอุเบกขา คิดซะว่าเป็นกรรมของเค้า
ส่วนคำถามที่ถาม ขอตอบดังนี้ครับ
1) การอนุโมทนา ทำได้ทุกบุญครับ ไม่จำกัดว่า ต้องอนุโมทนาเฉพาะคนที่ทำบุญในศาสนาพุทธเท่านั้น แต่ถ้ากลัวว่าจะพลัดไปเกิดในศาสนาอื่น ก็ให้อธิษฐานกำกับสิครับ ว่า ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดในร่มเงาบวรพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกายไปทุกภพทุกชาติ
2) และ 3) ทำได้ครับ ทั้งย้อนหลังและอนาคต เพราะถือว่า เรามีจิตยินดีในความดีที่เขาได้ทำไปแล้วกับ ความดีที่เขากำลังจะไปทำครับ ได้บุญเหมือนกัน เพราะจิตมีมุทิตา ในความดีของเขาครับ
ส่วนคำถามที่ถาม ขอตอบดังนี้ครับ
1) การอนุโมทนา ทำได้ทุกบุญครับ ไม่จำกัดว่า ต้องอนุโมทนาเฉพาะคนที่ทำบุญในศาสนาพุทธเท่านั้น แต่ถ้ากลัวว่าจะพลัดไปเกิดในศาสนาอื่น ก็ให้อธิษฐานกำกับสิครับ ว่า ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้เกิดในร่มเงาบวรพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกายไปทุกภพทุกชาติ
2) และ 3) ทำได้ครับ ทั้งย้อนหลังและอนาคต เพราะถือว่า เรามีจิตยินดีในความดีที่เขาได้ทำไปแล้วกับ ความดีที่เขากำลังจะไปทำครับ ได้บุญเหมือนกัน เพราะจิตมีมุทิตา ในความดีของเขาครับ
สิ่งอัศจรรย์ ปรากฏ บนผืนหล้า
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
รักษ์ร่างพอสร่างร้าย ..... รอดตน
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
คำสอนของเดชพระคุณหลวงพ่อ
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#5
โพสต์เมื่อ 29 December 2005 - 03:03 AM
พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ ท่านสอนให้เรา "แสวงจุดร่วม สมานจุดต่าง" เพราะฉะนั้น เมื่อพบเห็นผู้ใดกำลังกระทำในสิ่งที่ดี ไม่ว่าการกระทำอันนั้น จะเป็นการกระทำในบุญเขตหรือนอกบุญเขตของพระพุทธศาสนาก็ตาม โมทนาสาธุการกับเขาไปเถิด บุญที่เกิดย่อมได้แก่ตัวเรา
#6
โพสต์เมื่อ 29 December 2005 - 11:00 AM
ทำได้ถ้าได้ทำ
#7
โพสต์เมื่อ 30 December 2005 - 07:59 PM
1. การอนุโมทนาบุญนั้น สามารถทำได้ทุกบุญครับ สำหรับการอนุโมทนาบุญในศาสนาอื่นนั้น ถ้าเขาทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา แล้วเราอนุโมทนาก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าเขาสวดอ้อนวอนให้ผู้ที่เขานับถือ ช่วยคุ้มครอง หรือ ทำผิดศึลแต่เข้าใจว่า ถูก เช่น เข้าใจว่าสัตว์เป็นอาหารที่พระเจ้าประทานมาให้มนุษย์ จึงเข่นฆ่าเต็มที่ อย่างนี้ อย่าไปอนุโมทนากับเขาครับ เพราะนั่นไม่ใช่บุญ เมื่ออนุโมทนา จึงไม่ใช่อนุโมทนาบุญ
2. อนุโมทนาบุญย้อนหลัง ก็ทำได้ครับ เหมือนเราเชียร์ให้คนทำความดี โดยพูดถึงความดีในอดีตที่เขาทำมา เขาก็จะนึกถึงตาม และก็จะปลื้ม แต่เมื่อเทียบกับการทำความดีเดี๋ยวนั้น แล้วอนุโมทนาบุญเดี๋ยวนั้น เขาจะปลื้มยิ่งกว่านะครับ เพราะกำลังทำอยู่
3. อนูโมทนาบุญล่วงหน้าก็ทำได้ครับ เหมือนเชียร์ให้เขาตั้งใจทำความดี ที่เขายังไม่ได้ได้ทำ แต่ตั้งใจทำอยู่ ทำให้เขาตั้งใจมากยิ่งขึ้น
2. อนุโมทนาบุญย้อนหลัง ก็ทำได้ครับ เหมือนเราเชียร์ให้คนทำความดี โดยพูดถึงความดีในอดีตที่เขาทำมา เขาก็จะนึกถึงตาม และก็จะปลื้ม แต่เมื่อเทียบกับการทำความดีเดี๋ยวนั้น แล้วอนุโมทนาบุญเดี๋ยวนั้น เขาจะปลื้มยิ่งกว่านะครับ เพราะกำลังทำอยู่
3. อนูโมทนาบุญล่วงหน้าก็ทำได้ครับ เหมือนเชียร์ให้เขาตั้งใจทำความดี ที่เขายังไม่ได้ได้ทำ แต่ตั้งใจทำอยู่ ทำให้เขาตั้งใจมากยิ่งขึ้น
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#8
โพสต์เมื่อ 01 January 2006 - 10:45 PM
อนุโมทนาบุญกับคุณหัดฝันค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 03 January 2006 - 07:24 PM
ขอเสริมต่อจากพี่หัดฝันนะครับ ในกรณีที่เป็นการอนุโมทนาบุญล่วงหน้านั้น จะได้รับอานิสงส์อย่างเต็มที่ก็ต่อเมื่อ ได้ประกอบเหตุในปัจจุบันไว้แล้วอย่างสมบูรณ์ครับ