22 เมษายน 2550 มาหล่อองค์พระกันเถอะ
เหตุใดต้องสร้างองค์พระ เหตุใดต้องได้กายมหาบุรุษ
ทั่วแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ไม่มีที่ไหนที่ทำวิชชา และไม่มีที่ไหนที่สว่างที่สุดเท่ากับจักรวาลดวงนี้ ย่อจักรวาลทั้งหลายไม่มีที่ไหนที่สว่างที่สุดเท่ากับชมพูทวีปนี้ ย่อลงจากชมพูทวีปทั่วประเทศทั่วโลก ไม่มีที่ไหนที่สว่างที่สุดเท่ากับประเทศไทย ย่อลงมาในประเทศไทยไม่มีที่ไหนที่สว่างที่สุดเท่ากับวัดพระธรรมกาย นี่คืออานุภาพของวิชชาธรรมกายที่บอกว่าเนื้อนาบุญ ฉะนั้นหลวงพ่อจึงพูดเอาไว้ว่าเรามาเจอเนื้อนาบุญแล้ว เวลาทำบุญก็ทำให้เต็มที่ โดยเฉพาะชาติสุดท้าย หลวงพ่อบอกว่าเวลาเรามาเรียงตรงกัน ใครมีขันตัก ตักได้บุญเท่าไหร่ จ้วงแล้วแต่ เลือกได้ตามใจชอบ แต่ชาติสุดท้ายทุกคนจะต้องเป๊ะเสมอกัน ถ้าเป็นกายลักษณะมหาบุรุษก็ต้องเป็นกายลักษณะมหาบุรุษเท่ากัน แม้อย่างอื่นสมบูรณ์แต่ขาดบางอย่างไม่ได้ จะต้องสมบูรณ์พร้อมเหมือนกันหมดทุกอย่างเลย
ทำไมเราจะต้องเอากายลักษณะมหาบุรุษ เวลาเรามาจ้วงมาตัก หลวงพ่อบอกว่าบางครั้งเราไม่เข้าใจหรอก ทำไมหลวงพ่อจึงให้พวกเราสร้าง โดยเฉพาะสร้างองค์พระ มันสำคัญอย่างไร กายลักษณะมหาบุรุษไม่ใช่จะหาได้โดยง่าย ในยุคนี้ยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าพระสมณโคดมมีกายลักษณะมหาบุรุษเพียงกายเดียว คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น นั่นหมายความว่า ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามใครก็ได้ที่ได้กายลักษณะมหาบุรุษไม่ว่าที่สุดแห่งรูปสมบัติ ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ ที่สุดแห่งคุณสมบัติจะบังเกิดมีความพร้อมในเขาบุคคลนั้น แต่การได้กายลักษณะมหาบุรุษไม่ใช่เป็นเรื่องที่ธรรมดา ต้องสั่งสมบารมีซ้ำแล้วซ้ำอีก
กายลักษณะมหาบุรุษมี 2 กาย คือ 1. กายที่เป็นเกศดอกบัวตูม 2. กายที่เป็นเกศจอมกระหม่อม แต่ทั้งสองส่วนนี้ก็ต้องอาศัยกายลักษณะมหาบุรุษเหมือนกัน แต่สุดท้ายมีอยู่ประเภทหนึ่งที่สามารถเอาทั้งกายหยาบสวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่หลวงพ่อท่านเคยพูดถึงในพระไตรปิฎกว่า “ดูก่อนอานนท์ เป็นไปได้รึพระเจ้าข้าที่คนสามารถไปสู่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ไปสู่พรหมโลกได้ด้วยกายเนื้อ” พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า “เป็นไปได้เมื่อไหร่ก็ตาม คนเอากายในกาย เพ่งกายในจิต เพ่งจิตในจิต เพ่งธรรมในธรรมก็สามารถซ้อนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างกายหยาบกับกายละเอียด ก็สามารถน้อมจิตไปสู่ดาวดึงส์ก็ไปดาวดึงส์ทั้งกายหยาบได้
ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามแก้วเป็นรูปทรงใบนี้ ถ้าเราสามารถทำรูปทรงของแก้วให้เป็นลักษณะถ้าสวมปุ๊บก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ถ้าหล่อแก้วเป็นพลาสติกออกมาปึ๊บ ถ้าสวมปุ๊บก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ เพราะกายลักษณะมหาบุรุษก็คือกายของพระธรรมกายที่เป็นภายใน ทีนี้ถ้าเราต้องการให้ไปทั้งกายหยาบ คนคนนั้นจะต้องได้กายลักษณะมหาบุรุษ เพราะถ้าไม่ได้กายลักษณะมหาบุรุษก็สวมไม่สนิทไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หลวงพ่อพูดไว้ชัดว่าเราได้ตัวถังบูดๆเบี้ยวๆ หลวงพ่ออยากจะให้พวกเราได้ตัวถังที่เป็นกายลักษณะมหาบุรุษ ทุกครั้งที่ท่านให้พร ท่านจะบอกให้เราได้กายลักษณะมหาบุรุษ เพราะตรงนี้ไง
ทีนี้วิธีลัดวิธีย่อในการได้กายลักษณะมหาบุรุษคือต้องสร้างองค์พระ นี่คือเหตุผลที่ท่านให้เราสร้างองค์พระ เพราะการสร้างองค์พระปฏิมาคือการย่อเอากายลักษณะมหาบุรุษของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามา แต่กายลักษณะมหาบุรุษที่พวกเราสร้างเป็นกายลักษณะมหาบุรุษของพระธรรมกายเกศจอมกระหม่อม คือเส้นขนขดเป็นทักษิณาวัตร แต่จะไม่มีเป็นดอกบัวตูมขึ้นมา จะเป็นจอมกระหม่อม ทำไมต้องเป็นเกศจอมกระหม่อม เพราะว่าเกศจอมกระหม่อมเป็นกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ปรินิพพานด้วยกายเนื้อไม่ใช่ด้วยกายละเอียด คือเอารูปลักษณ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่พระองค์ไปด้วยกายเนื้อนั่นแหละมาถ่ายทอดปุริสลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ และอนุพยัญชนะ 80 ประการ
เหมือนกับเราได้สร้างรูปจำลองเปรียบของพระพุทธเจ้า แล้วสร้างแล้วสร้างอีก จนกระทั่งไม่มีอะไรที่สามารถเป็นช่องว่าง ถ้าจะทำบุญอะไรก็ตาม ต้องทำทีเดียวแล้วใช้ได้ไปถึงที่สุด บุญตรงนี้ เพราะว่าเราทำทีละครั้งหลวงพ่อบอกชัดว่าบุญนี้เป็นบุญยิ่งใหญ่ บุญสำคัญ และเป็นบุญที่สุดๆมาก ทุกครั้งที่เราได้ทำปั๊บ อันดับแรกเราจะได้กายมหาบุรุษ ไม่มีวิธีลัดอื่นใดเลยนอกเหนือจากวิธีนี้ มีคนหนึ่งขี้โกรธ แต่ปีติใจมากได้ทำบุญพระประธาน ดีใจปีติใจ แต่เป็นคนขี้โกรธมาก พอตายไปแล้ว ไปเกิดเป็นยักษ์ แต่เป็นยักษ์ที่หล่อ ผิวสีทอง เวลาเดินไปที่สมาคมของยักษ์จะยกแขนมาดูเลย เพราะอานิสงส์ที่สร้างพระประธานด้วยสีทองคำ จึงบอกว่านี่แหละเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ เราจะได้วิธีลัดในการได้กายลักษณะมหาบุรุษ ทำไปเถอะซ้ำแล้วซ้ำอีก หล่อไปให้เต็มที่
