ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* - - - - 1 คะแนน

บัญญัติพระพุทธศาสนาในรัฐธรรมนูญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ตาล

ตาล
  • Members
  • 69 โพสต์
  • Location:ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เขตของบรมโพธิสัตว์

โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 03:19 PM

ตอบข้อสงสัยสาธารณะเรื่องการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไทยมาตราหนึ่งว่า“มาตรา...ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ”
มีบางท่านคัดค้านว่าไม่ควรบัญญัติว่า “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ด้วยเหตุผลที่มีผู้สรุปมาให้เป็น ๑๗ ประเด็น จึงขอตอบไปแต่ละประเด็นดังต่อไปนี้

มีบางท่านคัดค้านว่าไม่ควรบัญญัติว่า “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ด้วยเหตุผลที่มีผู้สรุปมาให้เป็น ๑๗ ประเด็น จึงขอตอบไปแต่ละประเด็นดังต่อไปนี้



๑. เขาเห็นว่า “ประชาชนควรมีเสรีภาพทางศาสนา มีสิทธิเสมอภาคเหมือนสากล โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว”
ตอบว่า : เรากำลังพูดถึงองค์กร เรากำลังพูดถึงสถาบัน ไม่ใช่พูดเรื่องส่วนบุคคล เรื่องเสรีภาพส่วนบุคคล เรื่องสิทธิส่วนบุคคล ทุกคนมีเต็มที่ตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล เรื่องนี้อย่าหลงประเด็น เพราะผู้เรียกร้องเขาต้องการความมั่นคงของสถาบันโดยไม่ได้คิดจะไปลิดรอนสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลแต่ประการใด



๒. เขาเห็นว่า “ทุกศาสนาล้วนสอนให้เป็นคนดีมีสันติสุข ไม่ควรกำหนดไว้ อาจทำให้เกิดความแบ่งแยกแตกสามัคคี”
ตอบว่า : คำว่าสอนให้คนเป็นคนดีเหมือนกันนั้นไม่จริง การเริ่มต้นดีไม่เหมือนกัน กระบวนการทำดีไม่เหมือนกัน ผลการทำดี ไม่เหมือนกัน ลองคิดดูให้ดีเราไม่เคยได้ยินชาวไทยพุทธสร้างเหตุร้ายทำให้คนตายเป็นสิบเป็นร้อย ตลอดประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ไม่เคยเปื้อนเลือด
ตลอดประวัติศาสตร์ชาติไทยที่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ไม่เคยมีการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาแก่ปัจเจกบุคคลใด ๆ ทั้งไม่เคยสร้างความแตกแยก ถ้าจะมีก็เป็นการแยกตัวเองของคนอื่นเขาเช่น แยกกิน แยกอยู่ แยกแต่งตัว แยกครัว แยกอาณาเขต เป็นต้น ทั้งนี้เรารู้กันมานานว่าประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติมานับพันปี
๓. เขาเห็นว่า “ศาสนาบางศาสนามีประชากรโลกนับถือมาก หากไทยมีเสรีภาพ ทางศาสนาจะช่วยให้ได้รับความสนับสนุน เป็นประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง เป็นผลดีต่อชาติโดยรวม”
ตอบว่า : ข้อนี้น่าเห็นใจผู้คัดค้านมาก ไม่รู้คิดได้อย่างไร ความเป็นเมืองพุทธมันเป็นการทำให้ประเทศไทยด้อยพัฒนากระนั้นหรือ ! ต่างชาติเขาไม่เข้ามาประเทศไทยเพราะเราส่วนมากนับถือพระพุทธศาสนาอย่างนั้นหรือ !ผลร้ายทั้งปวงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเพราะคนไทยส่วนมากนับถือพระพุทธศาสนากระนั้นหรือ ! การเมืองไทยที่เหลวแหลกทั้งหลายทั้งปวงเพราะไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติอย่างนั้นหรือ ! เขาคิดแบบยอมขายชาติขายศาสนาอย่างนี้หรือ ?



๔. เขาเห็นว่า : ในประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันข้าราชการบางส่วนขาดความเที่ยงธรรม นำความคับแค้นใจให้แก่ศาสนิกชนอื่น อยู่มาก หากมีการบัญญัติให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติจะยิ่งขาดความเสมอภาค จักทำให้ขาดสันติสุข ต้องการแบ่งแยกเป็นอิสระ
ตอบว่า : ข้อนี้เห็นว่าผู้คัดค้านสับสนมาก เขายกความชั่วของข้าราชการบางคนมาใส่ให้พระพุทธศาสนาได้อย่างไม่เคอะเขิน ทำไมเล่าคนเขาทำชั่วแล้วมายกความชั่วให้พระพุทธศาสนา คุณเรียนจบปริญญาชั้นประถมไหนจึงคิดได้อย่างนี้
ต้องถามอีกครั้งว่าการคิดแบ่งแยกเป็นอิสระเพราะไทยเรามีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติจริงหรือ ?
ตอนนี้ในสามจังหวัดภาคใต้ของไทยชาวพุทธกำลัง ถูกไล่ ทั้งฆ่าตัดคอ ทั้งฆ่าแล้วเผา นี่เป็นเพราะพระพุทธศาสนาไม่ให้ความเสมอภาคแก่เขาผู้ฆ่าผู้ทำร้ายผู้อื่นที่เป็นชาวพุทธแน่หรือ ? คุณคิดผิดถนัดแล้วนะ



๕. เขาเห็นว่า : ศาสนิกชนอื่นไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสังคมในประเทศ เห็นว่าจำกัดสิทธิเสรีภาพทางศาสนาเช่นการแต่งกาย การประกอบศาสนกิจเป็นต้น
ตอบว่า : ต้องช่วยยกตัวอย่างมาดูหน่อยว่าพระพุทธศาสนาไปบังคับศาสนิกในศาสนาอื่นเรื่องการแต่งตัว เรื่องการประกอบศาสนกิจเป็นต้น ช่วยสืบหามาให้ตลอดประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วย ถ้ามิฉะนั้นจะกลายเป็นการพูดชุ่ยไปหน่อย เคยได้ยินข่าวประเทศฝรั่งเศส ออกกฎหมายห้ามนักเรียนแต่งตัวคลุมหน้าเข้าเรียนในโรงเรียนบ้างหรือเปล่า? การจะพูดอะไรออกมานั้น ขอฝากช่วยคิดก่อนพูดหน่อย ยืนยันได้เลยว่าพระพุทธศาสนาไม่เคยไปบังคับศาสนิกในศาสนาใดมา แต่งตัวอย่างชาวพุทธแน่นอน และการบัญญัติว่าประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติก็ไม่ใช่เรื่องไปบังคับใครมาแต่งตัวแบบชาวพุทธ



๖. เขาเห็นว่า : เป็นหลักสิทธิมนุษยชนที่บุคคลทุกเพศทุกวัยทุกศาสนาควรมีความเท่าเทียมเสมอกันจะแบ่งแยกจำกัดสิทธิมิได้
ตอบว่า : นี่เรากำลังจะเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ชาวโลกหรือว่าเราจะเขียนเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ชาวไทยกันละนี่ ก็ในเมื่อคนไทยได้ให้สิทธิเสรีภาพแก่ทุกคนอยู่แล้ว เราไปบังคับใครให้เปลี่ยนศาสนา
นี่น่าจะเป็นไปได้ว่าคนพูดไม่ใช่ชาวพุทธและมุ่งหวังอยู่ว่าจะหาศาสนาอื่นมาเป็นใหญ่ในแผ่นดินนี้ และถามต่อไปว่าศาสนาใดเล่าที่ให้สิทธิเสรีภาพแก่ปัจเจกบุคคลมากกว่าศาสนาพุทธ ?

๗. เขาเห็นว่า : การที่เมืองไทยมีพุทธศาสนิกชนมาก แต่ในเชิงปฏิบัติแล้ว เห็นได้จากข่าวประจำวันว่ามีปัญหามาก จึงเป็นชาวพุทธแต่ปากเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่เข้าวัดปฏิบัติศาสนกิจสม่ำเสมอมากเหมือนศาสนิกอื่นที่มั่นคงในศีลวัตรชัดเจนเป็นส่วนใหญ่

ตอบว่า : ขอแย้งอีกครั้งว่านั่นเป็นเรื่องส่วนบุคคลและเป็นเสรีภาพ ในการตัดสินใจของเขาเอง ไม่ใช่เรื่องที่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ไม่ใช่เรื่องขององค์กร ไม่ใช่เรื่องของสถาบัน และเนื่องจากพระพุทธศาสนาไม่มีศาสนบัญญัติให้แขวนคอ ตัดคอ คนทำผิดหลักศาสนา ไม่บังคับให้คนมาศรัทธาในพระรัตนตรัยที่เขาเรียกว่าให้เสรีภาพ และสอนเรื่องห้ามฆ่าผู้อื่น และถามด้วยว่าเคยมีชาวพุทธไทยไประเบิดเครื่องบิน ระเบิดตึก ระเบิดพลีชีพเพื่อศาสนา เพื่อศาสดาที่ไหนบ้าง คุณใส่ร้ายพระพุทธศาสนาเกินไปแล้ว และก็มั่วมากไปแล้ว

๘. เขาเห็นว่า : พุทธบริษัทด้วยกันเองเห็นว่าชาวพุทธไม่ควรยึดติดในบัญญัติ ให้มุ่งปฏิบัติธรรมอย่างสงบ แผ่เมตตาต่อทุกผู้ทุกนามตามหลักอุเบกขา ใม่ควรยึดมั่นถือมั่น
ตอบว่า : เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าชาวพุทธที่ยังไม่ฉลาดพอก็ยังพอมีอยู่ เขาเหล่านั้นยังแยกแยะไม่ออกว่าพระพุทธเจ้าสอนธรรมมีความ มุ่งหมายอย่างไร ขอชี้แจงว่า พระพุทธเจ้าสอนให้คนอยู่กับโลกอย่างมีความสุขก็มี สอนให้ปฏิบัติตนเพื่อไปเป็นเทพในภพนี้และภพหน้าก็มี สอนให้ปล่อยวางเพื่อพ้นโลกก็มี ตอบด้วยอุปมาง่าย ๆ ไม่ต้องไปคิดเรื่องของสูงเช่นศาสดา เช่นชายใดจะมีเมียสักคน ครั้นมีแล้วเมียจะไปนอนกับชู้ใดก็ได้โดยถืออุเบกขา จะเอาอย่างนั้นหรือ ชาวพุทธผู้ฉลาดแล้วเขารู้ว่าไม่ใช่ เพราะการปล่อยวางแบบที่ว่านั้นชาวพุทธเขาเรียกว่า อัญญานุเบกขา แปลว่าอุเบกขาโง่หรือปล่อยวางแบบโง่ เรื่องความมั่นคงของสถาบันชาติ สถาบันพระพุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องใช้อุเบกขาโง่แบบนั้น ถ้าผู้ตั้งข้อคัดค้านเป็นคนต่างศาสนาก็ขอให้เข้าใจเรื่องอุเบกขาเสียใหม่



๙. เขาเห็นว่า พุทธบริษัทเห็นด้วยกับศาสนิกอื่นว่าชาวพุทธไม่ปฏิบัติตนเป็น ศาสนิกที่ดี นับถือพระพุทธศาสนาตามบรรพบุรุษโดยไม่ได้เกิดจากความศรัทธาด้วยตนเอง จึงย่อหย่อนในการประยุกต์พุทธธรรมนำมาใช้ในวิถีชีวิตอย่างแท้จริง
ตอบว่า : แล้วรู้ไหมว่าศาสนิกในศาสนาอื่นที่ปฏิบัติตัวเลว ๆ ก็มี และเขาเองก็ยอมรับ เคยติดตามฟังรายการวิทยุที่เป็นเสียงจากศาสนิกในศาสนาอื่นบ้างหรือไม่ เขาเป็นห่วงสถานการณ์ศาสนาของเขาเพียงไร ลองฟังคลื่นคุณธรรมเขาบ้างก็ได้ แล้วต้องขอให้ศึกษาด้วยว่ามีศาสนิกใดบ้างที่ไม่ได้นับถือศาสนาตามบรรพบุรุษของตน
อย่างมุสลิมนี่เขาสอนกันมาตั้งแต่อนุบาลที่เขาเรียกว่าโรงเรียนฏาฎีกาเลยนั่นแหละเขาปลูกฝัง อบรม บ่มเพาะตั้งแต่เยาว์วัย ทำไมไม่ศึกษาสิ่งเหล่านี้ของเขาบ้าง ของเราชาวพุทธนี่เพราะรัฐบาลที่แล้ว ๆ มา ไม่เอาไหน
เหตุการณ์จึงเลวร้าย ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบันยังมีคนออกมาค้านแบบไม่เอาไหนอีก แล้วจะเอาอะไรกับศาสนิกอันธพาล อย่าไปเอาคนเลวมาเป็นแบบอย่างซิ ชาวพุทธที่ดี ที่ช่วยสร้างชาติมามีมากมาย มองไม่เห็นกันบ้างหรือไร



๑๐. เขาเห็นว่า วงการพุทธศาสนาในไทยมีปัญหาด้านการปกครองคณะสงฆ์ การขาดผู้นำที่เข้มแข็งสามารถเป็นศูนย์รวมใจชาวพุทธเป็นหนึ่งเดียว แตกสลายไปหลายกลุ่มหลายพวก รวมทั้งความไม่ชัดเจนในหลักธรรม มีความสับสนปนเปกับลัทธิความเชื่ออื่นจนแยกได้ลำบากที่จะเห็นแก่นพุทธธรรมอย่างแท้จริง
ตอบว่า : นี่แหละเราจึงต้องการเครื่องมือคือกฎหมายมาสร้างความเข้มแข็งให้องค์กรหรือสถาบัน แต่อย่าเข้าใจว่าพระพุทธศาสนาคือพระสงฆ์ พระสงฆ์เป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของพระพุทธศาสนาเท่านั้น สถาบันพระพุทธศาสนาประกอบด้วยอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เช่นอุบาสกอุบาสิกา วัดวาอาราม โบสถ์วิหารเป็นต้น อีกประการหนึ่งเคยลองศึกษาไหมว่าศาสนาอื่น ๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทยนี้ศาสนิกเขา ไม่แตกแยกกัน ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ปัจจุบันเขามีกันกี่นิกาย กี่หมู่ กี่พวก กี่คณะ ทั้ง ๆ ที่เขามีส่วนแบ่งประชากรไทยเพียง ๕% เศษ ๆ (เป็นพุทธ ๙๔.๗๕ % ตัวเลขจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๔๓) และประเด็นสุดท้ายของข้อนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะในศาสนาอื่นเขาสอนแต่เรื่องศรัทธา จงรักภักดี ความรักเป็นหลัก ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเข้าใจ แต่พระพุทธศาสนาสอนมากกว่านั้น คือสอนตามความเป็นจริงในทุกเรื่อง แต่จะสรุปลงที่สูตร ทาน ศีล ภาวนา และสูตร ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างนี้ไม่ชัดเจนอีกหรือ ?

๑๑. เขาเห็นว่าชาวพุทธควรจะเปิดใจกว้างให้โอกาสศาสนิกอื่นได้ศึกษาภาษาและหลักธรรมตามความเชื่อของศาสนาอย่างเสรี เพื่อผลในการสืบทอดศาสนาที่ทุกศาสนาต้องกระทำทุกยุคสมัย
ตอบว่า : โยนความผิดให้ชาวพุทธอีกแล้ว ลองคิดดูให้ดี ๆ เถอะ ชาวพุทธไปห้ามชาวคริสต์ ชาวอิสลาม ชาวฮินดู ชาวซิกข์เขาที่ไหน ? เมื่อไร ? ข้อขัดแย้งนี้น่าจะเป็นข้อขัดแย้งที่เหลวไหลไร้สาระที่สุด ไม่เกี่ยวอะไรกันเลยกับการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไทยว่า “ประทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ”
เพราะนี่ไม่เกี่ยวกับการจัดการศึกษาภาษาทางศาสนา แต่ภาษาไทยนี่ซิที่คนไทยทุกคนควรจะเรียนเพื่อให้รู้และสื่อสารกันได้กับคนไทย ไม่ใช่เป็นคนไทย อยู่ในประเทศไทย แต่พูดภาษาไทยไม่เป็น ไม่รู้เรื่องภาษาไทย
ความจริงคนใดที่รู้ภาษาชาวโลกมากเท่าใด ย่อมได้เปรียบผู้อื่นมากเท่านั้นมิใช่หรือ คุณคิดอะไร ? คิดได้อย่างไร นี่ ?



๑๒. เขาเห็นว่าหลักสูตรการศึกษาควรเปิดโอกาสให้เยาวชนเรียนรู้ประวัติศาสตร์และศาสนธรรมโดยครูในศาสนานั้น ๆ ไม่กำหนดหลักสูตร แบบเรียน สถานศึกษา ให้เรียนรู้พุทธศาสนาอย่างเดียวเป็นหลัก
ตอบว่า : อันนี้เป็นเรื่องของระบบการศึกษาของทางราชการ ไม่ใช่เรื่องของพระพุทธศาสนาแน่นอน แต่ทางราชการตามพระราชบัญญัติการศึกษาของไทยปัจจุบันเขาก็พยายามทำอย่างนั้นเต็มที่อยู่แล้วนี่ ไปรู้มาจากไหนว่าบังคับให้เรียนรู้พระพุทธศาสนาอย่างเดียวเป็นหลัก
อย่างนี้กล่าวได้ว่าพูดอย่างไม่รู้ความจริง คนไทยพุทธใจกว้างจนโง่ไปแล้วด้วยซ้ำไป ลองไปถามดูบ้างก็ได้ ในโรงเรียนที่มีนักเรียนอิสลามส่วนมากเขาสอนวิชาพระพุทธศาสนากันหรือเปล่า เรื่องครูศาสนานั้นเข้าใจว่าเป็นเรื่องปัญหาด้านงบประมาณมากกว่าเรื่องกีดกันทางศาสนา อย่าโยนความผิดให้พระพุทธศาสนาเลย มันไม่เป็นธรรม และไม่ใช่เรื่องปัญหาการบัญญัติให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติแน่นอน



๑๓. เขาเห็นว่า ศาสนิกชนบางศาสนามีสัมพันธ์ใกล้ชิดทางศาสนา ภาษาและวัฒนธรรมกับประเทศเพื่อนบ้าน จนถึงกับมีกลุ่มผู้ที่หวังจะแบ่งแยกดินแดนเป็นรัฐอิสระ วิธีการสมานฉันท์ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้นำประเทศอย่างสันติวิธีและอย่างเป็นธรรม จะช่วยแก้ปัญหาได้มากกว่าการปราบปรามทางอาวุธ เพราะศาสนาอื่นมีความรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรม
ตอบว่า : ข้อนี้เป็นเรื่องของรัฐ เป็นเรื่องความมั่นคงของรัฐ เป็นเรื่องนโยบายของรัฐ เป็นเรื่องแนวทางแก้ปัญหาของรัฐ ต้องไปพูดกันเรื่องความมั่นคงของรัฐ การเสนอให้บัญญัติพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติเป็นเรื่องความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนา อย่าสับสน พระพุทธศาสนาไม่ได้ไปห้ามใครคบค้าสมาคมกับคนต่างประเทศ และการที่พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติก็ไม่ใช่แนวทางกีดกันศาสนิกอื่นไปคบค้าสมาคมกับชนชาติอื่น อย่าไปเอามาปนกัน แต่ต้องมีหลักอย่างหนึ่งว่าชาวพุทธไม่เคยคิดแบ่งแยกประเทศ ทั้ง ๆ ที่เดี๋ยวนี้คนไทยที่เป็นชาวพุทธกำลังเป็นประชาชนชั้นสองของประเทศมากเข้าไปทุกที

๑๔. เขาเห็นว่า : ไม่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่า “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ด้วยเหตุผลว่าควรเปิดกว้างในการนับถือศาสนา ภาษา และ วัฒนธรรม เพื่อเสรีภาพและการเผยแผ่ความเชื่ออย่างเต็มที่ทุกศาสนาตามกำลังของศาสนิกชน
ตอบว่า : ข้อนี้ความจริงตอบไปรอบหนึ่งแล้วในข้อ ๑๑ แต่เมื่อย้ำมาก็ต้องย้ำไปอีกว่า อย่าใฝ่ฝันกับเสรีภาพมากนักเลย ประเทศซาอุดีอารเบียนั่น แม้แต่พระพุทธรูปที่ปรากฏอยู่ในแสตมป์ยังเข้าไม่ได้เลย จำได้ไหมเมื่อคราวฉลอง ๒๐๐ ปีกรุงเทพมหานคร ไทยทำแสตมป์ที่มีพระพุทธรูปร่วมฉลอง มีผู้ส่งไปซาอุ ฯ ปรากฏว่าถูกตีกลับหมดเลยความใจกว้างนั่นชาวพุทธมีพร้อมกว่าใครในโลกอยู่แล้ว จนเดี๋ยวนี้มีนักปราชญ์ไทยกล่าวไว้ชัดเจนมากว่า“คนไทยเรานี้ใจกว้างมาก แต่ปัญญาแคบ” หมายความเรากำลังโง่จนอาจจะต้องสูญเสียชาติศาสนา ยืนยันอีกครั้งว่าในแผ่นดินนี้รู้กันแล้วว่าคนทุกคนมีเสรีภาพในการนับถือศาสนา แม้จะมีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไทยฉบับใหม่ว่า “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ หรือคำไหน ๆ บ่งบอกว่า ห้ามศรัทธาศาสนาอื่น ห้ามเรียนภาษาศาสนาอื่น ห้ามเรียนรู้วัฒนธรรมอื่น จึงไม่ใช่สิ่งที่ น่าห่วงใด ๆ ในโลกนี้ถ้าจะมีกฎเกณฑ์เช่นนั้นก็คงจะเป็นเพียงมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเท่านั้น
ที่พยายามห้ามศาสนิกของตนเรียนภาษาอื่นเพราะกลัวบาป กลัวพระเจ้าลงโทษ มุสลิมที่อื่นเขาก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย
และถ้าเรียนภาษาอื่นเป็นบาป พระเจ้าลงโทษแล้ว มุสลิมในประเทศอื่นก็คงถูกสาปให้ตกนรกหมดเป็นแน่ รวมทั้งมุสลิมในภาคอื่นของประเทศไทยด้วยคงตกนรกหมดแน่นอน



๑๕. เขาเห็นว่าไม่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่า ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เพราะ..... มีกำหนดอยู่แล้วว่าพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญจนถึงฉบับที่ ๑๗ จึงเอาออกเหลือเพียงทรงเป็น เอกอัครศาสนูปถัมภก พระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นน่าจะพอใจได้ในระดับหนึ่ง
ตอบว่า : นี่ก็เป็นการพูดกันคนละเรื่อง เราพูดเรื่องศาสนา พูดเรื่องสถาบันศาสนา พูดเรื่องความมั่นคงของสถาบันทางพระพุทธศาสนา ส่วนเรื่ององค์พระมหากษัตริย์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเรากำลังพูดถึงเรื่องความมั่นคงเท่าเทียมกันของสถาบันทั้งสาม คือ สถาบันชาติ สถาบันพระพุทธศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยทั่วไปสถาบันชาติได้รับการบัญญัติไว้แล้วว่า “ประเทศไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียว ใครจะแบ่งแยกมิได้” สถาบันพระมหากษัตริย์ท่านมีไว้แล้วในรัฐธรรมนูญ ๑ หมวดโดยเฉพาะ แต่สถาบันพระพุทธศาสนายังไม่ได้เขียนไว้ เราชาวพุทธจึงมีความประสงค์จะให้เขียนไว้ให้ครบสมบูรณ์ คิดกันบ้างหรือเปล่าว่ารัฐธรรมนูญ ๑๗ ฉบับที่ผ่านมา มันผิดตลอด จึงทำให้บ้านเมืองวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดมา เพราะมันไม่เคยมีความสมบูรณ์ และตราบใดที่ยังไม่บัญญัติไว้ว่า “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” ความสมบูรณ์ของรัฐธรรมนูญไทยก็จะไม่เกิด และไม่มีวันที่รัฐธรรมนูญจะถาวรได้ การพูดว่า “น่าจะพอใจระดับหนึ่ง” นั่นพูดออกมาแบบ มักง่ายเกินไป พูดแบบไม่รับผิดชอบ สถาบันพระพุทธศาสนาไม่ใช่ของเล่น ตรงกันข้ามกลับเป็นของสูงที่ควรจะยกไว้สูงส่งกว่าชาติ ด้วยซ้ำไป
๑๖. เขาเห็นว่าไม่ควรบัญญัติว่า ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เพราะว่า การนำเรื่องนี้มาพิจารณาอีกเป็นการทำลายบรรยากาศการสมานฉันท์ อาจทำให้เกิด การต่อต้านร้ายแรง เพราะได้ปล่อยให้มีการทำตามศาสนาบัญญัติศาสนาอื่นมามาก จนยากที่จะกลับไปห้ามหรือบังคับให้เปลี่ยนแปลงได้โดยสันติวิธี
ตอบว่า : ถ้าไม่นำเรื่องนี้มาพูดก็พูดไปเลยว่า “เราไม่ต้องการประชาธิปไตย” บ้านนี้เมืองนี้ “ต้องเป็นอย่างที่กูต้องการจะให้เป็นเท่านั้น” ถ้าพูดออกมาชัด ๆ อย่างนี้เรื่องทุกอย่างก็จะได้จบ สมานฉันท์ ต้องเป็นไปด้วยความถูกต้องบนพื้นฐานแห่งประโยชน์และความสุขอย่างเสมอภาคโดยมีมาตรฐาน ถ้าจะมีการต่อต้านอย่างมีเหตุผลก็ต้องรับฟังกัน ฉะนั้นใครนิยมกระบวนการสมานฉันท์ก็ว่ากันไป ส่วนความเรียกร้องต้องการที่ชอบธรรมและเป็นประชาธิปไตยก็ต้องว่ากันไป การทำการที่ร้ายแรงย่อมจะมีความผิดตามกฎหมาย เรื่องนั้นก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย และถ้าเห็นว่าสิ่งที่โอนอ่อนผ่อนตามไปแล้วมันผิดก็ต้องแก้ไขส่วนนั้น ไม่ใช่กลับไปห้ามการกระทำสิ่งอื่นที่มันถูกต้องและชอบธรรม ถ้าเห็นว่าบ้านเมืองนี้มีขื่อมีแป สิ่งที่เห็นว่ามันผิดก็ต้องแก้ไขได้ สิ่งใดที่ถูกก็ต้องสนับสนุนให้มีขึ้น ไม่ใช่มาคัดค้านสิ่งที่ถูกแล้วส่งเสริมสิ่งที่ผิดกันอยู่เรื่อยไป

๑๗. เขาเห็นว่าไม่ควรบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไทยว่า ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ เพราะมีประเด็นอื่นที่ควรให้ความสนใจเป็นพิเศษมากกว่าเรื่องนี้ ไม่ควรเสียเวลามาพิจารณาใหม่อีก เมื่อกล่าวถึงศาสนาในโอกาสต่าง ๆ จะได้มีทุกศาสนาเข้าร่วมกิจกรรมโดยให้ความสำคัญเท่ากัน
ตอบว่า : ก็คุณไปสนใจเรื่องอื่นซิ จะมายุ่งวุ่นวายเรื่องนี้กับเขาทำไม นี่คุณมาวุ่นวายเอง ความที่เกิดขึ้นในสภาก็ตาม นอกสภาก็ตาม ไม่ใช่เพราะขาดการให้ความสำคัญต่อศาสนาหรือ ที่ทหารต้องออกมา#####ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่ใช่เพราะขาดศีลธรรมหรือ เอาเป็นว่าคุณก็ไม่ต้องมาเสียเวลาตรงนี้ก็แล้วกัน ปล่อยให้ชาวพุทธที่เขาเห็นความสำคัญเขาว่ากันไป
เชิญไปสนใจในสิ่งที่คุณเห็นว่าควรสนใจเป็นพิเศษเถอะ ถ้าคุณเคารพในความคิดเห็นของประชาชนแบบนักประชาธิปไตยพันธุ์แท้แล้วก็ปล่อยให้เขาทำไป การที่คุณทำอยู่อย่างนี้คุณจะกลายเป็นนักประชาธิปไตยพันธุ์โง่ คนไทยเชื่อถือกันโดยพฤตินัยคือปฏิบัติกิจกรรมของชาติร่วมกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ชาวพุทธก็ไม่เคยแบ่งแยก ถึงตอนนี้ชาวพุทธต้องการบันทึกพฤติกรรมนั้นลงเป็นลายลักษณ์อักษร ให้เป็นทั้งพฤตินัยและนิตินัย ก็เท่านั้นเอง ถ้าหากนักร่างรัฐธรรมนูญทำไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป อาจจะมีใครพูดอีกว่าปฏิบัติซิ! สำคัญลายลักษณ์อักษรจะมีความหมายอะไร ? ก็ตอบให้ไปเลยว่าถ้าลายลักษณ์อักษรไม่มีความสำคัญแล้วจะเขียนรัฐธรรมนูญไว้ทำอะไรกันเล่า
ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่าการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญไทยว่า “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ” เป็นความประสงค์ของชาวพุทธในประเทศไทยโดยส่วนมาก เป็นการบันทึกความเป็นจริงทางประวัติศาสตร์ชาติไทย เป็นการยกย่องสถาบัน ทั้งสามของไทยให้เท่าเทียมกัน เป็นการสร้างความเป็นปึกแผ่นความสมานฉันท์แน่นอน เพราะคนไทยเป็นพุทธศาสนิกชนเกินกว่า ๙๔ % ของประชากรทั้งประเทศ เป็นการยกย่องให้เกียรติสิ่งที่พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงเคารพนับถือ เชิดชูบูชาอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งอาจสรุปรวมลงในสิ่งที่จะพึงได้ ๒๐ ประเด็นต่อไปนี้.

- ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาจะไม่ให้เป็นศาสนาประจำชาติได้อย่างไรกันเล่า ตั้งแต่องค์พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ ท่านก็ทรงนับถือพระพุทธศาสนา รวมแล้วตั้งแต่ก่อเกิดเป็นไทยมาก็มีพุทธศาสนาอยู่เคียงข้าง ดังพระราชปณิธานของ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชว่า
อันตัวพ่อนี้ชื่อพระยาตาก ทุกข์ทนยากกอบกู้ชาติพระศาสนา ถวายแผ่นดินเป็นพุทธบูชา แด่ศาสดาสมณะพระพุทธโคดม
ให้ยืนยงคงถ้วน5000ปี สมณะพราหมณ์ชีปฏิบัติให้พอสม เจริญวิปัสสนาพ่อชื่นชม ถวายบังคมรอยบาทพระศาสดา
คิดถึงพ่อ พ่ออยู่คู่กับเจ้า ชาติของเราคงอยู่คู่ศาสนา พุทธศาสน์ยืนยงคู่องค์กษัตริย์ พระศาสดาฝากไว้ให้คู่กัน
ดูพระราชปณิธานของพระองค์สิครับไม่เห็นแก่พุทธศาสนิกชนในไทยไม่เป็นไรขอให้เห็นแก่พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ด้วยครับ
เป็นองค์ที่ผมเคารพที่สุดในบูรพะมหากษัตริย์ คนเราครับเกิดมาเป็นคนไทยเกิดมาในเงาพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ คิดดูถ้าไม่มีสมเด็จพระเจ้าตากสินที่กู้ชาติไทยพวกเราจะมีแผ่นดินอยู่ไหมแล้วแค่พระราชปณิธานของพระองค์ท่านก็ทำไม่ได้หรอ

ขณะนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนชาวไทยจะได้มีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ประชาชนของประเทศร้อยละ 90 นับถือศาสนาพุทธ จึงสมควรเป็นอย่างยิ่งที่รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศจะได้บัญญัติให้ "ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทย"
ผมจึงใคร่ขอเชิญชวนสมาชิกเว็บพลังจิตและประชาชนคนไทยทุกท่านทั้งที่อยู่ในประเทศและที่อยู่ต่างประเทศ ได้ร่วมกันแสดงประชามติให้ ส.ส.ร. ได้บรรจุถ้อยคำที่บัญญัติให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติของไทย ดังนี้
“ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก บุคคลใดหรือนิติบุคคลใดจะล่วงละเมิด ชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ มิได้”
ท่านสามารถแสดงประชามติได้โดย print แบบฟอร์มนี้ กรอกรายละเอียดแล้วส่งไปตามที่อยู่ที่ปรากฏในแบบฟอร์มการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

- 1. อย่ายอมให้ยกเลิกข้อกำหนดที่ว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ
หากใครคิดจะทำเช่นนั้น ต้องถือว่าเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะเป็นการจาบจ้วงตัดสิทธิของพระองค์ท่าน จำเป็นต้องทูลถามพระองค์ท่านก่อนว่า ทรงมีพระราชประสงค์ดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงนับถือพระพุทธศาสนา ดำรงสถานภาพและแสดงตนเป็นพุทธมามกะมาโดยตลอด ในขณะเดียวกัน ทุกๆ พระองค์ทรงมีน้ำพระทัยกว้างขวาง ไม่ขัดขวางการเผยแพร่ศาสนาอื่น ทรงเป็นองค์ศาสนูปถัมภกของทุกศาสนาในประเทศไทย
ผู้ใดที่คิดทำการยกเลิกข้อกำหนดนี้ ชื่อว่า "บังอาจจาบจ้วง" หรือถึงกับ "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" หากเป็นสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อาจต้องรับโทษทัณฑ์ถึงขั้นนำไปกุดหัว
2. การไม่กำหนดให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย
ประเทศไทยที่เจริญขึ้นมาได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ด้วยมีสถาบันหลัก คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นรากฐานของแผ่นดิน และสถาบันศาสนานั้นมุ่งหมายเฉพาะพระพุทธศาสนา (เทศนาเสือป่า รัชกาลที่ 6) โดยมีสำนึกและบัญญัติมาแต่เดิมว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์และ 90% ของพลเมืองไทยซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนับถือพระพุทธศาสนาสืบทอดมายาวนาน เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย เป็นชื่อเสียงและเกียรติภูมิของชาติไทย
ดังนั้น การไม่กำหนดให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทยให้อยู่ในรัฐธรรมนูญของแผ่นดิน จึงนับได้ว่าเป็นการรื้อถอนรากฐานหลักของแผ่นดิน เพียงอ้างเหตุผลเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ โดยให้ความสำคัญกับคนต่างศาสนาที่มีอยู่ไม่ถึง 10% ไม่คำนึงถึงความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนอีก 90% ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ การทำเช่นนี้ เป็นการสร้างเหตุให้เกิดการแตกแยกในแผ่นดิน หากคนจำนวน 90% กลุ่มนี้ ลุกขึ้นมาต่อต้าน ความสมานฉันท์ที่อ้างไว้ย่อมจะเกิดขึ้นไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ตาม ควรนำไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ไม่ใช่เลวลง อะไรที่ดีเหมาะสมอยู่แล้ว ก็สมควรได้รับการสงวนรักษาไว้ พระภาสกร ภูริวฑฺฒโน (ภาวิไล) และคณะศรัทธาธรรมสถานมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
13 กุมภาพันธ์ 2550


- ด้วยความเคารพในความคิดของคุณเชษ เมื่อ 10 ปีก่อน สมัยที่มีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี
พ.ศ. 2540 ผมก็คิดอย่างคุณนี่แหละ ผมเป็นนักกฎหมายแต่มีมุมมองในมุมมองของนักรัฐศาสตร์ เห็นว่ารัฐธรรมนูญควรบัญญัติไว้เป็นกลางๆ เพื่อความสมานฉันท์ และถึงอย่างไร คนไทยก็คือคนไทย นับถือศาสนาพุทธ ทุกคนมีศาสนาพุทธประจำอยู่ในหัวใจ ใครจะมาทำลายศาสนาพุทธไม่ได้ ผมยิ่งคิดมากไปกว่านั้น ก็คือ รู้สึกหงุดหงิดที่เห็นใครๆ ทำไมออกมาชุมนุมประท้วงอยากให้บัญญัติให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ นี่...ผมเป็นถึงขนาดนี้เลยนะ ก็เพราะยังรู้น้อย รู้ไม่เท่าทันความคิดของคนบางจำพวกที่มันมักใหญ่ใฝ่สูง....
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผมได้ศึกษาความเป็นมาของพระพุทธศาสนาจากหนังสือ "พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย" ซึ่งนิพนธ์โดย พระราชกวี (หลวงปู่อ่ำ) วัดโสมนัสวิหาร และได้เรียนรู้อะไรในทางการเมืองและสังคมมากขึ้นก็พบว่า "มันมีอะไรลึกๆ ที่คนทั่วไปยังไม่รู้ นึกไม่ถึง และมองข้ามไป..." ตามประสานิสัยของคนไทยที่ใจดี มีความเมตตา และอยู่บนทางสายกลาง สิ่งดีๆ ของคนไทยตรงนี้เองกลายมาเป็นจุดอ่อนให้คนที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ นำไปใช้เป็นเครื่องมือมาทำร้ายคนไทย ทำร้ายชาติ ศาสนาพุทธ และสถาบันพระมหากษัตริย์ของเราในวันข้างหน้า กว่าที่คนไทยส่วนใหญ่จะรู้และไหวตัวรู้เท่าทันความคิดของคนเหล่านั้น เมื่อถึงวันนั้นก็อาจจะสายเกินไป แต่ในวันนี้ เราคนไทยสามารถทำเพื่อชาติ ศาสนาพุทธ และสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักและเคารพเทิดทูนยิ่งเหนือสิ่งอื่นใดได้แล้ว และจะเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลมได้ ทำไมเราจะไม่ทำ จะนิ่งเฉยอยู่ทำไมกันละครับ หรือจะรอให้วันที่ต้องสูญเสียความเป็นชาติ ศาสนาพุทธ และสถาบันพระมหากษัตริย์ไปเสียก่อนอย่างนั้นหรือ...ที่มา http://www.palungjit...ead.php?t=73331 / http://www.palungjit...ad.php?p=508062

ไฟล์แนบ





#2 suppy001

suppy001
  • Members
  • 2210 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 05:01 PM

I agree with Khun Tal 1000% Krab.
Ar Nu Moo Tha Na Boon Krab.
_/|\_ Sa Dhu

#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 05:17 PM

เห็นด้วยอย่างยิ่ง นี่แหละ หนึ่งในความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศลในอดีต ที่ฝันคล้ายๆ (ถ้าผมจำไม่ผิด) ว่า วันหนึ่ง ราชสีห์จะถูกสุนัขจิ้งจอกไล่ล่าจนหนีเข้าไปอยู่ป่า นั่นหมายความว่า ต่อไปในอนาคต ความเห็นของนักปราชญ์ราชบัณฑิตจะถูกละเลย จนต้องหลบไปอยู่ป่า แต่ผู้นำกลับจะไปหลงเชื่อความเห็นของคนพาลปัญญาทรามแทน
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 ตาล

ตาล
  • Members
  • 69 โพสต์
  • Location:ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ เขตของบรมโพธิสัตว์

โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 06:14 PM

ไฟล์ที่แนบมาด้วย
attachment.doc ( 31k ) จำนวนการดาวน์โหลด:

แบบฟอร์มแสดงประชามติเพื่อให้บัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า
“ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ มีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก บุคคลใดหรือนิติบุคคลใดจะล่วงละเมิด ชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ มิได้”


ข้าพเจ้า (พระ,สามเณร,นาย, นาง, นางสาว)....................................นามสกุล................................
นับถือศาสนา.................. อยู่บ้านเลขที่.......................หมู่ที่.........ซอย..........................................ถนน.........................................ตำบล/แขวง.....................................อำเภอ.................................
จังหวัด.................................................................รหัสไปรษณีย์..................................................

มีความประสงค์ให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (ถาวร) ได้บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตราใดมาตราหนึ่งว่า “ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก บุคคลใดหรือนิติบุคคลใด จะล่วงละเมิดชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ มิได้” ด้วย ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าของสถาบันพระพุทธศาสนาให้คู่กับสถาบันชาติและสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดไป

ลงชื่อ.............................................................
(..........................................................)

วันที่........เดือน..............................พ.ศ. ..............


หมายเหตุ โปรดเขียนตัวบรรจงให้อ่านง่าย เพื่อการตรวจสอบว่ามีตัวตนจริงหรือไม่


กรุณาส่งกลับมาที่ ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย วัดราชาธิวาสวิหาร (คณะใต้)
ถนน สามเสน ๙ แขวง วชิรพยาบาล เขต ดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
โทร. ๐๒-๖๖๘-๗๙๘๘ , ๐๒-๖๖๘-๙๐๖๑ http://www.bpct.org



#5 OMARISS

OMARISS
  • Members
  • 26 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 March 2007 - 06:45 PM

Our beloved ancestors have sacrificed their precious lives, their blood and tears to protect our Buddhist country all through history, so that we can have a chance to study and practice Dhamma of our Lord Buddha. They lost their lives to give us the greatest gift of all. Don’t betray them. We always welcome other religions and beliefs, but please be gratitude to our ancestors as well! Because of our Buddhist belief, all religions can live here in peace and tranquillity.

#6 niwat

niwat
  • Members
  • 1420 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 08 March 2007 - 12:42 AM

ขอกราบอนุโมทนาบุญกับท่านตาลด้วยครับ

#7 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 08 March 2007 - 07:29 AM

กราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ

#8 พชร ปลื้มกิตติ

พชร ปลื้มกิตติ
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 October 2015 - 07:34 PM

กราบอนุโมทนาบุญด้วยครับ  ควรบัญญัติ  

ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ปัจจุบันมีสิ่งบอกเหตุ หลายประการเช่น ศาสนาอื่น มีแผนการณ์ ล้ำลึก ที่จะกลืน

ศาสนาพุทธ.....กฎหมายเอาผิดผู้ที่ลบหลู่ศาสนา อ่อนมาก แค่เสียค่าปรับแล้วปล่อยตัวไป  พระสงฆ์ไทยถูกฆ่าตายที่ จชต.เป็นข่าวรายวัน  ฯลฯ 

สวัสดีครับ



#9 kotchapornda

kotchapornda
  • Members
  • 649 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 07 November 2015 - 03:37 PM

cartoon-017.jpg